“หลงรักน้องสาวเจ้าน่ะสิ!” หลิงฮันอดที่จะตะคอกกลับไปไม่ได้
หลี่เฟิงหยู่ตกตะลึงและพูด “นี่เจ้ามีใจให้น้องสาวข้าจริงๆด้วย! ข้าถึงได้บอกไงให้ข้าเรียกเจ้าว่าน้องเขย เรามาคุยเรื่องสินสอดกันดีกว่า”
“ท่านพี่! ท่านพี่!” ในที่สุดหลี่ซือเชียนก็ทนไม่ไหวและทุบตีหลี่เฟิงหยู่
นอกจากนางแล้วจูเสวียนเอ๋อและฮูหนิวก็ร่วมวงด้วย พวกนางทุบตีจนหลี่ปากกว้างต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดทรมาน
จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์กวัดแกว่งดาบในมือและโจมตีใส่ราชันซากศพเก้าตา
การโจมตีของตัวตนระดับทลายมิติเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง!
รัศมีดาบทะยานขึ้นสู่ฟ้า ‘ตูม’ รัศมีดาบของนางปะทะเข้ากับดวงดาวจนแตกออกเป็นเศษดาวตกนับไม่ถ้วนและพุ่งลงใส่ทวีปฮงเทียน
ราชันซากศพเก้าตาไม่หวั่นเกรง ‘ปัง ปัง ปัง’ มันยกเท้าขนาดมหึมาของมันโจมตีใส่จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์ด้วยความเร็วสูง ซากศพตามร่างของมันกรีดร้องออกมาเกิดเป็นคลื่นเสียงอันน่าสะพรึงกลัว
จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์เค้นเสียงดูถูก นางคำรามขึ้นท้องฟ้าและสร้างคลื่นเสียงเป็นรูปร่างหัวนกอมตะสีครามเพื่อตอบโต้คลื่นเสียงของราชันซากศพเก้าตา
‘ตูม’ คลื่นเสียงและเจตจำนงทั้งสองปะทะกันทำให้เกิดแสงสะท้อนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
ท่ามกลางท้องฟ้า เศษดาวตกนับไม่ถ้วนยังไม่ทันได้ร่วงถึงพื้นดินก็ถูกแรงปะทะของคลื่นเสียงทั้งสองสลายให้กลายเป็นผุยผง
จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์สามารถตอบโต้คลื่นเสียงของราชันซากศพเก้าตาเอาไว้ได้ แต่ผลที่ตามมาก็คือผู้คนโดยรอบได้ถูกพัดปลิวกระเด็นราวกับว่าวเชือกขาดพร้อมกับกระอักโลหิตออกมา
จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานนั้นถูกแรงปะทะทำให้กระดูกบางส่วนแตกหัก จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณยังดีหน่อย พวกเขากระอักโลหิตออกมาไม่กี่คำเท่านั้น
หลิงฮันกลุมร่างของจูเสวียนเอ๋อและฮูหนิวอยู่ในอ้อมแขน เขาใช้ร่างของตนเองเป็นเกราะป้องกันคลื่นกระแทก เพราะอย่างไรตอนนี้กายหยาบของเขาก็ทนทานเทียบได้กับอาวุธวิญญาณระดับแปดแล้ว แม้ใบหน้าของเขาจะแสดงความเจ็บปวดออกมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่กระอักโลหิตแม้แต่นิดเดียว
“น้องเขย ช่วยข้าด้วย!” หลี่เฟิงหยู่กระอักโลหิตคำโต
“ฮ่าๆๆ เจ้าไปโดนอะไรมา ทำไมถึงได้มีสภาพแบบนั้น?” เจ้ากระต่ายปรากฏตัวโดยคาบแครอทเอาไว้ในปาก ไม่มีใครรู้ว่ามันไปพบเจอเองหรือไปขโมยใครมา
“งี่เง่า เจ้าไม่รู้รึไงว่าตัวตนระดับทลายมิติสองคนกำลังสู้กันอยู่?” หลิงฮันตอบอย่างไม่สบอารมณ์
“หืม สตรีผู้นั้นไม่เลวเลย นางเหมาะสมจะมาเป็นคนสาวใช้ของนายท่านกระต่าย” เจ้ากระต่ายมองไปยังจักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์บนท้องฟ้าในขณะที่เคี้ยวแครอทอยู่ในปาก
หลิงฮันถอนหายใจและพูด “หลี่ปากกว้าง เจ้าพบคนที่ปากดีพอๆกับเจ้าแล้ว รีบเข้ามากราบไหว้เสียสิ”
“เหอะ คิดว่านายท่านกระต่ายเป็นใครกัน เจ้าเด็กนี้ไม่เหมาะสมแม้แต่จะมาเป็นหลานชายของนายท่านกระต่าย” เจ้ากระต่ายมองไปยังหลี่เฟิงหยู่อย่างไร้ค่า
หลี่เฟิงหยู่ไม่ตอบโต้ แต่หันไปพูดกับฮูหนิว “ฮูหนิว เจ้าอยากกินเนื้อกระต่ายรึเปล่า?”
“ก็ไม่เลว!” ฮูหนิวรีบพยักหน้า สายตาของนางจ้องไปยังก้นของเจ้ากระต่าย ปากเล็กๆเปิดออกและมีน้ำลายไหลออกมา
เจ้ากระต่ายอดที่จะนำขาหน้าเอื้อมไปลูบก้นของมันไม่ได้ “เจ้าหนุ่ม เจ้ากล้าประจบเด็กสาวผู้นี้งั้นรึ ระวังเอาไว้ให้ดี นายท่านกระต่ายจะเอาคืนเจ้า!”
หลิงฮันคว้าตัวฮูหนิวเอาไว้ เขาไม่คิดจะให้ทั้งสองคนมีเรื่องกันตอนนี้ “เอาล่ะ หาก้อนหินมารองนั่งดูการแสดงกันเถอะ ด้วยระยะเช่นนี้พวกเราน่าจะปลอดภัย”
ดวงตาของเขากวาดผ่านบริเวณรอบๆ เมื่อเห็นว่าจักรพรรดิพิรุณและมู่หลงชิงยังปลอดภัย เขาก็รู้สึกโล่งอก
จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์เข้าปะทะกับราชันซากศพเก้าตา นี่เป็นการปะทะกันของตัวตนระดับทลายมิติที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งหลิงฮันไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตที่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถพลาดได้
หลิงฮันโคจรเนตรแห่งสัจธรรมทำให้มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ด้วยพลังระดับทลายมิติของนางสามารถเรียกได้ว่าเป็นเทพสังหาร บวกกับดาบนกอมตะสวรรค์ที่เป็นอาวุธวิญญาณระดับสิบในมือของนาง พลังโจมตีที่ปลดปล่อยออกมาจึงน่าสะพรึงกลัวกว่าเดิม
ร่างของราชันซากศพเก้าตานั้นครั้งหนึ่งเคยเป็นร่างของเหล่าจอมยุทธระดับสวรรค์และระดับทลายมิติมาก่อน เมื่อมันถูกดาบโจมตี บนร่างของมันก็ปรากฏรอยดาบลึก แต่ขนาดตัวของราชันซากศพเก้าตานั้นมหึมาเกินไป ขนาดของบาดแผลที่มันได้รับมีขนาดเทียบเท่ากับเล็บมือของมันเท่านั้น
ราชันซากศพไม่ใช่ซากศพทั่วไป มันมีความนึกคิดเป็นของตนเองทำให้มันเหมือนกับได้รับชีวิตใหม่ ซากศพทั่วร่างของมันกรีดร้องสร้างคลื่นเสียงกลายเป็นหอกขนาดยักษ์ ราชันซากศพเก้าตาคว้าหอกเอาไว้และแทงใส่จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์
“สัตว์เดรัจฉานที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!” จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์เค้นเสียงพูดและใช้ดาบนกอมตะสวรรค์ในมือทำลายการโจมตีของราชันซากศพเก้าตา
ราชันซากศพเก้าตาเป็นอสูรที่ป่าเถื่อนและมีร่างกายที่ทนทานไม่ด้อยไปกว่าอาวุธวิญญาณระดับสิบ ถ้าไม่ใช่เพราะจักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์มีอาวุธวิญญาณระดับสิบและสร้างรัศมีได้สำเร็จ ราชันซากศพเก้าตาจะไม่ต้องเสียเวลามาป้องกันการโจมตีของนางแม้แต่น้อย
มันกวัดแกว่งแขนสองข้างเข้าประชิดและโจมตีเพื่อหวังสังหารจักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์
‘ตูม!’
ฝ่ามือทั้งสองข้างของมันโจมตีออกไปเกิดเป็นเสียงดังสนั่น ผู้คนกว่าเก้าในสิบส่วนกระอักโลหิตออกมา สภาพของแต่ละคนดูน่าอนาจเป็นอย่างยิ่ง บางคนถึงขนาดสลบไปเพราะคลื่นเสียงจากหมัดของมันเลย
หรือการโจมตีนี้จะสังหารจักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์ได้?
‘ตูม!’
เพลิงสีครามปะทุออกมาใส่ฝ่ามือของราชันซากศพเก้าตาและกลายเป็นทะเลเพลิงท่วมไปทั่วท้องฟ้า เพลิงสีครามนี้สว่างไสวยิ่งกว่าดวงอาทิตย์เสียอีก
ราชันซากศพเก้าตากรีดร้องและรีบชักมือกลับ จักรพรรดินีนกอมตะเมฆาสวรรค์ยังคงยืนอย่างองอาจอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าที่ถูกเผาไหม้ไปด้วยเพลิงสีคราม
“สตรีผู้นี้ไม่ใช่มนุษย์ทั่วไป นายท่านกระต่ายสามารถสัมผัสร่องรอยของสายเลือดนกอมตะที่แท้จริงจากร่างกายของนางได้!” เจ้ากระต่ายพูดในขณะที่ถือแคแรทอยู่ “แต่หากเทียบกับสายเลือดบริสุทธิ์ของนายท่านกระต่ายแล้ว นางยังอ่อนด้อยกว่ามาก! แต่ก็แน่นอนว่านางเหมาะสมจะมาเป็นสาวใช้ของนายท่านกระต่ายจริงๆ”
สายเลือดนกอมตะที่แท้จริง!