“ซั่วเฉียวน่ะรึ?” หลิงฮันยิ้มและพูด “จู่ๆเจ้าหมอนั้นก็พาคนขับรถของตัวเองวิ่งหายไปไหนไม่รู้ เพราะงั้นข้าเลยมางานเลี้ยงแทนเขา”
พ่อบ้านชรารู้สึกแปลกใจ เขาเคยเห็นซั่วเฉียวเล่อเฉิงมานับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งทุกๆครั้งเหตุผลที่เขามาก็เพื่อไล่ตามนายหญิงของเขา แต่ทำไมจู่ๆเขาถึงยอมทิ้งงานเลี้ยงแล้วไปไล่ตามหาคนขับรถแบบนี้? หรือนายหญิงของเขาจะปฏิเสธรุนแรงเกินไปจนทำให้ซั่วเฉียวเล่อเฉิงคลั่งจนสติฟั่นเฟือนและเบี่ยงเบนไปแล้ว?
“ไม่ทราบว่าข้าจะเรียกนายน้อยว่าอย่างไรดี?” พ่อบ้านเอ่ยถาม หน้าที่ของเขาคือการต้อนรับแขก ใครก็ตามที่นั่งรถม้ามาย่อมเป็นแขกที่มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมงานเลี้ยง ซึ่งเขาก็ต้องทำตามหน้าที่
”ฮันหลิง” หลิงฮันใช้ชื่อปลอมอีกครั้ง ซึ่งเขาก็ไม่สนใจว่าจะถูกเปิดโปงหรือไม่
“โอ้ ที่แท้ก็เป็นนายน้อยฮันนี้เอง เชิญเลยๆ!” พ่อบ้านชราทำท่าทางเชิญหลิงฮัน พร้อมกับชายร่างใหญ่สามคนที่โผล่ออกมานำทางหลิงฮันเข้าไป
“ช้าก่อน! ช้าก่อน!” ซั่วเฉียวเล่อเฉิงรีบวิ่งตะเกียกตะกายมาพร้อมกับคนขับรถม้าของเขา และเนื่องจากซั่วเฉียวเล่อเฉิงหลิงฮันตบตีจนบาดเจ็บ พวกเขาจึงช่วยกัดพยุงกันและกันมา… สภาพของพวกเขาในตอนนี้ดูแล้วช่างใกล้ชิดและสนิมสนมกันเป็นอย่างมาก
หรือว่าจะเป็นเรื่องจริงที่ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่พิเศษต่อกัน?
พ่อบ้านชราอดที่จะรู้สึกขนลุกไม่ได้ เขาเคยได้ยินมาว่าผู้ชายบางคนชื่นชอบไม้ป่าเดียวกัน แต่ไม่เคยนึกเลยว่าจะมาเห็นด้วยตาของตนเองเช่นนี้ ใบหน้าอันเหี่ยวย่นของเขาบิดเบี้ยวและเขยิบถอยหลังเล็กน้อย ราวกับกลัวจะติดเชื้อบางอย่าง
“นายน้อยซั่วเฉียว?” พ่อบ้านชราถามในขณะที่เว้นระยะได้ปลอดภัยแล้ว
“ชายคนนั้นขโมยรถม้าของข้าไปช่วยหยุดเขาที อย่าให้คนบ้าเช่นนั้นเข้าไปในงาน เขาจะต้องทำให้งานเลี้ยงยุ่งเหยิงแน่นอน!” ซั่วเฉียวเล่อเฉิงไม่ใช่คู่มือของหลิงฮัน ดังนั้นเขาจึงฝากความหวังเอาไว้ที่พ่อบ้านชรา
พ่อบ้านชราคือจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ ซึ่งไม่รู้ว่าเขาติดคอขวดอยู่ในระดับนี้มานานแค่ไหนแล้ว แต่ถึงแม้เขาจะไม่สามารถทะลวงผ่านระดับก้าวสู่เทวาได้ แต่รากฐานในพลังระดับตัวอ่อนวิญญาณของเขาย่อมมั่นคงอย่างยิ่ง ทำให้พลังต่อสู้ของเขาเข้าขั้นน่าสะพรึงกลัว
พ่อบ้านชราอุทาน ‘โอ้’ ออกมาชั่วขณะและมองไปยังหลิงฮัน “นายน้อยฮัน ที่นายน้อยซั่วเฉียวพูดเป็นเรื่องจริงรึเปล่า?”
หลิงฮันยิ้มและพูด “ไม่ใช่แน่นอน รุ่นเยาว์ที่อ่อนน้อมและสุภาพเช่นข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร? ข้าจะไปแจ้งกับผู้อาวุโสของข้าว่าเจ้าทำให้ข้าไม่ได้รับความเป็นธรรม”
นี่มัน…
ซั่วเฉียวเล่อเฉิงโกรธจนแทบจะสำลักโลหิตออกมา เจ้าเนี่ยนะรุ่นเยาว์ที่อ่อนน้อมและสุภาพ? เขาชี้ไปที่บาดแผลบนร่างตัวเองและพูด “ไม่ใช่ว่าบาดแผลเหล่านี้เจ้าเป็นคนทำรึไง?”
คนขับรถม้ารีบพยักหน้าเห็นด้วยและแสร้งทำเป็นล้มลงบนหน้าอกของซั่วเฉียวเล่อเฉิงอย่างอ่อนแรง
พ่อบ้านชราไม่อาจทนมองภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้และรีบหันไปพูดกับหลิงฮัน “นายน้อยฮัน ยังไงกฎก็ต้องเป็นกฎ ในเมื่อท่านลงมาจากรถม้าของนายน้อยซั่วเฉียวแล้วนายน้อยซั่วเฉียวไม่ต้องการให้ท่านเข้าร่วมงานเลี้ยง ข้าก็ขอให้ท่านแสดงบัตรเชิญของตนเองออกมาด้วย ไม่เช่นนั้นชายชราผู้นี้คงต้องขอให้นายน้อยฮันจากไป”
“คนต่ำต้อยเช่นนั้นจะไปมีบัตรเชิญได้อย่างไร? ที่เขาทำกับข้าเช่นนี้ก็เพราะต้องการจะเข้าร่วมงานเลี้ยงแน่ๆ!” ซั่วเฉียวเล่อเฉิงแสยะยิ้มไปทางหลิงฮัน
‘กรุบ กรุบ กรุบ’ เสียงรถม้าอีกคันหยุดจอด ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินลงมาพร้อมกับสตรีงดงามด้านข้าง ทั้งคู่ดูไม่เหมือนคู่รัก แต่ดูเหมือนเป็นพี่น้องมากกว่า
“โอ้ นั่นมันซั่วเฉียวไม่ใช่รึไง? ฮ่าๆ ทำไมสภาพเจ้าถึงได้ดูย่ำแย่เช่นนั้น?” ชายคนนั้นชะงักไปชั่วขณะก่อนที่จะเอ่ยถามด้วยความสงสัย
ซั่วเฉียวเล่อเฉิงที่กลัวว่าจะอับอายจึงตอบกลับไปอย่างเย็นชา “เจ้าไม่ต้องมายุ่งเรื่องที่เจ้าไม่เกี่ยว!”
“เจ้าไม่รู้รึไงว่าสิ่งที่ข้าหลี่เฟิงหยู่ผู้นี้ชอบมากที่สุดคือการยุ่งเรื่องสนุกๆของผู้อื่น?” ชายคนนั้นหัวเราะลั่นและพูดกับหญิงสาวด้านข้าง “น้องข้า เรามารอดูอะไรสนุกๆกันเถอะ”
“ท่านพี่!” หญิงคนผู้นี้งดงามเป็นอย่างมาก แววตาของนางเป็นประกายงดงาม ดูเหมือนว่านางจะเบื่อกับนิสัยเช่นนี้ของพี่ชายตนเองเหมือนกัน
“จะว่าไปแล้วซั่วเฉียว เจ้าดูสนิทชิดเชื้อกับชายคนนั้นมากเลยนะ ระหว่างพวกเจ้าสองคนมีความสัมพันธ์พิเศษอันใดกันรึเปล่า?” หลี่เฟิงหยู่จ้องมองไปยังคนขับรถม้าที่อิงแอบอยู่ที่หน้าอกของซั่วเฉียวเล่อเฉิงด้วยสีหน้าประหลาดใจ
ซั่วเฉียวเล่อเฉิงหันลงมามองและพบว่าคนขับรถม้ากำลังอิงแอบแนบอยู่ในอ้อมแขนของตน ทันใดนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกรังเกียจขึ้นมาทันทีและรีบพลักอีกฝ่ายอออกไปด้วยความท่าทีขยะแขยง
หลิงฮันส่ายหัวและพูด “เจ้านี่ช่างไร้เยื่อใยกับคนของตนเองยิ่งนัก!”
“ที่แท้ซั่วเฉียวก็มีงานอดิเรกเช่นนี้นี่เอง และเพื่อที่จะปกปิดไม่ให้ใครรู้ เมื่อกี้เจ้าถึงได้จงใจทำท่าทีไร้เยื่อใยและดูหมิ่นคนรักของเจ้า… เห้อ ความรักนี่ช่างลึกซึ้งจริงๆ!” หลี่เฟิงหยู่พูดด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
ลำคอของพ่อบ้านชรากระอักกระอ่วนราวกับจะสำรอกอะไรออกมา
“เจ้า…” ซั่วเฉียวเล่อเฉิงกลายเป็นเกรียวกราด “ข้าจะฆ่าเจ้า! ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้!”
หลิงฮันจงใจถอนหายใจออกมาและกล่าว “เจ้าโกรธที่ข้าเปิดโปงความลับของเจ้าอย่างงั้นรึ? แต่ความจริงแล้วมันก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ทุกคนล้วนแต่มีสิทธิในความรักของตนเอง ถ้าเจ้าชื่นชอบอะไรเช่นนี้ ทำไมจะต้องไปสนใจสายตาของคนอื่นด้วย?”
“ใช่แล้ว! ใช่แล้ว!” หลี่เฟิงหยู่เห็นด้วย
ซั่วเฉียวเล่อเฉิงโมโหเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้เบี่ยงเบนเสียหน่อย เขาเองก็กำลังไล่ตามไคว่คว้าเพชรเม็ดงามของตระกูลหวังอยู่เช่นกัน แต่ถ้าจะบอกออกไปว่าเขายังมีความชอบแบบผู้ชายปกติอยู่ เขาจะยังมีหวังให้คนอื่นยอมเชื่ออยู่อีกรึ?
“น้องชายคนนั้นน่ะ พวกเรามาคุยเล่นกัoหน่อยเป็นไง!” ใบหน้าของหลี่เฟิงหยู่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าต้องการซุบซิบนินทา เรื่องที่เขาอยากจะคุยด้วยแน่นอนว่าต้องเป็นความลับของซั่วเฉียวเล่อเฉิงกับคนขับรถม้า
หลิงฮันนำบัตรเชิญออกมาและมอบให้กับพ่อบ้านชรา เขาเดินไปหาหลี่เฟิงหยู่พูดด้วยรอยยิ้ม “แน่นอน!”
“ห้ามพูดนะ!” ซั่วเฉียวเล่อเฉิงร้องโหยหวน
“ห้ามพูดอะไร?” หลิงฮันหันไปถาม
“ห้ามพูดอะไรเกี่ยวกับข้าและคนขับรถของข้า!” ซั่วเฉียวเล่อเฉิงรีบพูดจนไม่ทันได้นึกถึงความหมายแฝงในคำพูดของตนเอง
หลิงฮันพัยกหน้าและกล่าว “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่พูดหรอก ข้าไม่ใช่คนที่ชอบแพร่งพรายความลับของคนอื่น”
หลี่เฟิงหยู่อุทาน ‘โอ้’ ขึ้นมาในทันที ที่นี้เขาก็ยืนยันได้แล้วว่าซั่วเฉียวเล่อเฉิงยอมรับในรสนิยมของตนเองแล้ว
พ่อบ้านชราเกือบจะอาเจียนออกมาอีกครั้ง
“ผิดแล้ว! ผิดแล้ว!” ซั่วเฉียวเล่อเฉิงรีบตะโกนหลังจากรู้สึกตัว มันไม่มีอะไรเลยแท้ๆ เขาพยายามโต้แย้งว่าเขาไม่ได้ยอมรับว่าตนเองเบี่ยงเบนไปชอบผู้ชาย
“ไม่ต้องพูดแล้ว ข้าเข้าใจดี!” หลี่เฟิงหยู่พยักหน้า “ซั่วเฉียว ไม่ต้องกังวลไป ความลับของเจ้าจะไม่มีวันรั่วไหลไปยังบุคคลที่สามแน่นอน!”
เชื่อก็บ้าแล้ว! เจ้ายังไม่อาจหยุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าได้เลยแท้ๆ! ยิ่งกว่านั้นใครจะไม่รู้จักฉายา ‘หลีปากกว้าง’ ของเจ้าบ้าง? แน่นอนว่าเจ้าจะไม่ไปเอาเรื่องข้าไปพูดกับบุคคลที่สาม แต่จะนำไปพูดกับบุคคลสามร้อยคน หรือไม่ก็สามพันคน!
ซั่วเฉียวเล่อเฉิงรีบพยุงตัวไล่ตามไม่ให้หลี่เฟิงหยู่นำเรื่องของเขาไปพูดไร้สาระ แต่เมื่อเดินไปได้สองก้าว ขาของเขาก็อ่อนแรงและล้มลงพื้นทันที
“นายน้อย!” คนขับรถม้ารีบพุ่งเข้ามาและพยุงซั่วเฉียวเล่อเฉิงอยู่ในอ้อมกอด
“เทพบุตรช่วยสาวงาม?” หลี่เฟิงหยู่หันมาเห็นพอดี ใบหน้าของเขากลายเป็นตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ ฉายาหลีปากกว้างของเขากำลังเครื่องร้อนเต็มที่
พ่อบ้านชราทนไม่ไหวจนอาเจียนออกมา รุ่นเยาว์สมัยนี้ช่างยากจะเข้าใจได้จริงๆ