เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนหายตัวไป
หลิงฮันตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น
เขาลุกขึ้นมานั่งและพบว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่นั้นหายไป เขาจึงรีบนำเสื้อผ้าออกมาจากหอคอยทมิฬออกมาและสวมใส่มันอย่างรวดเร็ว และจำได้ว่าภายใต้สายฟ้าฟาดนั่นทำให้เสื้อผ้าของเขาสลายหายไป
นั่นเป็นเพราะแม้แต่เกราะอัสนียังถูกทำลาย
ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะหวาดกลัว แม้แต่อาวุธวิญญาณระดับสิบยังถูกทำลาย แต่มันก็ยังคงเป็นสมบัติล้ำค่า
“แล้วสาวใต้สมุทรล่ะ?” หลิงฮันกวาดสายตามอง แต่ทว่าเขากลับพบว่านางหายตัวไป เรื่องนี้มันแปลกมาก ซึ่งปกติแล้วนางจะเกาะติดเขาอยู่ทั้งวัน
นางหายตัวไปไหนกัน?
หลิงฮันนำตัวฮูหนิวและจูเสวี่ยนเอ๋อออกมาจากหอคอยทมิฬ ฮูหนิวนั้นยังคงหลับใหลอยู่ แต่หลังจากนั้นไม่นาน นางก็ตื่นขึ้นมาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ฮูหนิว เจ้ารู้สึกว่ามีอะไรแปลกประหลาดไหม?” หลิงฮันถาม
ฮูหนิวครุ่นคิดอยู่ชั่วครู๋พร้อมกับส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ตอนนี้หนิวสามารถทำแบบนี้ได้!” นางยกมือขวาขึ้นมา สายฟ้าโคจรอยู่รอบมือและถูกยิงออกไปกลายเป็นสายฟ้าฟาด ทำให้อีกด้านหนึ่งของกำแพงถ้ำปรากฏรูขนาดใหญ่ขึ้นมาทันที
ทักษะอสนีบาตเก้าทิวา?
หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจ ไม่ใช่เขาเท่านั้นที่เพิ่งได้รับมรดกทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ แต่เด็กสาวตัวน้อยนี่กลับได้รับมันและสามารถใช้มันได้ด้วย? ช่างมันเถอะ ยังไงเสียเด็กสาวตัวน้อยคนนี้ก็แปลกประหลาดอยู่แล้ว ตราบใดที่นางไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว
หลิงฮันเดินเข้าไปสำรวจแท่นสี่เหลี่ยมอีกครั้ง แต่พบว่ามันแตกเป็นหลายสิบสว่น สัญลักษณ์ที่จารึกบนแท่นหินจางและเลือนราง เมื่อเขาเอามือไปสัมผัสกับมัน ทำให้แท่นหินพังทลายและกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยทันที
แท่นสี่เหลี่ยมมันหายไปแล้ว เขาและเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนเป็นผู้สืบทอด
“แปลกแหะ ทำไมเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนถึงยังไม่กลับมาอีก?” หลิงฮันพูดกับตัวเอง
ทั้งสามคนแยกย้ายกันค้นหา แต่ไม่มีใครคนพบตัวนางเลย เรื่องนี้ทำให้ฮูหนิวรู้สึกมีความสุขมาก เพราะเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนแข็งแกร่งกว่า ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นได้หายตัวไปแล้ว จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่นางจะปรบมือดีใจ
พวกเขาหาตัวเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนไม่พบ แต่กลับพบเรือรบทองคำแทนและไม่รู้ว่ามันถูกสร้างขึ้นมาจากวัสดุอะไร มันเป็นเรือรบที่มีความกว้างและยาวแค่สามฟุต แต่มีห้องโดยสารที่สวยงามอยู่ภายในราวกับไม่ใช่เรือรบ หากพูดว่ามันเป็นพระราชวังเคลื่อนที่ขนาดเล็กยังฟังดูดีกว่า
เรือรบทองคำติดตั้งปืนใหญ่พลังหยวนไว้เช่นกัน ซึ่งสามารถบีบอัดพลังงานในผลึกก่อเกิดและสร้างพลังทำลายล้างที่น่าตกตะลึง แต่มันจะเผาผลาญผลึกก่อเกิดมหาศาล และขีดจำกัดพลังโจมตีของมันเทียบได้กับจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ
หลังจากที่หลิงฮันครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เขาก็เข้าใจวิธีใช้เรือรบได้อย่างรวดเร็ว เขาสามารถควบคุมมันได้จากคริสตัลที่อยู่บนหัวเรือ เขาสามารถควบคุมมันด้วยพลังของผลึกก่อเกิดและโบยบินอยู่บนท้องฟ้าได้
“แม้มันจะสะดวก แต่มันเผาผลาญผลึกก่อเกิดมากเกินไป” หลิงฮันพยักหน้า หากเขามีมันเขาไม่จำเป็นต้องใช้รถม้าอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นความเร็วของมันยังรวดเร็วมาก
“เกราะอัสนีถูกทำลาย แต่ได้รับทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์กับเรือรบทองคำนี่มันก็ไม่ใช่การสูญเสียสักทีเดียว” หลิงฮันกล่าว แต่เขายังคงรู้สึกเสียดายเล็กน้อยเพราะเกราะอัสนีมันค่อนข้างใช้งานง่าย
“หรือว่าเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนจะหนีไปแล้ว?”
พวกเขาทั้งสามคนเดินออกมาจากถ้ำ แต่ก็ไม่เห็นเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน
“หากข้าอยู่ที่นี่สามวันแล้วนางยังไม่กลับมา ข้าจะออกเดินทางต่อเลย” หลิงฮันตัดสินใจ
แน่นอนว่าหลิงฮันไม่ปล่อยให้เวลาสามวันสูญเปล่า เขาเริ่มฝึกฝนทักษะอสนีบาตเก้าทิวา อักขระจำนวนมากไหลผ่านเข้ามาในจิตใจของเขาและกลายเป็นความเข้าใจของเขาเอง แต่เขาไม่สามารถทำความเข้าใจมันได้ทั้งหมดด้วยความสามารถในตอนนี้
ดังนั้น การสืบทอดทักษะศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ได้ผ่านตัวอักษร แต่มันมีการสืบทอดอยู่หลายแบบอย่างเนตรแห่งสัจธรรมที่เป็นดวงตา ทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดาราที่เป็นรูปปั้น และอสนีบาตเก้าทิวาที่เป็นแท่นสี่เหลี่ยม
สามวันผ่านไป หลิงฮันยกมือขวาขึ้นมาและมีสายฟ้าปรากฏอยู่รอบฝ่ามือ
“น่าเสียดายที่ข้าไม่มีรากฐานวิญญาณธาตุสายฟ้า มิฉะนั้นพลังของทักษะอสนีบาตเก้าทิวาคงแข็งแกร่งกว่านี้” หลิงฮันส่ายหัวและถอนหายใจ
หลังจากที่เขาฝึกฝนจนถึงระดับหนึ่ง เขาจะสามารถเปลี่ยนร่างกายให้เป็นสายฟ้าได้ ไม่เพียงแต่จะหลบหลีกการโจมตีได้โดยตรงเท่านั้น แต่ความเร็วยังเพิ่มขึ้นด้วย
ไม่ใช่ทุกการโจมตีที่สามารถหลบได้โดยตรง เพราะธาตุอย่างธาตุไฟและธาตุน้ำแข็งยังคงเป็นภัยคุกคามต่อธาตุสายฟ้า
“แม้จะไม่มีเกราะอัสนี แต่ยังมีกายาอัสนีอยู่ ในระยะสั้นมันอาจเป็นการสูญเสีย แต่ในระยะยาวมันจะเป็นผลกำไรที่ยิ่งใหญ่ นั่นเป็นเพราะเกราะเป็นสิ่งที่อยู่นอกร่างกาย แต่กายาอสนีนั้นสามารถพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้นอีกได้”
“แต่ว่าหนทางอีกยาวไกลกว่าจะได้ครอบครองกายาอัสนี”
หลิงฮันส่ายหัวและลุกขึ้นยืน เวลาสามวันได้ล่วงเลยไปแล้ว แต่ก็ยังไม่พบร่องรอยของเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน
“แปลกยิ่งนัก หรือว่าความทรงจำของนางกลับคืนมาแล้ว?” หลิงฮันกล่าว
“มันไม่ถูกต้อง ถ้าความทรงจำของนางกลับมาแล้ว นางจะปล่อยข้าไปได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นนางยังรู้ว่าข้ามีสมบัติที่รองรับสิ่งมีชีวิตและขวดหยกต้องสาป”
โลกมีขนาดกว้างใหญ่ไพศาล ถ้าคนหายเขาจะหานางพบได้อย่างไร? หลิงฮันจำได้ว่าเขาอยู่กับเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนและได้รับการสืบทอดทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ด้วยกัน หลังจากที่ความทรงจำมากมายหลั่งไหลเข้ามา ทำให้ทั้งสองคนสลบไป
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนน่าจะตื่นก่อนเขา แต่นางเลือกที่จะจากไป ถ้านางเป็นศัตรูไม่ใช่ว่าเขาคงตายไปแล้วหรอกหรือ?
“ช่างมันเถอะ หากนางไม่ใช่ศัตรูก็ดีแล้ว” หลิงฮันพูดกับตัวเอง แต่เขาก็เกิดความรู้สึกแปลกขึ้นในใจ พวกเขาใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานาน แต่ทว่าคนที่เอาแต่ดึงชายเสื้อของทุกวันกลับหายตัวไปอย่างกะทันหันมันทำให้เขารู้สึกแปลก
หลังจากนั้น ทั้งสามคนขึ้นไปบนเรือทองคำ เรือลอยขึ้นทันทีและบินออกไปด้วยความเร็วสูง
จากด้านในห้องโดยสาร พวกเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์ด้านนอกได้ ทำให้ทั้งสามคนรู้สึกแปลกใหม่
“เนื้อมังกร!” ฮูหนิวปรบมือด้วยความดีใจ
หลิงฮันหันหน้าไปมองและเห็นมังกรยักษ์โผล่ขึ้นมาจากก้นทะเลสาป แม้เขาจะอยู่ในเรือ แต่หลิงฮันก็สามารถรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวจากมัน ในขณะที่จูเสวี่ยนเอ๋อโอบแขนเขาไว้แน่นด้วยความหวาดกลัว
หนี!
“เจ้านั่นไม่น่าใช่ระดับสวรรค์ ข้าเกรงว่ามันน่าจะเข้าสู่ระดับทลายมิติแล้ว!” หลิงฮันเร่งความเร็วเรือทันที