สำนักสวรรค์
“อย่าไปฟังผู้หญิงอัธพาลคนนี้เลย” หลิงฮันชี้ไปที่หยินหง “ในอนาคตพวกเจ้าอย่าปฏิบัติกับนางในฐานะผู้หญิงเชียว หากนางเข้าใกล้ให้คิดว่านางเป็นผู้ชายเข้าใจไหม?”
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนและฮูหนิวเผยสีหน้าดุร้ายทันที ผู้ชายต้องการเข้าใกล้พวกนางงั้นรึ?
“เจ้ากำลังปั่นหัวพวกนาง!” หยินหงชี้นิ้วออกไป “เจ้าสมควรเป็นปรมาจารย์หลอกลวงผู้คนยิ่งนัก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีเด็กสายตัวเล็กอยู่กับเจ้า”
“ไร้สาระ แล้วข่าวที่เจ้านำมาบอกคืออะไร?” หลิงฮันถาม
หยินหงหยุดต่อล้อต่อเถียงและพูดว่า “นิกายดาบสวรรค์ นิกายนกอมตะเมฆา นิกายกระบี่ไร้เทียมทาน นิกายอัสนีศักดิ์สิทธิ์ นิกายมังกรปฐพี ทั้งห้านิกายใหญ่ร่วมกันก่อตั้งสำนักสวรรค์ขึ้นเพื่อรวบรวมผู้ที่มีพรสวรรค์ทั้งหมดบนโลกมาไว้ที่นี่”
“โอ้ว?” หลิงฮันรู้สึกแปลกใจ นิกายเหล่านั้นสืบทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ละนิกายต่างมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่ทว่าตอนนี้นิกายพวกนั้นร่วมกันก่อตั้งสำนักสวรรค์?
“เหตุผลคืออะไร?” หลิงถาม
“ห้านิกายใหญ่ประกาศว่าโลกกำลังจะตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายในไม่ช้า ซึ่งอาจนำไปสู่ความพินาศ ดังนั้นห้านิกายใหญ่จึงพยายามคัดเลือกอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมที่สุดเพื่อฝึกฝน ถ้ามีภัยพิบัติครั้งใหญ่เกิดขึ้น อย่างน้อยก็ยังคงหลงเหลือเมล็ดพันธ์ุอยู่” หยินหงกล่าว
“ฟังดูมีเหตุผลมาก” หลิงฮันพูมพึมพัม
“ปรมาจารย์หลิง เจ้าสนใจจะเข้าร่วมหรือไม่?” หยินหงถาม
หลิงฮันคิดอยู่ชั่วครู่และพูดว่า “แล้วสำนักสวรรค์มันอยู่ที่ไหนกันล่ะ?”
“ภูเขาเก้ามังกร”
ความคิดบางอย่างปรากฏขึ้นมาในใจของหลิงฮัน ภูเขาเก้ามังกรอยู่ในแคว้นบุปผาลอยล่องและหุบเขาไร้ขอบเขตที่จื่อเสวี่ยนเซียนทิ้งความลับเอาไว้ก็น่าจะอยู่ที่แคว้นบุปผาลอยล่องเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ข้าต้องไปที่แคว้นบุปผาลอยล่องอยู่แล้ว ดังนั้นมันน่าลองที่จะไปดู เพราะมันอาจเป็นประโยชน์ก็เป็นได้
หลิงฮันได้รับทักษะลับมามากมายในชีวิตที่แล้วของเขา แต่ความแข็งแกร่งของคนเพียงคนเดียวจะเทียบกับรุ่นเยาว์นับไม่ถ้วนได้อย่างไร?
“ถ้าอัจฉริยะทั่วโลกถูกรวบรวมไว้ที่นี่ เช่นนั้นมันก็น่าลองไปดู” หลิงฮันยิ้ม
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าจะต้องสนใจ แต่สำนักสวรรค์แห่งนี้ไม่ใช่ที่สำหรับทุกคน ห้านิกายใหญ่จะนำศิษย์ของตัวเองเข้าไปก่อนแล้วค่อยเชิญคนที่เหลือ” หยินหงกล่าว
“อย่างนั้นรึ” หลิงฮันหัวเราะ “แล้วแบบนี้จะมีใครเชิญข้าหรือไม่?”
“แม้แต่ปรมาจารย์หลิงยังกลัวว่าจะไม่มีใครเชิญ?” หยินหงหัวเราะ “ข้าจะบอกข่าวร้ายกับเจ้า ซวนหยวนจื่อกวงถูกเชิญแล้ว และได้ออกเดินทางไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว ส่วนเจ้าดูไม่มีท่าทีว่าจะถูกเชิญเลย!”
หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจ เขาพูดว่า “ในด้านวรยุทธอย่างน้อยข้าก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าซวนหยวนจื่อกวง ส่วนความสามารถในด้านปรุงยา ข้าเป็นถึงนักปรุงยาระดับปฐพีขั้นสูง แล้วข้าจะถูกมองข้ามได้อย่างไร?” หลิงฮันกล่าว
“ปรมาจารย์หลิงมั่นใจตัวเองเกินไปแล้ว!” หยินหงยิ้มและส่ายหัว “ห้านิกายใหญ่วางแผนที่จะก่อตั้งสำนักสวรรค์ อัจฉริยะที่สามารถเข้าร่วมได้นั้นจะต้องเป็นอย่าง ย่าวหุยเยว่ ราชันกระบี่น้อย แล้วเจ้าล่ะ?”
หลิงฮันเพียงแค่หัวเราะออกมา
หลังจากที่หยินหงจากไป ช่วยไม่ได้ที่หลิงฮันจะคิดหนัก
ในหินความทรงจำที่ถูกทิ้งไว้โดยจื่อเสวี่ยนเซียน ผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์น่าจะบุกดินแดนเบื้องล่างเมื่อหลายพันปีก่อน และห้านิกายใหญ่อย่างนิกายดาบสวรรค์ผนึกกำลังกันเพื่อขับไล่ผู้บุกรุกเหล่านั้น
หลิงฮันเคยเห็นสงครามโบราณในแคว้นพิรุณ จอมยุทธระดับสวรรค์อย่างน้อยสองถึงสามร้อยคนร่วมมือกันต่อสู้กับจอมยุทธระดับทลายมิติ ทำให้มีซากศพจำนวนนับไม่ถ้วนเกิดขึ้น แต่ตัวตนระดับทลายมิตินั่นน่าจะเป็นพระเจ้าที่ถูกพลังของโลกสะกดข่มพลังเอาไว้ที่ระดับทลายมิติ
ตามคำพูดของจื่อเสวี่ยนเซียน ทุกอย่างอาจเป็นเรื่องโกหก!
ตอนนี้เวลาได้ผ่านมาหลายปีแล้ว ห้านิกายใหญ่ก่อตั้งสำนักสวรรค์ขึ้นเพราะโลกจะเผชิญกับภัยพิบัติ หรือว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะทำการบุกโลกเบื้องล่างอีกครั้ง?
ครั้งหนึ่งหม่าตั้วเป่าเคยพูดไว้ว่าจะเปิดสวรรค์และพาทุกคนบนโลกเบื้องล่างขึ้นไป นอกจากนี้ เฟิงผั่วหยุนเองก็ไม่กล้าที่จะทะลวงผ่านระดับทลายมิติ หรือว่าเรื่องพวกนี้จะเกี่ยวข้องกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วย?
หลิงฮันคิดหนักขึ้น ตอนนี้เขามีหลายเรื่องที่ต้องการหาคำตอบ
ทำไมดินแดนศักดิ์สิทธิ์ถึงต้องบุกทวีปฮงเทียน? หรือว่าแดนศักดิ์สิทธิ์มีเป้าหมายบางอย่าง? นอกจากนี้ ถ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต้องการกวาดล้างทวีปฮงเทียนจริง ห้านิกายใหญ่จะยอมหรือไม่?
ถ้าผู้คนบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์นับหมื่นนับพันคนบุกโลกเบื้องล่าง พวกเขาจะต่อต้านได้หรือไม่?
หลิงฮันไม่อาจทำความเข้าใจได้ว่าทำไมผู้คนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต้องบุกโลกเบื้องล่างด้วย
หรือว่ามันจะเป็นความจริงอย่างที่จื่อเสวี่ยนเซียนพูดว่าทุกอย่างเป็นเรื่องโกหก?
ดูเหมือนว่าจะต้องเดินทางไปที่สำนักสวรรค์เสียแล้ว
หลิงฮันไม่ได้ครุ่นคิดอีกต่อไป เมื่อเขาตัดสินใจแล้วที่เหลือคือลงมือทำ
แน่นอนว่าหญิงสาวทั้งสามคนไม่ปฏิเสธ หลังจากที่กล่าวลาหยินหงเสร็จ พวกเขาก็เริ่มออกเดินทาง
ในตอนแรกหลิงฮันต้องการพบคังสื่อฉีที่เป็นนักปรุงยาระดับสวรรค์ที่อาจเป็นลูกหลานของศิษย์ของเขา แต่ช่างมันเถอะ เรื่องนั้นค่อยคุยทีหลังก็ได้
เรื่องเดียวที่หลิงฮันยังคาใจคือเขายังไม่รู้ว่านิกายพันศพต้องการอะไรถึงพยายามโจมตีเมืองหมื่นสมบัติ แม้ว่าสิ่งนั้นมันอาจจะไม่เป็นประโยชน์สำหรับเขา แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงทำให้หลิงฮันอยากรู้
ทั้งสี่คนมุ่งหน้าเดินทางไปที่แคว้นบุปผาลอยล่อง
พวกเขาจ้างรถม้าและหลิงฮันกลับสู่โฉมหน้าเดิม ถ้าแปลงโฉมอยู่ตลอดมันทำให้เขาอึดอัด หลังจากที่ไปถึงสำนักสวรรค์ เขาค่อยปรากฏตัวเป็นคนอื่นอีกครั้ง และภายในหอคอยทมิฬ หลิงฮันกำลังเพลิดเพลินกับคันศรตะวันยอแสง