ราชาต้าหยวนแสดงคำขอบคุณออกมาและรีบบอกหลิงฮันถึงสถานที่ที่ตระกูลหลิงอาศัยอยู่ เขาสันนิษฐานว่าหลิงฮันคงจะยังเป็นนักปรุงยาระดับดำขั้นสูงอยู่และเม็ดยาที่หลิงฮันให้กับเขาจะต้องยอดเยี่ยมแน่ๆ
แต่พอหลิงฮันจากไป ราชาต้าหยวนได้หยิบเม็ดยาขึ้นมาตรวจสอบ ทันใดนั้นเขาตกตะลึงจนเกือบจะหงายลงพื้น
พระเจ้าช่วย!
เม็ดยาทุกเม็ดยาที่หลิงฮันให้มาล้วนแต่เป็นเม็ดบยาระดับปฐพี แถมแต่ละขวดยังมีสรรพคุรและข้อห้ามเขียนไว้อย่างละเอียดด้วย ร่างของราชาต้าหยวนสั่นสะท้าน เขาเคยคาดหวังเอาไว้ว่าสักวันจะกลายเป็นจอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณ ซึ่งวันนั้นก็มาถึงแล้ว!
ราชาต้าหยวนอดที่จะตื้นตันใจไม่ได้ การดูแลตระกูลหลิงนั้นเป็นงานที่งายราวกับพลิกฝ่ามือ แต่ตอนนี้เขากลับได้ผลตอบแทนมากมายขนาดนี้กลับมา
ปรมาจารย์หลิงช่างเป็นคนที่ใจกว้างยิ่งนัก!
…
หลิงฮันนั้นไม่สนใจเม็ดยาเหล่านั้นแม้แต่น้อย สำหรับเขาเม็ดยาระดับปฐพีก็เป็นเพียงเม็ดยาธรรมดาทั่วไป เขาสามารหลอมพวกมันขึ้นมาได้อย่างไม่ยากเย็น หลังจากตอบแทนราชาต้าหยวนแล้ว หลิงฮันก็รีบไปหามารดาและสหายของเขา จากนั้นก็ออกจากเมืองต้าหยวนมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกจนมาถึงเมืองเล็กๆที่ห่างไกลเมืองหนึ่ง
หลิงตงซิงและคนตระกูลคนอื่นๆอาศัยอยู่ที่นี่
ยิ่งเข้าใกล้เมืองเยว่ฮงฉางก็ยิ่งรู้สึกประหม่า นางเอาแต่จัดแต่งทรงผมและจับใบหน้าของนางเพราะกังวลว่าหากนางแก่ขึ้น หลิงตงซิงจะยังจำนางได้รึเปล่า
เมื่อผ่านเข้าเมืองมา พวกเขาก็มาถึงลานที่พักขนาดใหญ่ที่ประตูถูกปิดอยู่
หลิงฮันเคาะประตูและผ่านไปไม่นานก็มีเสียงดังออกมาจากภายใน “เจ้ามาหาใคร?”
“ข้าคือหลิงฮัน”
เสียงเอะอะดังออกมาจากด้านหลังประตู ดูเหมือนว่าเจ้าของเสียงผู้นั้นจะสะดุดล้ม ทันใดทันประตูก็เปิดออกมาพร้อมกับชายวัยกลางคนที่พูดกับหลิงฮันด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “นายน้อยฮัน ท่านกลับมาแล้ว!”
ชายวัยกลางคนคือคนรับใช้ของตระกูลหลิง ก่อนหน้านี้ที่ตระกูลเชิงเกือบจะทำลายตระกูลหลิงจนสิ้นซาก เขาสามารถหลบหนีไปได้ หลังจากเหตุการณ์นั้นมาเขาก็ยังภักดีทำงานให้กับตระกูลหลิง
หลิงฮันยิ้มและพูด “ข้ากลับมาแล้ว! ท่านพ่ออยู่ที่ไหน?”
“นายท่านใหญ่กำลังรับแขกอยู่ให้ห้องรับรอง” คนรับใช้กล่าว
“แขกที่ว่าคือใคร?” หลิงฮันถาม
“มีแม่สื่อกำลังพูดกับนายท่านใหญ่เรื่องการแต่งงาน” คนรับใช้กล่าว
ก่อนหน้านี้เยว่ฮงฉางเต็มไปด้วยความรู้สึกประหม่า แต่เมื่อนางได้ยินแบบนั้น นางก็กลายเป็นอารมณ์เสียและรีบเดินไปถามคนรับใช้ทันที “โอ้ นายท่านใหญ่ของเจ้ากำลังรับคนมาเป็นภรรยา?”
คนรับใช้ไม่รู้จักเยว่ฮงฉาง แต่ในเมื่อนางมากับหลิงฮัน จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่กล้าเมินเฉย “นายท่านใหญ่เสียภรรยาไปนานหลายปีแล้ว และพวกเราเหล่าคนรับใช้ต่างก็หวังว่านายท่านใหญ่จะแต่งงานใหม่และมีคู่ครอง”
“เยี่ยมไปเลยนี่ ข้าเองก็อยากจะเห็นเช่นกัน!” สีหน้าของเยว่ฮงฉางเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางเดินตรงผ่านสวนในบ้านและมุ่งหน้าไปยังยังห้องรับรอง
คนรับใช้ต้องการจะหยุดนางโดยคิดว่านางเป็นแค่แขก นางไม่สามารถทำพฤติกรรมเช่นนี้ได้
หลิงฮันรีบคว้าตัวคนรับใช้เอาไว้และพูดด้วยรอยยิ้ม “ลุงฟู ข้าว่าลุงควรจะภาวนาให้แก่ตัวเองเอาไว้นะ”
“นายน้อยฮันหมายความว่าอย่างไร?” ลุงฟูรู้สึกสับสน
“นั่นคือท่านแม่ของข้า” หลิงฮันพูดด้วยรอยยิ้มซุกซน
ร่างของลุงฟูแข็งข้างและครุ่นคิดด้วยความสงสัย ‘ไม่ใช่ว่ามารดาของนายน้อยฮันก็คือภรรยาของนายท่านใหญ่หรอกรึ? แต่ว่านายหญิงได้เสียชีวิตไปนานแล้วไม่ใช่รึไง? ไม่นะ… หรือว่าที่จริงๆนางจะยังไม่ตาย?’
ลุงฟูเริ่มกังวลขึ้นมาทันที เขาพูดว่านายท่านใหญ่สมควรแต่งงานใหม่ต่อหน้านายหญิง! ถ้านายหญิงเกิดแค้นเคืองเขาขึ้นมาในอนาคต นั่นจะไม่ย่ำแย่รึไง?
หลิงฮันหัวเราะและแตะไหล่ลุงฟู “ไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องกังวล!”
“นายน้อยฮัน ท่านแกล้งข้าที่ไม่บอกกับข้าตั้งแต่แรก” ลุงฟูพูดด้วยใบหน้าขมขื่น
หลิงฮันรู้ดีว่าเยว่ฮงฉางไม่ใช่คนแบบนั้นและต้องการหยอกล้อลุงฟูเล่นเท่านั้น เขาจะสามารถไปหาคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์เช่นนี้ได้ที่ไหนอีก?
เขา หลิวอู๋ตงและคนอื่นๆไม่ได้ตามเข้าไป หลังจากนั้นไม่นานก็มีสตรีอายุราวๆสี่สิบปีวิ่งออกมาด้วยใบหน้าที่มีร่องรอยของฝ่ามือ จากขนาดรอยแล้ว นั่นต้องเป็นฝ่ามือของเยว่ฮงฉางไม่ผิดแน่
ภายในห้องรับรแงมีเสียงร้องให้ดังออกมา หลิงฮันครุ่นคิดและพูดออกไป “ไปหาที่พักกันก่อนเถอะ วันนี้ท่านพ่อและท่านแม่ของข้าคงไม่มีเวลาให้พวกเรา”
“ทำไมล่ะ?” ฮูหนิวถามพร้อมกับเอียงหัว
หลิงฮันหัวเราะอย่างซุกซนและพูด “ทั้งสองไม่ว่างเพราะต้องใช้เวลาใกล้ชิดกัน”
หลิวอู๋ตงและหญิงสาวคนอื่นหน้าแดงในขณะที่ฮูหนิวเกาะคอหลิงฮันและพูดด้วยเสียงอ่อนหวาน “หลิงฮันก็ต้องใกล้ชิดกับหนิว!”
ในวันต่อมาช่วงกลางวัน ในที่หลิงหลิงตงซิงก็มีเวลาและเรียกหลิงฮันเข้าไปพบ เยว่ฮงฉางพิงแนบอยู่ข้างกายหลิงตงซิงโดยไม่มีท่าทีโกรธเคืองอย่างเมื่อวันก่อนแล้ว
เมื่อพ่อลูกพบกัน พวกเขาก็โอบกอดกันแน่นทันที
ทั้งสามคนพูดคุยกับอยู่สักพักก่อนที่เข้าเริ่มสนทนาหัวข้อวรยุทธ
โดยในความคิดของเยว่ฮงฉางคือไม่จำเป็นต้องกลับไปแก้แค้น ขอแค่ครอบครัวสามารถใช้ชีวิตในอย่างมีความสุขก็พอ แต่หลิงฮันกับหลิงตงซิงนั้นกลับต้องการแก้แค้นและไม่อาจยอมละทิ้งความปฏิปักษ์กับอ้าวเฟิง
ที่หลิงฮันจงใจทำให้รากฐานวิญญาณของอ้าวเฟิงพิการก็เพื่อหลิงตงซิงจะได้สามารถสงมือสังหารอ้าวเฟิงได้ด้วยตนเอง
“ท่านพ่อ ตอนนี้รากฐานวิญญาณของท่าฟื้นฟูกลับมาแล้วสินะ?” หลิงฮันถาม
“ฟื้นฟูแล้ว!” หลิงตงซิงตอบอย่างหึกเหิม เขาไม่เพียงแค่ฟื้นฟูรากฐานวิญญาณกลับมา แต่ยังสัมผัสได้ถึงประตูที่จะทะลวงผ่านระดับก่อเกิดธาตุได้แล้วด้วย “โอ้ จริงสิ นักปรุงยาที่เจ้าไว้วานมาตอนก็ยังพักยู่ที่นี่”
ที่แท้ลิ่วจี้ถงก็ยังอยู่ที่นี่อยู่นี่เอง ถึงว่าทำไมเขาถึงไม่เห็นตัวลิ่วจี้ถงในตำหนักเม็ดยาภูมิภาคเหนือ
หลิงฮันพยักหน้าและพูด “ข้าทำให้รากฐานวิญญาณของอ้าวเฟิงพิการและสังหารผู้อาวุโสของตระกูลอ้าว ท่านพ่อ การที่จะสามารถล้างแค้นได้ สิ่งที่ท่านต้องทำมีเพียงการบรรลุระดับบุปผาผลิบานเท่านั้น”
หลิงตงซิงตกตะลึง ผู้อาวุโสของตระกูลอ้าวสมควรเป็นตัวตนระดับตัวอ่อนวิญญาณแต่กลับถูกบุตรของเขาสังหาร? แต่หลิงฮันจะพูดหลอกเขาได้อย่างไร? หลิงตงซิงอดที่จะหัวเราะลั่นออกมาไม่ได้ ความสำเร็จของบุตรชายเขาช่างยิ่งใหญ่นัก
หลิงฮันกับหลิงตงซิงพูดคุยกันเรื่องแผนการในอนาคต อีกไม่นานข่าวที่หลิงฮันได้รับมรดกแห่งขุมสมบัติของพระเจ้าจะต้องแพร่กระจายไปทั่วโลก และคงมีผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนที่ต้องการไล่ล่าสังหารเขาเพื่อผลประโยชน์
หลิงตงซิงและตระกูลหลิงจะกลายเป็นจุดอ่อนของเขาหากพวกเขาถูกจับตัวได้
ดังนั้นหลิงตงซิงจึงวางแผนที่จะเคลื่อนย้ายและหลบซ่อนตระกูลหลิงไปซักระยะ
หลิงฮันเองก็วางแผนที่จะใช้เวลานี้ในการเพิ่มพลังบ่มเพาะของบิดาเขารวมถึงของตัวเขาเอง ตอนที่ทะลวงผ่านจากระดับแก่นแท้จิตวิญญาณมาระดับบุปผาผลิบานขาเร่งรีบเกินไป ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องทำให้รากฐานของเขามั่นคงเสียก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆในอนาคต
เยว่ฮงฉางไม่คัดค้านอะไร สำหรับนางนั้นขอแค่ครอบครัวได้กลับมาพบหน้ากับก็เพียงพอแล้ว
“เคลื่อนย้าย!”
หลิงฮันนำทุกคนเข้าไปยังหอคอยทมิฬ ด้วยวิธีนี้พวกเขาจะไม่ถูกแกะรอยได้
หลังจากทิ้งจดหมายเอาไว้ให้ราชาต้าหยวน หลิงฮันก็เหยียบท้องฟ้าลอยออกจากแคว้นพิรุณ เขาลังเลอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะเลือกมุ่งเข้าไปยังแคว้นเพลิง
เมื่อข้ามผ่านเทือกเขาสูงและแม่น้ำ หลิงฮันก็มาปรากฏตัวอยู่ที่เมืองเล็กๆในเขตชายแดนของแคว้นเพลิง เมืองนี้อยู่ภายใต้อาณาเขตร่วมกันของแคว้นวายุและแคว้นเพลิง เมืองเป่าหยางแห่งนี้คือเมืองอันไร้กฎระเบียบ
แม้จะมีผู้คนหน้าใหม่ปรากฏตัวที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ละคนมีเป้าหมายของตนเองและไม่ต้องการเข้าไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่น
หลิงฮันซื้อลานที่พักขนาดใหญ่แห่งหนึ่งและนำทุกคนออกมา ลานที่พักแห่งนี้มีขนาดใหญ่โตพร้อมกับสวนผักที่กว้างขวาง หากเลี้ยงสัตว์ไว้ที่นี่ด้วย พวกเขาคงจะสามารถเลี้ยงดูตนเองได้