เมื่อหมัดชนกัน มันก็เกิดเสียงดังขึ้นมา!
ร่างกายของสวียุนก้าวถอยหลังไปสามก้าวติดต่อกัน!
ส่วนเฮยเชียงก็ยืนนิ่งไม่ขยับ!
“ฮ่าฮ่า ดูมันสิ!” เซี่ยอู่ก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เอง จู่ๆเฮยเชียงก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด: “หมัดของฉัน…กระดูกหัก…โอ้ยยย!!!”
เค้ากำกำปั้นไว้แล้วตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด
ทุกคนต่างก็ตะลึง นี่มัน… เกิดอะไรขึ้น?!
สวียุนมองกำปั้นของตัวเองโดยไม่รู้ตัว เค้าไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย!
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!” เซี่ยอู่ก็รีบเดินเข้ามาแล้วถาม
เฮยเชียงปาดเหงื่อออกด้วยความเจ็บปวด เค้าพูดว่า: “หมัดของมัน… แข็งแกร่งราวกับก้อนหิน!”
สีหน้าของเซี่ยอู่ก็ดูไม่ได้เลย เค้าตะโกนขึ้นมาว่า: “เอาเฮยเชียงไปห้องพยาบาล!”
หลายคนก็พากันช่วยประคองเฮยเชียงแล้วเดินไปที่ห้องพยาบาล
ในที่สุด ปี้เสี่ยวเหยาก็หัวเราะออกมาด้วยความโล่งอก เค้าตบเข้าไปที่ไหล่ของสวียุนด้วยแววตาที่ดูสดใส
“ทุกคนเห็นแล้วว่าร่างกายของพวกนายมันแข็งแกร่งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว! ถ้าใครยังไม่มั่นใจ ก็ลองท้าทายดูต่อสิ!” ปี้เสี่ยวเหยาตะโกนเสียงดัง
“ฉันเอง!”
“ฉันเอง!”
ในตอนนี้เอง ลูกทีมของปี้เสี่ยวเหยา ก็พากันลุกฮือขึ้นมาพร้อมกับความกระตือรือร้นอยากที่จะลอง
ลูกทีมฝั่งเซี่ยอู่ก็ไม่พอใจเช่นกัน แต่หลังจากการสู้กันไปได้สองสามรับ ลูกทีมฝั่งปี้เสี่ยวเหยาก็ชนะตลอด! นี่มันไม่มีที่ติอะไรเลย!
ทุกคนที่ประลองต่างก็มีความคิดเหมือนกัน นั่นคือร่างกายของคู่ต่อสู้นั้นมันแข็งแกร่งเกินไป!
“คึกครื้นมากเลยนะ”
ในตอนนี้เอง ผู้บัญชาการกั๋วที่อยู่ไม่ไกลก็เดินเข้ามา
หลังจากเห็นผู้บัญชาการกั๋ว ทุกคนก็รีบลุกขึ้นแล้วทำความเคารพพร้อมกัน
“ผลการฝึกเป็นยังไงบ้าง?” ผู้บัญชาการกั๋วก็ถามขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม
ปี้เสี่ยวเหยาก้าวไปข้างหน้าแล้วตะโกนว่า: “รายงานผู้บัญชาการกั๋ว เวลาฝึกสามวันสิ้นสุดลงแล้ว ผลการฝึกก็เยี่ยมมากเช่นกัน! ทีมของโค้ชเซี่ยพ่ายแพ้พวกเราอย่างราบคาบ!”
ผู้บัญชาการกั๋วตกใจ เค้ามองเซี่ยอู่ด้วยความประหลาดใจแล้วพูดว่า “จริงเหรอ?”
แม้ว่าเซี่ยอู่จะไม่ต้องการยอมรับมัน แต่เค้าก็ต้องเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริง
เค้ากัดฟันแล้วพยักหน้า: “รายงานผู้บัญชาการกั๋ว มันเป็นความจริง…”
“ฮ่าฮ่า!” ผู้บัญชาการกั๋วหัวเราะขึ้นมาอย่างกะทันหัน “วิธีการของฉินเฉิงนี่มันมีประโยชน์จริงๆ! ฉันคิดไม่ผิดเลยจริงๆ!”
ในเวลาเดียวกันนี้เอง ในใจของผู้บัญชาการกั๋วก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย ถ้าเค้ารู้แบบนี้ตั้งแต่แรก เค้าจะไม่มีวันปล่อยให้เซี่ยอู่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับเรื่องนี้!
“เวลาที่เหลือ ทุกคนจะต้องไปฝึกกับปี้เสี่ยวเหยา!” ผู้บัญชาการกั๋วโบกมือขึ้นมา
“รายงานผู้บัญชาการกกั๋ว มันสายเกินไปแล้ว!” ปี้เสี่ยวเหยาพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา “โค้ชฉินบอกว่ามีเวลาฝึกฝนเพียงสามวันเท่านั้น ส่วนเวลาที่เหลือจะใช้ในการฝึกเป็นทีม!”
ผู้บัญชาการกั๋วพูดอะไรไม่ออก เค้าตบไหล่ของปี้เสี่ยวเหยาแล้วพูดอย่างไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีว่า: “นายนี่คือกองทัพของเรา! เอาหละ เรื่องนี้ฉันผิดพลาดเอง ฉันจะไปขอโทษคุณฉินเอง ส่วนการฝึก ก็ฝึกต่อไปกันได้เลย”
“ครับ!!” ปี้เสี่ยวเหยายืดคอขึ้นมา เค้าตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
ผู้บัญชาการกั๋วอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ปี้เสี่ยวเหยาคนนี้เค้ามีพรสวรรค์จริงๆ แต่เค้าก็เป็นคนที่ตรงไปตรงมาและดื้อรั้นเกินไป
ในตอนนี้เอง ฉินเฉิงที่อยู่ไม่ไกลออกไปก็กำลังเดินเข้ามา
เค้าถือกระเป๋าอยู่ในมือ ในกระเป๋ามันก็คือยารวมชีพจร
ฉินเฉิงหาวขึ้นมาสองสามครั้ง มันดูราวกับว่าเค้ายังไม่ตื่นยังไงยังงั้น เค้าเดินช้ามาก
“ผู้บัญชาการกั๋ว” หลังจากไปถึงที่สนามฝึก ฉินเฉิงก็พยักหน้าให้กับผู้บัญชาการกั๋ว
จากนั้นเค้าก็มองไปที่ปี้เสี่ยวเหยาแล้วถามว่า: “ผลการฝึกเป็นยังไงบ้าง?”
ปี้เสี่ยวเหยาไม่ได้ปิดบังอะไรและบอกฉินเฉิงตามความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้
หลังจากที่ฉินเฉิงฟังจบ สีหน้าของเค้าก็เย็นชาลงในทันที
“พูดมาแบบนี้แล้ว เด็กที่ฝึกตามวิธีการของฉันก็มีแค่เจ็ดคนอย่างงั้นสินะ” ฉินเฉิงก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา
“ครับ” ปี้เสี่ยวเหยาพยักหน้า
ฉินเฉิงเหลือบมองเซี่ยอู่แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า: “ฉันเป็นหัวหน้าทีมฝึกอบรมนี้ ทีมนี้มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณเลย ใครใช้ให้คุณเข้ามาแทรกแทรงไม่ทราบ?”
เซี่ยอู่ก็ฮัมเพลง: “เป็นผู้บัญชาการกั๋ว… ”
ก่อนที่เซี่ยอู่จะพูดจบ ทันใดนั้นก็เค้าก็โดนตบ ร่างทั้งร่างของเซี่ยอู่พุ่งออกไปไกลหลายสิบเมตร!
ฉินเฉิงจงใจไม่ให้เซี่ยอู่พูดจบ ไม่อย่างงั้น เค้าจะไม่ไว้หน้าผู้บัญชาการกั๋ว
เซี่ยอู่ลุกขึ้นจากพื้นแล้วพูดขึ้นมาด้วยความโกรธว่า: “ฉินเฉิง แกกล้ามากนะที่มาตบฉัน นี่เป็นคำสั่งของผู้บัญชาการกั๋ว แกจะไม่ทำตามอย่างงั้นเหรอ!”
“โอ้ มันเป็นคำสั่งของผู้บัญชาการกั๋วอย่างงั้นเหรอ” ฉินเฉิงก็เห็นว่าเค้าหันมองไปที่ผู้บัญชาการกั๋วแล้วพูดขึ้นมาว่า: “ผู้บัญชาการกั๋ว ในเมื่อคุณให้ผมมาคุมทีมนี้ ทีมนี้มันก็ควรได้รับการจัดการโดยผม นี่มันสมเหตุสมผลแล้วอย่างงั้นเหรอ?”
ผู้บัญชาการกั๋วก็พูดขึ้นมาอย่างไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี: “ฉินเฉิง เรื่องนี้ฉันผิดเอง ฉันต้องขอโทษคุณด้วย”
“ผู้บัญชาการกั๋ว คุณไม่ต้องขอโทษเค้าหรอก!” ในตอนนี้เอง เซี่ยอู่ก็กัดฟันของเค้าแล้วพูดว่า: “ฉันผมขออาสาประลองเดี่ยวๆกับฉินเฉิงแบบ ผู้บัญชาการกั๋ว ได้โปรดอนุมัติด้วยครับ!”
ผู้บัญชาการกั๋วขมวดคิ้วแล้วพูดว่า: “เซี่ยอู่! อย่าหยาบคาย!”
ในตอนนี้เอง ฉินเฉิงก็โบกมือแล้วพูดว่า: “ผู้บัญชาการกั๋ว ทำให้เค้าสมใจอยากเถอะ ไม่อย่างงั้นคนๆนี้เค้าก็จะไม่มีทางเชื่อมั่นในตัวผม”
เมื่อเห็นแบบนี้ ผู้บัญชาการกั๋วก็ทำได้เพียงแค่พยักหน้าแล้วพูดว่า “เอาละ ออมมือหน่อยก็แล้วกัน”
เค้าพูดประโยคนี้กับฉินเฉิง แต่เซี่ยอู่ก็เข้าใจผิดคิดว่าเค้ากำลังพูดอยู่กับตัวเอง
ดังนั้นเซี่ยอู่ก็ตะโกนว่า: “ผู้บัญชาการกั๋ว ไม่ต้องกังวลครับ!”
หลังจากนั้น เซี่ยอู่ก็กำหมัดของเค้าแล้วความโกรธในใจของเค้าก็มาถึงขีดสุดในทันที!
เค้าตะโกนออกมาแล้วหมัดของเค้าก็พุ่งตรงไปที่หัวของฉินเฉิงในทันที!
ฉินเฉิงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมแล้วใช้หมัดต่อยเข้าไป
สีหน้าของเซี่ยอู่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย หลังจากที่เค้าตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เค้าก็กำหมัดขึ้นในทันที! หมัดทั้งหมดมันตรงเข้าไปที่หัวของฉินเฉิง
อย่างไรก็ตาม ฉินเฉิงยังคงไม่ขยับ ร่างกายของเค้ามันแข็งทื่อราวกับหิน
สีหน้าของเซี่ยอู่ก็เริ่มหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ เค้าใช้กำลังทั้งหมดของเค้า แต่เค้าก็ไม่สามารถทำลายการป้องกันของฉินเฉิงได้เลย!
ลูกทีมที่อยู่รอบๆก็จ้องมองมากยิ่งขึ้น เซี่ยอู่ที่เป็นหัวหน้าทีมของพวกเค้าไม่สามารถที่จะทำอะไรฉินเฉิงได้เลย?
“ชกเสร็จแล้วยัง?” ฉินเฉิงถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ฮ่า!” เซี่ยอู่ตะโกนแล้วกำหมัดขึ้นมาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่หมัดของเค้าจะสัมผัสเข้าไปที่ฉินเฉิง ฉินเฉิงก็ตบเค้าออกไปจนลมไปหมดสติอยู่ที่พื้น
ทุกคนกลืนน้ำลายอย่างบ้าคลั่ง พระเจ้า นี่มันเรื่องจริงใช่ไหม?
ตบจนกระเด็นออกไปเลย?
“โค้ชฉินอาจเป็นปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่จริงๆ! ไม่สิ เค้าอาจเหนือกว่าปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ด้วยซ้ำ!”
“ร่างกายของเค้าแข็งแกร่งมาก หัวหน้าเซี่ยทำอะไรเค้าไม่ได้เลย…”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมันเห็นได้ชัดเลยว่าโค้ชฉินไม่ได้จริงจังอะไรกับการสู้นี้เลย…”
“รู้แบบนี้ฉันฝึกตามวิธีของโค้ชฉินดีกว่า เห้อ”
ฉินเฉิงมองไปที่ผู้บัญชาการกั๋วแล้วพูดว่า: “ผู้บัญชาการกั๋ว รบกวนเอาคนมาลากเซี่ยอู่ออกไปด้วยครับ อย่าให้เค้ามาถ่วงเวลาการฝึกของเรา”