ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – ตอนที่ 2377

บทที่ 2377
ผู้หญิงคนนี้คือเจิ้งเสี่ยวฉีซึ่งเป็นนักแสดงสาวที่โด่งดังที่สุดในตอนนี้
ทุกคนในวงการบันเทิงรู้ดีว่ามีผู้มีพระคุณที่ทรงอำนาจอยู่เบื้องหลังเจิ้งเสี่ยวฉี แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้มีพระคุณของเธอกันแน่
ตั้งแต่ที่เธอมีชูโสว่เต่อเป็นที่พึ่ง ทรัพยากรในทุกๆ ด้านของเจิ้งเสี่ยวฉีในวงการมันเทิงก็ดีจนนักแสดงทุกคนต่างพากันอิจฉาแทบตาย
นักแสที่มีทรัพยากรที่ดีมักจะมีโอกาสได้แสดงภาพยนตร์และรีส์ฟอร์มยักษ์มากกว่าคนอื่น
นักแสดงหญิงที่มีทรัพยากรที่ดีมากจะได้รับบทเล่นละครยอดเยี่ยมแห่งปีที่ถ่ายทำโดยผู้กำกับชื่อดังในทุกๆ ปี
ส่วนใหญ่ดาราสาวที่มีทรัพยากรมากมายอย่างเจิ้งเสี่ยวฉีนั้น ไม่ต้องทำอะไรเลย สปอนเซอร์ที่อยู่เบื้องหลังเธอจะใช้เงินเพื่อเชิญผู้กำกับ
ที่ดีที่สุดและนักแสดงชายที่มาแรงที่สุด รวมถึงตัวประกอบที่มาแรงที่สุดมาเล่นละครที่สร้างขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ
หากคนทั่วไปมีโอกาสเล่นเป็นตัวละครหลักในละครที่มีงบลงทุนหลายร้อยล้านหยวนก็ถือเป็นบุญมากแค่ไหนแล้ว
แต่สำหรับเธอนั้น ซูโสว่เต๋อจ่ายเงินหลายร้อยล้านเพื่อเชิญนักแสดงชื่อดังในวงการบันเทิงมาให้บริการเธอโดยตรง
วิธีการเข้าร่วมในอุตสาหกรรมบันเหิงในลักษณะนี้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นวิธีการที่สะท้านฟ้าสะเทือนดินจริงๆ
เป็นเพราะพลังมหาศาลในวงการบันเทิ้งของซูโสว่เต่อนั้นเอง ที่ทำให้เจิ้งเสี่ยวฉียอมเชื่อฟังเขาในทุกๆ เรื่อง
ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรอยู่ ขอแค่เป็นสายโทรจากซูโสว่เต๋อ เธอก็จะบินไปดูแลเอาใจใส่ตัวเงินตัวทองอย่างซูโสว่เต๋อโดยไม่สน
ว่าระยะทางจะไกลแค่ไหน
ผู้ช่วยของซูโสว่เต๋อเชิญเจิ้งเสี่ยวฉีเข้าไปในลิฟต์โดยตรง จากนั้นจึงใช้กุญแจของผู้ดูแลระบบลิฟต์เพื่อปรับลิฟต์ให้อยู่ในโหมดควบคุม
ด้วยตนเอง และปล่อยให้ลิฟต์ไปที่ชั้นบนสุดโดยตรง
หลังจากที่ปรับโหมดภายในของลิฟตให้ปีนโหมดควบคุมด้วยตนเองแล้ว บุคคลภายนอกจะกดลิฟต์ชั้นใดก็ไม่มีประโยชน์ เพราะอย่างไร
ก็ตามลิฟต์จะไม่มีทางหยุดอย่างแน่นอน
ภายในเวลาไม่กี่วินาที ลิฟต์ก็มาถึงชั้นบนสุดของโรงแรมแล้ว
ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ผู้ช่วยก็รีบก้าวไปข้างหน้าโดยไม่รอช้า และพูดด้วยความเคารพว่า ” เชิญทางนี้ครับ คุณหนูเจิ้ง!”
เจิ้งเสี่ยวฉีรีบเดินตามเขาไปทันที เธอยกมือขึ้นมาดู นาฬิกาข้อมือรุ่นจำนวนจำกัด Richard ㆍ Mill ที่มีมูลค่านับสิบล้าน ในขณะที่เดินตาม
หลังอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ ยั่งมีเวลาอีกประมาณสี่สิบวินาทีก่อนถึงเส้นตายสิบนาทีที่ซูโสว่เต่อกล่าวไว้ก่อนหน้านี้
เจิ้งเสี่ยวฉีถอนหายใจด้วยความโล่งอก สี่สิบวินาทีก็เพียงพอที่จะไปถึงห้องของซูโสว่เต๋อแล้ว
แม้ว่าจะมาสายไปสองสามนาที แต่ซูโสว่เต๋ออาจจะไม่โกรธเธอก็ได้ อย่างไรก็ตาม เจิ้งเสี่ยวฉีก็ไม่กล้าที่จะปล่อยให้เขามีความไม่พอใจ
ใดๆ ต่อตัวเอง
เพราะเธอรู้ดีว่า การรับใช้ซูโสวเต๋อให้ดีเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้
เมื่อมาถึงทางเข้าห้องชุดเพรสซิเดนเชียลสวีท ผู้ช่วยก็กดกริ่งและพูดเสียงเบาว่า ” เจ้านายครับ คุณหนูเจิ้งมาถึงแล้วครับ”
ไม่มีเสียงตอบรับจากห้อง
ผู้ช่วยก็กดกริ่งประตูอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดในห้อง
เขาหันกลับมาพูดกับเจิ้งเสี่ยวฉีว่า ” เจ้านายอาจจะกำลังอาบน้ำอยู่ กรุณารอสักครู่นะครับ ผมจะลองกดดูอีกครั้ง”
เจิ้งเสี่ยวฉีรีบพูดว่า ” เดี๋ยวฉันโทรหาเขาเอง!”
หลังจากพูดเสร็จ เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาซูโสว่เต๋อทันที
ในไม่ช้ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในห้อง แต่แล้ว ไม่เพียงแต่ซูโสว่เต่อไม่รับโทรศัพท์เท่านั้น แตในห้องก็ไม่มีเสียงอื่นใดเลย
สีหน้าของผู้ช่วยหยุดชะงักทันที และเขาก็พูดด้วยความกังวลว่า “แย่แล้ว! เกิดเรื่องกับเขาแล้ว!”
“เกิดเรื่อง!? เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว เจ้งเสี่ยวฉีก็ตกใจจนร่างกายสั่นสะท้านไปทั้งตัว
ผู้ช่วยรีบอธิบายว่า “ผมก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น โปรดรอสักครู่! นะครับ”
ทันทีที่พูดจบ เขาก็หยิบมือถือออกมากดโทรออกแล้วพูดด้วยเสียงต่ำ “ท่นเฮ่อคุณรีบมาให้เร็วที่สุด เกิดเรื่องไม่ดีกับเจ้านายแล้ว!”
ห้าวินาทีต่อมา ประตูห้องที่ใกล้กับทางเข้าลิฟต์หลายห้องก็ถูกเปิดออกเกือบจะพร้อมกัน