สิ่งที่คุณท่านใหญ่ซูเฉลียวฉลาดกว่าซูโสว่เต้าเล็กน้อยคือ เขาผ่านเบาะแสร่องรอย สร้างโครงร่างคร่าวๆในสมองของตัวเอง ในขณะเดียวกันอยู่ในโครงร่างนี้ ก็คำนวณการมีอยู่ของบุคคลปริศนาอย่างเย่เฉินออกมา
อันที่จริงซูเฉิงเฟิงเป็นคนเจ้าเล่ห์ที่เฉลียวฉลาดมากมาโดยตลอด แผนการมากมายแทบจะไม่มีช่องโหว่แม้แต่น้อย เพียงแต่ว่าหลายครั้งก็เพราะไม่สามารถที่จะคาดการณ์ตัวแปรอย่างเย่เฉินได้ ดังนั้นถึงได้พลาดไปเล็กน้อย ก็ก่อให้เป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ได้
ในครั้งนี้ เขาคาดเดาได้ว่าซูจือหยูไม่ตาย คาดเดาว่าจะต้องได้รับความช่วยเหลือจากผู้สูงส่ง ดังนั้นเขาถึงได้ตัดสินใจพยายามอย่างเต็มที่จะกอบกู้ทั้งครอบครัวของซูโสว่เต้าคืนมา
จุดฝ่าฟันอันดับแรก ก็ย่อมเป็นเจ้าบ้านอย่างซูโสว่เต้าเป็นธรรมดา
เมื่อกี้นี้โทรศัพท์สายนี้ ไม่เพียงแต่ปลอบใจซูโสว่เต้า ในขณะเดียวกันอยู่ตรงหน้าของซูโสว่เต้า และแสดงคำขอโทษต่อซูจือเฟยด้วย
ถ้าหากสองคนพ่อลูกนี้เชื่อคำพูดของเขา ถ้าอย่างนั้นทั้งครอบครัวสี่คนนี้ อย่างน้อยเขาก็กอบกู้คืนมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว
แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่ซูโสว่เต้าจะยกโทษให้ซูเฉิงเฟิงอย่างง่ายดายขนาดนี้ แต่ในขณะนี้ ในใจของเขา ก็เพราะเมื่อกี้นี้คุณท่านใหญ่ซูเป็นคนยอมรับผิดเอง ก็ลดความรุนแรงลงเล็กน้อย
เนื่องจากว่า ตลอดชีวิตนี้ซูเฉิงเฟิงไม่เคยก้มหน้ายอมรับผิดกับใครมาก่อน จู่ๆก็พูดขอโทษเอง ซึ่งทำให้เขาประหลาดใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ซูเฉิงเฟิงก็คิดการมีอยู่ของปัจจัยลึกลับอย่างเย่เฉินคนนี้ไม่ออก ดังนั้น เขาไม่ทราบแรงจูงใจที่แท้จริงของการพูดเพื่อขอคืนดีของคุณท่าน
ประกอบกับว่าตัวของเขาเองก็ถูกส่งตัวไปที่ออสเตรเลีย ต่อให้คุณท่านจะทำเรื่องที่ผิดต่อเขา ก็ไม่มีความจำเป็นต้องก้มหัวให้เขาเลย ถึงขนาด ที่ว่าคุณท่านสามารถที่จะกักบริเวณเขาไว้ในบ้าน จะได้ไม่เกิดหายนะขึ้นในภายหลัง นี่ก็เป็นรูปแบบการกระทำที่คงเส้นคงวาของคุณท่าน
แต่คุณท่านไม่ได้เลือกวิธีนี้ แต่กลับเป็นคนก้มหัวยอมรับผิดเองและขอร้องให้ยกโทษให้ด้วย สิ่งนี้ทำให้ซูโสว่เต้ารู้สึกว่า คุณท่านอาจมีความเข้าใจอย่างแท้จริง มีความคิดกลับเนื้อกลับตัวใหม่มาชดเชยให้กับตัวเอง
คุณท่านเต็มใจที่จะชดเชยให้ตัวเองยินยอมให้ตัวเองกลับประเทศ นี่เทียบเท่ากับว่าเตรียมตัวที่จะฟื้นสถานะทายาทของตัวเองคืนมา
ไม่มีใครที่จะมีปัญหากับทรัพย์สินนับล้าน ดังนั้น ในใจของซูโสว่เต้านอกเหนือจากประหลาดใจแล้ว ยังมีความตื่นเต้นอย่างหนึ่งที่ควบคุมไม่ได้
แต่ทว่า ด้านหนึ่งเป็นความโศกเศร้ากับความเป็นห่วงของลูกสาวแท้ๆที่เป็นหรือตายก็ไม่รู้ อีกด้านหนึ่งก็เป็นความตื่นเต้นกับความดีใจที่กำลังเจอจุดเปลี่ยนให้ชีวิตดีขึ้น อารมณ์หลายอย่างที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงปะปนอยู่ด้วยกัน ทำให้ซูโสว่เต้าอดไม่ได้ที่จะละอายใจเล็กน้อย
เหตุผลที่รู้สึกละอายใจ ก็เป็นเพราะว่า เขาค้นพบว่า ตัวเองอยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่สามารถที่จะหยุดความรู้สึกตื่นเต้นในส่วนลึกของหัวใจได้
สิ่งนี้ทำให้เขาเข้าใจความจริงอย่างถี่ถ้วน
ทำไมจึงมีการต่อสู้หลายครั้งเพื่อชิงบัลลังก์และอำนาจระหว่างศึกสายเลือดในสมัยโบราณเกิดขึ้น?
พี่ชายฆ่าน้องชายน้องชายฆ่าพี่ชายพ่อฆ่าลูกชายลูกชายฆ่าพ่อ และอื่นๆก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในประวัติศาสตร์
เหตุผล ก็คือเพราะประโยชน์ที่วางอยู่ตรงหน้าของพวกเขานั้นยิ่งใหญ่มาก ใหญ่จนพอสามารถที่จะทิ้งสายเดียวกันและครอบครัวไว้ข้างหลัง
เสียสละญาติพี่น้องของตัวเอง ถ้าหากทำเพียงแลกกับหนึ่งร้อยหยวน มีคนไม่มากนักในโลกใบนี้ที่จะเห็นด้วย
แต่ว่า เสียสละญาติพี่น้องของตัวเอง ถ้าหากสามารถที่จะแลกได้หนึ่งหมื่นล้าน ถึงขนาดหนึ่งหมื่นล้านล่ะ?
เกรงว่า ผู้คนมากมายก็จะถูกผลประโยชน์มหาศาลนี้ทำให้เสียสติอย่างสมบูรณ์
ซูโสว่เต้าก็เป็นคนธรรมดา ก็มีอารมณ์ความรู้สึกความปรารถนาแบบปุถุชนทั่วไป
หลังจากที่ถูกส่งตัวมาที่ออสเตรเลีย เขาจะสัมผัสถึงความรู้สึกที่สูญเสียอำนาจทั้งหมด และความรู้สึกสูญเสียนี้ทำให้เขาลืมไม่ลง
ตอนนี้ ในที่สุดก็เห็นโอกาสพลิกกลับมามีชัย ส่วนลึกในหัวใจของเขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร
ดังนั้น เขาจึงโทรหาซูจือเฟย บอกสถานการณ์กับเขาอย่างง่ายดาย ต่อจากนั้นก็กำชับเขาว่า: “จือเฟย พ่อว่าครั้งนี้ปู่ของแกตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเองแล้วจริงๆ ดังนั้นแกก็อย่าได้ขัดแย้งกับเขามากเกินไป รู้มั้ย?”