“คุณจะเป็นคนที่สุดยอดตลอดไปเพราะคุณเป็นผู้หญิงของผมยังไงล่ะครับ!” โม่ถิงอุ้มโม่จื่อเฉินมาจากอ้อมแขนถังหนิง “คุณนายโม่ครับ คุณควรเปล่งประกายจากที่ที่โดดเด่นกว่านี้นะครับ มันเป็นสิ่งที่คุณคู่ควร”
ถังหนิงหัวเราะพลางมองหน้าทรงเสน่ห์ของชายที่อยู่ข้างกายเธอ “ฉันจะก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับคุณให้ได้ค่ะ!” เธอพยักหน้า
ถังหนิงกำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ไม่ได้หมายความว่าทั้งคู่จะแยกจากกันตลอดเวลา เพราะช่วงปีนี้โม่ถิงคงแทบจะใช้เวลากว่าครึ่งอยู่ในอังกฤษ
ส่วนลูกชายทั้งสองคน พวกเขาจะอยู่ในความดูแลของตระกูลถัง ถังหนิงเชื่อว่าซย่าอวี้หลิงและคนอื่นๆ ในบ้านจะอบรมสั่งสอนพวกเขาได้เป็นอย่างดี
เวลาสามเดือนผ่านไปนับตั้งแต่เหยียนเอ๋อร์เกิดมา ตอนนี้เธอสุขภาพดีขึ้นมากกว่าแต่ก่อน ความจริงแล้วแก้มยุ้ยๆ ของเธอทำให้ดูแทบไม่ออกว่าเธอเป็นเด็กที่คลอดก่อนกำหนด
กระทั่งถึงวันที่ถังหนิงจะไปอังกฤษ เธอไม่ได้บอกใครแม้แต่หลงเจี่ยและหลินเฉี่ยน
โม่ถิงพยายามทำตัวให้แนบเนียนไปกับผู้คนขณะที่เขาออกเดินทางไปพร้อมกับแม่ลูก หลังจากมาถึงสนามบิน พวกเขาเห็นถังหนิงตัวปลอมปรากฏตัวอยู่บนจอโทรทัศน์ขณะที่นั่งรอที่ห้องรับรองแขกพิเศษ ตอนนี้เธอกำลังเข้าร่วมงานเลี้ยงของบริษัทอุปกรณ์ไฟฟ้ายี่ห้อหนึ่ง
เธอดูคล้ายคลึงกับถังหนิงกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์เมื่ออยู่บนหน้าจอใหญ่ สวมชุดกระโปรงยาวสีแดง รูปร่างค่อนข้างดีและยังสาวยังสวย ด้วยความเป็นศิลปินเธอจึงมองไปทางสื่อก่อนทักทายพวกเขา
นักข่าวชอบทำข่าวเกี่ยวกับเธอเพราะเป็นคนที่ตกเป็นประเด็นบ่อยครั้ง หากแต่เธอเองก็ให้ความร่วมมือกับสื่อ
ส่วนใหญ่ดาราหน้าใหม่ทุกคนในวงการล้วนแล้วแต่ไขว่คว้าหาโอกาสให้ได้รับความสนใจทั้งนั้น โดยเฉพาะการสานสัมพันธ์กับสื่อมวลชนเอาไว้ ผิดกับถังหนิงซึ่งลั่นออกมาว่าเธอไม่ชอบพวกเขา
หลังจากเห็นเช่นนั้น ถังหนิงก็รู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย ตั้งแต่เป็นนางแบบจนกระทั่งผันตัวมาเป็นคุณแม่ลูกสาม คนรักและครอบครัวของเธอคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เธอได้รับจากวงการบันเทิงนี้
โม่ถิงอุ้มเหยียนเอ๋อร์ไว้ขณะที่เขากุมมือถังหนิง “อย่าใส่ใจกับเรื่องอย่างนี้เลยครับ สนใจกับการไปเรียนต่อดีกว่านะ”
หากโม่ถิงต้องการจะสนับสนุนใครสักคน ไม่มีทางที่จะทำให้กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งไม่ได้ ยิ่งเมื่อถังหนิงไม่ใช่วัยรุ่นที่ใสซื่อไร้เดียงสาด้วยแล้ว
ในขณะเดียวกันคนอื่นๆ ในห้องรับรองแขกพิเศษต่างพากันพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องในอดีต เมื่อพวกเขาเห็น ถังหนิง ร่างสำเนา พวกเขาก็อดจะพูดขึ้นมาไม่ได้ “ยัยตัวปลอมนี่เที่ยวปรากฏตัวไปทั่วแต่ของจริงก็ยังไม่ทำอะไรสักอย่างเพื่อหยุดเธอ ดูเหมือนว่าถังหนิงจะออกจากวงการไปจริงๆ ซะแล้วล่ะ”
“สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว อย่างน้อยเธอก็มีชื่อเสียงมานานหลายปี น่าเสียดายที่เธอไม่ได้อยู่ไปจนตลอดรอดฝั่ง”
“คุณคิดว่าเธอจะกลับเข้าวงการอีกไหม”
“กว่าเธอจะกลับมา ในวงการก็คงมีถังหนิงเพิ่มขึ้นอีกหลายคนแล้วล่ะ อีกอย่างเธอก็แก่และมีลูกสามคนแล้วด้วย ต่อให้เธอพยายามจะขายตัวเองอีกก็คงได้แค่บทแม่เท่านั้นแหละ เรื่องจริงของวงการก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้วนี่”
“ก็จริงนะ”
ถังหนิงกำลังนั่งอยู่ด้านหลังหญิงสาวสองคนนั้น ต่อให้จะได้ยินคำพูดเหล่านั้นแต่เธอก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อทั้งสองหันมาเห็นหน้าถังหนิง ก็ถึงกับเหงื่อแตกพลั่ก
“ให้ตายสิ ฉันคงออกจากบ้านโดยที่ไม่ได้ดูดวงมาแน่ๆ ”
“ไปกันเถอะ เราไปนั่งที่อื่นกันดีกว่า”
หญิงสาวทั้งสองรู้สึกอับอายเล็กน้อยขณะที่ลุกไปนั่งที่อื่นพร้อมแสร้งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หากแต่ไม่ว่าคำพูดของพวกเธอจะรุนแรงเพียงไหน พวกเธอก็เพียงแค่พูดเรื่องจริงออกมาเท่านั้น
ดูจากสีหน้าของโม่ถิง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ปล่อยให้หญิงสาวสองคนนั้นรอดตัวไป ถังหนิงจึงคว้าแขนเขาไว้ “ไม่ต้องไปห้ามพวกเธอหรอกค่ะ ปล่อยไปเถอะ เราเองก็ควรไปแล้วเหมือนกันนะคะ เครื่องบินกำลังจะออกแล้วด้วย”
จากนั้นทั้งคู่จึงจากไปพร้อมกับลูกสาวของตัวเอง อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ถูกนำมารายงานบนหน้าข่าวซุบซิบ
‘ชื่อเสียงดับ! อดีตนายใหญ่แห่งจู้ซิงมีเดีย ถังหนิง ถูกพบว่าเดินทางออกจากปักกิ่งไปอย่างน่าหดหู่’
‘ถังหนิงที่พังชีวิตคนอื่นตอนนี้กลับมาดับวูบเองเสียแล้ว!’
เป็นครั้งล่าสุดที่ถังหนิงปรากฏตัวบนสื่อหลังจากถอนตัวจากวงการ ถึงแม้เธอจะถูกพวกเขาจับได้และมีโม่ถิงหนุนหลังอยู่ก็ตาม
ในตอนนี้เองที่หลงเจี่ยและหลินเฉี่ยนรู้ว่าถังหนิงเดินทางจากไปเสียแล้ว
“เธอไม่แม้แต่จะบอกให้คนไปส่งเธอด้วยซ้ำ มิน่าล่ะสื่อถึงเขียนข่าวอย่างนี้ออกมา” หลงเจี่ยไม่พอใจกับสิ่งที่ได้เห็นนัก “สุดท้ายข่าวทรามๆ พวกนี้จะต้องถูกถังหนิงตบหน้ากลับแน่ ส่วนเรื่องถังหนิงตัวปลอมมันก็ทำให้ฉันหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นหน้าเธอเลย…”
“ตอนนี้หน้าที่ของคุณคือการทำให้จู้ซิงมีเดียไปต่อให้ได้นะคะ อย่าปล่อยให้คนคิดว่าเราไม่มีน้ำยาพอไม่มีพี่หนิงอยู่ด้วยสิคะ” หลินเฉี่ยนเอ่ยปลอบ “เธอทุ่มเทจิตวิญญาณให้กับสังกัดนี้ เราต้องสานต่อมันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนะคะ…”
“ฉันรู้น่า ตอนนี้ฉันอยากจะล้มยัยถังหนิงตัวปลอมซะ”
“เดี๋ยวโอกาสจะต้องมาถึงมือคุณแน่ค่ะ!” หลินเฉี่ยนเอ่ยอย่างมีความหมายแฝง เพราะเธอเชื่อในตัวถังหนิง
…
ไม่นานหันซิวเช่อก็ได้ยินข่าวว่าถังหนิงจากไปแล้ว
ผู้จัดการของเขาได้ข่าวมาว่าเธอกำลังไปเรียนต่อต่างประเทศเช่นกัน
“ฉันว่าโอกาสของฉันมาถึงแล้วล่ะ ไห่รุ่ยเป็นบริษัทใหญ่โต โม่ถิงคงไม่มีทางอยู่ที่ต่างประเทศกับถังหนิงได้ตลอดเวลา ถ้าไม่ลงมือตอนนี้เมื่อไหร่จะมีโอกาสอย่างนี้อีกกันล่ะ”
“คุณจะบ้าหรือยังไง คุณจะไปต่างประเทศเหมือนกันเหรอ แล้วกำหนดการส่งงานของคุณล่ะคะ”
“ฉันจะส่งงานให้เธออย่างตรงเวลาเลยล่ะ ฉันจะอยู่ที่ไหนมันก็ไม่ได้เกี่ยวกันสักหน่อย” หันซิวเช่อตอบ “ช่วยฉันหาว่าถังหนิงเรียนอยู่ที่ไหนและจัดการเรื่องการเดินทางให้ที”
หลังจากผู้จัดการได้ยินดังนั้นเธอก็กลอกตามอง “ก็ได้ ฉันจะไม่ห้ามคุณแล้วกัน ยังไงฉันก็เป็นผู้จัดการของคุณนี่ แต่จะขอเตือนคุณไว้ก่อนว่าถังหนิงไม่ได้ดังอีกต่อไปแล้ว ถ้าคุณเข้าไปใกล้ชิดกับเธออาจจะติดร่างแหไปด้วยก็ได้นะคะ”
“เธอคิดว่าคนที่มีความสามารถอย่างถังหนิงจะปล่อยให้ตัวเองถูกลืมได้เหรอ เธอไปเรียนต่อต่างประเทศ แสดงว่าเธอวางแผนจะกลับมาด้วยวิธีอื่นแล้ว ถ้าไม่เชื่อก็คอยดูสิ”
“ชิ!”
ผู้จัดการสาวพูดอะไรไม่ออกพลางมองค้อนก่อนออกจากห้องพักไป หันซิวเช่อปิดหน้าจอแท็บเล็ตวาดรูปของตัวเองก่อนส่งจูบกลางอากาศ “ถังหนิงที่งดงาม ผมกำลังไปหานะครับ”
…
คู่รักเดินทางมาถึงอังกฤษหลังผ่านไปมากกว่าสิบชั่วโมง โชคดีที่เหยียนเอ๋อร์ไม่ได้มีอาการป่วยแต่อย่างใด เธอยังยิ้มแย้มขณะที่พวกเขามาถึงบ้านที่อยู่เป็นการชั่วคราวหลังใหม่ของเขาอีกด้วย
ถังหนิงถึงกับทึ่งไป “เจ้าตัวน้อยแสนน่ารักของคุณจะต้องโตขึ้นมาเป็นเจ้าหญิงที่มองโลกในแง่บวกแน่ๆ เลยค่ะ”
โม่ถิงลูบไล้นิ้วมือไปตามเรือนผมของถังหนิงเหมือนแรกครั้งที่พวกเขาแต่งงานกัน “ลองดูบ้านหลังใหม่ของคุณสิครับ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันมั่นใจว่ามันคงดูคล้ายกับไฮแอทรีเจนซีมากแน่ๆ ค่ะ”
เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาขณะที่ปล่อยถังหนิงเข้าไปด้านใน มันดูเป็นเหมือนบ้านเดิมอย่างที่เธอคาดไว้จริงๆ ทำให้เหยียนเอ๋อร์อึดอัดน้อยลงและรู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้านแม้ว่าจริงๆ แล้วจะอยู่ห่างจากบ้านก็ตาม
“เดินทางมาทั้งวันแล้ว คุณทำงานให้เสร็จเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปทำอาหาร” ถังหนิงบอกหลังจากกล่อมเหยียนเอ๋อร์เข้านอน “ฉันรู้ว่าไห่รุ่ยมีเรื่องรอให้คุณจัดการอีกเยอะ เดี๋ยวเสร็จแล้วจะไปเรียกที่ห้องทำงานนะคะ”
โม่ถิงยื่นแขนออกมากอดถังหนิงก่อนประทับจูบลงบนริมฝีปากเธออย่างรักใคร่ “คุณนายโม่ครับ ผ่านมาตั้งสามเดือนเชียวนะ… คุณต้องเลี้ยงผมให้ดีด้วยล่ะ!”