Long Live The Hokage Chapter 43 : เป็นหนุ่มอีกครั้ง
หลังจากที่ ฮาชิรามะ จากไป หุบเขาแห่งสายลมก็เงียบสงบลงอีกครั้ง
ตลอดศตวรรษที่ผ่านมา ฮาชิรามะ เป็นนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้น ทําให้ เซนจู ไม่เคยแพ้ในสงครามใด ๆ เลยและตระกูลเซนจู ก็คิดว่าตราบใดที่ผู้นําตระกูลของพวกเขายังอยู่ศัตรูก็จะไม่มีทางเอาชนะพวกเขาได้อย่างแน่นอน
และเมื่อตอนนี้ ฮาชิรามะ ได้กลับไปที่หมู่บ้านแล้วก็ทําให้จิตใจของ กองทัพเซนจู ที่อยู่ที่หุบเขาเหี่ยวแห้งขึ้นมาทัน
เมื่อเห็นดังนั้น โทบิรามะ จึงพูดขึ้นมาว่า “ทุกคนเป็นอะไรไป?! แค่ผู้นําตระกูลไม่อยู่แค่นี้ก็ใจฝ่อแล้วงั้นเหรอ? ผู้นําตระกูลอุจิฮะ ก็ไม่อยู่เช่นกัน แล้วพวกเจ้าจะยอมแพ้ พวกอุจิฮะงั้นเหรอ?!”
เมื่อได้ยิน โทบิรามะ พูดแบบนั้นไฟในใจ กองทัพเซนจูก็ถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง แค่พวกเขานึกถึงอุจิฮะพวกเขาก็เลือดขึ้นหน้าจนแทบทนไม่ไหว!
มาซาฮิโกะ คิดอยู่พักหนึ่ง เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติฮาชิรามะ และ มาดาระ ไม่ได้อยู่ที่นี่หรือว่านี่จะเป็นเหตุการณ์ที่อิซึนะตาย?
อย่างไรก็ตามหลังจากคิดไปคิดมากว่าครึ่งชั่วโมงใบหน้าของมาซาฮิโกะ ก็เปลี่ยนไป เขารู้สึกได้ถึงลางร้ายอะไรบางอย่าง และในขณะเดียวกันเขาก็สามารถตรวจจับจักระของนินจากลุ่มใหญ่ได้จากระยะไกล นั้นต้องเป็น กองทัพอุจิฮะอย่างแน่นอนแต่สิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือกองทัพนั้นนํามาโดยมาดาระ!
“แย่แล้ว! ฮาชิรามะ โดนหลอกสะแล้ว เรื่องแบบนี้ไม่เคยกพูดถึงในการ์ตูนเลยนี่น่า นี่เราเป็นคนเปลี่ยนเนื้อเรื่องเหรอเนี่ย?!เป็นเพราะ ฮาชิรามะ ได้เรียนโหมดเซียนก่อนเวลาอันควรงั้นเหรอ?!”มาซาฮิโกะ มองไปรอบ ๆ และเขาก็รู้ ได้ทันทีว่ากองทัพเซนจูทั้งหมดไม่เพียงพอที่จะหยุดมาดาระ
“เฮ้!” มาซาฮิโกะ หันกลับไปหา นานาโกะและเคนชิโร่ “เปลี่ยนแผน!พวกเธอกลับไปปกป้องยูริโกะซ่ะในการต่อสู้ครั้งนี้ฉันคิดว่าฉันคงจะดูแลพวกเธอไม่ได้”
“อาจารย์” เคนชิโร่ พยายามหาเหตุผลเพื่อให้เขาได้อยู่ที่นี่ต่อแต่ นานาโกะก็รีบลากเขาไปอย่างรวดเร็วเธอรู้ว่าศึกครั้งนี้ไม่ใช่ที่ทดสอบพลังอีกต่อไปเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่นานาโกะได้เห็นใบหน้าที่จริงจังเป็นอย่างมากของมาซาฮิโกะ
“เร็วสิ! รีบกลับไปให้เร็วที่สุด!” น้ําเสียงของมาซาฮิโกะดูเป็นกังวลอย่างมาก
“ท่านปู ทําไมท่านถึงสั่งให้พวกเขากลับไปละครับ?”
มาซาฮิโกะ ยิ้ม “การต่อสู้ครั้งต่อไป..เราจะต้องใช้กําลังทั้งหมดของเราในการต่อสู้ครั้งนี้”
โทบิรามะ ไม่เข้าใจในสิ่งที่มาซาฮิโกะพูดแต่หลังจากนั้นเขาก็ทําตาม
บนเส้นของฟ้าจุดสีดําปรากฏขึ้น 1 จุดแล้วมันก็เพิ่มขึ้นอีกหลายจุดจนลายเป็นเส้นสีดําจากนั้นไม่นานที่ราบกว้างใหญ่ก็กลายเป็นสีดําทึบตลอดทาง
“ทุกคนเข้ามารวมที่ฉัน!” มาซาฮิโกะตะโกนเรียกทุกคนมารวมกัน การต่อสู้ของเขาทําให้นินจาเซนจูเคารพเขาและขณะเดียวกันก็หวาดกลัวเขาด้วยเช่นกัน
ในขณะนั้น มาซาฮิโกะ คิดว่า “ถ้าเป็นมาดาระจริงๆฉันคงจะต้องคลายคาถาแปลงร่างออกแล้วสินะ”
เพื่อรักษาสภาพคนแก่อายุ 48 ปีเอาไว้มาซาฮิโกะจึงต้องใช้คาถาแปลงร่างอยู่ตลอดเวลา
วิชาพื้นฐานของเขาอยู่ที่ LV 10 นั้นทําให้ คาถาแปลงร่างของเขาก็อยู่ที่ LV 10 ด้วยเช่นกัน ทําให้มันไม่ได้ใช้จักระมากนักในการใช้งาน โดยปกติแล้วมันจะไม่สร้างผลข้างเคียงใดๆแต่สําหรับการต่อสู้ครั้งนี้ เขาจําเป็นต้องใช้จักระทุกหยดของเขาในการต่อกรกับ มาดาระ
ในการต่อสู้ที่เหมืองของ ตระกูลซารุโทบิ มาซาฮิโกะไม่ได้คลายคาถาแปลงร่างของเขาออก แม้ว่าเขาจะต้องต่อสู้กับผู้นําตระกูลฮาตาเคะก็ตามแต่คราวนี้คือมาดาระ
โทบิรามะ ไม่ได้ถามอีก เขาแค่มองไปที่ขอบฟ้าแล้วเขาก็เขาเข้าใจสถานการณ์แล้วว่าทําไม มาซาฮิโกะ ถึงส่งลูกศิษย์ของเขากลับไปที่แนวหลัง และทําไมเขาถึงดูจริงจังขนาดนั้น ตอนนี้เขาเข้าใจว่าพวกเขากําลังเจอกับใคร
เขาหันกลับมาที่ มาซาฮิโกะ อย่างรวดเร็ว “ท่านปูผมจะต้าน มาดาระ เอาไว้เอง ส่วนท่านก็พยายามจัดการกับอิซึนะถ้าเราทําได้เราก็อาจจะมีโอกาสชนะ!”
หลังจาก โทบิรามะ พูดประโยคนี้ออกมา เขาก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างของ มาซาฮิโกะ
เมื่อเห็นดังนั้น มาซาฮิโกะ จึงยิ้มแล้วถอดหมวกและเสื้อคลุมออก
“มองอะไรกัน? ท่านประหลาดใจกับใบหน้าหนุ่มหล่อของฉันงั้นเหรอ? ฉันจะจัดการกับมาดาระและแสดงให้ท่านเห็นเองว่าตอนนี้ฉันแข็งแกร่งแค่ไหน”
“ท่านปู..ท่าน” โทบิรามะ พูดไม่ออก เขาเบิกตากว้างและอ้าปากค้างแสดงให้เห็นถึงใบหน้าที่ตกใจอย่างเห็นได้ชัดในขณะนั้น มาซาฮิโกะ คิดว่า โทบิรามะ รู้สึกประหลาดใจกับรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาของเขา
ทันใดนั้น โทบิรามะ ก็หันกลับไปหา กองทัพเซนจูและตะโกนอย่างอึกเหิมว่า “ทุกคนฟังทางนี้! ท่านปูมาซาฮิโกะจะใช้พลังทั้งหมดของเขาเพื่อเผชิญหน้ากับ มาดาระ!เขายินดีเสียสละตัวเองเพื่อเราทุกคน เราแค่ต้องจัดการกับอุจิฮะที่เหลือเท่านั้นแล้วชัยชนะก็จะเป็นของเรา!เตรียมตัวให้พร้อม!”
เมื่อพวกเขาเห็นใบหน้าที่เยาว์วัยของ มาซาฮิโกะพวกเขาก็รู้สึกประทับใจกับการเสียสละของเขาจากนั้นพวกเขาก็ตะโกนออกมาว่า “ทําลายอุจิฮะให้สิ้นซาก!”
“ว้าว นี้ฉันดูหล่อขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย!”มาซาฮิโกะพูดอย่างภูมิใจในตัวเอง
มาดาระ ใกล้เข้ามาแล้ว กองทัพอุจิฮะ อยู่ห่างจากที่ตั้งของเซนจู เพียง 200 เมตรเท่านั้น และในที่สุด กองทัพอุจิฮะก็มาถึงระยะโจมตีของ เซนจู
มาดาระ มองไปรอบๆอย่างรวดเร็วแต่ดูเหมือนเขาจะผิดหวัง “ฮาชิรามะไม่อยู่ที่นี่”มาดาระพูดขณะจ้องไปที่อินะ
มาซาฮิโกะ รู้ดีว่าแม้ว่า มาดาระ จะมีความขุ่นเคืองใจอย่างมากต่อ ฮาชิรามะ แต่ มาดาระก็จะไม่มีวันใช้กลอุบายที่สกปรกแบบนี้เพื่อจะเอาชนะฮาชิรามะเด็ดขาด
“ท่านพี่” อิซึนะ มอง มาดารพ “นี่เป็นโอกาสที่หายาก…”
“ฉันรู้เ” มาดาระ พูดขัดจังหวะ อิซึนะ ขึ้นมาและโดยไม่พูดพรําทําเพลงมาดาระก็ยกมือขึ้นมาประสานอิน
“คาถาไฟ : ลูกบอลเพลิงยักษ์!”
โทบิรามะ เตรียมพร้อมที่จะตอบโต้ แต่ก่อนที่เขาจะประสานอินได้เสร็จ มาซาฮิโกะ ก็ก้าวเข้ามาขวางหน้าเขาแล้วพูดว่า“ดูนี่!คาถาความมืด : โพรงนรกสูบ!” จากนั้นมาซาฮิโกะก็ยื่นแขนออกไปและหันฝ่ามือไปที่ลูกไฟที่กําลังฟูงตรงมาทันใดนั้นสัญลักษณ์รูปร่างคล้ายเพชรก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือของเขาเมื่อลูกไฟพุ่งเข้าปะทะฝ่ามือของเขา มันก็ ถูกดูดเข้าไปในฝ่ามือและหายไปอย่างรวดเร็ว
“มาดาระ! คู่ต่อสู้ของคุณคือฉัน!” มาซาฮิโกะประกาศออกไปในขณะที่เขามองไปที่มาดาระ
“วิชานี้” มาดาระ รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยจากนั้นเขาก็มองไปที่ มาซาฮิโกะ “อุซึมากิงั้นเหรอ?”
อิซึนะ ที่ยืนอยู่ข้าง มาดาระ ก็กระซิบบอกพี่เขาว่า “ชายคนนี้คืออุซึมากิแต่ท่านพี่…ทําไมเราไม่คุ้นหน้าเขาเลยล่ะ?”
มาดาระ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นความทรงจําที่ถูกลืมก็พุ่งเข้ามาในหัวของเขา “แกคือชายชราคนนั้นเมื่อ 40 ปีก่อนนี่เอง!”
มาซาฮิโกะ ยิ้มเยาะ “ฉันไม่คิดว่าคุณจะจําฉันได้นะเนี่ย
มาดาระ
มาดาระ รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก“แก่ขนาดนั้นแล้ว!ยังจะมาอวดดีต่อหน้าฉันอีก!มาเลยฉันจะฆ่าแกเอง!”
เมื่อพูดอย่างนั้น มาดาระ ก็เตรียมที่จะพุ่งเข้าหามาซาฮิโกะแต่ อิซึนะก็หยุดเขาเอาไว้
“ท่านพี่ ดูเหมือนว่าชายแก่คนนั้นจะใช้วิชาแปลงร่างบางอย่าง ท่านคงไม่สามารถล้มเขาได้ง่าย ๆ แน่ อีกอย่างตอนนี้พวกเซนจู ก็ได้เตรียมป้อมปราการของพวกเขาไว้เรีย บร้อยแล้วถ้าท่านถูกลากออกจากพวกเรา คนของเราต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน”
“คนของเราเพิ่งมาถึงที่นี่ พวกเขาต้องการพัก ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในตําแหน่งที่เป็นต่อมากนัก และ ฮาชิรามะก็ยังไม่อยู่ที่นี่อย่างน้อยก็อีก 8 ชั่วโมง
“ท่านพี่ มองภาพรวมสิ!”
อิซึนะ พยายามโน้มน้าว มาดาระ จากนั้น มาดาระก็ตะโกนออกมาว่า “ทุกคนถอยกลับไป 1 กิโลเมตรพวกเราจะพักกันที่นั่น!”
เมื่อเขาเห็น อุจิฮะ ถอยห่างออกไปโทบิรามะก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่เขาก็ยังเป็นห่วงอยู่เขาหันไปหา มาซาฮิโกะ และพูดว่า “ท่านปู ท่านสามารถรักษาสภาพร่างนี้ไว้ได้นานแค่ไหนครับ? ถ้าท่านใช้ร่างนี้ได้แค่แปปเดียวเราคงต้องเริ่มโจมตีพวกเขาก่อน!”
ใบหน้าของ มาซาฮิโกะ เปลี่ยนเป็นสีดําทันทีโทบิรามะกําลังคุยกับเขาราวกับเขากําลังจะตายในเวลาใดก็ได้
มาซาฮิโกะ มองไปที่ โทบิรามะกล่าวว่า “ไม่…เราต้องรอก่อน ทางเลือกที่ดีที่สุดของเราคือรอให้ ฮาชิรามะกลับมาเราต้องถ่วงเวลาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่เราจะทําได้”
โทบิรามะ พยักหน้าอย่างเข้าใจของมาซาฮิโกะ
ทันใดนั้น ลูกศิษย์ทั้ง 3 คนของ มาซาฮิโกะก็รีบวิ่งมาหาเขายูริโกะ ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ําตาตะโกนออกมาว่า “อาจารย์”เด็กหญิงทั้ง 2 คนร้องไห้และเข้ามากอดมาซาฮิโกะ
เมื่อเห็นว่าเธอกําลังจะเริ่มร้องไห้อีกครั้ง มาซาฮิโกะก็รีบปลอบโยนพวกเขาอย่างรวดเร็ว “ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันไม่เป็นไรฉันสบายดี อาจารย์ของพวกเธอยังต้องมีชีวิตอยู่อีก
ยาว ”
แม้ว่า มาซาฮิโกะ จะพยายามที่จะปลอบโยนพวกเขาแต่ลูกศิษย์ทั้ง 3 คนก็ดูเศร้ามาก ในขณะนั้น ยูริโกะก็ไม่สามารถกลั้นน้ําตาให้ไหลรินลงมาบนแก้มของเธอได้อีกต่อไป
มาซาฮิโกะ รู้สึกหมดหนทาง
“เฮ้อ…ฉันจะทํายังไงดีเนี่ย? ทําไมพวกเธอทําอย่างกับว่าฉันกําลังจะตายละเนี่ย ?”