พ่อซูชะงักไปเล็กน้อย หลังจากนั้นสีหน้าเขาก็เคร่งขรึม ” เสี่ยวหย่า ลูกรู้ตัวไหมว่ากำลังพูดอะไรออกมา? ”
” หนูรู้ตัวดีค่ะพ่อ หนูเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่พ่อจะไม่รู้เรื่องที่เสี่ยวหวู่เสียสติ สาเหตุมันคืออะไรกันคะ? ”
พ่อซูเงยหน้าขึ้นมองหน้าซูหย่าทันที ” ลูกไปรู้อะไรมางั้นเหรอ?”
ปฏิกิริยาการตอบสนองของเขาทำให้หัวใจซูหย่าร่วงดิ่งลงพื้นกับการคาดเดาของตัวเอง เธอลุกขึ้นจากโซฟาแล้วตะโกนเสียงต่ำว่า ” พ่อคะ พ่อเห็นหนูทุกข์ทรมานแบบนั้น พ่อทนได้ยังไงกัน? ”
” แล้วจะให้ทำยังไง หรือว่าต้องให้ทุกคนในตระกูลซูลำบากไปกับเขางั้นเหรอ? ” จู่ๆเสียงของพ่อก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน
หัวใจของซูหย่าดิ่งลงพื้นอย่างรุนแรง เธอหันหลังและเดินออกไปทางด้านนอก แต่แขนเธอกลับถูกคว้าเอาไว้ ” ในเมื่อรู้เรื่องแล้ว ทำไมยังจะกลับมาอีก? ”
ซูหย่าถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นก็หันไปมองหน้าผู้เป็นพ่อ ” พ่อคะ พ่อบอกหนูได้ไหมคะว่าทำไม? ทำไมต้องทำกับเสี่ยวหวู่แบบนี้ด้วยคะ? ”
มือที่จับแขนเธอไว้ผ่อนแรงลง ” ก็แค่ความแค้นส่วนตัว เสี่ยวหย่า บอกเสี่ยวหวู่อย่าสืบเรื่องนี้ต่อเลย ครั้งนี้เขาเอาชีวิตรอดกลับมาได้ พ่อคิดว่าคนคนนั้นคงจะไม่เล่นงานเขาอีกแล้วล่ะ ”
ซูหย่าขมวดคิ้ว และมองหน้าผู้เป็นพ่ออย่างไม่อยากจะเชื่อ ” พ่อคะ อะไรคือการมาบอกว่าอย่าสืบเรื่องนี้ต่อกันคะ? เขาเป็นใครกันแน่? ถึงได้ทำให้คนอย่างพ่อต้องกลัวเขามากขนาดนี้? ”
สีหน้าของพ่อซูเคร่งขรึม สายตาของเขาเฉียบคม แต่สุดท้ายกลับไม่ได้พูดอะไรสักคำ
หลังจากที่ซูหย่าออกมาจากห้องหนังสือ เธอก็ตรงไปที่ห้องเสี่ยวอี้ ตอนนี้เสี่ยวอี้หลับไปแล้วและมีแม่นมเฝ้าอยู่ เธอเองก็รู้สึกวางใจ
ทันทีที่เธอกลับถึงห้อง เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมา จากนั้นก็ส่งข้อความหาเล่อจยา
ไม่นานก็มีสายโทรศัพท์เรียกเข้า ” เสี่ยวหย่า? ” น้ำเสียงมีความสั่นเล็กน้อย
ซูหย่าตอบแค่ ” อือ ”
หลังจากนั้น ความเงียบก็เข้าปกคลุม บางทีการที่มีเรื่องจะพูดเยอะเยอะมากมายนั้น มันก็กลับไม่รู้ว่าควรจะเริ่มพูดจากตรงไหน
” พรุ่งนี้ฉันไปหาเธอนะ ”
” อือ ”
” ฝันดีนะ ”
” ฝันดี ”
หลังจากที่วางสาย ซูหย่าก็ลองโทรไปที่เบอร์โทรศัพท์ก่อนหน้านี้ของเซียวอู๋ สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ โทรออกได้ แต่ไม่มีคนรับสาย
เธอส่งข้อความให้เขาสั้นๆ ” พรุ่งนี้เก้าโมงเช้า เจอกันหน้าอำเภอนะ ”
ความอิสระที่เขาต้องการ เธอจะมอบให้เขาเอง
เสียงข้อความ ” ติ้งตึง ”
เปิดออก ” ได้ ” คำเดียวสั้นๆ
คืนนี้ ซูหย่านอนไม่สบายเลย ทั้งๆที่เตียงทั้งใหญ่ ทั้งนุ่ม แต่ เพราะว่าข้างๆมันว่างเกินไป ไม่ว่าจะพยายามนอนเท่าไหร่ก็นอนไม่หลับสักที
ในตอนที่ตื่นมาตอนเช้า แม่ซูกำชับแม่ครัวให้ทำอาหารที่เธอชอบไว้เยอะแยะมากมาย
” แม่คะ เล่มทะเบียนบ้านอยู่ไหนคะ? ”
ช้อนในมือแม่ซูตกลงบนโต๊ะ แม่ซูเงยหน้ามองเธอ ” เสี่ยวหย่า……”
สายตาของซูหย่ามองผ่านพ่อซูไป สุดท้ายก็หยุดมองแม่ซู และยิ้มให้เธอ ” ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวหย่าแล้ว หนูจะหาลูกเขยดีดีให้พวกท่านอีกคนนะคะ ”
พ่อซูไม่ได้พูดอะไร แต่แม่ซูกลับมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก
เสี่ยวอี้……”
” จะอยู่ในความดูแลของหนูค่ะ ” ซูหย่ารู้ความหมายของผู้เป็นแม่จึงตอบออกไปทันที
แม่ซูพยักหน้า
ณ หน้าอำเภอ เซียวอู๋มาในชุดเครื่องแบบทหาร เขาตัดผมสั้นแล้วดูแข็งแกร่งขึ้นมาก
เธอมองเขา ในแววตามีทั้งความรู้สึกเป็นห่วง รัก และอาลัยอาวรณ์……
” ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของเสี่ยวอี้ ผมจะโอนให้คุณอย่างตรงเวลาทุกครั้ง ”
ซูหย่ายิ้มพร้อมกับเดินขึ้นบันไดไปพลาง เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเธอเดินช้าลงสองสามจังหวะ เธออยากปฏิเสธแต่สุดท้ายเธอก็พยักหน้า ” ค่ะ ”
ภาพตอนที่มารับทะเบียนสมรสยังคงวนเวียนอยู่ในความทรงจำเธอ ตอนนั้นเธอคิดว่าทั้งชีวิตนี้เธอจะไม่มีวันหย่ากับเซียวอู๋เด็ดขาด ตอนนั้น เธอดีใจมาก แต่……นี่พึ่งจะผ่านมาไม่นาน
ทหารมีสิทธิพิเศษได้รับการบริการก่อน การรับใบหย่าในครั้งนี้จึงดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ
เธอมองเขาที่เดินออกไปอย่างเฉียบขาด เขาโน้มตัวลงและเข้าไปในรถทหารสีเขียวคันนั้น เธอมองดูรถคันนั้นค่อยๆขับเคลื่อนออกไปจนหายวับไปกับตา เธอกะพริบตาเล็กด้วย ในแววตาเธอเต็มไปด้วยความเป็นห่วง คิดถึง และความรัก
เซียวอู๋ ฉันจะรอคุณอยู่ตรงนี้นะ
ในตอนที่เล่อจยามาถึง เสี่ยวหย่ายังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ในมือเธอถือใบหย่าไว้
เล่อจยาวิ่งเข้ามากอดเธอ ท้องน้อยๆที่บวมออกมาคั้นกลางระหว่างทั้งสองคนไว้
ซูหย่าก้มหน้าลง และลูบไปที่ท้องเธอ จากนั้นก็เงยหน้ามองเล่อจยา ” เธอกลับมาอ้วนอีกแล้วนะ ”
เล่อจยายกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าที่ผอมบางอย่างเห็นได้ชัดของซูหย่า ” ขอโทษด้วยนะ ที่ฉันไม่ได้อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเธอ ”
ทั้งสองกอดกันแล้วร้องไห้
ในชั่วพริบตา วันเวลาก็ได้ผ่านไปแล้วครึ่งปี เสี่ยวอี้เดินได้แล้ว พูดคำว่าพ่อได้ แต่กลับพูดคำว่าแม่ไม่ได้ พอคิดถึงชายคนนั้นที่ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลยตั้งแต่วันที่หย่ากันไป นอกจากเงินจำนวนมากที่เขาโอนเข้าบัญชีเธอตรงตามเวลาแล้ว ก็ไม่มีการโทรศัพท์มา ไม่มีข้อความ ไม่มีการติดต่อใดใดกลับมา แววตาของซูหย่าในตอนนี้ลึกล้ำซับซ้อนมาก
ชีวิตหวนคืนเหมือนตอนเป็นโสดอีกครั้ง คุณน้าเป็นคนดูแลเสี่ยวอี้ ทันทีที่ซูหย่ากลับมาบ้านเธอก็ไม่ได้สนใจเสี่ยวอี้เท่าไหร่ ถ้าพูดให้ถูกก็คือเธอกำลังหลีกเลี่ยง หลีกเลี่ยงใบหน้าน้อยๆนั้นที่เหมือนกับหน้าของเซียวอู๋ หลีกเลี่ยงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขา
เธอเริ่มทำงานเต็มตัวแล้ว เธอทำโอทีตั้งแต่เช้ายันค่ำ ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าการทำโอทีนั้นลำบากมาก แต่พอผ่านประสบการณ์ช่วงนั้นมาได้ ในตอนนี้ เธอรู้สึกเพียงแค่การทำโอทีแค่นี้ไม่ได้เรียกว่าลำบากเลย
แน่นอนว่าคนทุกคนต้องลองเจอกับตัวเอง ผู้ที่ไม่เคยประสบความทุกข์ยากก็คงไม่รู้จักการรักษาความดีงามที่อยู่ตรงหน้า
ทุกคนต่างคิดว่า เธอปล่อยวางเรื่องเซียวอู๋ได้แล้ว
มีเพียงเล่อจยาที่รู้ว่าเธอเก็บเซียวอู๋ไว้ในใจเสมอมา
” ได้รับการขึ้นตำแหน่งติดต่อกันสองขั้น ตอนนี้เขาเป็นเจ้าหน้าที่ที่อายุน้อยที่สุดในปัจจุบัน ”
” ไปที่ชายแดนเพื่อปฏิบัติภารกิจที่อันตรายมาก ” มือที่ถือซ้อนอยู่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด
“แต่เขากลับมาแล้วและไม่ได้รับบาดเจ็บใดใด อีกทั้งยังได้เลื่อนยศ อำนาจเหลือล้น ” ยกยิ้มมุมปาก
“ได้ยินมาว่ามีการรายงานถึงคนใหญ่คนโต ทำให้ผู้คนต่างก็ตื่นตกใจ……” จุกที่อก น้ำตาล่วงตกลงไปในแก้ว รวมตัวกันเป็นระลอกคลื่น
……
เมื่อเห็นว่าเธอกลับสู่สภาวะปกติแล้ว แม่ซูก็กระตือรือร้นในการจัดการเรื่องนัดดูตัวให้เธอเป็นอย่างมาก อย่างไรเสียเธอก็อายุสามสิบแล้ว หย่าแล้ว อีกทั้งยังมีลูกติดอีกหนึ่งคน…..
ผู้ชายทุกประเภท ทั้งไฮโซ ข้าราชการ ทหาร……ตามกันมาติดๆ
ตระกูลซูช่างเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงเลื่องลือจริงๆ ดังนั้นจึงไม่มีใครสนใจว่าเธอจะเคยแต่งงานหรือผ่านการมีลูกมา
เธอเองก็ไม่เคยปฏิเสธที่จะนัดเจอกัน นัดกินข้าวกัน แต่ทุกครั้งเธอก็แค่ไปเจอและไปกินข้าวให้เป็นพิธี เธอเอาแต่เงียบไม่ยอมพูดไม่ยอมจาเลย
หลังจากนั้น ก็มีคนลือกันว่าเธอมีปัญหาทางประสาท
หนึ่งคนสู่สิบคน สิบคนสู่ร้อยคน ยิ่งเล่าต่อๆกันผู้คนก็รู้มากขึ้น คนที่ประสงค์จะนัดดูตัวก็น้อยลงเรื่อยๆ
แม่ซูรู้สึกร้อนใจ ไม่ว่ายังไงก็จะพาตัวเธอไปที่แผนกประสาทให้ได้
เมื่อมองไปที่คุณหมอรูปหล่อตรงหน้า ซูหย่าก็ยิ้มสดใสมาก สายตาของเธอสะดุดมองไปที่ป้ายตรงหน้าอกของเขา ” ไป๋เสี่ยงเหิง ”
ผู้เป็นแม่ไม่เข้าใจ แต่พอเห็นเธอมองหน้าหมอคนนั้นอย่างใจลอยก็คิดว่าเธอสนใจในตัวชายคนนั้น แม่ซูดีใจมากก็เลยหาเหตุผลในการขอตัวออกมาจากที่นั่นก่อน
ชั้นล่างของโรงพยาบาล
” อย่าบอกนะว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ ” เธอเปิดประเด็นอย่างตรงไปตรงมา