ตอนที่ 540 อย่าลำเอียง
คนอย่างถังโจวโจว กลัวว่าถ้าเป็นปกติคงจะใส่น้ำส้มสายชูมากกว่าเดิมสองเท่าแน่ๆ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ถูกปากเธอ
“อืม เป็นวิธีที่ดี แม่ครับ พอถึงเวลาผมจะบอกกับป้าหลิวให้เธอเอาอาหารที่โจวโจวอยากกินในช่วงนี้ทำมาสักส่วนนึงแล้วกัน” ลั่วเซ่าเชินเกลียดตัวเองที่ทำไมไม่คิดวิธีนี้ให้ได้เร็วกว่านี้
“ไม่เป็นไร สองสามวันก็คงบำรุงกลับมาได้แล้วล่ะ” คุณแม่ถังเห็นใบหน้าเล็กๆ ของถังโจวโจวซูบผอมไปเล็กน้อย แต่ขอแค่ผ่านช่วงนี้ไปได้ ถังโจวโจวก็จะมีน้ำมีนวลขึ้นเอง
“มาม่ะ” เสี่ยวอวี่ดึงถังโจวโจว อยากให้เธออุ้ม
“เสี่ยวอวี่เด็กดี ตอนนี้ร่างกายแม่ไม่ค่อยสบาย อุ้มลูกไม่ได้ ให้พ่ออุ้มได้ไหม”
“มาเร็ว เดี๋ยวพ่ออุ้ม” ลั่วเซ่าเชินจะปล่อยให้ถังโจวโจวอุ้มเสี่ยวอวี่ได้ยังไง ถ้ากระทบกระเทือนกับลูกในท้องขึ้นมาก็คงไม่ดีแน่
“ไม่เอา จะเอามาม่ะ” เสี่ยวอวี่แค่คิดอยากให้แม่อุ้ม ตอนเล่นกับพ่อก็สนุกดี เพียงแต่เวลานี้เขาไม่ต้องการลั่วเซ่าเชิน
ถังโจวโจวนั่งลง ดึงเสี่ยวอวี่ให้นั่งข้างๆ ค่อยๆ พูดเหตุผลกับเขา “เสี่ยวอวี่ ตอนนี้ในท้องแม่กำลังมีน้องชายของลูกอยู่ อุ้มลูกไม่ได้จริงๆ รอให้น้องชายคลอดออกมาก่อน ค่อยอุ้มได้ไหมคะ”
“น้องอยู่ที่ไหน” เสี่ยวอวี่คอยมองหา ก็ไม่เห็นน้องชายจึงคิดว่าถังโจวโจวหลอกเขา
ถังโจวโจวจับมือเล็กๆ ของเขาไว้ ให้เขาลูบที่หน้าท้องของเธอ “น้องชายอยู่ข้างในนี้ เขาอยู่ในท้องของแม่ รออีกไม่กี่เดือนก็จะได้เจอแล้ว เมื่อก่อนเสี่ยวอวี่ก็เป็นแบบนี้”
“ผมก็ด้วยเหรอ แต่ทำไมผมไม่รู้ล่ะ”
สีหน้างุนงงนั้นช่างน่ารักจริงๆ ถังโจวโจวเกือบจะหัวเราะออกมาแล้ว “เด็กโง่ ตอนนั้นลูกอยู่ในท้องแม่ ลูกจะรู้ได้ยังไง ตอนนี้ลูกจำได้รึเปล่าว่าตอนลูกหนึ่งขวบลูกทำอะไรบ้าง”
“วันเกิดเหรอ” ในสมองเสี่ยวอวี่เต็มไปด้วยความสงสัย ถังโจวโจวจึงรีบอธิบายเขา “ลูกดูสิแม้แต่วันเกิดลูกลูกยังไม่รู้ จะจำเรื่องตอนอยู่ในท้องแม่ได้ยังไง เดี๋ยวรอให้ลูกโตอีกหน่อยลูกก็จะจำเรื่องตอนเด็กของลูกได้”
ที่จริงแล้วนี่ก็เป็นแค่คำโกหกเสี่ยวอวี่ อย่างไรก็ตามถังโจวโจวก็จำได้แค่เรื่องตอนหลังจากห้าขวบมาของตัวเองเท่านั้น สำหรับเรื่องราวก่อนห้าขวบเธอเองก็จำไม่ได้
เสี่ยวอวี่ดูเหมือนจะเข้าใจ “แม่ครับ ถ้าน้องชายไม่ออกมา แม่ก็จะอุ้มผมไม่ได้ใช่ไหม”
“ใช่ เป็นแบบนั้นแหละ เสี่ยวอวี่ฉลาดจริงๆ” เมื่อเสี่ยวอวี่พูดแบบนี้ออกมา เสี่ยวอวี่ก็เหมือนจะร้องไห้
“แม่ครับ ไม่เอาน้องชายได้ไหม ผมอยากให้แม่อุ้ม” มีน้องชายแล้ว เขาก็แย่งแม่ของไป เขาไม่ยอม
“เอ่อ ไม่ได้ลูก เสี่ยวอวี่ฟังนะ อีกไม่กี่เดือนแม่ก็อุ้มลูกได้แล้ว พอน้องชายคลอดก็จะมีคนเล่นเป็นเพื่อนลูกแล้ว” ถังโจวโจวทำได้แค่ปลอบใจเขา
“เอาล่ะ เสี่ยวอวี่ของพวกเราเป็นเด็กเก่ง จะต้องรักและปกป้องดูแลน้องชายอย่างดี แม่อุ้มไม่ได้แต่ยายอุ้มแทนก็เหมือนกันนั่นแหละ” คุณแม่ถังพูดหยอกล้อกับเสี่ยวอวี่ พาเขาไปเล่นครู่หนึ่ง เสี่ยวอวี่ก็ลืมเรื่องที่ถังโจวโจวอุ้มเขาไม่ได้ไปทันที
“เด็กๆ นี่เปลี่ยนอารมณ์ไวเสียจริง” ถังโจวโจวมองเสี่ยวอวี่ที่เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้ไม่พอใจแต่มาตอนนี้กลับอารมณ์ดีขึ้นแล้ว
“ถ้าเขาหลอกยากสิลูกถึงควรกังวล” คำที่ถังโจวโจวเอ่ยนั้นเหมือนจะติว่าเสี่ยวอวี่วุ่นวายอย่างนั้น คุณแม่ถังจึงตอบเธอทันที
“เอาล่ะ แม่คะ เมื่อกี้หนูพูดผิดไปเองแหละ แบบนี้ได้ไหม หนูไม่ได้ตำหนิเสี่ยวอวี่เสียหน่อย แม่นี่อ่อนไหวจัง”
“เมื่อกี้ลูกคิดอย่างนั้นแท้ๆ โจวโจว ลูกอย่าคิดว่าตอนนี้ท้องลูกอีกคนแล้วจะละเลยเสี่ยวอวี่ได้นะ ต้องรู้ว่าตอนนี้เขากำลังเรียนรู้เรื่องต่างๆ ถ้าเขาเข้าใจผิดขึ้นมา พอถึงเวลาลูกลำบากแน่”
เด็กเล็กต้องให้เขารู้ บางเรื่องควรปิดบังก็ปิด บางเรื่องควรพูดก็ต้องพูดเพื่อให้เขารู้ว่าที่จริงแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“รู้แล้วค่ะ แม่คะ วางใจเถอะ หนูเข้าใจแล้ว จะไม่ให้เขาเข้าใจผิดว่าพวกเราไม่สนใจเขา”
ตอนที่ 541 ต้องช่วยเธอออกมา
แม่กังวลเรื่องนี้มากเกินไปแท้ๆ เธอจะละเลยเสี่ยวอวี่ได้ยังไง เขาก็เป็นลูกชายของเธอเหมือนกันนะ ก่อนหน้านี้เธอก็เคยคุยปัญหานี้กับเซ่าเซินมาแล้ว
“ได้ ถ้าลูกเข้าใจ แม่เองก็วางใจ” คุณแม่ถังเองก็ไม่อยากเป็นห่วงอะไรให้มาก ช่วงนี้ที่ต้องเลี้ยงเสี่ยวอวี่ทำให้ได้กลับบ้านน้อย ก็ไม่รู้ว่าพ่อถังโจวโจวอยู่คนเดียวจะเป็นยังไงบ้าง
“แม่คะ ช่วงนี้แม่ได้กลับบ้านไม่บ่อยนัก พ่อคิดถึงแม่ไหมคะ” บางครั้งคุณแม่ถังเลี้ยงเสี่ยวอวี่จนดึก ถังโจวโจวจึงให้คุณแม่ถังนอนที่บ้าน และหลายวันมานี้ก็นอนที่นี่หลายคืนแล้ว
“แน่นอนสิ วันนี้พ่อของลูกยังโทรมาถามว่าแม่จะกลับบ้านไหมเลย” คุณแม่ถังเมื่อคิดถึงว่าวันนี้คุณพ่อถังโทรมาท่าทางโกรธก็นึกขำ เพียงแต่เรื่องนี้เล่าให้ถังโจวโจวฟังไม่ได้ ถึงเวลาไม่ควรทำให้คุณพ่อถังขายหน้า
“ถ้าอย่างนั้นให้เซ่าเซินไปส่งไหมคะ เดี๋ยวหนูดูเสี่ยวอวี่เอง แม่กลับไปอยู่เป็นเพื่อนพ่อเถอะ” พ่อต้องคิดถึงแม่มากแล้วแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่โทรมาถามหรอก
“จะไม่เป็นไรใช่ไหม ตอนนี้ร่างกายลูกยังไม่ค่อยพร้อม กลัวว่าถ้าเลี้ยงเสี่ยวอวี่แล้วจะลำบาก และถ้าเขาดื้อขึ้นมาจะทำยังไง ช่างเถอะ เดี๋ยวแม่ช่วยเลี้ยงเสี่ยวอวี่อีกหน่อยค่อยกลับ”
“แม่คะ ไม่เป็นไรหรอก หนูเองก็ไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้ว เสี่ยวอวี่ก็ยังมีป้าหลิวที่ช่วยเลี้ยง นอกจากนี้เดี๋ยวเซ่าเซินไปส่งแม่แล้วเดี๋ยวเขาก็กลับมา แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”
คุณแม่ถังเห็นว่าถังโจวโจวพูดมีเหตุผลก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเธอก็ตอบตกลง “ได้ ถ้าอย่างนั้นแม่จะกลับไปหาพ่อของลูกก่อน”
ลั่วเซ่าเชินไปส่งคุณแม่ถังและรีบกลับมาทันที เพื่อมาช่วยเลี้ยงเสี่ยวอวี่ เมื่อลั่วอิงใกล้เลิกเรียนแล้ว ลั่วเว่าเซินก็ไปรับเธอกลับมา
“เสี่ยวอวี่ คิดถึงพี่สาวไหม” วันนี้ทั้งวันลั่วอิงคิดถึงแต่น้องชาย และแน่นอนว่าก็คิดถึงน้องสาวในท้องถังโจวโจวด้วย
“พี่สาว” เมื่อเสี่ยวอวี่เห็นลั่วอิงกลับมาบ้านแล้ว แม้แต่แม่เขาก็ไม่ต้องการแล้ว เอาแต่เดินตามหลังลั่วอิง เธอเดินไปไหนเขาก็เดินตามไปด้วย
“ดูเหมือนว่าลั่วอิงจะเป็นพี่สาวที่ดีจริงๆ ช่างเป็นห่วงเสี่ยวอวี่อะไรขนาดนี้” ถังโจวโจวเห็นลั่วอิงที่กำลังป้อนผลไม้เสี่ยวอวี่อยู่ เธอค่อยๆ ให้เขากัดทีละคำทีละคำ บางครั้งเสี่ยวอวี่ไม่ได้กัด ลั่วอิงทำได้แค่ป้อนเขาอีกครั้ง
……
เมิ่งไหวเซินก็ไปเยี่ยมเมิ่งชิงซีที่เรือนจำอีกครั้ง ครั้งนี้เขาไปเพื่อที่จะถามเธอว่าเธอคิดได้รึยัง ที่จริงเมิ่งชิงซีไม่แน่ใจว่าแท้จริงแล้วเธอคิดอะไร เพียงแต่ไม่ว่าเมิ่งไหวเซินต้องการจะทำอะไร เพียงแค่ทำให้เธอออกไปได้ก็พอแล้ว
“พ่อคะ หนูสำนึกผิดแล้วค่ะ ต่อไปหนูจะเชื้อฟังพ่อค่ะ ขอแค่พ่อทำให้หนูออกไปได้ก็พอ” เมิ่งชิงซีแสดงท่าทีร้องห่มร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดชวนเห็นใจ
“ได้ ลูกพูดอย่างนี้พ่อก็เข้าใจแล้ว ลูกรออีกหน่อย พ่อจะต้องคิดหาวิธีได้แน่”
เมิ่งชิงซีทำได้แค่ทำให้เมิ่งไหวเซินเข้าใจว่าเธอรู้สึกผิดแล้ว แต่ในใจเธอกลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย ถ้าเมิ่งไหวเซินมีใจอย่างนี้ตั้งแต่แรก พาเธอออกไปเร็วกว่านี้ เธอจะต้องทนทุกข์ลำบากอยู่นานอย่างนี้ได้ยังไง
ไม่รู้ว่าเมิ่งไหวเซินรู้รึเปล่าว่าลูกสาวของตัวเองไม่เพียงแต่ไม่กตัญญู ซ้ำยังเกลียดเขามาก สำนึกผิดรึเปล่าพอถึงเวลาที่พาเธอออกไปได้ก็จะได้รู้กัน แต่ทั้งหมดนี้ยังเป็นเรื่องในอนาคต ความคิดตอนนี้ทั้งหมดของเมิ่งไหวเซินคือทำให้ลูกสาวของตัวเองได้ออกมาก่อน
“พ่อคะ พ่อต้องรีบหน่อย หนูทนที่จะอยู่ที่นี่ไม่ไหวแล้ว”
“รู้แล้ว พ่อคิดหาวิธีอยู่” ความรีบร้อนของเมิ่งชิงซีเองก็ไม่สามารถทำให้เมิ่งไหวเซินรีบไปมากกว่านี้ได้ ต้องรู้ว่าเพื่อทำให้เมิ่งชิงซีได้ออกมา เขาต้องสูญเสียกำลังคนและกำลังทรัพย์ไปไม่น้อย ก็ต้องดูว่าต่อไปลูกสาวของเขาจะช่วยให้ของพวกนั้นกลับคืนมาได้หรือไม่
ในที่สุดเมิ่งชิงซีและเมิ่งไหวเซินก็ได้เจอหน้ากัน ในใจก็ค่อนข้างตื่นเต้น อย่างน้อยการที่เธอออกมาได้ก็ทำให้มีความหวังเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะเป็นความหวังเพียงเล็กน้อยก็ตาม
พวกแกรออยู่ข้างนอกนั้นไปก่อนเถอะ อีกไม่นานฉันเมิ่งชิงซีจะออกไปทวงคืนของของฉันกลับมา
“คุณบอกว่าอะไรนะ เมิ่งไหวเซินเตรียมที่จะพาเมิ่งชิงซีออกมาเหรอ เขาเชิญทนายแล้วเหรอ”
เมื่อลั่วเซ่าเชินได้ยินข่าวนี้ ในใจก็เคร่งเครียดขึ้นมา