“ไม่มีอะไร”
ณัฐณิชาปากแข็งปฏิเสธ จงใจปิดหน้าหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตัวเองไม่ให้ธราเทพเห็น
นี่เป็นกรุสมบัติเล็กๆ ของเธอ จึงให้ถูกพบเข้าไม่ได้
แต่การกระทำจากจิตใต้สำนึกของณัฐณิชาทำให้ธราเทพหน้างอ แม้แต่ผู้ช่วยนรินทร์ยังรู้สึกว่าอากาศเย็นลงฉับพลัน แต่ณัฐณิชาก็ยังไม่รู้ตัวเลยสักนิด กลับมีความสุขรู้สึกดีขึ้นเพราะคำสั่งซื้อ เห็นธราเทพวางไอแพดลง จึงบอกกับเขาว่า “ธราเทพ ต่อไปตอนเที่ยงคุณไม่ต้องเรียกฉันไปทานข้าวแล้วนะ”
“หืม?”
“ฉันไปทานที่โรงอาหารกับเพื่อนร่วมงานได้”
ยังไงคนในบริษัทก็มีไม่กี่คนที่ถือว่าเธอเป็นนายหญิงตระกูลทวีศักดิ์ทินโชติอยู่แล้ว เธอไปทานข้าวที่โรงอาหารก็คงจะไม่ทำให้เกิดความวุ่นวายอะไรหรอก
แต่ธราเทพกลับตัวแข็งทื่อครู่หนึ่ง มองเธอด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยทันที “คุณหมายความว่ายังไง”
“ก็คือฉันสามารถทานกับคนอื่นได้ไงล่ะ อย่างเช่นวันนี้ตอนเที่ยงคุณทานกับอภัสราภรณ์ คุณวางใจเถอะฉันจะไม่รบกวนพวกคุณ ฉันก็ไม่ใช่คนที่ไร้เหตุผลขนาดนั้น” ณัฐณิชาตบๆ หน้าอกตัวเอง
แม้ก่อนหน้านี้ธราเทพจะเคยบอกให้ตนช่วยสกัดกั้นพวกผู้หญิง แต่……ไม่แน่ว่าผู้ชายก็เป็นแบบนี้หรือเปล่า เห็นได้ชัดว่าชอบอภัสราภรณ์ แต่ปากกลับไม่ยอมรับ
ณัฐณิชารู้สึกภูมิใจในความคิดของตัวเอง
“ณัฐณิชา คุณหึงเหรอ” จู่ๆ ธราเทพก็โน้มตัวเข้าใกล้ สองมือวางบนหน้าต่างข้างตัวณัฐณิชา ดวงตาดำขลับหรี่ลง
เหตุผลเดียวที่เขาคิดได้ ก็คือณัฐณิชาเห็นตนอยู่กับอภัสราภรณ์ก็เลยหึง!
“หึง? ฮ่าฮ่า……คุณคิดมากไปแล้วมั้ง ฉันจะหึงได้ยังไงล่ะ เราไม่ได้มีความสัมพันธ์เป็นคู่รักกันสักหน่อย…..” ณัฐณิชาผลักอกธราเทพ แต่พบว่าตนเองแรงน้อยเกินไปผลักอย่างไรก็ไม่ขยับ แต่อยู่ต่อหน้าผู้ช่วยนรินทร์เขาก็คงไม่กล้าทำอะไรตนหรอกใช่ไหม
คิดอย่างนี้แล้ว ณัฐณิชาก็ยิ่งกล้าขึ้นมาก “ธราเทพ คุณวางใจเถอะ ฉันรู้ว่าระหว่างเราเป็นความสัมพันธ์ทางสัญญา จะไม่มีวันหลงรักคุณแน่”
“เอี๊ยด……”
ผู้ช่วยนรินทร์ที่อยู่ข้างหน้าฟังบทสนทนาข้างหลังจนไม่ทันระวัง รถไม่มั่นคง เกือบขับออกนอกเส้นทาง
ถูกธราเทพตำหนิไปหนึ่งประโยค ผู้ช่วยนรินทร์จึงเริ่มต้นขับรถใหม่
“ณัฐณิชา คุณรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่” หน้าผากธราเทพปรากฏเส้นเลือดเขียวปูดโปน การได้รับการอบรมสั่งสอนทำให้เขาควบคุมตนเองได้ดีเยี่ยมเสมอมา ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าณัฐณิชา มักจะสูญเสียการควบคุมครั้งแล้วครั้งเล่า
อยากทุบหัวเปิดสมองของสาวน้อยคนนี้ออกดูจริงๆ ว่าข้างในทั้งหมดคืออะไร
เศษขยะเหรอ
“ฉันรู้แน่นอนสิ ความหมายของฉันก็คือคุณไม่ต้องใส่ใจความรู้สึกของฉัน……”
“ณัฐณิชา คุณหุบปาก!” เสียงหนักทุ้มต่ำลุ่มลึกทำให้ณัฐณิชารู้สึกหนาวสั่นยะเยือก เมื่อเงยหน้าขึ้นมองธราเทพก็เห็นดวงตาอันมืดอึมครึมจนแทบเหมือนเมฆครึ้มที่กำลังจะกลั่นออกมาเป็นหยดฝนอยู่รอมร่อ ทันใดนั้นณัฐณิชาก็ชะงักนิ่ง ธราเทพที่เป็นแบบนี้ น่ากลัวมาก……ราวกับว่าร่างกายเย็นเยียบไปทั่วทั้งตัว
เธอกลืนน้ำลายดังเอื้อก ลืมเรื่องที่ตัวเองโกรธธราเทพไปแล้ว มองเขาอย่างทึ่มทื่อ
ธราเทพเหมือนจะตระหนักถึงความผิดปกติของตัวเองได้แล้ว จึงคลายเนคไทและเปลี่ยนเรื่อง “ทำงานวันแรกเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ ก็ดี”
คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ณัฐณิชาพลันจิตใจหดหู่ไปครู่หนึ่ง แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เธอสามารถรักษาตัวเองได้ดี ตอนนี้แค่อยากกลับบ้านไปรีบวาดอวาตาร์! เพราะท้ายที่สุดแล้วการสั่งซื้อนี้ก็เป็นตัวเพิ่มความมั่นใจของเธอ