ณัฐณิชามองธราเทพอย่างคับแค้น
ในเมื่อเขารู้ก่อนแล้ว บอกตนก่อนอย่างน้อยเธอก็จะได้มีการเตรียมตัวบ้างไม่ใช่หรือไง
จะได้ไม่ต้องตื่นตกใจขนาดนี้!
“บอกคุณแล้วได้อะไร” ธราเทพไม่สนใจ เขานั่งข้างหลังกำลังจัดการไฟล์ในคอมพิวเตอร์ แม้แต่ศีรษะก็ไม่เงยขึ้นมาเลย
ไม่ให้เกียรติคนอื่นเกินไปแล้ว!
ใจณัฐณิชาเต็มไปด้วยความโกรธจัด พูดตะกุกตะกักอยู่เป็นนานสองนาน สุดท้ายก็หายใจหอบก่อนจะโพล่งออกมาได้หนึ่งประโยค “ธราเทพ ฉันรู้สึกว่าคุณไม่ให้เกียรติฉันเลยสักนิด”
“หืม? ต้องยังไงถึงจะนับว่าให้เกียรติคุณล่ะ” เมื่อครู่ธราเทพกำลังจัดการกับเรื่องของบริษัทข้ามชาติ ตอนนี้เสร็จสิ้นแล้ว ทำการปิดสมุดบันทึกอย่างชำนาญท่วงท่าสง่างาม เช่นนี้ถึงได้เลื่อนสายตาไปหาณัฐณิชา และก็เห็นว่าใบหน้าเธอดูราวกับดอกท้อ ใบหน้าเล็กแดงเรื่อ ดวงตาเปียกชื้นจ้องมองตัวเองเหมือนกับกวางน้อย
เหมือนอยากจะร้องเรียนตน
แน่นอนว่า เขาไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรผิดตรงไหน
“คุณ……อย่างน้อยที่สุดคุณก็รู้ว่าคุณปู่จะมอบหมายสิทธิ์การดูแลตระกูลให้กับฉัน คุณคุยกับฉันระหว่างทางไปบ้านเก่าก็ได้ไม่ใช่เหรอ หรือแม้แต่ถามความเห็นของฉันหน่อยไงใช่ไหม” ณัฐณิชายกเหตุผลมาพูด ถึงเธอจะไม่ใช่ภรรยาที่แท้จริงของธราเทพ และไม่ใช่คนที่เขารัก แต่สิ่งที่เป็นมารยาทพื้นฐานแบบนี้ อย่างไรก็ต้องมี!
“อ้อ งั้นตอนนี้ผมจะถามคุณ คุณอยากได้สิทธิ์ดูแลตระกูลไหม”
“ไม่อยาก……”
“ถ้าอย่างนั้นคุณอยากไปทำงานที่บริษัทของผมไหม”
“อยาก……”
ณัฐณิชาอยู่ภายใต้สายตาของธราเทพ ตอบคำถามเหล่านี้เงียบๆ ธราเทพมุมปากขยับเล็กน้อยจนสังเกตไม่เห็น เสียงทุ้มลึกแสนน่าฟัง “ถ้าอย่างนั้นคุณยังจะวุ่นวายอะไร”
“ฉันไม่ได้วุ่นวายเพราะเรื่องนี้นะ!” ณัฐณิชาตาปะหลับปะเหลือก ผู้ชายคนนี้เป็น CEO ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จจริงเหรอ แน่ใจนะว่าไม่ใช่ผู้ชายตรงๆ ทื่อๆ เข้าใจอะไรยากน่ะ
อย่างน้อยก็ต้องพยายามรับฟังความคิดเห็นของผู้หญิงหน่อยสิ
แต่การแสดงออกของธราเทพที่บอกว่าคุณกำลังสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผลและผมไม่อยากสนใจคุณทำให้ณัฐณิชาโกรธมาก
ช่างเถอะๆ เถียงกับคนโง่ไปก็ป่วยการ
เธอเพียงเอนหลังพิงพนักเงียบๆ ไม่สนใจธราเทพอีกต่อไป ค่อยๆ เพลิดเพลินบนเบาะหนังของรถยนต์ราคาแพงคันนี้ แต่ทางฝ่ายธราเทพกลับไม่คิดอย่างนั้น เขาจ้องใบหน้าด้านข้างของณัฐณิชาครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดริมฝีปากบางออกพูดว่า “ที่จริง ถ้าคุณอยากได้สิทธิ์การดูแลตระกูลก็ทำได้นะ”
“ฉันไม่อยาก!”
ณัฐณิชาตวัดลืมตาขึ้นทันที ใบหน้าเล็กจ้องธราเทพอย่างไม่พอใจ ทำไมทุกครั้งที่ตนกับเขาขัดแย้งกันจะต้องเป็นตนที่ตกเป็นเบี้ยล่างตลอด
ณัฐณิชากัดริมฝีปาก ในที่สุดก็พ่ายแพ้ “ทำไมคุณยอมให้ฉันไปทำงานที่บริษัทล่ะ”
ก่อนหน้านี้เธอก็เคยพูดหลายครั้ง แต่ทุกครั้งล้วนถูกธราเทพปฏิเสธ ในหัวของธราเทพ เหมือนกับว่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้วควรอยู่บ้านเลี้ยงลูกช่วยสามี ดังนั้นครั้งล่าสุดเขาจึงให้บัตรเครดิตกับตน
แล้วทำไมครั้งนี้อยู่ดีๆ ก็ยอมตกลงง่ายๆ
ธราเทพเหลือบมองณัฐณิชาอย่างเย็นชา “ถ้าคุณไม่อยากไป จะปฏิเสธก็ได้”
“คุณนี่! ยังจะพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่อีก!” ณัฐณิชาโมโหจนอมลมพองแก้ม ไม่ได้ตระหนักถึงประกายซับซ้อนที่แวบเข้ามาในดวงตาธราเทพเลยแม้แต่น้อย
เขายังจำสิ่งที่เธอทำตรงหน้าร้านอาหารญี่ปุ่นเมื่อครั้งที่แล้วได้ การปล่อยเธอออกไปข้างนอกแล้วคบหากับผู้ชายคนอื่น ไม่สู้ปล่อยเอาไว้ให้อยู่ในสายตาตัวเองจะปลอดภัยกว่า ดังนั้น……ธราเทพจึงทำได้เพียงเลือกจะปล่อยเธอไว้ในบริษัทของตัวเอง