Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 187 การปะทะบริเวณประตูฝั่งตะวันตก

 

ตอนที่ 187 การปะทะบริเวณประตูฝั่งตะวันตก

 

หลิวเปาเฉินตะคอกถามผ่านอิรเตอร์คอม “รู้รึยังว่าไอ้คนนอกนั้นมันเป็นใคร?”

 

“ต้องเป็นคนชื่อเซียวแน่ครับ”นายตํารวจตอบกลับ “ หมอนั่นมัดผมหางม้าตามที่ผู้หมวดบอกไว้เลย”

 

เขารู้ได้ทันทีว่าชายที่ชื่อเซียวกําลังยิงปืนเพื่อดึงดูดความสนใจอยู่ แต่ก็ต้องยอมตามน้ำไปเพราะเป้าหมายหลักของภารกิจที่ตั้งใจมาจับกุมคือผู้ชายคนนี้

 

“ทีมสาม ทีมสี่ มุ่งหน้าไปยังคนที่ยิงปืนอยู่นอกอพาร์ตเมนต์ซะ เราต้องจับหัวโจกพวกมันให้ได้” หลิวเปาเฉินออกคําสั่งก่อนจะวิ่งไปด้านนอกอพาร์ตเมนต์

 

เมื่อตํารวจบางส่วนพากันเปลี่ยนเป้าหมายไปหาอาเซียว หลีจือและคนอื่นๆ ก็รีบวิ่งออกมากระจายกําลังทันที หมายจะจัดการกับบางส่วนที่เหลือ

 

ณ มุมหนึ่งด้านหลังอพาร์ตเมนต์ อาเซียวใช่มือขวากราดยิงปืนขณะที่มืออีกข้างกดโทรศัพท์หาบุคคลปริษนที่เคยติดต่อกันก่อนหน้านี้

 

“ฮัลโหล?”

 

“ฉันต้องการความช่วยเหลือ ไม่งั้นไม่รอดออกไปแน่” อาเซียวพูดเข้าประเด็น

 

ปลายวายเงียบไปชั่วครู่ก่อนตอบกลับ “เดี๋ยวให้คนติดต่อไป”

 

“โอเค แค่นี้แหละ”

 

ทั้งคู่วางสายก่อนอาเซียวจะเก็บโทรศัพท์และล้วงปืนอีกกระบอกออกมา

 

บริเวณประตูอพาร์ตเมนต์ฝั่งตะวันตก

 

ติงกั๋วเซินปาดเหงื่อที่ไหลเต็มหน้าผากด้วยความประหม่า เขาหันไปถามฉินอวีด้วยความลังเล “เอ่อ.. รองผู้หมวดฉินครับ เราต้องไปช่วยพวกเขาไหม?”

 

“หลิวเป่าเฉินสั่งให้เราประจําอยู่ที่นี่เพื่อคนร้ายผ่านมา ขืนนายวิ่งพรวดพราดไปได้โดนลงโทษวินัยของหาฝ่าฝืนคําสั่งแน่” ฉินอวี่ขมวดคิ้วตอบ “เพราะงั้นเราต้องทําตามที่เขาสั่ง เข้าใจไหม?”

 

“ครับๆ เข้าใจแล้ว” ติงกั๋วเซินพยักหน้า

 

ฟู่เสี่ยวห่าวพูดกระแนะกระแหนกลับเมื่อได้ฟังคํา ถามของเพื่อนร่วมทีม “ทํามาเป็นกล้านะไอ้ไก่อ่อน เชื่อผม เถอะว่าหมอได้นี่รดกางเกงก่อนจะโดนกระสุนยิงซะอีก”

 

“กล้าจะเรียกฉันว่าไก่อ่อนนะพ่อยอดตํารวจ อยากจะเห็นจริงๆ ว่ายอดมนุษย์อย่างนายจะทํายังไงถ้าต้องปะทะกับคนร้าย” ติงกั๋วเซินแซะกลับก่อนหันไปถามฉินอวี่อีกว่า “แต่ไหนรองผู้หมวดบอกว่าพวกมันคงไม่…”

 

ฟู่เสี่ยวห่าวรีบพูดขัด “แกนี่มันปากมากจริงๆ เลย”

 

แต่ก่อนจะต่อปากต่อคํากันไปมากกว่านี้ จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งมาทางทั้งสามคน

 

ฉินอวีชะงักก่อนรีบโบกมือห้าม “เงียบหน่อย”

 

เสียงฝีเท้าหลายคู่หยุดลงตรงมุมตึกฝั่งขวา ฉินอวี่ตั้งสติและโบกมือนําฟู่เสี่ยวห่าวกับติงกั๋วเซินเข้าไปสังเกตการ 

 

บริเวณมุมตึกฝั่งขวา หลี่จือกําลังหยุดพักหายใจหลังจากวิ่งหนีมาด้วยความร้อนรน

 

“หลบ!” ฉินอวี่ตบหัวติงกั๋วเซินและหันไปเอ็ดใส่ฟู่เสี่ยวห่าวว่า “เดี๋ยวพวกมันก็เห็นหรอก!”

 

“แต่โอกาสมาแล้วนะครับ” ฟู่เสี่ยวห่าวผู้เด็ดเดี่ยวพูดอย่างไม่รู้ประสา “หมอนั่นเป็นหนึ่งในคนร้าย เราเข้าไปล้อมมันตอนนี้เลยไม่ดีกว่าเหรอ?”

 

มุมตึกฝั่งขวา

 

หลีจือกระชับปืนในมือพลางหันมองสํารวจตึกข้างๆ ก่อนตัดสินใจรีบเดินออกไป

 

“มันน่าจะระแคะระคายแล้ว” ฉินอวี่กระซิบพูดขณะซ่อนอยู่หลังประตูบานหนึ่ง “ถ้าพวกนายออกไปเมื่อกี้ได้กลายไปศพแน่”

 

บริเวณทางเดิน หลีจือรีบเดินลัดขึ้นไปยังชั้นสอง เขากวาดตามองโดยรอบก่อนเล็งปืนยิ่งไปที่ตัวล็อกของห้องสองศูนย์หนึ่ง

 

“ปังๆๆ!”

 

เสียงปืนสามนัดดังขึ้น

 

ฉินอวี่ตกใจและรีบลุกไปดู “ฉิบหาย มัน เข้าไปข้างในแล้ว”

 

“ หมายความว่าไงครับ?” ฟู่เสี่ยวห่าวไม่เข้าใจ

 

“หมายความว่ามันเข้าไปข้างในห้องแล้วไง” พูดจบฉินอวี่ก็รีบผลุบตัวกลับเข้าไป

 

“แอ๊ด…”

 

หลีจือเปิดประตูเข้าห้องสองศูนย์หนึ่งด้วยความลนลานโดยไม่ลืมสํารวจรอบตัวก่อนว่ามีใครตามมาหรือไม่ ก่อนจะรีบถีบประตูห้องนอนจนเปิดออก

 

ตรงช่องว่างข้างตู้เสื้อผ้า ชายร่างกํายําคนหนึ่งกําลังนั่งแอบอยู่เอ่ยถามด้วยความสั่นกลัวเมื่อเห็นหลีจือ “พะ..พี่ชาย ยะ…อยากได้อะไรบอกมาได้เลยครับ ขออย่ายิ่งผมก็พอ”

 

หลีคือไม่สนใจชายตรงหน้าและวิ่งไปที่หน้าต่าง แต่จู่ๆ ก็มีเสียงพูดดังขึ้นเมื่อเขาเหยียบโดนตุ๊กตายางไฟฟ้าตัวหนึ่ง

 

“ที่รักขา โอ๊ย…อ้า.ใหญ่จังเลยค่ะที่รัก….” ตุ๊กตายางส่งเสียงคร่ำครวญไม่หยุด

 

“เวรเอ๊ย!” หลี่จือตกใจจนหน้าซีดก่อนจะเดินข้ามมันไป

 

ชายร่างกํายําที่นั่งแอบอยู่อาบจนแทบแทรกแผ่นดินหนี

 

“ตุ๊กตาเฮงซวย!” หลีจือสบถและเปิดหน้าต่างก่อนจะกระโดดลงไป

 

“ตุบ!”

 

ทันทีที่ลงถึงพื้น เขาเล็งปืนไปยังประตูฝั่งตะวันตกพร้อมเหนี่ยวไกทันที

 

เมื่อประกายแสงวาบจากปืนเขาก็รีบผละออกจากประตูแหละถอยออกห่าง

 

หลีคือลุกขึ้นยืนและตั้งท่ายิงใส่ประตูฝั่งตะวันตก

 

ฉินอวี่มองหาตําแหน่งของอีกฝ่ายจากอีกมุมหนึ่งก่อนโบกมือสั่งฟู่เสี่ยวห่าวว่า “เสี่ยวห่าว นายออกไปล่อเป้าให้หน่อย”

 

ฟู่เสี่ยวห่าวไม่ลังเล เขากระโจนออกไปตามคําสั่งทันที 

 

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเคลื่อนไหวออกจากอพาร์ตเมนต์ หลีจือจึงเปลี่ยนทิศปืนและเล็งยิงอย่างไม่รีรอ

 

“บัง!”

 

ขณะเดียวกันฉินอวีชิงยิงปืนใส่ขาของหลีจือจนร่วงลงกับพื้นก่อน

 

“มันโดนยิงแล้ว!” ฟู่เสี่ยวห่าวที่กําลังหลบอยู่ข้างกองขยะพร้อมวิ่งต่อ

 

“อย่าเพิ่งขยับ!” ฉินอวี่ตะโกนเตือน “ระวังมันยิงสวน!”

 

ฟู่เสี่ยวเสี่ยวห่าวทําตามคําสั่งอย่างว่าง่ายด้วยการหมอบลงกับที่

 

ฉินอวี่เล็งไปทางหลีจือเตรียมเหนี่ยวไกอีกครั้ง

 

หลีจือที่ทรุดลงกับพื้นพยายามพยุงตัวลุกและยิงสวนกลับ แต่โชคไม่เข้าข้างเมื่อสิ่งที่ยิงออกมามีเพียงความว่างเปล่า

 

ฉินอวี่มองเห็นท่าทีของอีกฝ่ายจึงรีบสั่งฟู่เสี่ยวห่าว “กระสุนมันหมดแล้วบุกเข้าไปได้”

 

นายตํารวจหนุ่มสวมชุดเกราะรีบวิ่งไปหาหลีจืออย่างรวดเร็ว

 

หลีจือนั่งมองฟู่เสี่ยวห่าวพุ่งมาอย่างสิ้นหวังก่อนจะตัดสินใจล้วงมีดออกมา เขาหลับตาเตรียมใช้มีดแทงเข้าที่คอหอยของตัวเอง

 

“เดี๋ยว! แกจะตายไม่ได้นะ!” ฉินอวี่ตะโกนห้าม

 

หลีจือตอบกลับ “ฉันคงเสียดายแย่ถ้าแกไม่ตายตามฉันไปด้วย”

 

“แม่งเอ๊ย!”

 

คมมีดสะท้อนแสงแวววับกําลังจ้วงเข้าใส่คอของผู้ใช้

 

แต่จู่ๆ ชายสี่คนก็ปรากฏตัวออกมาจากตรอกด้ายซ้ายที่อยู่ไกลออกไปราวสิบเมตร

 

ฉินอวี่ตกใจรีบก้มหัวหลบเข้าหลังกําแพง

 

“ปังๆๆ!”

 

กระสุนปืนถูกสาดมาทางฉินอวี่จนกําแพงแตกเป็นรู

 

หลีคือลืมตามองผู้มาเยือนก่อนจะพบว่าเป็นชายสวมหน้ากากตะวันตกสี่คน

 

“รับอาเซียวมาแล้วเหรอ?” หลีจือเอ่ยถามอย่างโล่งใจ 

 

“รอนั่นก่อนอย่าเพิ่งขยับ” ผู้นําชายสวมหน้ากากพูดขึ้นพลางเล็งปืนเดินตรงเข้าไป

 

“บรืน!”

 

ขณะเดียวกันก็มีรถวิบากขับพุ่งออกมาจากตรอกและแล่นมาจอดข้างทาง ชายร่างกํายําสองคนลงจากรถแล้วเดินเข้าไปหามหลีจือ “ไม่ต้องห่วง หมอนั่นเอาตัวรอดได้ เราไปกันก่อนเถอะ”

 

หลีจือมองรถที่จอดอยู่พลางถามขณะถูกหามไป “ออกนอกเลยหรือยังอยู่ข้างใน?”

 

“ยังอยู่ข้างใน” ชายคนหนึ่งตอบกลับ

 

หลีจือหันมามองคนรอบกายด้วยสีหน้าไม่สู้ดี “เดี๋ยวนะไม่พาออกนอกเขตเหรอ? พวกนายเป็นใครกัน?”

 

“อย่าเพิ่งถาม ขึ้นรถก่อน” ชายสวมหน้ากากคนหนึ่งตอบพลางผลักหลีจือขึ้นรถ

 

“เฮ้ย พวกนายมาทําอะไรกันแน่?” หลีจือหน้าถอดสี เขาพยายามดิ้นให้หลุดจากการเกาะกุม

 

“นายต้องไปกับพวกเรา” หลีจ่อสู้แห่งไม่ไหวและถูกลากขึ้นรถในที่สุด

 

บริเวณข้างถนน ฉินอวีไม่ได้ยินบทสนทนาของฝ่ายตรงข้าม เขาโบกมือและหันไปสั่งการว่า “ฉันตามพวกมันไม่ทัน รีบกลับเข้าไปข้างในกันก่อน”

 

เสี่ยวห่าวได้ยินเสียงปืนขณะกําลังทําตามที่ฉินอวี่บอก เช่นเดียวกับติงกั๋วเซินที่วิ่งกลับเข้าอพาร์ตเมนต์ด้วยความสั่นกลัว ฉินอวี่พยายามหาโอกาสไล่ตามและยิงชายร่างกํายําสองคนที่หามหลีจือไปแต่สุดท้ายก็ต้องกลับที่เดิม

 

“พวกมันถอยไปแล้วเหรอครับ?” ฟู่เสี่ยวห่าวถามอย่างเหนื่อยหอบ

 

“ใช่..เราหยุดมันไม่ได้” ฉินอวี่หันมาสั่งการ “นายรีบแจ้งผ่านอินเตอร์คอม…”

 

“ตุบๆๆ”

 

แต่ก่อนจะพูดจบ ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากทางสวนอีกครั้ง ชายร่างใหญ่คนหนึ่งพูดผ่านหูฟังโทรศัพท์ว่า “มันมีกันแค่สามคน จัดการเลย”

 

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9
Status: Ongoing
บทนำ โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย… ‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม! ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้… ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset