บทที่ 046 เล่นจริง
เมื่อ ฉินซู มาถึงร้านกาแฟ ฉู่หยุนซี ก็นั่งรอเธออยู่แล้ว
“ฉันสั่งกาแฟให้คุณแล้ว อยากทานอะไรเพิ่มอีกไหม เมนูอยู่นี่”
ฉู่หยุนซี เปลี่ยนท่าทีก่อนหน้านี้ และส่งเมนูให้ ฉินซู อย่างสุภาพ
ฉินซู ส่ายหัว และปฏิเสธอย่างสุภาพ
หลังจากนั่งลง เธอก็ถอดผ้าปิดปากออก และมองไปที่ฉู่หยุนซี สักพัก ” คุณหนูฉู่ เราเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า”
ฉู่หยุนซีผงะไปครู่หนึ่ง และดึงเมนูกลับมา “ใช่แล้ว ที่ฉันนัดคุณออกมาเจอกัน ก็เพื่อจะขอโทษคุณ”
หล่อนพูดพลาง หยิบโทรศัพท์ออกมา และถามว่า “ถ้าฉันอยากอัดวิดีโอคุณจะว่าอะไรไหม?”
ฉินซู ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าหล่อนต้องการอะไรกันแน่
ฉู่หยุนซี อธิบายว่า: “พี่ชายฉัน ให้ฉันมาขอโทษคุณด้วยตัวเอง ถ้ามีวิดีโอให้เขาดู เขาจะได้เชื่อว่าฉันมาขอโทษคุณแล้ว”
“… ”
ฉินซู พูดไม่ออก แต่ก็รู้สึกแปลกๆ ที่แท้ ฉู่หลินเฉินเป็นคนบอกให้หล่อนมาขอโทษจริงหรือ?
อย่างไรก็ตาม การกระทำของฉู่หยุนซีเธอก็รับไม่ได้
“คุณฉู่ที่จริงฉันไม่สนใจทัศนคติของคุณที่มีต่อฉัน ยังไงความสัมพันธ์ระหว่างพี่ชายของคุณ และฉันก็เป็นเพียงความสัมพันธ์ทางการค้า และเราไม่มีวันเป็นครอบครัวเดียวกันได้ ถ้าการขอโทษของคุณเป็นแค่การแสดง ฉันขอปฏิเสธ”
ฉินซู พูดเสร็จ ก็กำลังจะลุกขึ้น
ฉู่หยุนซีรีบคว้าตัวเธอไว้อย่างรวดเร็ว ต่อต้านความในใจที่กำลังสาปแช่งเธอ แสร้งทำเป็นน่าสงสาร พูดว่า “อย่าเพิ่งไปสิ ฉันอยากจะขอโทษคุณจริง ๆ ที่ฉันต้องบันทึกวิดีโอเป็นคำขอของพี่ชายฉัน เขาบอกว่าต้องมีหลักฐานไปให้เขาดู ไม่อย่างนั้นจะไม่คืนโครงการให้เพื่อนของฉันทำ”
“เพื่อนของฉันบอกว่า ถ้าชวดโครงการในครั้งนี้ พ่อแม่ของเขาจะให้ไปแต่งงานกับชายชราวัยกลางคน”
ถ้าต้องแต่งงานกับผู้ชายแบบนั้น ความสุขทั้งชีวิตของเขาต้องพังพินาศแน่! ”
ฉินซู เงียบ
พ่อแม่แบบนี้ ทำให้เธอนึกถึงโจวซือฉินและจงจื้อหย่วน
ทำให้ฉินซู รู้สึกสงสาร จึงกลับมานั่งที่เก้าอี้เหมือนเดิม
ฉู่หยุนซีรู้สึกดีใจมาก และนั่งลงที่เก้าอี้ จากนั้นหล่อนก็เปิดฟังก์ชันบันทึกวิดีโอในมือถือ
“ฉินซู ฉันต้องขอโทษคุณจากใจจริง ก่อนหน้านี้ฉันทำผิดเอง โปรดยกโทษให้ฉันด้วย”
ขณะที่หล่อนพูด ก็นำกล่องของขวัญวางไว้ตรงหน้าเธออย่างไม่ค่อยเต็มใจ “เพื่อแสดงความจริงใจ นี่คือของขวัญที่ฉันมอบให้คุณโปรดรับไว้ด้วย”
ฉินซูมองไปที่นาฬิกามีค่าในกล่อง และคิดจะปฏิเสธ
แต่ฉู่หยุนซีขยิบตาให้เธอ ด้วยแววตาอ้อนวอน
เธอคิดสักพัก จึงรับนาฬิกาไป
“ดีจริงๆ อย่างนั้นฉันถือว่าคุณยกโทษให้ฉันแล้วนะ”ฉู่หยุนซีพูดยิ้มๆ
ฉินซูพยักหน้า
ฉู่หยุนซี สิ้นสุดการบันทึก จากนั้นก็ส่งวิดีโอให้กับ ฉู่หลินเฉิน
ฉู่หลินเฉินที่เพิ่งคุยกับลูกค้าเสร็จ ก็เปิดวิดีโอที่ ฉู่หยุนซีส่งมาให้
การที่ฉู่หยุนซีไปขอโทษฉินซูอย่างว่าง่าย ทำให้เขาโล่งใจขึ้นมาก
แต่เมื่อเขาเห็น ฉินซู ยอมรับนาฬิการาคาแพงอย่างไม่หยุดคิดสักนิด ฉู่หลินเฉิน ก็นึกถึงเรื่อง 800,000 ขึ้นมา ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกอึดอัดใจขึ้นมา
เว่ยเหอ เดินมาพร้อมกับเอกสาร “ คุณชายฉู่,เสี่ยเจินได้เซ็นสัญญาแล้ว อย่างนั้นคืนนี้เราก็กลับกันเลยไหมครับ? ”
ฉู่หลินเฉิน พยักหน้า
เว่ยเหอก็ไปจัดการทันที
อีกด้านหนึ่ง
เมื่อบันทึกวิดีโอ เสร็จฉินซูก็คืนนาฬิกาให้กับ ฉู่หยุนซี
“ฉันยอมรับคำขอโทษของคุณแล้ว แต่นาฬิกาเรือนนี้คุณเอาไว้ใช้เองเถอะ ฉันไม่ชอบใส่นาฬิกา ฉันหวังว่าต่อไปคุณจะเคารพซึ่งกันและกัน และต่างคนต่างอยู่ไม่เกี่ยวข้องกัน”
ฉู่หยุนซีมองไปที่นาฬิกาที่เธอส่งคืนมา แล้วผงะไปชั่วครู่
ผู้หญิงคนนี้ รู้หรือเปล่าว่านาฬิกาเรือนนี้ราคาแพง และหายากขนาดไหน?
แต่ยังไงเธอก็ไม่เต็มใจที่จะให้เธอตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนี้ ฉินซู ไม่เอา หล่อนรู้สึกดีใจอยู่นิดๆ ที่ไม่ต้องเปลืองของ
เมื่อฉู่หยุนซี เสร็จงานที่ฉู่หลินเฉินมอบหมาย หล่อนก็รู้สึกโล่งใจ หล่อนเหลือบมองไปที่แก้วกาแฟที่อยู่ด้านหน้าของฉินซูและกล่าวว่า “กาแฟที่นี่รสชาติดีมาก คุณไม่ลองชิมสักนิดหรือ?”
ฉินซูลองชิมไปจิบหนึ่ง รสชาติกาแฟดีมากจริงๆ
แต่พอคิดว่าจะไปประชุมที่ห้องทดลอง เธอจึงใส่ผ้าปิดปาก และลุกขึ้นพร้อมกับถือเอกสาร “คุณหนูฉู่ฉันยังมีงานที่ต้องทำอีก ขอตัวก่อน”
ห้องทดลองอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ฉินซูจึงคิดจะเดินกลับ
เมืองไห่เฉิงในเดือนกรกฎาคม อุณหภูมิร้อนจัด
เวลานี้เป็นเวลาเกือบบ่ายห้าโมงแล้ว หลังจากที่โดนแผดเผามาทั้งวัน คลื่นความร้อนก็พวยพุ่งขึ้นมา
เพิ่งจะออกจากร้านกาแฟ เดินไปสักพัก ฉินซูก็รู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ไหลออกมาทุกรูขุมขน
“คุณอยากลองเครื่องดื่มเย็นๆ เพื่อทำให้สดชื่นหน่อยไหม?”
มีรถเข็นโฆษณาโปรโมทเครื่องดื่มผ่านมาข้างๆ ของเธอ หญิงสาวที่สวมหมวกกันแดดยื่นแก้วเครื่องดื่มให้เธอลองชิม
ฉินซูกำลังรู้สึกกระหายน้ำ จึงรับเครื่องดื่มไว้ “ขอบคุณ”
หลังจากเดินไปได้ระยะหนึ่ง เธอก็เปิดผ้าปิดจมูก ดื่มน้ำที่ได้แจกมา เย็นสดชื่นดีจริงๆ
เธอใส่ผ้าปิดปากกลับเหมือนเดิม จากนั้นก็โยนแก้วกระดาษทิ้งลงถังขยะไป
เดินต่อไปไม่กี่ก้าว เธอก็เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ
เป็นไข้แดดหรือ?
ความคิดแรกของฉินซูคือแบบนี้ แต่ในไม่ช้าเธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เธอเริ่มเวียนหัวหนักขึ้นเรื่อยๆ
เธอรู้สึกขาไม่มีแรง และกำลังจะล้มลง
ทันใดนั้นก็มีคนๆ หนึ่งเดินมาข้างเธอ และประคองเธอไว้
ฉินซูเห็นใบหน้าคนๆ นี้อย่างชัดเจน และกำลังจะตะโกนร้อง แต่ถูกปิดปากไว้
ก่อนที่เธอจะหมดสติไป เธอได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่ง พูดว่า
“เร็วเข้า รีบพาเธอขึ้นไป”
ในห้องพักของโรงแรม
ฉินซูที่หมดสติ ถูกโยนลงบนเตียงใหญ่
“ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของนายแล้ว ถ่ายวิดีโอไว้ดีๆ ล่ะ ต่อไปต้องใช้ความสามารถของนายแล้ว ว่าจะทำให้หล่อนกลายเป็นต้นเงินต้นทองของนายได้หรือเปล่า”
“เข้าใจแล้ว แต่… ทำไมคุณถึงช่วยผมทำเรื่องแบบนี้?”
“เพราะว่า ฉินซูแย่งสิ่งที่เป็นของฉันไปน่ะสิ”
การโต้ตอบไปมาของผู้ชาย และผู้หญิงคู่นี้ คือ หวังอี้หลิน และ อดีตคนรักของ ฉินซูชื่อว่า หลินมึ่งฟาน
หวังอี้หลินเหลือบมองไปที่เตียงแวบหนึ่ง และพูดอย่างไม่หวังดี “นายต้องจัดการให้อยู่หมัดเลยนะ ต้องเล่นจริง ใช้แค่รูปถ่ายไม่กี่ใบคงไม่พอ”
“ฉันรู้ว่าต้องทำอย่างไร คุณรีบไปเถอะ” หลินมึ่งฟาน พูดไล่ หวังอี้หลินอย่างอ้อมๆ กลัวว่าจะมีใครมาเห็นเข้า
หวังอี้หลินพยักหน้า ดวงตาก้มมองต่ำไปที่พื้น และหยิบเอกสารที่เพิ่งตกลงมาจากฉินซู
จากนั้นก็พลิกดูอย่างลวกๆ ที่แท้ก็เป็นการวิจัยทางการแพทย์ที่หล่อนไม่มีความสนใจ
แต่อย่างไรของพวกนี้ก็เป็นของที่ฉินซูพกติดตัวมา น่าจะเป็นเอกสารสำคัญ
หล่อนยิ้มมุมปาก และเดินจากไปพร้อมกับเอกสาร
หลินมึ่งฟาน ปิดประตูลง หันหน้ามองไปที่เตียงใหญ่
“ร้อน… ”
ฉินซูเปิดริมฝีปากแดงระเรื่อของเธอบ่นพึมพำ
ความร้อนระอุแล่นไปทั่วร่างกาย จุดไฟที่กำลังจะเคลื่อนตัว
เธอบิดตัวไปมา และค่อยๆ ลืมตาขึ้น
สายตาพร่ามัว แก้มแดง และคิ้วแสนงามของเธอขมวดเล็กน้อย
หลินมึ่งฟาน เดินกลับมาที่เตียง เมื่อเห็นฉากบนเตียงที่อยู่ข้างหน้า การหายใจของเขาหยุดนิ่ง
ก่อนที่จะทำเรื่องนี้ ถังเสี่ยวหรูกำชับเขาว่าห้ามมีความสัมพันธ์จริงๆ กับฉินซู
แต่…
ฉากที่อยู่ตรงหน้า ช่างเร่าร้อนเหลือเกิน!
หลังจากที่คบหาดูใจกับฉินซูมาตั้งนาน เขาไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัสเธอเลย แม้ว่าเธอจะแต่งงานกับฉู่หลินเฉินไปแล้ว เป็นผู้หญิง” มือสอง” ตีรูปร่างทรวดทรงโค้งเว้าของเธอ ใบหน้าที่ขาวเนียนไร้ที่ติของเธอนั้น น่าดึงดูดใจกว่าใบหน้าของ ถังเสี่ยวหรูที่ลบเครื่องสำอางออกเสียอีก
ช่างเถอะ ตอนนี้แล้วจะใส่ใจกับคำพูดของถังเสี่ยวหรูไปทำไมกัน? ถ้าได้ตัวฉินซู อนาคตที่สดใสรอเขาอยู่ หรือไม่อย่างมากก็ทิ้งถังเสี่ยวหรูเสียเลย
หลังจากตัดสินใจแล้ว หลินมึ่งฟาน ก็ยิ้มอย่างชั่วร้าย และคลานขึ้นไปบนเตียง…
หลังจากที่หวังอี้หลินเดินออกไปจากโรงแรมแล้ว หล่อนก็มองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครจึงเดินไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ด้านข้าง
ฉู่หยุนซี ยังนั่งอยู่ในร้านกาแฟ พอหล่อนเห็น หวังอี้หลิน เข้ามาที่ร้าน จึงโบกมือทักทาย
หล่อนบอกให้บริกรเสิร์ฟกาแฟใหม่อีกที่ แก้วกาแฟที่ฉินซูดื่มก่อนหน้านี้ ได้ถูกนำไปเก็บ
หวังอี้หลินแสร้งทำเป็นไม่มีเรื่องอะไร จิบกาแฟ และถามว่า”หยุนซีเธอไปขอโทษฉินซูแล้วจริงๆหรือ?”
“ใช่” ฉู่หยุนซีเม้มริมฝีปาก ไม่ค่อยอยากจะพูดถึงเรื่องของฉินซูหล่อนพูดต่อว่า “เธอเคยบอกว่าอยากเข้าวงการบันเทิงไม่ใช่หรือ? ฉันจัดการเรื่องนี้ให้เธอหมดแล้ว”