ตอนที่ 542 โน้วน้าวให้ลืม
เขาคิดไม่ถึงว่าเมิ่งไหวเซินที่ไม่เคลื่อนไหวอะไรเลยมานาน จู่ๆ ก็คิดอยากจะพาเมิ่งชิงซีออกมา มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย
“คิดหาวิธีให้เร็วที่สุด ยังไงก็ให้เมิ่งชิงซีออกมาไม่ได้ เธอต้องอยู่ที่นั่นหนึ่งปี” ลั่วเซ่าเชินวางสายโทรศัพท์แล้วก็ต่อสายหาโอวหยางหงทันที ทั้งสองคนได้ปรึกษาหารือกัน
เจียงรุ่ยเฉินตัดสินใจแล้วว่านับแต่นี้ไปจะพิชิตใจหันฮุ่ยซินให้ได้ เขาไม่สนใจว่าเธอจะยินยอมหรือไม่ เขาจะมารอเธอที่ชั้นล่างของบ้านทุกๆ วันเวลาเดิมเพื่อรับเธอไปทำงาน ถ้าหันฮุ่ยซินไม่ยอมขึ้นรถเขา เขาก็จะขับรถตามหลังเธอไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเห็นเธอเข้าที่ทำงานไป
เลิกงานเร็วก็จะมารออยู่หน้าประตู จนกระทั่งหันฮุ่ยซินยอมที่จะขึ้นรถเขา ไม่งั้นเขาก็จะตามเธอไปอีก
พอหลายๆ ครั้งเข้า หันฮุ่ยซินก็รู้สึกรำคาญ แม้การเอ่ยปากด่าเจียงรุ่ยเฉินจะทำให้เธอคลายโกรธไปได้ แต่ทุกวันที่ต้องเห็นหน้าเขาเธอก็รู้สึกเบื่ออยู่ดี บางครั้งก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
“คุณไม่ต้องมาหาฉันอีกได้ไหม ฉันเคยพูดไปหมดแล้วว่าฉันไม่ชอบคุณ ไม่อยากคบกับคุณ” ครั้งนี้หันฮุ่ยซินขึ้นรถของเจียงรุ่ยเฉิน เดิมทีเขาคิดว่าเธอเปิดใจให้เขาแล้ว ที่จริงแล้วเธอแค่อยากคุยกับเขาให้รู้เรื่องนี่เอง
“ฮุ่ยซิน สิ่งที่ผมได้ทำให้คุณไม่ใช่เพราะอยากจะรับผิดชอบ คุณจะรับผมไว้พิจารณาไม่ได้เลยจริงๆ เหรอ เห็นๆ กันอยู่ว่าลั่วเซ่าเชินเองก็ไม่ได้ชอบคุณ ทำไมคุณถึงยังไม่ปล่อยมือจากเขาเพื่อมาเจอคนอื่นๆ บ้างเหรอ”
“ขอโทษด้วย ชั่วชีวิตนี้หัวใจดวงนี้ของฉันมีแค่เซ่าเซินเท่านั้น แม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่รักฉันแล้วแต่ฉันก็ลืมเขาไม่ได้อยู่ดี” หันฮุ่ยซินใช้เวลาสองปีแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถลืมลั่วเซ่าเชินได้
“ฮุ่ยซิน ตอนนี้คุณอย่าพูดอะไรให้มันเร็วไปเลย คุณก็แค่ยังไม่เคยลองลืมเขา คุณยังไม่ได้ยอมรับผมเข้าไปในใจ” เจียงรุ่ยเฉินไม่เชื่อว่าหันฮุ่ยซินลืมลั่วเซ่าเชินไม่ได้ นี่เป็นแค่ปัญหาแค่เรื่องเวลาเท่านั้น
“ฉันจะปล่อยวางได้ไหมก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ และเรื่องที่ฉันจะยอมรับคุณไหมนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตั้งแต่ผู้ชายคนนั้นจากไป พวกเราก็ไม่ควรติดต่อกันอีก” สองปีมานี่ เจียงรุ่ยเฉินมาเจอเธอเป็นครั้งคราว เพื่อไม่ให้เธอลืมว่ามีเขาอยู่
แต่หันฮุ่ยซินก็ใจแข็ง ถ้าตอนแรกเธอไม่ได้คบกับเจียงรุ่ยเฉิน เธอก็คงได้อยู่กับผู้ชายคนนั้นไปนานแล้ว ตอนนี้เจียงรุ่ยเฉินจะมีคุณสมบัติอะไรที่จะทำให้เธออยากจะแต่งงานกับเขาอีก
“ฮุ่ยซิน การลืมอะไรสักอย่างคงมีแต่เวลาเท่านั้นที่ช่วยได้”
“ได้ เจียงรุ่ยเฉิน คำพูดนี้คุณพูดกับฉัน ตอนนี้ฉันก็คงต้องคืนคำพูดนี้ให้คุณเหมือนกัน” เมื่อเจียงรุ่ยเฉินได้คิดแล้วก็เข้าใจความหมายของหันฮุ่ยซินทันที
ในเมื่อเขาสามารถโน้มน้าวให้เธอใช้เวลาในการรักษาแผลใจเพื่อให้ลืมลั่วเซ่าเชินได้ เธอก็สามารถบอกให้เขาใช้เวลาเพื่อจะลืมเธอได้เหมือนกัน
“ฮุ่ยซิน ผมไม่เหมือนกับคุณ….”
“มีตรงไหนไม่เหมือนกัน เซ่าเซินไม่สนใจฉันแล้วแบบไหน ฉันก็มีความรู้สึกกับคุณแบบนั้น ดังนั้นพวกเราสองคนต่างก็ไม่อาจบังคับกันได้ ในเมื่อคุณบอกให้ฉันปล่อยวาง ฉันก็จะบอกให้คุณปล่อยวางเหมือนกัน”
“ฮุ่ยซิน คุณน่าจะเข้าใจหัวใจของผม วันนี้ผมพูดผิดไปแล้ว คุณช่วยคิดอีกทีได้ไหม ผมจะไปส่งคุณที่บ้านก่อน” หลังจากนั้นเจียงรุ่ยเฉินก็ไม่พูดอะไรอีก ใบหน้านั้นเอาแต่จ้องมองไปข้างหน้า
หันฮุ่ยซินเห็นว่าเขาไม่พูดก็ไม่อยากจะพูดอะไรกับเขาให้มาก เพียงแค่เขาเข้าใจก็พอแล้ว
วันนี้พนักงานต้อนรับบอกว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งมาหาเธอ หันฮุ่ยซินยังคิดอยู่ว่าเธอคือใคร เมื่อออกไปดู ด้านนอกก็มีผู้หญิงใส่ชุดเดรสสีแดงไวน์ยืนอยู่ ดูจากรูปร่างลักษณะแล้วเหมือนคนที่คุ้นเคย
“คุณคือ….”
“หันฮุ่ยซิน ผ่านไปแค่ไม่กี่ปีเธอก็จำฉันไม่ได้แล้วเหรอ เธอคงยุ่งมากจริงๆ ถึงขนาดจำฉันไม่ได้แล้ว”
“คุณหนูเวิน คุณพูดอะไรแบบนั้นคะ วันนี้คุณมาหาฉันมีธุระอะไรคะ เชิญที่ห้องก่อนดีกว่าค่ะ”
“ได้ค่ะ” เวินมั่นมั่นยิ้มอย่างอบอุ่นดวงตาก็ยิ้มตาม เพียงแต่ภายในใจไม่ใช่อย่างนั้น หันฮุ่ยซินเห็นท่าทางเธอแล้ว ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะมีเรื่องลำบากใจมาให้สินะ
ทั้งสองคนเข้าไปในห้องทำงานของหันฮุ่ยซิน หันฮุ่ยซินสั่งให้เลขาของตัวเองชงกาแฟเข้ามาให้
ตอนที่ 543 จุดแข็งและจุดด้อย
“คุณเวิน เชิญนั่งก่อนค่ะ วันนี้ที่คุณมาหาฉันเพราะเรื่องของเจียงรุ่ยเฉินใช่ไหม”
“คุณหันฉลาดจริงๆ อีกไม่นานฉันกับพี่รุ่ยเฉินก็จะหมั้นกันแล้ว หวังว่าถ้าคุณหันไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาก็โปรดอย่าเจอกับเขาอีกเลยค่ะ”
หันฮุ่ยซินอยากจะหัวเราะ เมื่อก่อนเธอกับเวินมั่นมั่นยังถือว่าเป็นเพื่อนกัน ใครจะรู้ผ่านไปแค่สองปีจะมีความเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้ เวินมั่นมั่นก็ไม่ได้เป็นหญิงสาวที่ไร้เดียงสาเหมือนเมื่อก่อนแล้วแต่กลับดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
“คุณกับเจียงรุ่ยเฉินจะหมั้น ทำไมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้จากเขาเลยล่ะ” หันฮุ่ยซินไม่ได้สินใจว่าเจียงรุ่ยเฉินจะหมั้นหรือแต่งงานกับใคร ที่เธอสนใจคือเวินมั่นมั่นมาเตือนเธอทำไม เรื่องระหว่างเธอกับงานหมั้นของพวกเขามีอะไรเกี่ยวข้องกัน
ท่าทางการแสดงออกของเธอเห็นชัดเจนมากว่าเวินมั่นมั่นยังไม่วางใจ ดูเหมือนว่างานหมั้นที่เธอพูดถึงมีแต่เธอที่คิดไปเองคนเดียว ไม่ได้จริงจังอะไร
“เรื่องของฉันกับพี่รุ่ยเฉิน แน่นอนว่าไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณหันอยู่แล้ว เพียงแต่คุณต้องจำไว้ด้วยว่าพี่รุ่ยเฉินเป็นของฉันเวินมั่นมั่น ต่อไปคุณควรห่างจากเขาสักหน่อยก็พอแล้ว”
“คุณเวิน ถ้าคุณพูดแบบนี้กับคนอื่นก็คงจะได้ แต่น่าเสียดาย ที่เทคนิคที่คุณใช้มันเก่ามากเหมือนแปดร้อยปีที่แล้ว แต่ก็ดีใจที่คุณยังมาในวันนี้ ถือว่าลำบากคุณแล้วจริงๆ”
หันฮุ่ยซินยังรู้สึกภูมิใจนิดหน่อย เห็นท่าทางเวินมั่นมั่นที่เป็นอย่างนี้ ไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไร ตอนนี้เธอก็รู้สึกอารมณ์ดี ไม่ว่าจะเป็นยังไง เวินมั่นมั่นไม่จำเป็นต้องมาเตือนเธอเลยด้วยซ้ำเพราะเธอไม่คิดจะเข้าไปยุ่งด้วยอยู่แล้ว
“เธอ เธอยังอยากจะเก็บชีวิตตัวเองไว้อีกไหม เมื่อก่อนเธอก็ไม่ยอมปล่อยลั่วเซ่าเชิน เห็นอยู่ว่าเขาไม่ชอบเธอ ตอนนี้พี่รุ่ยเฉินเธอก็อยากจะจับเขาอีก” เวินมั่นมั่นโกรธมากทำได้เพียงมาลงกับหันฮุ่ยซิน คาดหวังว่าจะสามารถตัดขวัญกำลังใจเธอได้
“คุณเวิน คุณต้องคิดเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนหน่อยนะ ฉันไม่อยากพูดซ้ำกับคุณซ้ำสอง ตอนนี้เป็นเจียงรุ่ยเฉินที่ตามตอแยฉัน และเรื่องฉันกับลั่วเซ่าเชินเมื่อก่อนก็ไม่เกี่ยวอะไรกันเลยสักนิด คุณไม่มีความสามารถที่จะคว้าหัวใจเขาได้ ก็ควรยอมรับว่าตัวเองสู้คนอื่นไม่ได้”
“เธอ หันฮุ่ยซิน เดิมทีฉันคิดว่าเธอจะเป็นผู้หยิงที่อ่อนโยนใจดี ที่ไหนได้เธอมันก็น่าไม่อายเหมือนกัน เธอจำไว้เลยนะ คุณลุงเจียงไม่มีทางรับผู้หญิงอย่างเธอเป็นลูกสะใภ้แน่”
ไม่มีภูมิหลังใหญ่โตอะไร ก็แค่หน้าตาสวยนิดหน่อย เธอเองก็ไม่แย่ขนาดนั้น ถือดีอย่างไรที่อีกฝ่ายจะชนะเธอได้ เวินมั่นมั่นไม่เชื่อว่า ถ้าเธอใช้ทุกสิ่งที่เธอมีจะยังไม่สามารถเอาชนะหันฮุ่ยซินและเข้าไปอยู่ในใจของเจียงรุ่ยเฉินได้
นอกจากนี้นอกจากนี้เธอยังมีคุณลุงเจียงหนุนหลังอยู่ พี่รุ่ยเฉินคงจะไม่ปฏิเสธความต้องการของคุณลุงเจียงแน่ นี่ทำให้เวินมั่นมั่นวางใจไปได้ไม่น้อย ผู้ช่วยที่กำลังจะเอากาแฟมาเสิร์ฟ พบกับเวินมั่นมั่นด้านนอกเข้าพอดี เกือบจะชนกับเธอเข้า
แต่แก้วกาแฟกลับเอียงกระเท่เร่ทำให้กาแฟหกใส่ชุดของเวินมั่นมั่น
“เธอมีตารึเปล่า เดินยังไงของเธอ เธอรู้ไหมว่าชุดฉันาคาเท่าไหร่ ทำให้มันสกปรกแล้วเธอมีปัญญาจ่ายไหม”
“คุณเวินคะ ช่วยระวังคำพูดด้วย ชุดของคุณาคาเท่าไหร่ ฉันจะจ่ายเอง” หันฮุ่ยซินที่อยู่ข้างในได้ยินเวินมั่นมั่นกำลังต่อว่าด้วยความโกรธ ดูเหมือนว่าหลายปีมานี้เธอยังคงคิดว่ายังมีคนหนุนหลังดีอยู่อีกสินะ
“หันฮุ่ยซิน เห็นแก่หน้าเธอนะ ว่านี้ฉันจะไม่ถือโทษโกรธลูกจ้างหรอก ฉันกลัวว่าถ้ารับเงินจากเธอไปจะทำให้มือฉันสกปรกเปล่าๆ”
“เวินมั่นมั่น เธอระวังปากไว้หน่อยนะ เงินของฉันฉันหามาด้วยน้ำพักน้ำแรง ไม่เหมือนเธอ ทีใช้ของครอบครัว ตอนนี้ยังทำตัวลอยไปลอยมา ไร้ประโยชน์สิ้นดี”
หันฮุ่ยซินโกรธมาก ไม่เคยเจอคนที่หยิ่งผยองแบบนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าสองปีมานี้เวินมั่นมั่นไปทำอะไรมาถึงได้ทำตัวอย่างนี้
“หันฮุ่ยซิน เธออิจฉาฉันใช่ไหมล่ะ เพราะฉันเป็นคนตระกูลเวินเลยทำให้เธออิจฉา ใครใช้ให้เธอเกิดมาเป็นแบบนี้ล่ะ นี่คือสิ่งที่เธอจะไม่มีวันเทียบฉันได้ และฐานะนี้ก็จะทำให้ฉันได้พี่รุ่ยเฉินมาครอง”
แต่ไหนแต่ไรมาเวินมั่นมั่นเข้าใจเสมอว่าข้อได้เปรียบของตัวเองคืออะไร และเธอก็ใช้ข้อได้เปรียบนี้เพื่อแย่งชิงคนที่เธอรักมา