SPH:บทที่ 193 สายเลือดบรรพบุรุษปรากฏ
ในห้องโดยสารเครื่องบิน ผู้โดยสารกลุ่มใหญ่ออกไปเกือบหมดแล้วเหลือเพียงหวูไต้และซ่ตงกับเพื่อนร่วมชั้นสองสามคนรอเย่หยูอยู่หลังร่ําลาเดมอนและเหล่าลูกเรือเย่หยูก็เดินกลับมาหาทุกคนเขายิ้มให้แล้วพูดว่า “ไปเถอะมันจบแล้วเราลงจากเครื่องได้”
ซูตงมองเหยุด้วยความทิ้ง “เหยู ฉันไม่คิดว่านายจะขับเครื่องบินได้ถ้าไม่เพราะนาย ทุกคนคงตายกันหมด” นักเรียนสามคนที่อยู่กับซูตงมองเย่หยูอย่างชื่นชมและนับถือ “เย่หยูขอบใจมากนะสําหรับเรื่องนี้”
“เย่หยู นายคือผู้ช่วยชีวิต ฉันกลัวแทบตายจริงๆ นะ”
“ถูกแล้ว ฉันกลัวจนร้องไห้ฉันจะไม่ขึ้นเครื่องบินอีกเด็ดขาดมันน่ากลัวเกินไป”
“เฮอะ ก็แค่เหตุบังเอิญ ทําไมต้องเล่นใหญ่กันด้วย” เมื่อเห็นทุกคนมองเหยุด้วยสายตาชื่นชมโอวหยางอันก็อดแค่นเสียงประชุดไม่ได้เมื่อได้ยินเข้าเซี่ยจินซีก็มีสีหน้า เปลี่ยนแปรไปเธอชี้ไปที่โอวหยางอันแล้วตะโกนว่า“โอวหยางอันนายพูดอะไรออกมาเย่หยูช่วยชีวิตทุกคนไว้”
นักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์อีกสามคนทําหน้าบึงและกล่าวอย่างไม่พอใจว่า“นักเรียนคนนี้ ที่นายพูดมามันผิดนะถ้าไม่เพราะเย่หยูนายคงเละเป็นโจ๊กไปแล้วยังมีใจมานินทากันอีก”
“ถูกต้อง ฉันจะไม่เป็นเหมือนกับนาย ศีลธรรมของนาย มันต่ํามาก”
“เฮอะ ฉันขอบอกว่านายมันเทียบไม่ติด ไม่ช้าก็เร็วนายจะทําให้เมืองจีนต้องเสียหน้า”
ปัง
โอวหยางอันทั้งโมโหทั้งฉุนเฉียว เขาตบเก้าอี้แล้วลุกขึ้นยีนตะโกนใส่คนทั้งสาม “นายพูดเรื่องอะไร”
“เชื่อหรือไม่เชื่อ ฉันจะให้แสดงให้นายดูเอง”
เย่หยุมองโอวหยางกันด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นก็ขําเบาๆแล้วพูดว่า “โอวหยางอัน นายจะไม่ล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดก่อนทําท่าโอหังอีกครั้งเหรอ”
เขาชี้ไปที่กางเกงเปียกๆ ของโอวหยางอันแล้วกล่าวต่อว่า“และฉันขอแนะให้นายใส่ผ้าอ้อมคราวหน้านะจะได้ไม่ทําให้ตัวเองขายหน้าตอนนายทําตัวโอหังแบบนั้น”
โอวหยางอันหน้าถอดสีเขารีบนั่งลงแล้วใช้มือปิดกางเกงเปียกๆเอาไว้ก้มหน้างุดไม่กล้าพูดจาอวดดีอีก
พี่บ!
ใบหน้าของเซี่ยจินซีแดงเรื่อเมื่อยกมือปิดปากและเกือบหัวเราะออกมาดังๆส่วนนักเรียนอีกสามคนมองโอวหยางอันด้วยสายตารังเกียจและกล่าวว่า “เชอะ!เขากลัวจนฉีราดนี่น่าอายของแท้”
“เฮอะ ไม่อวดดีอีกแล้วเหรอตอนนี้จําไว้นะว่าถ้านายไม่มีพลังพอที่จะทําตัวโง่ๆนายก็เป็นแค่เจ้าตัวงี่เง่า”
“ฮ่าๆ นายอยากให้เรามองนายดีคนเดียวงั้นเหรอนายกลัวจนถึงจุดที่นายฉ่ราดกางเกง แต่ยังกล้าทําตัวอวดดีอีกเหรอ”
โอวหยางอันหน้าซีดเผือด เขาก้มหัวลงแววตาทอประกายอาฆาตเพราะที่เขาต้องอยู่ในสภาพย่ําแย่ถึงเพียงนี้ เป็นความผิดของเย่หยูทั้งนั้น
“แค่กๆ ทริปนี้น่าตื่นเต้นจังเลย”
หวูไต้ยึดเก้าอี้ไว้แล้วลุกขึ้นยืน นวดคลึงช่วงเอวแล้วกล่าวว่า “ไม่ว่าจะอย่างไรทุกคนปลอดภัยดีอย่างน้อยถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีฉันหวังว่าทุกคนจะทําผลลัพธ์ได้สําเร็จในการแข่งขันที่จะมาถึง
ทุกคนเดินออกจากเครื่องบินใต้การนําของเหยู แสงแดดจากเหอซื่อสาดลงบนร่างของเย่หยูอย่างจัง มันอบอุ่นและสบายอย่างที่สุด
“ปั๊บ ยินดีกับเจ้าของร่างที่กันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเอาไว้ได้ได้จับสลากรางวัลหนึ่งครั้ง”
มุมปากของเย่หยุโค้งขึ้น รางวัลมาถึงจนได้
ที่สนามบินในทูซอน เย่หยุปฏิเสธคําขอของเดมอนและลูกเรือที่จะให้พักผ่อนก่อน และนั่งรถตรงไปพรินซ์ตันทันที
ขณะเดียวกันในห้องเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายสตีเวนสันในสหรัฐอเมริกา คุณครูผู้สวยสง่ายืนบนแท่นยกสูง เธอคือคุณครูที่นําทีมสู่การแข่งขัน
แคทลีนมองไปที่นักเรียนชั้นมัธยมปลายหกคนที่นั่งด้านล่างเธอยิ้มให้และกล่าวว่า “ผู้แข่งขันชาวจีนมาถึงแล้วฉันหวังว่าพวกเธอจะทําอย่างเต็มที่เพื่อรักษาถ้วยรางวัลเอา
ในบรรดานักเรียนทั้งหมด ประกอบด้วยชายห้า คนและหญิงหนึ่งคนนอกจากสาวน้อยเพียงคนเดียวแล้วเด็กหนุ่มที่เหลือทั้งห้าพากันหัวเราะอย่างเต็มที่ออกมา “ไม่ต้องห่วงคุณครูแคทลีนนักเรียนชาวจีนไม่ได้ที่หนึ่งแน่นอน”
“ถูกต้อง ที่พวกเขาเข้ารอบห้าคนสุดท้ายได้ก็ดีเกินไปแล้ว”
“ฮ่าๆ ถึงพวกเขาจะเข้ารอบสุดท้ายได้ที่หนึ่งจะยังเป็นของเบลล่าอยู่ดี”
เด็กหนุ่มทั้งห้ามองไปที่เบลล่า สวอนน์ที่นั่งในมุมเป็นระยะเธอเป็นสาวสวยที่ไว้ผมยาวสีดํา ใบหน้างดงามไร้ที่ติรูปร่างสูงเพรียวบางและผิวเป็นสีขาวจัดเธอให้ความรู้สึกสูงส่ง และเย็นชา
เบลล่า สวอนน์ คนดังแห่งโรงเรียนมัธยมปลายสตีเวนสันในสหรัฐอเมริกา เธอย้ายมาโรงเรียนแห่งนี้เมื่อหนึ่งปีก่อนและเอาชนะเด็กผู้ชายทุกคนได้ด้วยความงามอันไม่มี ใครเทียบได้และอารมณ์อันเย็นชาสูงส่งของเธอแถมเธอยังมีสติปัญญาที่ฉลาดและความรู้จนทําให้เด็กสาวขี้อิจฉาทั้งหลายต้องยอมศิโรราบแค่ภายในปีเดียวเบลล่าสวอนน์ได้รับสมญานามว่าเป็นเทพธิดาแห่งความงามและปัญญาเหนื้อนักเรียนทุกคน
พร้อมกันนั้น ทุกคนพากันสงสัยว่าเบลล่ารู้จักกับคุณครูแคทลีนคนสวยหรือไม่เพราะทั้งคู่มีพร้อมทั้งความงามและอารมณ์อันนิ่งสงบทําให้คนอื่นตกหลุมรักได้
“เบลล่า อยู่ที่นี่ก่อนนะ พวกเธอไปก่อน” แคทลีนซึ่งยืนที่ แท่นยกสูงยิ้มเมื่อเธอมองไปที่กลุ่มนักเรียนชายเด็กหนุ่มทั้งห้ายืนขึ้นพร้อมกันและเดินออกจากห้องเรียนเหลือไว้แค่แคทลีนและเบลล่าสวอนน์
“สายเลือดที่สืบทอดจากบรรพบุรุษปรากฏตัวแล้ว”
แคทลีนเอนหลังพิงโต๊ะ ไขว้ขาแบบสบายๆ ทําให้เรือนร่างบอบบางของเธอพราวเสน่ห์มากขึ้น เบลล่า สวอนน์ซึ่งนั่งที่เก้าอี้ก้มหน้าอ่านหนังสือราวกับไม่สนใจและกล่าวเบาๆว่า “แล้วอย่างไร”
“ถ้าหากฉันบอกว่ากลิ่นไอของบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งปรากฏขึ้นในสหรัฐอเมริกาล่ะ”
เบลล่า สวอนน์เงยหน้าขึ้น ใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม “คุณพูดถึงนักเรียนชาวจีนคนนั้น” แคทลีนถอนใจมองไปทางทิศตะวันออกด้วยดวงตาลึกซึ้ง “แต่ฉันไม่อยากจะยอมรับหรอกนะกลิ่นไอของบรรพชนผู้นี้อยู่บนร่างของหนุ่มชาวจีนจริงๆ”
เบลล่มองออกนอกหน้าต่างแล้วกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “ใครไม่อยากสืบสายเลือดบรรพชนบ้าง”
ที่กลางพรินซ์ตัน เย่หยุและคนอื่นเดินออกจากโรงแรม
หรูใต้มองไปที่หนุ่มๆ ด้วยความตื่นเต้นและกล่าวยิ้มๆว่า “การแข่งขันจะจัดขึ้นพรุ่งนี้ หายากที่ทุกคนจะได้ออกไปกันวันนี้ไปเดินเล่นให้รอบๆเถอะนะ”
“เยี่ยมไปเลย เป็นครั้งแรกที่เขามาเมืองนอกเลยนะ”
“ฉันจะตั้งใจดูให้ทั่วเลย”
“ไปกันเถอะ”
“ฮ่าๆ โอวหยางอันยังเปลี่ยนกางเกงอยู่ใช่ไหม”
“เราจะไม่รอเขานะ”
หรูได้พักในโรงแรมขณะที่ซูตงพร้อมกับเย่หยูและคนอื่นๆเริ่มเดินเที่ยวรอบๆ
การเดินเล่นบนท้องถนนประเทศต่างบ้านต่างเมืองและเพลิดเพลินกับบรรยากาศสวยงามแปลกตามีกลิ่นอายเหมือนอยู่ในนวนิยาย
สายตาของเย่หยูทอดมองไปรอบๆ ท้องถนนที่แสนวุ่นวายแล้วจู่ๆก็หรี่ตาลงที่ด้านหน้าตรอกธรรมดาๆ มีคนสอง สามคนมุงอยู่เย่หยมองใกล้ๆมีชาวต่างชาติผมทองสามคน คาบบุหรีในปาก ล้อมสาวจีนคนนึงอยู่
สาวคนนั้นมีผมดํายาวและกํามือถือไว้แน่นเธอมองชาวต่างชาติสามคนที่ยืนขวางหน้าด้วยสีหน้าน่าสงสาร
นี่อาเข่อใช่ไหม
เย่หยูมีนงงจนต้องถามซูตงซึ่งนําทีมอยู่ “อาจารย์ซูครับพวกคุณไปก่อนผมมีเรื่องต้องจัดการผมขอตัวก่อนครับ”
พอเย่หยูกล่าวจบ ก่อนที่ซูตงจะทันทัดทานเขาก็วิ่งออกไปแล้ว “เฮ้อเย่หยุระวังด้วยนะ”
ซูตงได้แต่มองแผ่นหลังของเหยูเมื่อเขาออกวิ่งและตะโกนตามหลังไป
เมื่อสองสามวันก่อน อาเข่อได้รับเชิญไปเที่ยวที่ประเทศอื่นวันนี้อาเข่อถือมือถือและถ่ายทอดสดอย่างเช่นเคย ขณะที่เธอกําลังพูดโต้ตอบกับคนดูก็บังเอิญชนกับชาวต่า งชาติเข้า
เธอรีบบอกขอโทษ และคิดว่านี่แค่เรื่องเล็กน้อย แต่ใครจะรู้ว่าคนที่เธอชนนั้นกลับเป็นพวกอันธพาลไปซะได้
จึงเกิดภาพชาวต่างชาติสามคนกันไม่ให้อาเข่อจากไปสีหน้าของเธอซีดเผือดเล็กน้อย เธอกระวนกระวายทั้งที่ขอโทษไปแล้วและอยากไปจากตรงนี้เต็มทนแต่ชายทั้งสามกลับหยุดเธอไว้ไม่ยอมปล่อยแววตาทอประกายไม่พอใจเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ยอมปล่อยอาเข่อไปง่ายๆ
“นี่ ยายเด็กบ้า ชนคนแล้วจะไปง่ายๆแบบนี้น่ะเหรอ”
“ฮ่าๆ แค่ขอโทษยังไม่ดีพอ พวกแกขาวจีนต้องก้มหัวคํานับเรา”
“ถูกต้อง เอาเงินมาด้วย ไม่งั้นก็อย่าคิดจะออกไป”
“ๆ สาวจีนคนนี้สวยดีนะ แต่ฉันว่าผอมไปหน่อย”
“นี่บรูซ ถ้าใช้การได้ก็ถือว่าดีแล้ว”
ห้องถ่ายทอดสดส่งเสียงไม่พอใจดังออกมา เมื่อได้เห็นอาเข่อที่ถูกรังแกกับชาวต่างชาติหยาบคายทั้งสามทุกคนก็ควบคุมความโกรธเอาไว้ไม่อยู่
“เฮอะ เจ้าสามคนนี้เป็นคนเลวชัดๆ นางฟ้าอาเข่อขอโทษอย่างชัดเจนแล้วพวกเขากลับไม่ยกโทษให้”
“ถูกต้อง ฉันคิดว่าเจ้าพวกนั้นน่าจะเป็นคนนิสัยดี แต่สุดท้ายมันก็ออกมาเลว”
“เหอๆ ตอนนี้รู้แล้วสินะว่า ดวงจันทร์ที่ต่างบ้านต่างเมืองไม่กลมดิกเท่ากับบ้านเรา”
“นี่ๆ มีคนไหนที่เป็นผู้ใหญ่บ้าง ช่วยแปลให้ทีฉันไม่เข้าใจที่พวกเขาพูดเลย”