ความสุข
คำสองคำนี้ล่องลอยช่างสำคัญยิ่ง ไม่นานขอบตาของมู่ซิ่วได้แดงขึ้น
มู่อวิ๋นซีรับรู้ได้ถึงอาการสั่นเทาของตัวนาง “ท่านพี่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังมีข้า มีพี่ชายและมีท่านย่านะ พวกเราจะช่วยท่านแน่นอน”
“เจ้า….. เจ้าพูดอะไร ข้า ข้าสบายดี” มู่ซิ่วหลบสายตา ไม่กล้าที่จะจ้องหน้ากับมู่อวิ๋นซี
เพียงแค่น้ำเสียงสะอึกสะอื้น กับร่างกายที่สั่นเทาไม่อาจจะปกปิดอะไรใครได้?
“ท่านพี่? ที่นี่มีแค่ข้ากับท่าน ยังมีอะไรที่ไม่อาจจะพูดได้ล่ะ?” มู่อวิ๋นซีใช้ความคิดเล็กน้อยและพูดอย่างตรงไปตรงมา “หากท่านไม่เชื่อข้า ท่านก็ไปพูดกับท่านย่า ท่านคงจะเชื่อท่านย่าอยู่แล้วใช่หรือไม่? ท่านย่าเลี้ยงท่านตั้งแต่เล็กจนโต ปฏิบัติต่อท่านอย่างไร ในใจท่านก็น่าจะรู้ดีกว่าข้า”
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดอะไร”
สายตามู่ซิ่วไม่อยู่นิ่ง จากนั้นใช้แรงดึงมือออกจากมือของมู่อวิ๋นซี “ข้าสบายดี สบายดีจริงๆ”
“สบายดี? แม้แต่โกหกตัวเองท่านยังโกหกไม่ได้ ยังจะโกหกคนอื่นได้อย่างไรกัน?” มู่อวิ๋นซีรำคาญ เมื่อวานหญิงงามนั้นที่ทำให้นางอับอายอย่างไร มู่จื่อหลันย่ำยีนางอย่างไร นางลืมไปหมดแล้วอย่างนั้นหรือ?
นี่คือสิ่งที่นางเห็นเมื่อคืนนี้ เรื่องแบบที่มองไม่เห็นไม่รู้ว่ามีมากน้อยเพียงใด
หรือว่ามู่ซิ่วเหมือนกับนางในชาติที่แล้ว ถึงไม่รู้หรือว่ามู่จื่อหลันกำลังทำร้ายนาง? นางไม่เข้าใจ องค์หญิงใหญ่น่าจะดูออก
มู่อวิ๋นซีค่อยๆ กางผ้าที่อยู่ในมือและยื่นไปที่ถ้วยชาบนโต๊ะเล็กๆ พลางร้องขึ้น “โอ๊ย”
“อวิ๋นซี?” มู่ซิ่วที่กำลังเหม่อลอยหันไปมองมู่อวิ๋นซี
ขณะที่นางก้มศีรษะลง ผ้าที่เปียกโชกของมู่อวิ๋นซีก็เช็ดไปที่หน้าผากของนางในทันที
ยาสร้างเนื้อคือศิษย์พี่ของนางเป็นคนทำแล้วทำเล่า ทำตั้งหลายปีถึงทำมันออกมาได้ แม้แต่อาจารย์ของนางก็ยังชื่นชม นางไม่เชื่อว่าฤทธิ์ของจินชวงเย่าจะดีไปกว่ายาสร้างเนื้อ?
“มู่อวิ๋นซี!”
มู่ซิ่วตกตกใจหน้าถอดสี ร่างกายถอยออกไปข้างหลัง และได้ลื่นตกจากที่นอน
ที่แน่ๆ แผลนี้ยังไม่ดี เพียงแค่ใช้แป้งปกปิดไว้
“ท่านพี่ นี่ท่านบอกว่าดี?” มู่อวิ๋นซีจ้องไปที่มู่ซิ่ว
“เจ้า……เจ้า……” รอบดวงตามู่ซิ่วแดงก่ำขึ้น น้ำตาได้หยดกลิ้งลงมาเป็นสาย
“ท่านพี่!” มู่อวิ๋นซีที่ลื่นตกจากที่นอนได้คว้ามู่ซิ่วไว้ “หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ท่านต้องบอกท่านย่านะ”
มู่อวิ๋นซีเงยหน้ามองขึ้นไปที่องค์หญิงใหญ่ที่เดินเข้ามาด้วยท่าทีที่แข็งทื่อ และยังมีมู่จื่อหลันกับสีหน้าที่ยุ่งเหยิง
“ซิ่วซิ่ว? นี่……นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” องค์หญิงใหญ่รีบก้าวเข้ามาข้างหน้า ดวงตาแดงก่ำเพราะเป็นห่วง “บาดแผลนี้ของเจ้า……ทำไมกลายเป็นเช่นนี้?”
“ท่านย่า!” มู่ซิ่วร้องไห้สะอึกสะอื้น เหมือนใจกำลังจะขาด
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เจ้าพูดสิ!” องค์หญิงใหญ่รีบร้อนด้วยความโมโห
“องค์หญิง!” มู่จื่อหลันเข่าอ่อนคุกเข่าต่อหน้าองค์หญิงใหญ่ “พระองค์ได้โปรดอย่าโทษฮูหยินเลยเพคะ แท้จริงแล้ว ยาสร้างเนื้อของคุณหนูรองนั้นไม่มีผลอะไรกับฮูหยินเลย ฮูหยินเกรงว่าบาดแผลของตัวเองจะทำให้พระองค์เป็นกังวล เมื่อวานจึงไม่ได้มารับของขวัญ”
“ต่อมาข้าได้ยินคุณหนูรองบอกว่าจะไปหานาง ในใจคิดว่าคงเลี่ยงไม่พ้น ดังนั้นจึงได้นำแป้งมาทาหนาๆ เพื่อไปพบองค์หญิงกับคุณหนูรอง นางทำเช่นนี้เพราะกลัวว่าพระองค์จะเสียพระทัยเมื่อเห็นนาง และเกรงจะเสียน้ำใจของคุณหนูรอง หากทำให้คุณหนูรองไม่สบายใจ ต้องขอประทานอภัยด้วยเพคะ”
“ท่านอาจื่อหลัน” มู่อวิ๋นซีหัวเราะเยาะ “ท่านพูดว่าสนมก็ต้องทำตามกฎของสนมไม่ใช่หรือ? อย่างนั้นข้าถามท่าน เจ้านายไม่ได้ถาม แล้วข้าจะพูดแทรกขึ้นมาได้อย่างนั้นหรือ?”
พ่ะ!
มู่จื่อหลันยกมือตบไปที่ใบหน้าของตัวหนึ่งที “เป็นข้าที่ล่วงเกินเอง ข้าแค่เป็นห่วงองค์หญิง”
“อวิ๋นซี!” องค์หญิงใหญ่ตะคอกใส่มู่อวิ๋นซีหนึ่งครั้ง “จื่อหลันแค่หวังดี” คำพูดหยุดเพียงแค่นี้ นางได้หันไปมองที่มู่ซิ่ว “ซิ่วซิ่ว ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไร ย่าก็อยากฟังจากที่เจ้าพูด”
“ท่านพี่!” มู่อวิ๋นซีดึงไปที่แขนเสื้อมู่ซิ่ว เห็นแล้วใช่ไหม? ท่านย่ากำลังปกป้องเรา มีเรื่องอะไร ให้ท่านรีบพูด
ไม่ง่ายเลยที่มู่ซิ่วจะได้หยุดสะอื้น “จื่อหลันพูดถูกเพคะ”
มู่อวิ๋นซีนิ่ง สักพักหนึ่ง นางได้สงสัยว่าหูของตัวเองได้ยินอะไรผิดไปแล้ว
“หลังจากที่ข้าใช้ยาสร้างเนื้อที่อวิ๋นซีให้มา บาดแผลนี้ไม่ดีขึ้นแล้ว ทั้งยังมีแนวโน้มจะกลายเป็นหนองด้วยเพคะ”
“จะเป็นไปได้อย่างไร?” มู่อวิ๋นซีไม่เชื่อ
“ข้ารู้ว่าเจ้าหวังดี” สายตามู่ซิ่วเหลือบมองไปที่มู่อวิ๋นซี แล้วหลับตาลง “หรือไม่อาจเป็นเพราะร่างกายของข้า เมื่อตอนที่ข้ามานั้นได้ตั้งใจทาแป้งทับไว้ เพราะไม่อยากให้เจ้ากับท่านย่าเห็นแล้วเป็นห่วง”
พ่ะ!
คำพูดนี้ เมื่อได้ฟังแล้วราวกับว่าถูกตบเข้าไปที่ใบหน้าของมู่อวิ๋นซีอย่างรุนแรง
นางมองเห็นดาวเต็มไปหมด เหมือนตกลงไปในเหวลึก
เป็นนางที่คิดเองอยู่ฝ่ายเดียว คือนางถูกความรักของมู่จื่อชวนที่ปฏิบัติกับนางระหว่างพี่ชายน้องสาวและหลงกับความคิด ถึงได้ทำให้ความรักของพี่สาวน้องสาวนี้ไร้สาระไป
เมื่อคืน คำพูดของมู่จื่อหลันนั้นผิดอย่างมหันต์ มีแค่ประโยคเดียวที่ไม่ผิด นางมู่อวิ๋นซีและมู่ซิ่วเพิ่งได้เจอหน้ากัน ทำไมจะต้องทำดีกับนางด้วย?
นี่ไม่ใช่นางหรือที่หน้าไม่อาย?
เมื่อตอนที่กลับมาที่จวนตระกูลมู่ใหม่อีกครั้ง นางไม่คิดที่จะรู้จักองค์หญิงใหญ่ ทั้งไม่เคยคิดที่จะนับญาติด้วย เพราะอ้อมกอดขององค์หญิงใหญ่ครั้งนั้น และกล่องติ่มซำขององค์หญิงใหญ่ที่ทำให้หัวใจของนางสับสน และการที่มู่จื่อชวนที่ปฏิบัติเอาอกเอาใจต่อมู่จื่อโหรวทุกอย่างทำให้นางหลงใหลถึงทำให้ก้นบึ้งของหัวใจนางเกิดความปรารถนาขึ้น
เป็นองค์หญิงใหญ่ที่เอ็นดูนาง เป็นคำสาบานของมู่จื่อชวนที่ทำให้นางคิดว่า มู่ซิ่วก็รักนางอย่างที่พวกเขาที่รัก ถึงได้ปฏิบัติต่อนางอย่างอบอุ่น
ทั้งหมดนี้ เป็นนางที่คิดเองอยู่ฝ่ายเดียว เมื่อทำเองก็ต้องรับผลกรรมที่ตนทำไว้
มู่อวิ๋นซีทื่อไปทั้งตัว ร่างของทุกคนที่อยู่ข้างหน้าทับซ้อนกลับไปหมด องค์หญิงใหญ่พูดอะไรกับนาง มู่ซิ่วที่พยุงมู่จื่อหลันลุกขึ้นได้พูดอะไรไป แม่นมโจวที่นำไข่ไก่มาทาบ แล้วกลิ้งไปมาที่บนแก้มของมู่จื่อหลันนั้นได้พูดอะไรอีกล่ะ……
นางไม่ได้ยินอะไรแม้แต่คำเดียว
“คุณหนู คุณหนู?” ไป่หลิงเขย่ามู่อวิ๋นซี
“อะไรหรือ?” มู่อวิ๋นซีได้สติ ต้องการมอบรอยยิ้มว่าตัวเองไม่เป็นอะไรให้ไป่หลิง แต่ที่มุมปากหนักอึ้งไม่ขยับ
“คุณหนูรอง ต้องโทษข้าที่ปากไว ทำให้ท่านต้องเสียใจ” มู่จื้อหลันขอโทษมู่อวิ๋นซีอย่างฉาบฉวย แล้วหันไปมองที่องค์หญิงใหญ่และมู่ซิ่ว “องค์หญิง ฮูหยิน ฮูหยินเล็กหลิ่วให้ข้าไปเกลี้ยกล่อมจื่อโหรว ข้าต้องขอตัวก่อน”
องค์หญิงใหญ่โบกมือให้ มองมู่จื่อหลันออกไปจากนั้นหันมามองมู่อวิ๋นซี “อวิ๋นซี เจ้าอย่าเสียใจเลย ก่อนหน้านั้นหมอหลวงจ้าวมีตำรายาใครใช้ต่างก็หายดี แต่ย่าเองใช้แล้วไม่มีผลอะไร เรื่องยาพวกนี้ เป็นเฉพาะร่างกายของแต่ละคนใครก็บอกอะไรไม่ได้”
มู่อวิ๋นซีพยักหน้า สายตาเหลือบมองลงไปที่มู่ซิ่ว และได้ถามอีกครั้งอย่างไม่เชื่อ “ท่านพี่ เป็นท่านที่นำเอายาสร้างเนื้อไปใส่จินชวงเย่าตัวตัวเองใช่หรือไม่?”
“ใช่” น้ำเสียงที่ทุ้มต่ำของมู่ซิ่ว แต่ฟังแล้วเหมือนฟ้าร้องอยู่ข้างหูของมู่อวิ๋นซี “เป็นข้าเองที่ทำตามที่เจ้าสอนได้นำเข้าไปใส่ในจินชวงเย่า แต่ข้าไม่คิดว่ามันจะไร้ประโยชน์ต่อข้า ไม่เป็นไร แม้ว่าจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้ก็ไม่เป็นไร สามีบอกว่าเขาไม่ถือสา”