หลินชิงชือรีบอธิบายขึ้นมาว่า: “นั่นไม่ใช่ที่บ้านเหรอ! ตอนนี้มาอยู่ข้างนอก แน่นอนว่ามันแตกต่างกัน!”
ฉินเฉิงส่งเสียงหึขึ้นมา สำหรับวิธีการของหลินชิงชือ ฉินเฉิงเองก็รู้สึกประหลาดใจมานานแล้ว
เค้าผลักหลินชิงชือออกไปแล้วพูดว่า: “ไม่ต้องกังวล ไม่มีผีหรอก ถ้ามีผี มันไม่มาหาเธอแบบนี้หรอก”
ในตอนที่กำลังพูด เค้าก็ผลักหลินชิงชือออกจากประตู แม้ว่าหลินชิงชือจะดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร
จากนั้นไม่นาน หลินชิงชือก็โดนผลักออกไปที่ประตู
“เฮ้ ฉันกลัวจริงๆนะ!” หลินชิงชืออธิบายด้วยความโกรธ
ในตอนนี้เอง ฉินเฉิงก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
เพราะเค้าเองก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความเยือกเย็น มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้เลย
“มันมีมนต์ดำจริงเหรอเนี่ย?” ฉินเฉิงเลิกคิ้วขึ้น จากนั้นญาณหยั่งรู้ของเค้าก็ครอบคลุบไปกว่าครึ่งหนึ่งของโรงแรมในทันที!
หลังจากผ่านไปได้ซักพัก เค้าก็รู้สึกได้ถึงพลังที่เยือกเย็นสองอันที่แฝงตัวอยู่ใกล้ๆ
พลังทั้งสองนี้แปลกมาก แม้ว่าพวกมันจะเป็นมนต์ดำ แต่ดูเหมือนว่ามันจะแตกต่างจากมนต์ดำทั่วๆไป
มันเหมือนกับว่า…มีคนทำมันขึ้นมายังไงยังงั้นเลย!
“ตามฉันมา” ฉินเฉิงบอกให้หลินชิงชือเดินตามมา
หลินชิงชือพยักหน้ารัวๆ เธอหลบอยู่ที่ด้านหลังของฉินเฉิง ท่าทีของเธอดูหวาดกลัว
ฉินเฉิงพาหลินชิงชือเข้าไปในห้องของเธอ
ทันทีที่ประตูถูกผลักเปิดออก ทันใดนั้นเองมนต์ดำก็แข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง
“ในห้องนี้มันมีของสกปรกอยู่จริงๆ” ฉินเฉิงสูดลมหายใจเข้าอย่างเย็นชา
มันมีแสงสีทองขนาดใหญ่บนร่างกายของเค้าแล้วฝ่ามือของเค้าก็เหวี่ยงออกมา จากนั้นพื้นที่ด้านหน้าของเค้าก็มีส่วนโค้งแปลกๆปรากฏขึ้นมา!
จากนั้นร่างของมนุษย์ที่น่าสะพรึงกลัวก็ค่อยๆปรากฏขึ้นมา!
“อร้ายยยยยย!”
ทันทีที่สิ่งนี้ปรากฏขึ้น หลินชิงชือก็กรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ!
เพราะนี่คือปีศาจที่ชั่วร้ายจริงๆ ทั้งใบหน้าของมันดูราวกับซากศพ เลือดไหลลงที่มุมปากของมัน ใบหน้าที่ซีดเซียวของมันทำให้มันดูน่ากลัวมากยิ่งขึ้น
ฉินเฉิงถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า: “วิธีการแบบนี้ อย่ามาอวดดีต่อหน้าฉัน”
หลังจากพูดจบ ฉินเฉิงก็ชกเข้าไปที่หัวของปีศาจ จากนั้นก็ใช้อีกฝ่ามือจับปีศาจอีกตัวหนึ่งในห้องแล้วบีบท่ามกลางอากาศ!
หลินชิงชือที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังฉินเฉิง เธอก็ตัวสั่นเนื่องจากความตื่นตระหนก เธอกอดเอวของฉินเฉิงเอาไว้จนแน่น
“เอาล่ะ ลืมตาได้แล้ว” ฉินเฉิงพูดเบาๆขึ้นมา
“จริง..จริงเหรอ?” หลินชิงชือพูดด้วยความกลัว
ในตอนที่พูดนี้เอง เธอก็ลืมตาค่อยๆลืมตาขึ้นมา แต่ทันทีที่เธอลืมตา เธอก็เจอเข้ากับใบหน้าซีดๆที่อยู่ตรงหน้าเธอ!
“อร้ายยยยยยยย!!!”
หลินชิงชือกลัวมากจนแทบจะเป็นลม เธอร้องไห้ออกมา!
ฉินเฉิงหัวเราะแล้วพูดว่า: “แค่นี้ก็กลัวแล้วเหรอ?” เค้าก็พูดกับอากาศที่ว่างเปล่าว่า: “เอาตัวเองมาเจอฉันเถอะแล้วฉันจะไว้ชีวิตแก”
เมื่อเสียงหายไป ทันใดนั้นเอง ร่างนั้นก็รีบหนีไปโดยหันหลังให้กับฉินเฉิง
“หือ?” ญาณหยั่งรู้ของฉินเฉิงก็รู้สึกได้ถึงร่างๆนี้ เค้าพูดขึ้นมาว่า: “กล้าหนีเหรอ?”
เค้าถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชาแล้วก้าวไปข้างหน้า เค้าวิ่งชนกระจกจนแตกแล้วตามออกไป
ท่ามกลางความมืด ร่างในชุดดำก็กำลังหลบหนีอย่างสิ้นหวัง
“โอม!”
ในตอนนี้เอง
“จะหนีไปไหน” ฉินเฉิงถามแล้วเลิกคิ้วขึ้นมา
สีหน้าของชายชุดดำเปลี่ยนไป เค้ากัดฟัน ทันใดนั้นเอง จู่ๆอากาศสีดำก็พุ่งออกมาจากแขนเสื้อของเค้า!
“วู้วววววววววว!”
อย่างไรก็ตาม มือของฉินเฉิงก็สวมผ่านพลังงานสีดำแล้วคว้าคอของเค้าเอาไว้
“บอกมา ใครส่งแกมา?” ฉินเฉิงจ้องมองเค้าอย่างเย็นชาแล้วพูดออกมา
ชายชุดดำพูดด้วยความตกใจว่า: “พี่ชาย…เข้า…เข้าใจผิดแล้ว!”
“คนทางตะวันออกอีกแล้วเหรอ?” ฉินเฉิงขมวดคิ้ว
ช่วงเวลาไม่กี่วันหลังจากที่เค้ามาที่สหรัฐ เค้าได้เจอเข้ากับลูกศิษย์จากสำนักทางด้านตะวันออกไม่ต่ำกว่าสามครั้งแล้ว
“บอกมาว่าใครใช้ให้แกมาแล้วฉันจะคิดว่าจะปล่อยแกไปดีไหม” ฉินเฉิงมองเค้าด้วยแววตาที่เย็นชา
ชายชุดดำพูดอย่างขมขื่นว่า: “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ ผม…อ๊าาาาาา!!!”
ก่อนที่เค้าจะพูดจบ ฉินเฉิงก็เตะหัวเข่าของเค้า
“ฉันไม่ต้องการได้ยินแกพูดเรื่องไร้สาระ” ฉินเฉิงพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา
ที่หน้าผากของชายชุดดำก็เต็มไปด้วยเหงือ เค้ารีบพูดว่า: “ผมบอกว่า ผมบอกว่า… ผมเห็นดูร่างหยางบริสุทธิ์ของเธอ ผมก็เลยสนใจ ยังไงพี่ชายก็ไว้ชีวิตผมด้วยนะครับ…”
“มันเป็นไปอย่างที่คิดเอาไว้เลย มันเป็นเพราะร่างหยางบริสุทธิ์” ฉินเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
วิธีการของชายชุดดำคนนี้ค่อนข้างคล้ายกับวิธีของเมืองซวนหมิงในตอนนั้น ทั้งหมดนี่มันเป็นวิธีการที่ไม่สามารถหาได้ที่ไหน
และสำนักยุทธ์แบบนี้สนใจร่างหยางบริสุทธิ์มากที่สุด
“พวกแกเป็นคนของสำนักไหนกัน? ทำไมแกถึงมาอยู่ในสหรัฐ” ฉินเฉิงถามอย่างเย็นชา
ชายชุดดำไม่กล้าปิดบังอะไร เค้าจึงรีบพูดขึ้นมาว่า: “ผมเป็นคนของสมาคมพรหม ฉันมาที่อเมริกาเพราะ…เพราะสำนักงานใหญ่ของเราย้ายออกจากเหยี่ยนเซี่ยมาเมื่อหลายปีก่อน…”
“สมาคมพรหม?” เมื่อได้ยินชื่อๆนี้ สีหน้าของฉินเฉิงก็เปลี่ยนไป
เมื่อหลายปีก่อนมีสำนักยุทธ์ชั่วถูกขับไล่ออกจากเหยียนเซี่ยแล้วหนีไปสหรัฐ
พวกเค้าเก่งในการใช้ประโยชน์จากพลังเวทย์ ปีศาจชั่วและภูตผี ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการของพวกเค้า
ตามข่าวที่ได้ยินมา พวกเค้าสามารถเรียกวิญญาณชั่วร้ายใต้พื้นพิภพขึ้นมาเพื่อต่อสู้ให้พวกเค้าได้
และสำนักยุทธ์นั่นก็คือสมาคมพรหม
ฉินเฉิงก็พูดขึ้นมาเบาๆว่า: “ในมรดกที่พ่อให้มา มันก็มีการพูดถึงสมาคมพรหม… คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้มาเจอพวกเค้าที่นี่”
ในตอนนี้เอง ชายชุดดำในมือของฉินเฉิง จู่ๆก็กลายเป็นชิ้นหนังมนุษย์แล้วอ่อนตัวลง
ฉินเฉิงขมวดคิ้วแล้วพึมพำว่า: “จักจั้นสีทองลอกคราบ… คิดไม่ถึงเลยว่าสมาคมพรหมจะยังมีอยู่ในโลกใบนี้”
ฉินเฉิงไม่คิดอะไรมาก สมาคมพรหมนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเค้าเลย อีกไม่นานเค้าก็กำลังจะออกไปจากสหรัฐ เมื่อคิดดูแล้วโอกาสที่จะปะทะกันก็มีน้อยมาก
หลังจากกลับมาถึงโรงแรม หลินชิงชือก็ขาอ่อนสั่นไปหมด
เธอนอนอยู่บนเตียงไม่กล้าขยับ ใบหน้าที่สวยงามของเธอบิดเบี้ยวเล็กน้อยเพราะความตื่นตระหนก
ฉินเฉิงกลอกตาแล้วพูดว่า: “ไม่หรอกน่า ยังไงเธอก็เป็นนักศิลปะการต่อสู้เหมือนกัน ทำไมถึงไม่กล้าหาญเอาซะเลย?”
“ฉันเป็นผู้หญิงนะ!” หลินชิงซีพูดขึ้นมาอย่างฉุนเฉียว “ฉันบอกแล้วว่ามันมีผี นายก็ยังไม่เชื่อ ฉันกลัวแทบตาย…”
ฉินเฉิงเอามือลูบหน้าผากของเค้าอย่างช่วยไม่ได้ เค้าโบกมือแล้วพูดว่า: “เอาล่ะ ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว พักผ่อนให้เต็มที่เถอะ”
“ฉันไม่!” หลินชิงชือวิ่งไปหาฉินเฉิงด้วยความสยองขวัญ
เธอคว้าแขนของฉินเฉิงแล้วพูดว่า: “อย่าไปได้ไหม… ฉันกลัวจริงๆนะ…”
ฉินเฉิงเงียบไปซักพักแล้วพูดว่า: “ฉันจะอยู่ใกล้ๆ ถ้ามีเรื่องอะไรฉันจะมาทันที”
“แล้วทำไมเมื่อกี้นายถึงไม่รู้หละ” หลินชิงซีพูดอย่างไม่แน่ใจ
ฉินเฉิงเป็นใบ้ไปชั่วขณะ เค้าไม่รู้จะพูดอะไร
“แค่คืนเดียว ได้ไหม…” หลินชิงชือพูดอย่างน่าสงสาร