Long Live The Hokage Chapter 45 : ในที่สุดก็กลับมา
พระอาทิตย์กําลังลับขอบฟ้าและการต่อสู้ก็ใกล้จะจบลง
การต่อสู้ด้วยคาถานินจาสิ้นสุดลง ณ เวลานี้ และมันก็ค่อยๆกลายเป็นการต่อสู้ด้วยวิชากระบวนท่าแทน
มาซาฮิโกะ ไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับลูกศิษย์ของเขา เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีอย่างไม่หยุดยั้งของมาดาระ
“โอ้เอ้ย..ถ้าเราเริ่มฝึกร่างกายให้เร็วกว่านี้ละก็…” มาซาฮิโกะถอนหายใจออกมาเบาๆ
ดูเหมือนว่าร่างกายของ มาซาฮิโกะ ใกล้จะถึง ขีดจํากัดแล้ว ส่วน มาดาระ เองก็กําลังเจ็บปวดเพราะใช้ เนตรวงแหวนมากเกินไป
แม้ว่าชีวิตของมาซาฮิโกะในตอนนี้กําลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่เขาก็ยังคงใจเย็นอยู่ เพราะเขาสังเกตเห็นว่าตอนนี้ เซนจูกําลังได้เปรียบคู่อสู้อยู่มากพอสมควร
ไกลออกไป อุจิฮะ อิซึนะ กําลังต่อสู้อยู่กับโทบิรามะ
เป้ง!
เสียงของดาบปะทะกันสะท้อนดังผ่านสนามรบ โทบีรามะดูเหมือนจะได้เปรียบกว่าในการต่อสู้ครั้งนี้
เก๋ง!
ดาบของ อิซึนะ หักทันทีเมื่อดาบทั้ง 2 ปะทะกัน เพราะดาบของโทบิรามะคือดาบแสงสายฟ้า ที่มาซาฮิโกะตีมันขึ้นมาเพื่อเขา
อิซึนะใช้วิชาลวงตา เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของโทบิรามะ
“คาถาไฟ : ลูกบอลเพลิงยักษ์!”
โทบิรามะ หันหน้าไปทางลูกไฟที่กําลังพุ่งตรงมาแล้วประสานอิน
“คาถาน : ระเบิดน้ํามังกรวารี!”
คาถาทั้ง 2 ปะทะกันอย่างแรง การระเบิดของน้ําและเปลวไฟก่อให้เกิดเป็นหมอกและบังทัศนวิสัย
โทบิรามะขว้างคุไนออกไป แต่อิซึนะก็หลบได้ เพราะเขาสามารถมองเห็นได้ด้วยเนตรวงแหวน และปัดมันทิ้งด้วยดาบที่หักครึ่งของเขา
“บ้าเอ้ย! เนตรของฉันเกือบจะถึงขีดจํากัดแล้ว” ในขณะนั้นเอง อิซึนะก็สังเกตเห็น คุไนเล่มหนึ่งที่กําลังพุ่งผ่านเขาไปจากทางด้านข้าง และมันมีสัญลักษณ์แปลกๆติดอยู่
“เทพอัสนีเวหา!” โทบิรามะตะโกนมาจากระยะไกล
“แน่นอนว่านี่คือวิชานั้น…” มาซาฮิโกะบ่น “จบแล้วสินะ..”
มาซาฮิโกะ หมดแรงจนแทบจะยืนไม่อยู่
มาดาระหยุดการโจมตีทันที ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่น้องชายอย่างไม่ละสายตา
มาซาฮิโกะ รู้สึกว่าเรื่องราวดูเหมือนจะย้อนกลับไปในเส้นทางที่ถูกต้อง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกหมดห่วงและอดไม่ได้ที่จะนั่งลงบนพื้นโดยไม่คํานึงถึงสถานการณ์รอบตัว
ความเหนื่อย ความโล่งใจ ความตื่นเต้น เขามีความรู้สึกหลายอย่างที่เขาไม่สามารถแสดงออกได้ แต่สิ่งหนึ่งที่มาซาฮิโกะต้องการก็คือนั่งลงบนพื้นและพักสักครู่
“การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่อันตรายที่สุดเท่าที่เราเคยเจอมา ถ้าการต่อสู้ยังดําเนินไปอีกเพียง 10 นาที เราคงจะตายจริงๆแน่”
มาซาฮิโกะ ส่ายหัวแล้วยิ้มอย่างขมขืน “ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เราไม่เคยคิดที่จะต่อสู้อย่างจริงจังเลย เราได้แต่วิ่งหนีอย่างเดียวเท่านั้น แต่คราวนี้”
มาซาฮิโกะ เหมือนจะหมดสติไปครู่หนึ่ง แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกตัวว่า มาดาระไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว เขารีบหันไปมองแล้วพบว่า มาดาระกําลังวิ่งเข้าหาโทบิรามะ ขณะที่กําลังประสานอินอย่างรวดเร็ว
“แย่แล้ว! ไม่ดีแน่! ฮาชิรามะยังไม่กลับมา เราต้องหยุดเขา…” มาซาฮิโกะพยายามรวบรวมกําลังทั้งหมดของเขา เพื่อลุกขึ้นและไปช่วยโทบิรามะ
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากด้านข้างของสนามรบ “คาถาไม้ : กําแพงม่านไม้!”
“อ่า…จบจริง ๆ สะที” มาซาฮิโกะล้มลงกับพื้นอีกครั้ง ไม่น่าเชื่อว่าเสียงที่ดูเซ่อๆของฮาชิรามะ ตอนนี้มันจะฟังดูเหมือนเสียงของเทวดา!
มาซาฮิโกะ นั่งอยู่ที่นั่นตลอดทั้งการต่อสู้ และเฝ้าดูการต่อสู้ระหว่างฮาชิรามะ และมาดาระ หลังจากนั้นไม่นาน อุจิฮะก็พ่ายแพ้ และในที่สุด มาดาระก็ต้องยอมสั่งถอยทัพไป
“แม้ว่าฮาชิรามะจะแข็งแกร่งกว่ามาดาระ แต่เขาก็ยังปล่อยให้มาดาระหนีไปได้ อ้า…ในที่สุด เรื่องราวก็กลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้องเสียที…”
มาซาฮิโกะ นึกถึงสิ่งที่เขาทําในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่าน มาและมองหาสิ่งที่ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจน ทําให้เกิดวิกฤติครั้งนี้ขึ้น!
“เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นเพราะเราบังคับให้ฮาชิรามะเรียนรู้โหมดเซียนก่อนเวลาหรือเปล่านะ?” มาซาฮิโกะพึมพํา “ระบบพิเศษช่วยอธิบายให้ฉันรู้หน่อยได้ไหม..” มาซาฮิโกะมองกลับไปและเห็นโซระนอนหมดสติอยู่ในคาถาไม้ของฮาชิรามะ ที่พันธนาการตัวเขาอยู่
การต่อสู้สิ้นสุดลงแล้ว มาซาฮิโกะหนีไปได้ และตอนนี้ฮาชิรามะก็เดินมาหามาซาฮิโกะ
“ท่านปู่ ขอบคุณมากครับ ท่านถ่วงเวลาไว้ได้นานมาก ท่านเป็นอะไรไหมครับ?”
มาซาฮิโกะ ส่ายหัวและพูดแกล้งเขาว่า “ฉันสบายดี เธอยังไม่ได้ฆ่าฉันหรอก…” จากนั้นเขาก็ถามต่อว่า “แล้วทําไมโซระถึงไปอยู่ในสภาพนั้นล่ะ?”
เมื่อมาซาฮิโกะถามคําถามนี้ ฮาชิรามะ ก็ตอบด้วยความสับสนเล็กน้อยว่า “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน…จู่ๆเขาก็เหมือนเป็นบ้าขึ้นมา! เขาโจมตีผมขณะที่เรากําลังเดินทางกลับหมู่บ้าน แล้วเขาก็เอาพูดว่าเขาเป็นอุจิฮะ”
“แต่นั่นมันเป็นไปไม่ได้ พ่อแม่ของเขาก็เป็นเซนจู แล้วผมก็ไม่รู้สึกถึงวิชาลวงตาเลยด้วย”
มาซาฮิโกะตกตะลึงทันที แล้วเขาก็พูดออกมาดังๆว่า “วิชาเทพต่างสวรรค์รึเปล่า?!”
ฮาชิรามะ ถามด้วยความงุนงงว่า “เทพอะไรเหรอครับ?”
“อ้า..ลืมไปเถอะ คิดไปคิดมาแล้วก็คงไม่น่าใช่” มาซาฮิโกะตอบปัดไป จากนั้นเขาก็คิดกับตัวเองว่า “หากหนึ่งในพวกอุจิฮะปลุกวิชานั้นขึ้นมาได้ พวกเขาคงไม่ใช่มันใส่โซระหรอก แต่พวกเขาน่าจะใช้กับฮาชิรามะ และจบสงครามนี้มากกว่า”
หลังจากนั้น มาซาฮิโกะ ก็นึกถึงอะไรบางอย่างเมื่อ 5 ปีก่อนที่คฤหาสน์ไดเมียว เขาจําได้ว่าเขาเห็นอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขาในเวลานั้นแต่เขาก็ลืมมันไปจนสนิท แต่ตอนนี้เขาจําได้ว่าผู้เข้าร่วมประชุมคนหนึ่งมาจากตระกูลคุรามะ และตระกูลนี้ก็ถูกพูดถึงเฉพาะในอนิเมะเท่านั้น
“ฮาชิรามะ ท่านเคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับตระกูลคุรามะบ้างรึเปล่า?”
ฮาชิรามะ คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “ตระกูลคุรามะ เหรอครับ? อืม…ผมเคยได้ยินมาว่าตระกูลนั้นตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแคว้นแห่งไฟ”
“แน่อยู่แล้ว” มาซาฮิโกะถอนหายใจ และไม่รู้ว่าเขาควรจะหัวเราะหรือร้องให้ดี
เขามักจะคิดว่าเขาทําอะไรบางอย่างผิดพลาดจึงทําให้เนื้อเรื่องเปลี่ยนแปลงไป แต่ตอนนี้เขาพบว่ามันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเลย “ไอบ้า โตเกียวทีวี! ฉันต้องมาวุ่นวายกับตัวละครที่แกสร้างอีกรู้ไหม…”
(โตเกียวทีวี คือ สตูดิโอที่สร้าง อนิเมชั่นของนารูโตะ)
มาซาฮิโกะ มองไปที่ฮาชิรามะ จากนั้นเขาก็อธิบายว่า “ตระกูลคุรามะนั้นไม่ได้แข็งแกร่ง แต่ทุกรุ่นจะมีบางคนที่สามารถปลูกขีดจํากัดสายเลือดขึ้นมาได้ และได้พลังที่สามารถควบคุมประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของผู้อื่นได้ซึ่งคล้ายกับวิชาลวงตาเป็นอย่างมาก”
ทันใดนั้น ฮาชิรามะก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “อ้า….โซระถูกควบคุมด้วยวิชานั้นเหรอครับ? ท่านปู่สามารถคลายวิชานั้นได้ไหมครับ?”
มาซาฮิโกะ ส่ายหัว “วิชาลวงตานี้จะคลายออกได้ก็ต่อเมื่อผู้ใช้วิชาคลายคาถาออกเองเท่านั้น เกรงว่าท่านต้องไปหาพวกเขาด้วยตัวเอง ท่านเป็นคนเดียวเท่านั้นที่สามารถทําให้พวกเขายอมคลายคาถาออกได้”
“ท่านพี่ เราเสียคนไป 500 คน มีผู้บาดเจ็บ 1,000 คน และอีก 12 คนบาดเจ็บสาหัส ผมเกรงว่าเราจะยังไม่สามารถเดินทางกลับไปที่หมู่บ้านได้ในตอนนี้ เราต้องดูแลผู้บาดเจ็บเหล่านี้เสียก่อน…”
หลังจากที่ โทบิรามะ พูดจบ เขาก็หันไปหามาซาฮิโกะ และพูดกับเขาว่า “ท่านปู่ ลูกศิษย์ทั้ง 3 คนของท่านปลอดภัยดี แต่ท่านก็ได้รับบาดเจ็บอยู่มากพอสมควร ผมคิดว่าท่านน่าจะพักก่อนดีกว่านะครับ…”
มาซาฮิโกะถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขานั่งพักอยู่ครู่หนึ่ง แต่จู่ๆเขาก็ลุกขึ้น
จากนั้นเขาก็กัดนิ้วตัวเองและตะโกนออกมาว่า “คาถาอันเชิญ!” ทันใดนั้นทากตัวใหญ่ก็ปรากฏออกมา
“ฉันฟื้นจักระกลับมาได้นิดนึงแล้ว พาผู้บาดเจ็บมาหาฉัน ฉันจะรักษาพวกเขาให้”
โทบิรามะ รู้สึกซึ้งใจเป็นอย่างมาก เขามองไปที่ฮาชิรามะ และพูดว่า “ท่านปู่ดูเหมือนเป็นผู้นําตระกูลเซนจูมากกว่าท่านอีกนะ ท่านพี่”
ฮาชิรามะไม่ได้พูดอะไรกลับไป เขาทําได้แค่เพียงแสยะยิ้มออกมา
จากนั้น 2 พี่น้องก็สั่งให้นินจาบางคนนําผู้บาดเจ็บมาที่ มาซาฮิโกะในทันที เมื่อเห็นผู้บาดเจ็บทั้งหมด มาซาฮิโกะก็พยักหน้าให้คัตสึยุ จากนั้น คัตสึยุก็แยกตัวออกเป็นตัวเล็กๆหลายตัวและเริ่มรักษาผู้บาดเจ็บ
20 นาทีต่อมา มาซาฮิโกะก็เรียกคัตสึยุกลับมาด้วยท่าทางที่เหนื่อยล้า ตอนนี้จักระของเขาหมดไปแล้ว
เขาเงยหน้ามองท้องฟ้า ขณะที่ฮาชิรามะ , โทบิรามะและลูกศิษย์ทั้ง 3 ยืนอยู่รอบๆตัวเขา จากนั้นดวงตาของเขาก็พร่ามัวและเขาก็พูดออกมาว่า “อ้า…เหมือนว่านี่จะเป็นจุดจบ…”
ยังไม่ทันพูดได้จบ ทันใดนั้นสายตาของมาซาฮิโกะก็มืดมิดแล้วเขาก็ล้มลงกับพื้นทันที
และสิ่งสุดท้ายที่เขาได้ยินคือ…
“ท่านปู่!”
“ท่านปู่!”
“อาจารย์!”
“อาจารย์!”
“อาจารย์!”