ตอนที่ 24 – ใจกลางของโลก
ในเรือนจำเงียบสงัด ทุกคนล้วนเดาออกอย่างเลือนรางว่ากัวหู่ฉานบุรุษศีรษะโล้นคนนี้หลังจากเข้ามาแล้วจะเกิดความขัดแย้งกับหลี่ซูถง ดังนั้นทุกคนล้วนคิดจะดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ณ ขณะนี้เอง กัวหู่ฉานมองตามสายตาของทุกคนแล้วตรงดิ่งมาหาหลี่ซูถง
เขาใช้เสียงดังกังวานกล่าวว่า “เราก็ไม่ต้องพูดจาอ้อมค้อมกันแล้ว ผมมาครั้งนี้ก็เพื่อวัตถุต้องห้ามหมายเลข ACE-005 คุณบอกผมมาว่ามันถูกเก็บรักษาไว้ที่ไหนในคุก ผมได้แล้วก็จะไป”
หลี่ซูถงตบแมวใหญ่บอกใบ้ให้มันไปอยู่ข้าง ๆ จากนั้นยิ้มแย้มอย่างอ่อนโยนว่า “อยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสต้องเกรงใจกันสักนิดถึงจะไม่เสียหายเอาง่าย ๆ นะ”
กัวหู่ฉานกล่าวอย่างไม่สนใจว่า “คุณเอาวัตถุต้องห้ามหมายเลข ACE-005 ให้ผม ผมย่อมจะเกรงใจคุณขึ้นมาบ้าง”
หลี่ซูถงอยากรู้ว่า “องค์กรโพธิ์ดำจู่ ๆ ก็สนใจวัตถุต้องห้ามขึ้นมาได้ยังไง ฟังจากน้ำเสียงของเธอ ฉันยังนึกว่าเธอเข้าร่วมกลุ่มตุลาการต้องห้ามซะแล้ว”
กัวหู่ฉานเดินช้า ๆ มาหยุดยืนเผชิญหน้ากับหลี่ซูถงห่างห้าเมตร “โพธิ์ดำเราอยากจะต่อต้านอสุรกายพวกนั้นย่อมไม่สามารถละทิ้งความช่วยเหลือทุก ๆ อย่าง เป้าหมายขององค์กรอัศวินคุณกับพวกเราอยู่คนละเส้นทางแต่จุดหมายเดียวกัน น่าจะเข้าใจสถานการณ์ของพวกเรา”
หลี่ซูถงยิ้มเอ่ยว่า “แต่เพราะอะไรถึงมาหาวัตถุต้องห้ามอันนี้ที่คุกหมายเลข 18 ก่อนล่ะ”
“ข่าวลือภายนอกบอกว่ากลุ่มการเงินตระกูลเฉินกับคุณทำข้อตกลงกัน ขอเพียงคุณสามารถเก็บรักษาและกำราบมันก็จะให้อิสรภาพเต็มที่แก่คุณในคุกหมายเลข 18 และวัตถุต้องห้ามที่ต้องให้คุณเก็บรักษาและกำราบด้วยตนเองจะต้องกล้าแกร่งเป็นพิเศษแน่” กัวหู่ฉานกล่าว
“เธอเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้ทำข้อแลกเปลี่ยนอะไรกับตระกูลเฉิน” หลี่ซูถงอธิบายอย่างใจเย็น “อย่าไปฟังข่าวลือแล้วตัดสินมั่ว ๆ เอาเองสิ”
ชิ่งเฉินฟังเงียบ ๆ ครั้งที่แล้วที่ได้เห็นคำว่ากลุ่มตุลาการต้องห้ามห้าคำนี้ยังเป็นในคลิปไกด์ของเหอเสี่ยวเสี่ยว
และกลุ่มตุลาการต้องห้ามก็เหมือนกับว่าจะคงอยู่เพื่อวัตถุต้องห้ามโดยเฉพาะ
เขาตระหนักว่าวัตถุต้องห้ามที่กัวหู่ฉานพูดถึงก็น่าจะเป็นสิ่งของที่ตนเองมาเสาะหา นั่นอาจจะเป็นภารกิจทดสอบของสังเวียนแห่งเงาที่ตนเองมีส่วนร่วม
ตอนนี้กัวหู่ฉานก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว “ACE-005 อยู่ไหน”
หลี่ซูถงส่ายหน้า “ฉันรู้ แต่ฉันจะไม่บอกเธอ”
“เพราะอะไร” กัวหู่ฉานก้าวอีกหนึ่งก้าว รอยสักคล้ายโทเท็มบนร่างของเขาถึงกับเหมือนจะมีชีวิตขึ้นมา ลวดลายขยับหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง
เสียงตงหนึ่งเสียง ทุกผู้คนล้วนรู้สึกว่าตอนที่ก้าวเท้าก้าวนี้แม้แต่พื้นดินก็สั่นไหวเล็กน้อย
หลี่ซูถงยิ้ม “ไม่เพราะอะไร เพราะฉันยังชอบ ACE-005 มากเลย”
นักโทษสามพันกว่าคนเริ่มก่อจลาจล พวกเขาอยู่ในเรือนจำหมายเลข 18 อย่างหดหู่มานานเกินไปแล้ว ที่ใดเมื่อไหร่ล้วนมีกำลังพลผู้คุมเฝ้ามองพวกเขา ระเบียบอันไร้รูปร่างคล้ายโซ่ตรวนที่ล่ามทุกคนไว้เหมือนกัน และตอนนี้…… เป็นความวุ่นวายที่สาบสูญไปเนิ่นนาน
ปืนเมทัลสตอม 72 กระบอกที่อยู่บนเพดานโดมเหล็กกล้า มี 36 กระบอกที่เริ่มหมุนอย่างว่องไวด้วยเหตุนี้
พวกนักโทษอุทานกันขึ้นมา แต่ก่อนจะอย่างไรก็ต้องก่อความรุนแรงกันครึ่งชั่วโมง หลังจากที่ผู้คุมจักรกลควบคุมเหตุการณ์ไม่อยู่ปืนเมทัลสตอมจึงจะเริ่มเคลื่อนไหว
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ยังไม่ทันให้พวกเขาก่อความรุนแรงขึ้นมาก็จะเริ่มเคลื่อนไหวเอาดื้อ ๆ แล้ว!
ขณะนี้ นอกเสียจากหลี่ซูถงกับหัวหู่ฉานที่อยู่ใจกลางวังวน มีเพียงชิ่งเฉินที่เงยหน้าขึ้นมองเพดานโดมเหล็กกล้าด้วยใจอันไร้ความคิดฟุ้งซ่าน
ในความปั่นป่วน ไม่มีคนสังเกตเห็นว่าเขาถอยหลังไปหลายก้าว จากนั้นหมุนตัวเดินไปยังอีกทิศทางหนึ่ง
พริบตานั้น กัวหู่ฉานย่ำเท้าไปข้างหน้าแล้วชกหมัดออกไปหนึ่งหมัด หมัดที่คล้ายระฆังทองแดงจู่โจมใส่หน้าหลี่ซูถงในพริบตา เคลื่อนไหวดุจสายฟ้าฟาด
สิ่งที่เคลื่อนไหวตามมาคือปากกระบอกของปืนเมทัลสตอม ทันใดนั้นเครื่องจักรกลอันเย็นเยียบ 36 กระบอกเริ่มถล่มยิงห่ากระสุน ดำเนินการปราบปรามนักโทษทุกคนของเรือนจำหมายเลข 18 อย่างไม่แบ่งแยก
ไม่ใช่กระสุนโลหะ ทว่าเป็นกระสุนยาง
ปืนเมทัลสตอม 36 กระบอกนี้ใช้เพื่อปราบปรามล้วน ๆ ส่วนอีก 36 กระบอกจึงเป็นเครื่องจักรสังหารหมู่อย่างแท้จริง
ภายใต้ห่ากระสุนยางดั่งสายฝน เหล่านักโทษล้วนถูกตีจนหมดสภาพ
กัวหู่ฉานสไตล์หมัดดุจสายฟ้า ในเรือนจำหมายเลข 18 ฝนฟ้าคะนอง
แต่พริบตาถัดมาหมัดนั้นจู่ ๆ ก็หยุดลง เห็นแค่หลี่ซูถงยกมือขึ้นตรงหน้าด้วยรอยยิ้มเต็มเปี่ยม หยุดยั้งพลังหมัดที่ลั่นครืนคราน
หลี่ซูถงยืนอยู่เบื้องหน้ากัวหู่ฉานไม่ขยับสักนิด มั่นคงดุจเขาชางซาน
เขาหันศีรษะกลับไป อยากจะดูว่าชิ่งเฉินเกิดเรื่องหรือไม่ จะอย่างไรเด็กหนุ่มนี้กับพวกเขาก็ไม่เหมือนกัน เป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น
แต่หลี่ซูถงตะลึงงันไปทันที
เพราะชิ่งเฉินที่อยู่ด้านหลังของเขาห่างไปสองเมตรกำลังนั่งอย่างสงบสุขข้าง ๆ โต๊ะกินข้าวที่เขานั่งในเวลาปกติ นั่นเป็นสถานที่ซึ่งเขามองดูท้ายเกมหมากรุกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ปืนเมทัลสตอม 36 กระบอกใช้กระสุนยางปราบปรามการการก่อความรุนแรงในเรือนจำโดยไม่แบ่งแยก วิถีกระสุนสานเข้าด้วยกันอย่างแน่นหนา ชิ่งเฉินกลับนั่งอยู่ในจุดบอดในการยิงโจมตีของวิถีกระสุนทั้งหมด
จุดบอดในการยิงโจมตีหนึ่งเดียวในเรือนจำหมายเลข 18
ฝนห่าใหญ่ซัดกระหน่ำ
แต่ไม่มีสักหยดที่ตกลงบนตัวของเด็กหนุ่ม
คล้ายกับว่าเด็กหนุ่มนั่นจึงเป็นใจกลางของโลก
…………
ฝนสีดำที่ตกลงมาจากเพดานโดมเหล็กกล้าค่อย ๆ ซาลง
นอกจากชิ่งเฉิน, เยี่ยหว่าน, กัวหู่ฉาน, หลี่ซูถง, หลินเสี่ยวเสี้ยว นักโทษทุกคนล้วนนอนคว่ำอยู่บนพื้นสานมือไว้ตรงท้ายทอยอย่างเจ็บปวด
ทุกคนปวดเมื่อยไปทั้งตัว มีบางคนที่นอนคว่ำลงไปช้าถึงกับถูกปืนเมทัลสตอมยิงใส่จนหน้าบวมเลือดกำเดาไหล
เทียบกับความอเนจอนาถของคนเหล่านี้ ชิ่งเฉินที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะกินข้าวอย่างปลอดภัยถึงกับมีบรรยากาศไร้ธุลีของผู้อยู่เหนือชีวิตปุถุชนเลย
ไม่รู้เพราะเหตุใด หลี่ซูถงรู้สึกมาตลอดว่าตนเองเห็นชัด ๆ ว่ารู้จักกับเด็กหนุ่มคนนี้ไม่กี่วันแต่ยิ่งมองยิ่งชมชอบ
สภาวะจิตใจและความสามารถของอีกฝ่ายล้วนไม่ใช่สิ่งที่คนรุ่นราวคราวเดียวกันจะสามารถครอบครอง
นี่ก็คือเงาที่ตระกูลชิ่งเลือกออกมาหรือ
ด้านของตนเองเมื่อไหร่ถึงจะสามารถหาผู้สืบทอดอย่างนี้ได้บ้างนะ
คิดถึงตรงนี้ เขาใช้มือจับหมัดของกัวหู่ฉานผลักออกไป การกระทำนี้ดูเหมือนขอไปที แต่ร่างของกัวหู่ฉานกลับถอยหลังไปห้าเมตรตรง ๆ จึงจะหยุดยืนได้อย่างมั่นคง
กัวหู่ฉานไม่บุ่มบ่ามอีก ทว่านั่งลงกับพื้นปรับลมหายใจ
การต่อสู้นัดนี้ตั้งแต่ต้นจนจบเขาเพียงทำให้ชุดไทเก็กสีขาวบนร่างอีกฝ่ายสั่นไหวอยู่หลายทีเท่านั้น
แต่ก่อนมีข่าวลืออยู่เสมอว่าหลี่ซูถงนับได้ว่าเป็นครึ่งเทพของยุคปัจจุบัน แต่วันเวลาที่อีกฝ่ายโด่งดังมันเนิ่นนานมาก ๆ แล้ว ถึงขนาดที่ว่ากัวหู่ฉานซึ่งเป็นยอดฝีมือรุ่นเยาว์ไม่เคยพบเห็นด้วยตาตนเองเลย
ครั้งนี้องค์กรโพธิ์ดำให้เขามาหาวัตถุต้องห้าม ACE-005 ที่เรือนจำหมายเลข 18 อีกอย่างคือดูว่าหลี่ซูถงในปัจจุบันนี้มีความแข็งแกร่งไปถึงระดับไหนแล้ว
ตอนนี้กัวหู่ฉานเข้าใจแล้วว่าความห่างชั้นระหว่างตนเองและหลี่ซูถงยังคงเป็นเช่นเดียวกับมีหุบเหวขวางกั้น
หลี่ซูถงละสายตาจากร่างของชิ่งเฉินหันมาทางกัวหู่ฉาน ยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ยังจะสู้ไหม”
บุรุษหัวโล้นที่โทเท็มทั่วร่างอยู่ในความสงบกล่าวด้วยน้ำเสียงอู้อี้ว่า “ไม่สู้แล้ว ๆ วางใจเถอะ ถึงคุณจะไม่พูดผมก็หาวัตถุต้องห้าม ACE-005 เจอได้”
ชิ่งเฉินรู้สึกว่าเจ้าโล้นคนนี้น่าสนใจนิดหน่อย
เห็นชัด ๆ ว่าเมื่อครู่ยังมีท่าทางอยากจะสู้จนเจ้าตายข้ารอด ตอนนี้กลับเป็นว่าจู่ ๆ ก็ยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว
อีกฝ่ายไม่ได้ดุดันอย่างที่มองเห็น หลังจากสู้เสร็จไปรอบหนึ่งกลับเหี่ยวแห้งขึ้นมา
การเปลี่ยนแปลงของทัศนคติก่อนและหลังมันใหญ่ไปหน่อยนะ
ทว่าสิ่งที่กัวหู่ฉานคิดคือ ในเมื่อหลี่ซูถงรู้ที่อยู่ของวัตถุต้องห้าม งั้นก็ติดตามอีกฝ่ายไป ถ้าเผื่ออีกฝ่ายหลุดปากพูดขึ้นมาสักครั้งล่ะ?
“ไม่เป็นไร ค่อย ๆ หานะ” หลี่ซูถงพยักหน้าอย่างไม่เก็บมาใส่ใจ
เขาไม่แคร์กัวหู่ฉานอีกต่อไป ทว่าเดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวตรงข้ามกับชิ่งเฉิน “ตำแหน่งนี้คำนวณออกมาเหรอ”
ชิ่งเฉินส่ายหน้า “ความสามารถในการคำนวณของผมถึงเทียบกับคนทั่วไปจะแกร่งกว่าไม่น้อย แต่ในระยะเวลาจำกัดก็ไม่มีทางคำนวณวิถีกระสุนขนานใหญ่อย่างนี้ออก ได้แต่เดาเอาคร่าว ๆ”
หลี่ซูถงก็ส่ายหน้า “เดาคร่าว ๆ ไม่พอจะช่วยให้เธอหาตำแหน่งนี้พบอย่างแม่นยำขนาดนี้หรอก”
“การคำนวณสั้น ๆ ทำให้ผมล็อคพื้นที่ได้ 4 ที่ และตำแหน่งที่คุณต้องนั่งอยู่ทุกวันก็เผอิญอยู่ในตัวเลือกนี้ ดังนั้นอันที่เหลือก็ไม่ต้องสนแล้ว” ชิ่งเฉินกล่าวอย่างสงบนิ่ง
ชิ่งเฉินนั่งที่นี่เป็นการเดิมพัน แต่เขาเดิมพันถูกอีกแล้ว
คำถามปรนัยที่อาศัยความน่าจะเป็นและการประเมินประเภทนี้เขาทำได้ดีมากมาโดยตลอด
…………………….
ตอนที่ 25 – ฝันร้ายอันใหม่