“ผมรู้ว่าคุณเศร้าใจมาก แต่ผมหวังว่าคุณจะดีขึ้นนะ”
“อีกอย่างผมคิดว่าคุณลุงก็รู้สึกผิดเหมือนกันนะที่ไล่คุณออกมาและความเข้าใจผิดที่มีต่อคุณปู่ของคุณ เพียงแต่ว่าตอนนี้แกยังยอมรับความจริงไม่ได้เท่านั้น”
“เชื่อผมสิ อีกไม่นานคุณลุงก็จะคิดได้เอง”
หม่าชาวพยายามปลอบใจอ้ายหลิน
อ้ายหลินยิ้มอย่างขมขื่นแล้วส่ายหัวพูดว่า “ต่อให้แกคิดได้ แกก็คงคิดจะใช้ประโยชน์จากฉันก็เท่านั้น?”
ในขณะนั้น หม่าชาวไม่รู้จะตอบยังไงอีก
“คุณไม่ต้องห่วงหรอก ฉันก็แค่ไม่สบายใจหน่อย เดี๋ยวฉันก็ดีขึ้นเอง”
อ้ายหลินยิ้มพูด
รถยังคงแล่นไปตลอดทางและมุ่งหน้าไปยังบ้านของหยางเฉินอย่างรวดเร็ว
ในขณะนั้น เสียงโทรศัพท์ของอ้ายหลินก็ดังขึ้น และเมื่อเธอเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามานั้นเธอก็รู้สึกแปลกใจทันที เพราะเป็นสายเรียกเข้าจากอ้ายหมิงซวี่
โดยเหตุผลแล้ว อ้ายหมิงซวี่เพิ่งขับไล่เธอออกจากบ้านตระกูลอ้าย ดังนั้นเขาไม่มีทางติดต่อหาเธอเร็วขนาดนี้ นอกเสียจากเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
แม้อ้ายหลินจะรู้สึกสับสน แต่เธอก็กดรับสายอย่างไม่ลังเลใดๆ และทันทีที่รับสาย เสียงพูดของอ้ายหมิงซวี่ก็ดังขึ้น “แกไปถึงไหนแล้ว?”
“เกิดอะไรขึ้น?”
อ้ายหลินถามกลับทันที
แม้เธอจะผิดหวังในตัวของอ้ายหมิงซวี่มาก แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพ่อแท้ๆ ของเธอ ซึ่งความสัมพันธ์แบบนี้มันยากที่จะเกลียดชังกันจนเข้ากระดูก
“เมื่อกี้คนของตระกูลเถียนเพิ่งติดต่อมา เขาให้ข้าพาตัวแกกับหม่าชาวไปที่บ้านตระกูลเถียนภายในครึ่งชั่วโมง ถ้าไม่ไปตามที่พูด หลังจากคืนนี้ตระกูลอ้ายของเราก็จะไม่มีอยู่ในเยี่ยนตูอีก!”
อ้ายหมิงซวี่ยังคงพูดด้วยความโกรธ
อ้ายหลินรู้ดีว่าตระกูลเถียนจะไม่ปล่อยตระกูลอ้ายไปง่ายๆ อย่างแน่นอน แต่ไม่คิดเลยว่าตระกูลเถียนจะติดต่อตระกูลอ้ายเร็วขนาดนี้
“พ่อไม่ต้องห่วงหรอก เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลอ้ายอยู่แล้ว เดี๋ยวพวกเราจะจัดการเอง”
อ้ายหลินพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น จากนั้นเสริมอีกคำว่า “แล้วก็ ภายในครึ่งชั่วโมง หนูจะไปถึงบ้านตระกูลเถียนอย่างแน่นอน”
“แกเข้าใจที่ข้าพูดไหม? ตระกูลเถียนจะให้ข้าเอาชีวิตของพวกแกสองคนไปให้พวกเขา!”
“เพราะไอ้แฟนงี่เง่าของแก มันนำพาหายนะครั้งใหญ่มาให้กับตระกูลอ้ายของเรา!”
“ตอนนี้ มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะช่วยเหลือตระกูลอ้ายให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ เราต้องพึ่งพาตระกูลใหญ่อย่างตระกูลซุน ซุนซวี่เจ้าบ้านซุนบอกกับเราแล้ว ขอแค่แกยอมแต่งงานกับลูกชายคนสุดท้องของเขา ตระกูลซุนก็จะตกลงช่วยตระกูลอ้ายของเราในการต่อกรกับตระกูลเถียน”
น้ำเสียงของอ้ายหมิงซวี่นั้นไร้อารมณ์ความรู้สึกมาก ซึ่งดูเหมือนว่าเขากำลังบังคับให้ทำตามและพูดอย่างเย็นชาว่า “ข้ารับปากเรื่องการแต่งงานกับเจ้าบ้านซุนไปแล้ว ตอนนี้แกไปที่สำนักงานจดทะเบียนแล้วไปขอทะเบียนสมรสก่อน”
“ขอแค่รับทะเบียนสมรสมา ตระกูลซุนก็จะยอมช่วยออกหน้าแทนตระกูลอ้ายของเรา ภายในครึ่งชั่วโมง ห้ามเกินจากนี้นะ แกรีบไปสำนักงานจดทะเบียนเดี๋ยวนี้ เพราะคนของตระกูลซุนรออยู่ที่นั่นแล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดของอ้ายหมิงซวี่ อ้ายหลินก็แทบจะทำอะไรไม่ถูก
เดิมทีคิดว่าอ้ายหมิงซวี่โทรหาเธอเพียงเพราะจะให้เธอกับหม่าชาวตามเขาไปที่บ้านตระกูลเถียน แต่ไม่คิดเลยว่าอ้ายหมิงซวี่กลับให้เธอไปแต่งงานกับคนของตระกูลซุนโดยที่ปราศจากความยินยอมของเธอ
ที่สำคัญ เธอรู้ว่าซุนฉิ้นหยางลูกชายคนสุดท้องของซุนซวี่นั้นเป็นคนสติไม่ดี
และในวันนี้ พ่อของเธอกลับให้เธอไปแต่งงานกับคนสติไม่ดี และที่สำคัญกว่านั้นคือ พ่อของเธอรู้ว่าเธอได้หมั้นกับหม่าชาวและกำลังจะแต่งงานกันในปลายปีนี้แล้ว
“หนูพูดชัดเจนแล้วนะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับครอบครัวตระกูลอ้าย และพวกหนูจะจัดการเรื่องนี้เอง”
“อีกอย่าง หนูถูกพ่อไล่ออกจากบ้านตระกูลอ้ายแล้ว แต่ตอนนี้พ่อกลับบังคับให้หนูไปแต่งงานกับตระกูลซุน พ่อคิดอะไรอยู่?”
“หนูมีคนที่หนูรักแล้ว ในชีวิตนี้หนูจะไม่แต่งงานกับคนอื่น ต่อให้พ่ออยากให้หนูไปแต่งงานกับใครเพื่อหวังผลประโยชน์ รู้ไว้ด้วยว่าหนูจะไม่ยุ่งด้วยเด็ดขาด!”
อ้ายหลินพูดด้วยความโกรธและถึงขั้นตะโกนออกมา
“ต่อให้แกจะถูกไล่ออกจากบ้านไปแล้ว แต่แกก็คือลูกสาวของข้าอ้ายหมิงซวี่ และชีวิตของแกก็มาจากข้า!”
“อีกอย่างแกเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ ฉะนั้นคนที่ต้องรับผิดชอบก็คือแก”
“ภายในครึ่งชั่วโมง ถ้าแกยังไปไม่ถึงสำนักทะเบียน ถึงเวลานั้นศัตรูของตระกูลอ้ายจะไม่ใช่แค่ตระกูลเถียนอีกเท่านั้น ยังมีตระกูลซุนเพิ่มมาอีกหนึ่งตระกูลด้วย”
“หรือว่าแกจะปล่อยให้ตระกูลอ้ายต้องพังพินาศเพราะแกงั้นเหรอ?”
อ้ายหมิงซวี่ก็ตะโกนอย่างเสียงดัง
อ้ายหลินถึงกับหมดอาลัยตายอยาก สำหรับการกระทำของอ้ายหมิงซวี่นั้น มันเหนือความคาดหมายของเธอแล้วจริงๆ และมันก็เป็นประสบการณ์รันทดใหม่ที่เธอได้เจออีกด้วย
แม้เธอจะถูกไล่ออกจากบ้าน แต่เธอไม่เคยบ่นอ้ายหมิงซวี่เลยสักคำ เพราะเธอเข้าใจดีว่าอ้ายหมิงซวี่นั้นทำเพื่อครอบครัว
แต่ที่สิ่งที่อ้ายหมิงซวี่ทำในตอนนี้ มันเหมือนกับการผลักเธอเข้าไปในหลุมไฟ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเธอไปตายที่บ้านตระกูลเถียน หรือให้เธอไปแต่งงานกับคนของตระกูลซุน
“พ่อพูดถูก พ่อเป็นคนที่มอบชีวิตให้กับหนู แต่ถึงอย่างนั้น หนูจะไม่ทำตามที่พ่อพูดอีก แต่แน่นอน ถ้าพ่อจะขอชีวิตหนูคืน หนูคืนให้พ่อได้”
เมื่อพูดจบอ้ายหลินก็ตัดสายทิ้งทันที
หม่าชาวที่กำลังขับรถอยู่ก็โกรธจนลุกเป็นไฟ แต่จะทำอะไรได้ เพราะคนที่เขาอยากฆ่าที่สุดกลับเป็นพ่อของผู้หญิงที่เขารักที่สุด
“คุณไม่ต้องห่วงหรอกนะ ตระกูลซุนทำอะไรตระกูลอ้ายไม่ได้ ตระกูลเถียนก็เหมือนกัน!”
หม่าชาวพูดอย่างเคร่งขรึม
เมื่อมองไปที่ชายที่จริงจังคนนี้ ทันใดนั้นอ้ายหลินก็รู้สึกเหมือนได้เจอกับความหวังในชีวิตของเธอ
ในเวลาเดียว ณ บ้านตระกูลอ้าย
อ้ายหมิงซวี่ที่ถูกอ้ายหลินตัดสายทิ้งเขาก็รีบกดโทรออกอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับเป็นข้อความเสียงอัตโนมัติ ‘เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้’
อ้ายหมิงซวี่ตื่นตระหนกมาก แค่ตระกูลเถียนก็แทบจะทำให้เขาบ้าตายอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยังมีครอบครัวตระกูลซุนอีก
ภายในครึ่งชั่วโมง ครอบครัวตระกูลอ้ายจะเผชิญหน้ากับครอบครัวตระกูลเถียน ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงครอบครัวตระกูลซุนอีกด้วย
จนกระทั่งถึงเวลานี้ เขาถึงตระหนักได้ว่าเขาขาดความสามารถและจนปัญญาแล้วจริงๆ
เขาขอแค่ติดต่ออ้ายหลินได้และได้รับความยินยอมจากเธอ จากนั้นให้เธอแต่งงานกับตระกูลซุนเท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจจะสร้างศัตรูกับใครเพิ่มเลย
กล้ามีเรื่องกับสองในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูในเวลาเดียวกันแบบนี้ เกรงว่าจะไม่มีตระกูลไหนกล้าทำอีกแล้ว?
“เจ้าบ้านครับ ท่านไม่ควรติดต่อตระกูลซุนก่อนที่จะได้รับการยินยอมจากอ้ายหลินเลยนะครับ”
พ่อบ้านของตระกูลอ้ายพูดขึ้น “แฟนของอ้ายหลินมีอิทธิพลมาก แม้แต่ตระกูลหวงยังเอาเขาไม่อยู่เลย ไม่แน่ครั้งนี้ก็อาจสร้างปาฏิหาริย์ได้ เราควรวางใจอ้ายหลินว่าเธอสามารถจัดการเรื่องนี้ได้นะครับ”
“หุบปาก!”
อ้ายหมิงซวี่โกรธมาก “ข้าจะพิสูจน์ให้เห็นว่าข้าสามารถทำให้ตระกูลอ้ายอยู่รอดไปได้โดยที่ไม่มีพวกมัน!”
หลังจากนั้น เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรออก และเมื่อสายโทรติด เขาก็พูดอย่างเร่งรีบว่า “เจ้าบ้านซุน ต้องขออภัยด้วยนะครับ ลูกสาวไม่เอาไหนของผม ถูกผมไล่ออกจากบ้านไปแล้ว ท่านครับ หรือไม่ให้ผมหาผู้หญิงคนอื่นในตระกูลอ้ายของผมไปแทน……”
“หุบปากซะ!”
ก่อนที่อ้ายหมิงซวี่จะพูดจบ ซุนซวี่ก็ขัดจังหวะเขาทันที “ที่ผมต้องการคือลูกสาวคุณมาแต่งงานกับลูกชายผม แต่ตอนนี้คุณจะหาคนอื่นมาแทน แล้วคุณหมายความว่ายังไง?”
“ในเมื่อตระกูลอ้ายกล้าล้อเล่นกับความรู้สึกของตระกูลซุนของผม ถ้าอย่างนั้นอย่าหาว่าผมไม่สุภาพก็แล้วกันนะ คอยดู ผมจะพาคนไปที่บ้านตระกูลอ้ายของคุณเดี๋ยวนี้!”
ซุนซวี่พูดจบก็ตัดสายทิ้งทันที
ส่วนอ้ายหมิงซวี่ถึงกับเข่าอ่อนและทรุดลงกับพื้นทันที จากนั้นเขาก็พูดด้วยใบหน้าอันเศร้าหมองว่า “ตระกูลซุนก็จะมาหาเราที่บ้านตระกูลอ้ายด้วย อย่าบอกนะว่าวันนี้เป็นวันพินาศของตระกูลอ้ายของเราจริงๆ?”