นี่คือภาพติดตาที่เค้าทิ้งไว้! เมื่อมองด้วยตาเปล่ามันก็ไม่มีทางที่จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเค้าคือเทพ!
“วู้วววววว!”
พลังปราณในมือของฮั่วป้าว “หวด” เค้าใช้มันโจมตีเข้าไปที่ฉินเฉิง!
ในขณะที่ฉินเฉิงเอื้อมมือออกไปนี้เอง เค้าก็คว้าเข้าไปในอากาศเปล่า!
“หวด หวด หวด!”
ฮั่วป้าวรีบยกมือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มันยากที่จะจับได้!
ความเร็วที่รวดเร็วมากนี้เอง มันไม่ได้ส่งผลต่อพลังของหมัดเลย ทุกหมัดที่ชกออกมา มันก็ทำให้ร่างของฉินเฉิงเซ
เมื่อมองไปรอบๆ ร่างกายของฉินเฉิงยังคงหมุนวนอยู่ในวงกลมนี้ มันเป็นอะไรที่น่าตลกมาก
“ความเร็วของฉันไม่มีใครในโลกเทียบได้ ฉินเฉิง แกยังแตะต้องตัวฉันไม่ได้เลยแล้วแกจะเอาชนะฉินได้ยังไง?” ฮั่วป้าวเยาะเย้ยขึ้นมา
ฉินเฉิงส่ายหัว ในตอนนี้เอง จู่ๆร่างกายของเค้าก็กระแทก”หวด” เค้าวิ่งกระโจนเข้าไปในวงกลมนี้!
ด้วยเสียง”ปัง”ที่ดังขึ้นมา ร่างกายของฮั่วป้าวก็ถูกกระแทกเข้าไปโดยตรง!
หลังจากนั้น ฉินเฉิงก็ย่อตัวลงแล้วรีบพุ่งเข้าไปที่ร่างของฮั่วป้าว ภายในกระบวนท่าเดียว เค้าก็ยกมือขึ้นแล้วบีบคอฮั่วป้าวแล้วยกขึ้นไปในอากาศ
“มีความสามารถแค่นี้เองเหรอ?” ฉินเฉิงส่ายหัว “ฉันเข้าใจผิดคิดว่าแกจะมีฝีมือนะ ด้วยความเร็วอย่างเดียวแกไม่สามารถที่จะเอาชนะฉันได้หรอกนะ”
ฉินเฉิงบีบคอของฮั่วป้าวแล้วยกเค้าขึ้นไปในอากาศ
ความเร็วของเค้าในตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เค้าทำได้เพียงแค่ดิ้นรนอย่างสิ้นหวังเท่านั้น
ฉินเฉิงถอนหายใจ: “ตระกูลซูอุส่าหาคนแบบแกมา ทำไมถึงยอมร่วมมือให้โดนจับแบบนี้ได้หละ?”
ในตอนนี้เอง ฮั่วป้าวก็อ้าปากขึ้นมา จากนั้นจุ่ๆเค้าก็พ่นไฟออกมาจากปาก!
เปลวเพลิงนี้ มันดูราวกับว่ามันมีชีวิต มันดูราวกับงูไฟที่ปกคลุมร่างของฉินเฉิง จากนั้นก็ค่อยๆคืบคลานเข้ามา!
“หึ!”
ร่างกายของฉินเฉิงถูกไฟไหม้ด้วยงูไฟ ความเจ็บปวดที่ร้อนแรงมันก็พุ่งโพยเข้ามาในทันที
“ฮ่าฮ่า” ร่างของฮั่วป้าวก็ล้มลงกับพื้น เค้าเยาะเย้ยแล้วพูดว่า: “แกคิดว่าฉันมีเพียงแค่ความเร็วอย่างงั้นเหรอ? ในชื่อของฉันมันยังมีคำว่าฮั่วที่แปลว่าไฟอยู่นะ?”
ฉินเฉิงมองลงไปที่ร่างกายของตัวเองแล้วพูดด้วยความประหลาดใจว่า: “นี่คือ… เพลิงแห่งจิตวิญญาณ?”
“แกเองก็รู้สึกเพลิงแห่งจิตวิญญาณอย่างงั้นเหรอ?” สีหน้าของฮั่วป้าวเปลี่ยนไปเล็กน้อย
หลังจากได้รับคำตอบแล้ว ในที่สุดฉินเฉิงก็แสดงรอยยิ้มขึ้นมาบนใบหน้าของเค้า
“คิดไม่ถึงเลยว่าแกจะส่งเพลิงแห่งจิตวิญญาณมาให้ฉัน ขอบใจมากนะ” ฉินเฉิงยิ้มแล้วพูดขึ้นมา
ทันทีที่เสียงหายไป ฉินเฉิงก็กำจัดใช้ร่างกายของตัวเองเก็บเพลิงแห่งจิตวิญญาณเข้าไป เค้าใช้เพียงแค่ร่างกายเท่านั้นในการยุติเพลิงแห่งจิตวิญญาณ
ฮั่วป้าวขมวดคิ้วแล้วพูดเบาๆขึ้นมาว่า: “ทำไมเพลิงแห่งจิตวิญญาณนี้ทำอะไรมันไม่ได้เลย?”
ฉินเฉิงเยาะเย้ยแล้วพูดว่า: “การใช้เพลิงแห่งจิตวิญญาณของแก มันเสียเปล่าประโยชน์”
เมื่อฮั่วป้าวได้ยินแบบนี้ เค้าก็โกรธจัดแล้วพูดว่า: “แกประเมินฉันต่ำไป! คอยดูเลย ฉันจะเผาแกให้เป็นเถ้าถ่านซะ!” จากนั้นมันก็มีมังกรเพลิงสองตัวที่กระโจนออกมา!
เท้าของมังกรเพลิงนี้หนากว่าครึ่งเมตร มันพุ่งกระโจนขึ้นไปในอากาศแล้วกลืนหัวของฉินเฉิงจากบนลงล่าง!
ฉินเฉิงถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชา ในมือของเค้ามันก็ห้อมล้อมไปด้วยเปลวเพลิงสีเขียว!
หลังจากนั้น ฉินเฉิงก็เหยียดมือออกแล้วคว้าคอของมังกรเพลิงทั้งสองไว้!
“ตูม!”
มังกรเพลิงทั้งสองถูกบีบอยู่ในกำมือของฉินเฉิง! ฮั่วป้าวไม่มีเวลาที่จะตัดสินใจอีกต่อไป แสงสีดำทองในหมัดของฉินเฉิงก็ปรากฎขึ้นมา!
ความรู้สึกอันตรายมันก็ปรากฎขึ้นมา สีหน้าของฮั่วป้าวก็เปลี่ยนไป เค้าหันหลังแล้วต้องการที่จะวิ่งหนี! ไปที่ https://th.readeraz.com เพื่ออ่านเนื้อหาใหม่ล่าสุดทุกคน!
ในตอนนี้เอง ฉินเฉิงก็ผายมืออีกข้างหนึ่งออกมา แรงดูดที่ทรงพลังราวกับใยแมงมุม มันก็โยงเข้ากับร่างของฮั่วป้าวในทันที จากนั้นมันก็กระชากร่างของฮั่วป้าวเข้ามาหาฉินเฉิง!
เทคนิคนี้ นี่เป็นครั้งที่สองที่ฉินเฉิงใช้มัน
ครั้งแรกคือตอนที่เค้าใช้มันเพื่อจัดการกับโจวติ่ง ครั้งที่สองคือในตอนที่จัดการกับฮั่วป้าว!
ฮั่วป้าวพยายามอย่างสุดความสามารถ ที่หน้าผากของเค้ามันก็เต็มไปด้วยเหงื่อ แต่มันก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย พลังนี้มันรุนแรงมากจนเค้าไม่สามารถหลุดพ้นจากมันไปได้เลย!
“ตูม!”
เมื่อฉินเฉิงกระชากร่างของเค้ากลับเข้ามา หมัดที่ทรงพลังของเค้าก็ชกเข้าไปที่หน้าอกของฮั่วป้าวในทันที!
ฉินเฉิงคว้าแขนของฮั่วป้าวมาแล้ว “ฉวก” ดึงมันออก!
หลังจากนั้น ฉินเฉิงยกเท้าขึ้นแล้วเตะเข้าไปที่ต้นขาของเค้า
ต้นขาทั้งสองก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ!
“โอ้ยยยย!” ความเจ็บปวดนี้ทำให้ฮั่วป้าวกรีดร้องออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า เค้าสูญเสียแขนขาทั้งสี่ไป เค้าไม่สามารถที่จะต่อต้านหรือหลบหนีไปได้เลย
“ขอถามอะไรหน่อย” ฉินเฉิงนั่งลงตรงหน้าเค้าแล้วถามขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ที่แกบอกว่านักล่าเงินรางวัลนั่นมันคืออะไรกัน?”
ฮั่วป้าวก็พูดด้วยตื่นตระหนกว่า: “ถ้าฉันบอกแกแล้ว แกจะไว้ชีวิตฉันไหม”
ฉินเฉิงส่ายหัวแล้วพูดว่า: “ฉันจะทำให้การตายของแกมันง่ายขึ้น”
สีหน้าของฮั่วป้าวเปลี่ยนไป เค้าอาศัยความเร็วอันยอดเยี่ยมของตัวเองทำงานยากๆมานับไม่ถ้วน ต่อให้เค้าไม่สามารถเอาชนะได้ เค้าก็ใช้ความเร็วนี้หลบหนีได้
แต่วันนี้เกรงว่าจะต้องมาตายที่นี่
“ช่างมันเถอะ ฉันขี้เกียจจะถามแกแล้ว” ในตอนที่ฮั่วป้าวกำลังจะพูดนี้เอง จู่ๆฉินเฉิงก็โบกมือขึ้นมา
“นักล่าเงินรางวัลอะไรกัน ใช้ตูดคิดก็ยังคิดไม่ออกอีกเหรอ” ฉินเฉิงส่ายหัว จากนั้นเค้าก็ยกมือขึ้นแล้วจับไปที่หัวของฮั่วป้าวดัง “ผั๊วะ”
“หวด หวด หวด!”
พลังงานปราณของฮั่วป้าวก็ ไหลเข้าสู่ร่างกายของฉินเฉิงผ่านทางหัวของเค้า
“ปล่อยฉัน…” ฮั่วป้าวพูดขึ้นมาอย่างเจ็บปวด “ฉันจะยกเพลิงแห่งจิตวิญญาณให้นาย…”
“โอ้?” เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินเฉิงก็หยุดในทันที
เค้าก้มลงแล้วเอามือลูบไปที่คางแล้วพูดว่า: “ต้องบอกเลยว่า สิ่งนี้ของแกทำให้ฉันสนใจ”
ใบหน้าของฮั่วป้าวก็เต็มไปด้วยเหงื่อและความเจ็บปวด มันราวกับการถูกถลกหนังออกจากกระดูก มันไม่ง่ายเลยที่จะตื่นขึ้นมาภายใต้ความเจ็บปวดที่รุนแรงนี้
หลังจากนั้น จิตของฮั่วป้าวก็ขยับแล้วเปลวเพลิงก็ลอยออกมาจากคิ้วของเค้า
“นี่คือที่มาของเพลิง” ฮั่วป้าวพูดขึ้นมาอย่างยากลำบาก
ฉินเฉิงยกมือขึ้นมาแล้วหยิบเปลวเพลิง จากนั้นก็ถามขึ้นมาอย่างจริงจังว่า: “ฉันจะดูดซับมันได้ยังไงกัน”
ฮั่วป้าวชี้ไปที่คิ้วของฉินเฉิงแล้วพูดว่า: “ให้พลังแห่งจิตศักดิ์สิทธิ์ห่อหุ้มมันไว้”
สีหน้าของฉินเฉิงก็เย็นชาลง เค้าพูดขึ้นมาว่า: “แกไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม?”
“ฉันสาบาน สิ่งที่ฉันพูดเป็นความจริง!” ฮั่วป้าวก็รีบอธิบายขึ้นมาอย่างร้อนใจ
ฉินเฉิงส่งเสียงอืมขึ้นมาแล้วพลังแห่งจิตศักดิ์สิทธิ์ก็ลอยออกมาจากกลางคิ้วและเชื่อมโยงเข้ากับเพลิงแห่งจิตวิญญาณนี้
ทันใดนั้นเอง ฉินเฉิงก็รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวขึ้นมา!
หัวของฉินเฉิงดูราวกับถูกแทงแล้วความเจ็บปวดนี้เอง มันก็ทำให้เค้า “ตุบ”ล้มกระแทกลงไปที่พื้น!
“โอ้ยยยยย…” ฉินเฉิงแทบสั่นสะท้านไปทั้งตัว เค้าสั่นอยู่บนพื้นไม่หยุด
“แกกล้า… กล้าหลอกฉันอย่างงั้นเหรอ?” ฉินเฉิงจ้องไปที่ฮั่วป้าวอย่างดุเดือด
ฮั่วป้าวเยาะเย้ยแล้วพูดว่า: “ฉันไม่ได้หลอกแก การที่แหล่งกำเนิดเพลิงจะถูกหลอมรวมกันมันก็เป็นแบบนี้แหละ น่าเสียดายที่แกโง่เกินไปที่จะหลอมรวมแหล่งกำเนิดเพลิงนี้ได้ แล้วยังจะมาให้โอกาสฉันอีกเหรอ? แกไม่รู้หรือว่าแหล่งกำเนิดเพลิงเมื่อมันผสานเข้ากับพลังแห่งจิตศักดิ์สิทธิ์แล้ว แกจะสูญเสียพลังไปในทันที”
หลังจากนั้น ฮั่วป้าวก็ตะกายขึ้นไปหาฉินเฉิงอย่างยากลำบากแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า: “ตอนนี้ชีวิตของแกมันเป็นของฉันแล้ว!”