บทที่ 190
ผู้หญิงแบบมู่หรงเสวี่ย
มู่หรงเสวี่ยผ่านการทดสอบและหลงอี้ก็ได้รับข่าวแล้ว เขาแสดงท่าทางสนใจและรีบเข้าไปพบฮวงฟูอี้ที่อารมณ์ไม่ดีอยู่ทันที
“นายหัวเราะอะไร? น่าเกลียดจริงๆ!”
ก่อนที่รอยยิ้มที่มุมปากของหลงอี้จะได้เผยออกมาเต็มที่ เขาก็ต้องหยุดเพราะคำพูดของดราก้อนมาสเตอร์ซะก่อน แม้แต่จะยิ้มก็ยังทำไม่ได้ อยากจะบ้าตาย เดี๋ยวนี้เป็นแบบนี้ตลอดเลย!!!
“ดราก้อนมาสเตอร์ คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้ยิ้ม…” อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเดินมาถึงดราก้อนมาสเตอร์ เขาก็ต้องหยุดอาการร่าเริงแบบก่อนหน้านี้ซะ
อย่างไรก็ตามฮวงฟูอี้มองมาที่เขาด้วยสายตารังเกียจ “นายนี่น่ารังเกียจมากจริงๆ ถอยหลังไปให้ห่างฉันอีกสามก้าวเลย…สิบก้าวไปเลย…”
หลงอี้เดินถอยหลังไปทีละก้าว จนกระทั่งชนกับกำแพงแล้วจึงพูดออกไปด้วยรอยยิ้มฝืนๆ “ดราก้อนมาสเตอร์ครับ แค่หกก้าวก็ชนกำแพงแล้วนะครับ…”
ฮวงฟูอี้กำเอกสารที่อยู่ในมือและโยนมาที่หลงอี้ “ถ้านายชนกำแพงแล้วงั้นก็ขุดอุโมงค์แล้วถอยออกไปอีก…”
หลงอี้อยากที่จะบอกว่าเขาไม่ถอย อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นท่าทางรุนแรงของฮวงฟูอี้ เขาก็ตัดสินใจกดไปที่ปุ่มที่กำแพงและวิ่งออกไป ปล่อยให้ดราก้อนมาสเตอร์เสียสติอยู่คนเดียว
ฮวงฟูอี้ปัดกองเอกสารที่อยู่บนโต๊ะด้วยมือข้างเดียว ในใจเขารู้สึกไม่ค่อยสบาย เขาเป็นอะไรกันแน่
ก็แค่ผู้หญิงคนเดียว ในโลกนี้มีผู้หญิงอีกตั้งมากมายและหนึ่งในพวกนั้นก็สวยมากกว่าเธออีกด้วย ฮวงฟูอี้มีสายตาเย็นชาแล้วจึงเรียกหลงอี้เข้ามา
“ดราก้อนมาสเตอร์ มีอะให้ผมรับใช้ครับ?” หลงอี้ก้มหัวแล้วโค้งตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อที่ดราก้อนมาสเตอร์จะได้ไม่เห็นความผิดพลาดของเขา
“ไป หาผู้หญิงมาหน่อย!” ฮวงฟูอี้พูดออกไปอย่างเหลืออด
“ผู้หญิงเหรอฮะ?” หลงอี้เสียการควบคุมและพูดออกไปเสียงสูง
ฮวงฟูอี้โยนกองเอกสารมาอีกกอง “หูหนวกหรือไง!? ต้องให้ฉันช่วยให้นายได้ยินชัดขึ้นไหม?”
“ไม่ ไม่ครับ! ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลย…” หลงอี้รีบวิ่งออกไปอีกครั้ง
บ้าจริง ดราก้อนมาสเตอร์ในตอนนี้ควรที่จะอยู่ให้ห่างจริงๆ ตอนนี้เขาอยู่ในโหมดเผด็จการที่บ้าคลั่งมากจริงๆ อาจจะสั่งให้ใครไปตายก็ได้ ในระหว่างที่หลงอี้กำลังเดินออกมาในหัวใจก็พร่ำบ่นไปเรื่อย เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับดราก้อนมาสเตอร์ ก่อนหน้านี้เขาหาผู้หญิงมาให้เขามากมาย พวกเธอต่างก็สวยกันทั้งนั้น แต่เขาก็ไม่เคยให้พวกเธอเข้าไปในห้องใกล้กว่าหนึ่งเมตรเลย แต่ตอนนี้กลับมราจะเรียกหา
อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้ว่าคุณมู่หรงเสวี่ยจะมีท่าทียังไงเมื่อได้เห็นดราก้อนมาสเตอร์
เมื่อหลงอี้คิดได้แบบนี้เขาก็รู้สึกว่าในอนาคตจะต้องมีเรื่องที่น่าสนใจเกิดขึ้นแน่ ตอนนี้ช่วงเวลาที่ไร้ซึ่งความสุขที่เขาต้องคอยถูกทำร้ายได้กลับมาอย่างสมบูรณ์อีกครั้งแล้ว
ที่ดราก้อนพาวิลเลี่ยนเต็มไปด้วยผู้หญิงสวยๆมากมาย ในเมื่อฮวงฟูอี้ยังเป็นเด็ก ดังนั้นสาวสวยมากมายถึงถูกเลือกและได้รับการฝึกมากอย่างดี ตอนนี้ในวังของดราก้อนมาสเตอร์มีผู้หญิงสวยๆนับพันคน พวกเธอทั้งหมดต่างก็ถูกเลือกมาเพื่อเป็นภรรยาของดราก้อนมาสเตอร์ในอนาคตซึ่งมีเยอะยิ่งกว่านางสนมในสมัยโบราณเสียอีก
หลงอี้บอกให้คนพาสาวสวยมาให้ประมาณ 20 คน อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเห็นหนึ่งในพวกเธอ เขาก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ เธอมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกับมู่หรงเสวี่ยอย่างมากจนเขาอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปแล้วถาม “เธอชื่ออะไร?”
หญิงสาวนีบตอบออกมาด้วยความตื่นตระหนก “ฉัน…ชื่อ…หลินเสี่ยวชิงค่ะ…” นิสัยของเธอแตกต่างกันสิ้นเชิง ก็เพียงแค่คล้ายๆกันเท่านั้น เธอดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไร เธอดูเหมือนกำลังจะร้องไห้ซึ่งแตกต่างจากคุณมู่หรงอย่างสิ้นเชิง
แต่แค่เห็นก็รู้สึกสนุกขึ้นมาแล้ว
เขาถูกดราก้อนมาสเตอร์กดขี่มานาน เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากทำสนุกๆขึ้นมาสักหน่อย
แน่นอนว่าดราก้อนมาสเตอร์เปลี่ยนสีหน้าทันทีที่เห็นหลินเสี่ยวชิง เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเอกสารในมือล่วงลงไปแล้ว หลังจากนั้นสักพักฮวงฟูอี้ก็พูดออกมาว่า “เธออยู่ คนอื่นออกไป…”
หลงอี้พาสาวๆคนอื่นออกไปข้างนอกและกดปุ่มปิดห้องให้ฮวงฟูอี้ก่อนที่เขาจะออกมา
“เธอชื่ออะไร?” ฮวงฟูอี้มองอย่างเย็นชาไปที่ผู้หญิงที่หน้าตาคล้ายกับเธอและถามออกมา
หลินเสี่ยวชิงอดไม่ได้ที่จะกำแขนเสื้อแน่น ตอนนี้เธอรู้สึกงกังวลมากขึ้นกว่าเดิมอีก เธอเริ่มที่จะเหงื่อออก “ฉัน…ฉัน…หลินเสี่ยวชิงค่ะ…” แล้วเธอก็แอบเหลือบขึ้นมามองผู้ชายที่เป็นดังพระเจ้า หลังจากที่สบเข้ากับสายตาเย็นชาของฮวงฟูอี้ เธอก็ก้มหัวลงอย่างตื่นตระหนกและสีหน้าของเธอก็เริ่มแดงระเรื่อ
สีหน้าของฮวงฟูอี้เย็นชาขึ้นกว่าเดิม “เธอไปนั่งตรงนั้น อย่ารบกวนฉัน อย่าส่งเสียงเด็ดขาด…” เธอเพียงแค่มีใบหน้าที่คล้ายกับเธอที่เขาไม่ได้เจอมานานและไม่สามารถไปหาจากที่ไหนได้อีก
หลิวเสี่ยวชิงประหลาดใจและเงยหน้าขึ้นมาทันที แล้วก็ต้องหน้าซีดเพราะฮวงฟูอี้ขมวดคิ้ว สีหน้าของเธอค่อยๆอ่อนโยนลง
ฮวงฟูอี้เห็นว่าเธอยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมแล้วความโกรธของเขาก็พุ่งขึ้นมาอีก “เธอเดินได้ใช่ไหม?!!” อารมณ์ที่ดีของเขามีไว้ให้คนเพียงคนเดียวเท่านั้น
หลิวเสี่ยวชิงรีบเดินไปนั่งที่โซฟาทันที เธอไม่กล้าที่มอง ฮวงฟูอี้อีกรอบ เธอนั่งหลังตรง ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าวัตถุประสงค์ของการที่เรียกพวกเธอมาที่นี่ก็เพื่อ…แต่ไม่คิดว่าจะไม่ทำอะไรเลยแถมยังต้องถูกทิ้งไว้คนเดียวอีกด้วย…แต่เธอก็ไม่ได้ชอบดราก้อนมาสเตอร์เลยสักนิด พวกเธอโตขึ้นมาโดยที่ทุกอย่างรอบตัวเป็นเรื่องของดราก้อนมาสเตอร์ พวกเธอถูกสั่งสอนตั้งแต่ยังเด็กๆ พวกเธอเป็นผู้หญิงของดราก้อนมาสเตอร์ ทุกอย่างที่สำคัญกับดราก้อนมาสเตอร์ พวกเธอทั้งหมดค่อยๆโตขึ้น ทุกวันพวกเธอจะได้ยินพวกพี่ๆที่โตแล้วพูดถึงเรื่องการปฏิบัติของดราก้อนมาสเตอร์ พวกเธอใช้เวลาแต่ละวันไปกับการเพ้อฝัน
แน่นอนว่าเธอเองก็เหมือนกัน วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอกับดราก้อนมาสเตอร์ เขาทำให้เธอรู้สึกว่าเขาสมบูรณ์แบบมากกว่าที่เธอคิดไว้อีก เขาคือเทพเจ้าของเธอ หน้าตาที่สวยงามของเขาทำให้เธอที่เป็นผู้หญิงยังรู้สึกอาย ผู้ชายที่ได้รับการปลูกฝังมาอย่างดีแค่นี้ก็เพียงพอให้ผู้คนโหยหาได้แล้วนี่ยังไม่พูดถึงเรื่องที่เขารวยและหล่อมากด้วยอีก
หลังจากความสุขที่ตึงเครียดแล้ว เขาก็เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่เธอจะมีได้และเขาทำให้หัวใจเธอเต้นรัวอย่างรุนแรง
ตั้งแต่แรกฮวงฟูอี้รู้สึกว่าหลินเสี่ยวชิงทำให้เขาอารมณ์เสียอยู่นิดหน่อยแต่แล้วเขาก็ค่อยๆสงบอารมณ์ได้ เธอไม่ใช่คนเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะทำให้เธอดูเย่อหยิ่งและมีเสน่ห์ได้
เพียงแค่ไม่รู้ว่าทำไมแต่เขาก็ยังปล่อยให้เธออยู่ต่อ บางทีเขาอาจจะอยากเห็นหน้าเธองั้นเหรอ?
…
ฮวงเสี่ยวเฟ่ยรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมากที่จากที่จู่ๆ หลิวฮัวลี่ก็ไม่รับโทรศัพท์เธอ ปกติแล้วหลังเลิกเรียนเขามักจะรอเธออยู่หน้าห้องเรียนเสมอแต่หลายวันที่ผ่านมานี้ไม่เห็นเขามารอเลย หลังจากเลิกเรียนเธอโทรหาหลิวฮัวลี่ทุกวันและส่งข้อความไปเป็นร้อยๆข้อความแต่รุ่นพี่ก็ยังไม่ติดต่อกลับเธอมาเลย
เธอไม่รู้ว่าทำไม เธอกลัวมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เธอไม่ได้ไปหารุ่นพี่แต่เพียงแค่ถามจากนักศึกษาในชั้นและได้คำตอบว่าเขาขอลาไปหนึ่งอาทิตย์ รุ่นพี่เป็นอะไรหรือเปล่านะ? เธอรู้สึกเป็นห่วงจริงๆแต่เธอก็ไม่รู้ว่าบ้านของรุ่นพี่อยู่ที่ไหน แต่ถึงแม้เธอจะรู้เธอก็ไม่กล้าไปอยู่ดี จึงทำได้เพียงโทรศัพท์โทรหารุ่นพี่ทุกวันซ้ำไปซ้ำมา
เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วันแต่ใบหน้าของฮวงเสี่ยวเฟ่ยก็ซูบลงไปนิดหน่อย และเธอก็ไม่มีอารมณ์ที่จะพูดคุยเล่นกับเพื่อนๆอีกแล้ว เดิมทีพวกเพื่อนสนิทของเธอหลายๆคนจะคอยบอกเธอว่าพวกเขาชอบอะไรแล้วก็ตั้งตารอให้เธอหามาให้ แต่ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์ที่จะมาจัดการเรื่องพวกนี้ อันที่จริงเธอก็ยังรู้สึกโดดเดี่ยวอยู่หน่อยๆ พวกเขามองไม่เห็นหรือไงว่าเธออารมณ์ไม่ดี ไม่มีแม้คำปลอบใจแม้สักคำมีแต่ขอของขวัญกันอย่างเดียว
อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้สนใจมากนัก เธอรู้ดีว่าคนพวกนี้ไม่ใช่เพื่อนที่จริงใจกับเธอเท่าไรหรอก บางคนก็สนใจแต่เรื่องเงินของเธอ เธอยังอยากที่จะได้รับคำชอบที่แสดงถึงความเป็นตัวตนของเธอจริงๆอยู่
แต่ตอนนี้เธอได้รู้ว่าทั้งหมดที่เธอทำลงไปก็เพียงแค่อยากให้พวกเพื่อนๆร่วมชั้นเห็นแค่ด้านที่ดีเลิศของเธอ แต่เมื่อไม่มีเขาเธอก็ไม่อยากที่จะทำอะไรอีกแล้ว
มู่หรงเสวี่ยขมวดคิ้วไปทางร่างกายที่ซูปผอมของฮวงเสี่ยวเฟ่ย ถึงแม้เธอจะเป็นห่วงเธอแต่ตอนนี้ฮวงเสี่ยวเฟ่ยก็ยังแสดงสายตารังเกียจมาที่เธออยู่ เธอจึงเดินตรงเข้าไปคุยด้วยไม่ได้
หลังจากผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ สุดท้ายฮวงเสี่ยวเฟ่ยก็รอให้หลิวฮัวลี่มาหาที่ชั้นเรียนไม่ไหวแล้ว เธอจึงเลือกที่จะไปหา หลิวฮัวลี่ที่ชั้นเรียนของเขาแทน
อย่างไรก็ตามรุ่นพี่ก็มองมาที่เธอด้วยสายตาที่เย็นชาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน “ตามหาฉันมีอะไร?”
“รุ่นพี่ เป็นอะไรไปงั้นเหรอ?” ฮวงเสี่ยวเฟ่ยปกปิดความตื่นตระหนกในหัวใจไว้และถามออกไปด้วยเสียงสั่นเทอม เธอยื่นมือออกไปจับที่แขนเสื้อของรุ่นพี่และพยายามที่จะสลัดความไม่สบายใจที่อยู่ในหัวใจให้ออกไป
หลิวฮัวลี่มองมาที่เธอด้วยสายตาที่เย็นชา “ต่อไปอย่ามาหาฉันอีก”
สีหน้าของฮวงเสี่ยวเฟ่ยเปลี่ยนเป็นซีดขาว ดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นแดงและน้ำตาใสๆของเธอไหลล่วงลงมาแทบจะในทันที “รุ่นพี่ ทำไมล่ะ? ฉันทำอะไรผิดงั้นเหรอ?”
หลิวฮัวลี่รู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ แต่ก็ยังปัดมือเธอออกและเดินเข้าไปในชั้นเรียนพร้อมด้วยคำพูดแสนจะเย็นชา “ไปหาแฟนแก่ของเธอที่ขับรถสปอร์ตเถอะไป!”
ดวงตาของฮวงเสี่ยวเฟ่ยเบิกกว้างแทบจะในทันทีและมองอย่างไม่อยากจะเชื่อไปที่ด้านหลังของหลิวฮัวลี่ รุ่นพี่รู้แล้ว!!! รู้เรื่องสกปรกของเธอแล้ว!!!
น้ำตาของเธออดไม่ได้ที่จะไหลออกมาและนักศึกษาที่อยู่รอบๆต่างก็ชี้นิ้วมาที่เธอและราวกับกำลังทำสีหน้าใจร้ายและหัวเราะมาที่เธอ เธอเอามือปิดหน้าและรีบวิ่งออกมา
จะทำยังไงดี? จะทำยังไงดี?! เธอถูกฝังไปเรื่องนี้ไว้ก้อนบึ้งของหัวใจ ไม่กล้าที่จะเปิดเผยความจริงที่แปดเปื้อนนี้ออกมาให้รุ่นพี่ที่เธอรักได้รู้
ตอนนี้รู่นพี่มองเธอด้วยสายตาที่แสนจะเย็นชาราวกับเธอเป็นของสกปรกที่น่ารังเกียจ
เธอไม่เห็นก้อนหินที่พื้นจึงล้มลงไปกองกับพื้นทันที รอยแผลถลอกที่ผิวของเธอเทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดในหัวใจเลย เธอหายใจไม่ออกอีกแล้ว เมื่อไม่มีรุ่นพี่เธอก็ไม่เหลืออะไรแล้ว
Related