Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 207 เชื่อมั่นไม่เปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 207 เชื่อมั่นไม่เปลี่ยนแปลง

 

นี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าโลกใต้พิพภมีอยู่จริง เชี่ยวเฉินครุ่นคิดถึงความแตกต่างระหว่างก่อนที่เขาจะเข้าไปและหลังจากออกมาตอนนี้ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

 

ผ่านไปครู่หนึ่ง เกิดความคิดขึ้นในใจของเขา “ตอนที่ข้ามาที่นี่ครั้งแรกไม่มีซึ่งพลังงานจิตวิญญาณอยู่ในร่างกายของข้าตอนนี้ร่างกายของข้าเติมเต็มไปด้วยพลังงานจิตวิญ ญาณเป็นความแตกต่างอย่างใหญ่หลวง”

 

โลกใต้พิภพแห่งนี้จะต้องเป็นเขตแดนเล็กที่ถูกสร้างขึ้นโดยคนรุ่นก่อนหลังจากผู้หนึ่งได้ก้าวสู่ขอบเขตปราชญ์ยุทธและกลายเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติถึงจะเข้าไปได้ ถึงอย่างไรหากพวกเขาจะเป็นคนธรรมดาที่ไร้ซึ่งพลังงานจิตวิญญาณ ก็จะเข้าไปได้เช่นกัน

 

นอกจากนี้ มันมีความเป็นไปได้มากว่าเขตแดนเล็กแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ก่อตั้งศาลากระบี่สวรรค์,จักรพรรดิกระบี่ช่างบังเอิญ.เซี่ยวเฉินหลงเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

หากเขาไม่ได้หมดสิ้นพลังปราณและจมลงไปในแม่น้ํา สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ผู้คนมักจะเรียกกันว่าโชคชะตา

 

คิดเกี่ยวกับมัน,มันช่างน่าเสียดายเล็กน้อย แต่เดิมเขาคิดจะกลับมาที่โลกใต้พิภพแห่งนี้เพื่อสํารวจมันให้ถี่ถ้วนหากมีโอกาสอีกในอนาคตเป็นไปได้ว่าเขาไม่อาจเข้ามาที่แห่งนี้ได้อีกก่อนที่จะก้าวขึ้นสู่ระดับขอบเขตปราชญ์ยุทธ

 

เซี่ยวเฉินส่ายหัวและรวบรวมความคิด เนื่องจากเขาได้กลับออกมาเรียบร้อยแล้ว,ไม่จําเป็นต้องไปครุ่นคิดเกี่ยวกับปัญหานี้สิ่งที่เขาต้องคิดตอนนี้ก็คือจะกลับไปที่ศาลากระบี่สวรรค์ได้อย่างไร

 

เมื่อเซี่ยวเฉินได้มาถึงริมฝั่งแม่น้ําที่เขาปีนขึ้นมาสภาพล่อแล่,เขาก็หยุดเท้าลง คลื่นใต้น้ําที่รุนแรงและกําลังของเขาที่ กําลังจะหมดลงแต่ละสถานการณ์อันตรายเป็นอย่างมาก ทั้งสองสิ่งกําลังเกิดขึ้นพร้อมกัน

 

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้สูยเสียความหวัง เขาสามารถปืนกลับออกมาได้ มีหลายสิ่งที่เขายังไม่ได้ลงมือทํา เขาไม่อาจตกตายด่วนจากไปเช่นนั้น

 

เซี่ยวเฉินยังไม่ได้ปลดปล่อยอ่วเจียวออกมาจากกระบี่เงาจันทร์เขายังไม่ได้จัดการกับพวกตระกูลชั้นสูงที่แคว้นตงหมิงเขายังไม่กระจ่างว่าทําไมเขาถึงได้ถูกขับไล่ออกจาก ตระกูลเซียว

 

ยังมีศัตรูอีกมากมายที่เชี่ยวเฉินยังไม่ได้ก้าวข้าม เขายังไม่ได้ก้าวสู่โลกแห่งการบ่มเพาะพลังอย่างแท้จริงในเส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลังยุทธ เป็นเรื่องโชคร้ายหากเขาตกตายตั้งแต่เส้นเริ่มต้น

 

เมื่อเขามองดูภาพสะท้อนของเขาในแม่น้ํา,เขานึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ เขายังไม่ได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ของเขามิฉะนั้น, จะไม่มีใครจําหน้าเขาได้

 

เซี่ยวเฉินใช้ออกคาถาเปลี่ยนลักษณ์ ทันใดนั้น,ใบหน้าของเขากลายเป็นเลือนลาง เขานึกถึงรูปร่างของเยเฉินในใจของเขา ต่อมา,กระดูกใบหน้าของเขาแปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว

 

ใบหน้าบ้านๆของเย่เฉินปรากฏขึ้นที่ผิวน้ํา ใบหน้าอันหน้าเหลาดังเดิมของเซียวเผอินเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

 

เซี่ยวเฉินยิ้มอย่างพึ่งพอใจขณะที่เขามองลงไปที่ผิวน้ําเขากระโดดเบาๆลงจอดบนผิวน้ําและยืนนิ่งเขาเดินไปบนผิวน้ํา,มุ่งหน้าสู่ต้นน้ํา

 

หากเขาต้องการจะกลับไปไม่มีเส้นทางอื่นนอกจากเส้นทางที่เขามาความคิดนีเซียวเฉินต้องย้อนกลับไปยังสถานที่ที่ผนึกราชันมารอสูรเอาไว้เมื่อเขาพบเย่เหวิน,เขาก็สา มารถกลับออกไปได้

 

เซี่ยวเฉินก้าวเดินเบาๆไปบนผิวน้ํา,ราวกับว่ามันเป็นพื้นแข็ง เขามุ่งหน้าไปอย่างฉับไว

 

ผ่านไปครู่หนึ่ง,กําแพงปรากฏขึ้นตรวหน้าของเซียวเฉิน อย่างไรก็ตาม แม่น้ําใต้เท้าเขาไหลออกมาจากใต้กําแพง

 

“ปูทง!”

 

เมื่อมีแม่น้ําไหลออกมาจากใต้กําแพง,นี่ก็แสดงว่ามันมีทางออกไปเซี่ยวเฉินหยุดใช้ทักษะเคลื่อนไหวของเขา เขาลงไปในแม่น้ําและว่ายทวนขึ้นไปต้นน้ํา

 

หลังจากที่เขาว่ายมาเป็นเวลานาน,เซี่ยวเฉินพบว่ากําแพงบนหัวของเขาได้หายไปแล้ว เขาลอยขึ้นมาข้างบนและกลับไปเดินบนผิวน้ําอีกครั้ง หลังจากที่เดินต่อมาอีกเป็นเวลานาน,เขาพบว่ามันเป็นเพียงแม่น้ําสาขา

 

ยิ่งเขาเดินต่อไปเท่าไหรเซี่ยวเฉินยิ่งตกตะลึงมากขึ้น เท่านั้นมีแม่น้ําสาขามากมายปกคลุมพื้นที่กว้างตลอดทางเขาพบแม่น้ําที่แยกเป็นกิ่งก้านนับสิบแห่ง บางที่มีแม่น้ํา ที่แยกออกถึงสี่เส้น

 

เมื่อแม่น้ํามันไหลอยู่ใต้ดิน มันเป็นเรื่องดีที่มันมีต้นกําเนิดมาจากทีเดียว สิ่งที่เซียวเผอิ                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                           นต้องทําก็คือว่ายหาต้นน้ํา ไปเรื่อยๆและเขาน่าจะพบถ้ําที่ราชันมารอสูรถูกผนึกเอาไว้

 

สองวันต่อมา เซี่ยวเฉินสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่คุ้นเคยก่อนที่จะลอยขี้สู่ผิวน้ํา นี่เป็นกลิ่นของซากศพเน่าเหม็นในน้ําที่ยังไม่จางหายไป

 

“ในที่สุดเจ้าก็หาทางกลับมาได้?” ขณะที่เซี่ยวเฉินลอยขี้นมาที่ผิวน้ํา,เขาเห็นเย่เหวินนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้ริมแม่น้ํา เย่เหวินกําลงมองมาที่เชี่ยวเฉินพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน

 

เซียวเฉินตกตะลึง เขาไม่คาดคิดว่าจะมาพบกับคนผู้นี้ในทันทีที่เขามาถึง เขาใช้พลังปราณขับน้ําออกจากร่างกายของเขา ในพริบตา,มีไอน้ําร้อนลอยออกมาจากร่างของ เขาเซียวเผอินเดินออกห่างจากน้ํา,ค่อยๆเคลื่อนออกจาหมอกน้ําอย่างช้าๆ น้ําทั้งหมดระเหยออกจากแห่งของเขาและเสื้อผ้าก็แห้งสนิท

 

เย่เหวินเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นและสายตาประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา เขาเทเหล้าจอกหนึ่งให้กับเซี่ยวเฉินและยิ้มขึ้น “ดูเหมือนว่าเจ้าจะได้ไปพบเรื่องน่าอัศจรรย์ การบ่มเพาะพลังของเจ้าไม่ได้พิการ เจ้ายังยกระดับขอบเขต พลังขึ้นไปอีก ข้ามองเจ้าไม่ขาดอย่างสมบูรณ์”

 

เซี่ยวเฉินรับจอกเหล้ามากระดกลงไปในอีกเดียวก่อนที่เขาจะมองไปยังเย่เหวิน แต่เดิม,เขาคิดว่าจะมีเรื่องมากมายที่จะพูดตอนนี้เขาเห็นเย่เหวินสงบนิ่ง,เขาก็ไม่รู้จะพูดอะไร

 

“ซึ่งเฉวแห่งยอดเขาซื้อขึ้นเป็นเช่นไร?” หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเซียวเฉินถามคําถามที่เขากังวลที่สุด

 

เย่เหวินดื่มกับจอกเหล้าก่อนที่จะยกดื่มอีกจอก หลังจากนั้นเขาก็ชี้แจ้งสถานการณ์ “ข้าตัดแขนของเขาไปหนึ่งข้างแต่เขาก็ยังคงเป็นท่านเจ้ายอดเขา ถึงอย่างไร,เจ้าสบาย ใจได้บรรพบุรุษอาจารย์หญิงเฉินได้ตักเตือนเขาแล้ว เมื่อ เข้ากลับออกไป,เขาจะไม่กล้ามาสร้างปัญหาให้เจ้าอีก”

 

“ท่าตัดแขนของเขา?” เซี่ยวเผผินมองไปที่เย่เหวินอย่าง ตกตะลึง ไม่ใช่ว่าเซี่ยวเฉินเห็นว่าเยู่เหวินไม่มีความสามารถ สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือเยู่เหวินจะไปท้าทายท่านเจ้ายอดเขา เพื่อเขา

 

นอกจากนั้นเมื่อเซี่ยวเฉินมองไปที่สีหน้าของเย่เหวิน,มันเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ไปใส่ใจแม้แต่น้อย มันเป็นเหมีอนกับเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่จําเป็นต้องไปใส่ใจ

 

เยาเหวินลูกและกล่าวขึ้น “ไปกันเถอะ,ไม่มีเรื่องอะไรให้พูดคุยข้าจะพาเข้าออกไป”

 

เย่เหวินเก็บจอกเหล้าที่อยู่บนโต๊ะ หลังจากนั้นเขาก็เดินนําไปเขามองไปที่เซี่ยวเฉินที่อยู่ด้านหลังและกล่าวขึ้น “เจ้าโชคดีเป็นอย่างมากไม่นานมานี้แม่หนูนั้น,หลิวหรูเยา,ลงมาข้างล่างนี้ด้วยตัวเองเพื่อตามหาเจ้า”

 

พี่สาวหรูเยสลงมาตามหาข้า? เซี่ยวเฉินตะลึงและพูดขึ้น “เช่นนั้นท่านบอกนางว่าเช่นไร? ท่านได้บอกความจริงกับนางหรือไม่?”

 

“ข้ามันโง่งม? ข้ารู้นิสัยใจคอนางเป็นอย่างดี หากข้าบอกความจริงกับนาง,นางจะต้องบุกถล่มยอดเขาป้อวิ่นแลกด้วยชีวิตของนาง” เย่เหวินาวอย่างเฉยเมย

 

คําของเย่เหวินทําให้เซี่ยวเฉินนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง พวกเขาเดินต่อมาอีกไม่ไกลเย่เหงินก็ถามขึ้น “ท่านเกี่ยวข้องอย่างไร กับเหลิงหลิวซู?”

 

“เหลิ่งหลิวซู? ไม่มีอะไรเกี่วข้อง ข้าไม่ได้คุ้นเคยอะไรกับนาง” เซี่ยวเฉินกล่าว เขาเต็มไปด้วยความสงสัย;เขาไม่รู้ว่าทําไมเยู่เหวินถึงได้ถามเขาเช่นนี้

 

เย่เหวินกล่าว “เช่นนั้นก็น่าแปลก นางใช้สถานะท่านเจ้าศาลาน้อยของนางแทรกแซงสภาสูงนางได้ส่งคนมาตามหาเจ้าที่นี่หายต่อหลายครั้ง”

 

เหลิ่งหลิวซูก็มาตามหาข้าเช่นกัน? เซี่ยวเฉินไม่เข้าใจว่ามันกําลังเกิดอะไรขึ้นเขาอยากจะถามเย่เหวินถึงรายละเอียดอย่างไรก็ตามเมื่อเซี่ยวเฉินมองไปที่สีหน้าของ เย่เหวิน,เขาก็กลืนคําที่อยากจะพูดลงไป”

 

เย่เหวินนําทางเซี่ยวเฉินมาตลอดทาง,นํามาเขามาที่ค่ายกลเคลื่อนย้ายเล็กเมื่อคนที่เฝ้ายามเห็นเย่เหวิน,พวกเขาก็ทําความเคารพ “ผู้อาวุโสเย่,ท่านจะส่งใครบางคนอ อกไป?”

 

เยาเหวินพยักหน้า,จากนั้นเขาก็หันมาทางเซียวเฉินและพูดขึ้น “เจ้าไปได้แล้วเมื่อเจ้าขึ้นไปเจ้าจะสามารถออกไปจากถ้ําระยําแห่งนี้ได้ข้าจัดการเรื่องภารกิจของเจ้าให้เรียบร้อยแล้วเจ้าไปยื่นเรื่องได้เลย”

 

เซี่ยวเฉินกําลังจะก้าวขึ้นไปบนค่ายกล จากนั้นเขาก็หันกลับมาและถามขึ้น “ท่านไม่ต้องชดใช้ที่ตัดแขนของซ่งเฉว?”

 

ถึงอย่างไร,ซ่งเฉวก็เป็นท่านเจ้ายอดเขา เซี่ยวเฉินคิดไม่ออกว่าทําไมเขาถึงไม่ถูกลงโทษ

 

เย่เหวินยิ้มอ่อนโยน “ข้าต้องอยู่ที่นี่ไปอีกสิบปีเป็นการใช้ชุดตอนนี้ข้ากลับเห็นว่าเจ้ายังมีชีวิตและแข็งแรงดี, ไม่คุ้มเลยจริงๆ”

 

“เอาล่ะ,ไร้สาระมามากพอแล้ว ไปซะ!”

 

ทันใดนั้น,เย่เหวินก็ถีบก้นเซี่ยวเฉิน เซี่ยวเฉินล้มไปบนค่ายกลที่อยู่ข้างหน้า มีแสงสว่างเรื่องขึ้นบนพื้น

 

มีอักษรยันต์นับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นและร่างของเซี่ยวเฉินก็หายไปพร้อมกับเสียง โซว”

 

มันรู้สึกมืดมิดและดําสนิท เซี่ยวเฉินรู้สึกว่าร่างกายของเขาถูกดึงยืดออกไปไม่มีจํากัด จากนั้นเรืองแสงก็ปรากฏขึ้นผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็สามารถควบคุมร่างกายของเขาได้

 

“ที่นี่ที่ไหน?” เซี่ยวเฉินมองไปรอบตัวของเขา เขาพบว่าเขาอยู่ในห้องเล็กๆแห่งหนึ่ง ไม่มีสัญลักษณ์ค่ายกลอยู่บนพื้นมันดูเหมือนว่าจะเป็นค่ายกลเคลื่อนย้ายแบบทางเดียว

 

เซี่ยวเฉินเปิดประตูและเดินออกไป เขามองเห็นเคาน์เตอร์ของโถงคุณความชอบในทันทีเมื่อชายชราดานหลังเคาน์เตอร์มองเห็นเซี่ยวเฉิน,เขาตะลึงไปเล็กน้อย

 

ชายชราสะบัดมือและเหรียญไม้ที่แขวนอยู่ตรงเอวของเซยวเฉินก็ลอยไปหาใมือของเขา,กลับไปที่โถงคุณความชอบ

 

ชายชรามองไปที่หมายเลขบนเหรียญไม้พร้อมกับยิ้มไปที่เซี่ยวเฉิน “เย่เฉิน,ยินดีด้วยที่ทําภารกิจสําเร็จนี่คือแต้มคุณความชอบของเจ้า”

 

ชายชราหยิบเอาเหรียญทองแดงสีดําออกมาจากด้านล่างของเคาน์เตอร์และยื่นให้กับเซี่ยวเฉิน “นับได้แย่เฉินประยอดเจ้าว่ายอดเยี่ยม มีทั้งหมดหนึ่งพันแต้มสะสม”

 

เซี่ยวเฉินรับเหรียญทองแดงดําพวกนี้มามีทั้งหมดสิบเหรียญ พวกมันมีสีดําสนิท เป็นเหรียญวงกลมที่มีรูสี่เหลี่ยมอยู่ตรงกลางมีสายฉีแปลกประหลาดบรรจุอยู่ในเหรียญ เช่นกันมันไม่ใช่สิ่งที่จะทําเลียนแบบขึ้นมาได้

 

ชายชราอธิบายต่อ “เหรียญแต้มสะสมมีทั้งหมดสามสี สีขาวหมายถึงหนึ่งแต้ม,สีแดงหมายถึงสิบแต้ม,และสีดําหมายถึงหนึ่งร้อยแต้ม”

 

เซี่ยวเฉินอยู่ใต้ดินมาเกือยบจะสองเดือน ในตอนนี้เขาครุ่นคิดจดจ่อที่จะกลับไปยังยอดเขาฉิงหยุนและรายงานความปลอดภัยของเขากับหลิวหรูเยว่ เช่นนี้เอง,เขาไม่อดทนมากพอที่จะมาฟังชายชราผู้นี้อธิบาย เขาเตรียมตัวที่จะจาก ไปในทันที”

 

“รอก่อน, อย่างเพิ่งไป นี่เป็นครั้งแรกที่เข้าสําเร็จภารกิจระดับสูง ยังมีเรื่องที่ข้าบอกเจ้า” ชายชราหยุดเซียวเฉินเอาไว้และเดินตรงมา

 

ชายชราเผยรอยยิ้มบางเบาบนใบหน้าสีซีดของเขา“พ่อหนุ่ม,อย่าได้เอะอะไป นี่เกี่ยวกับรางวัลที่แท้จริงของเจ้า”

 

เซี่ยวเฉินไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาค่อยๆสงบใจลงและตามชายชราไป ชายชรานําทางเซียวเฉินไปด้านหลังของโถงคุณความชอบตลอดทาง,มีหมายคนเห็นชายชราผู้ นี้เดินนําทางเซี่ยวเฉินไปด้วยตัวเองพวกเขาต่างเริ่มคาดเดา ถึงสถานะของเซี่ยวเฉิน

 

“ผู้อาวุโสระดับสูงของโถงคุณความชอบนําทางไปด้วยตัวเอง? คนผู้นี้เป็นใครกัน? ข้าไม่เคยเห็นเขามาก่อน แม้แต่ผู้สึบทอดที่แท้จริงไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้”

 

“ข้าก็ไม่เคยเห็นเขามาก่อน เขามาจากที่ไหน? สถานะของเขาสูงส่งกว่าผู้สืบทอดที่แท้จริง?”

 

“นั้นเขา! ดูที่เหรียญแสดงตนของเขา เขาเป็นศิษย์ยอดเขาฉิงหยุน เขาคือเย่เฉิน!” บางคนในฝูงชนทันใดนั้นก็กล่าวออกมาเมื่อเขาเห็นเหรียญแสดงตนสีเงินที่แขวนอ ยู่ที่เอวของเซี่ยวเฉิน

 

มีผู้ชายเพียงสองคนบนยอดเขาฉิงหยุน หนึ่งร่อหลิวสุยเฟิง,อีกคนคือเย่เหวิน ทุกคนล้วนรู้จักหลิวสุยเฟิงเมื่อเขาไม่ใช่หลิวสุยเฟิง,เห็นชัดว่าเขาก็ต้องเป็นเยู่เฉิน

 

“เช่นนั้น,มันต้องไปเขา เขาหายตัวไปกว่าสองเดือนและปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง คนกลุ่มนั้นจากยอดเขาว่านเหรินได้ตามหาเขาเป็นเวลานาน”

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset