ในขณะที่ถังหนิงตามโจนส์ไปทำงานที่กองถ่ายตลอดทั้งเดือน มีหลายวันที่เธอกลับมาบ้านมาพร้อมกับรอยไหม้แดด แม้ว่าโม่ถิงจะเจ็บปวดใจเมื่อเห็นภรรยาของเขา อีกใจกลับรู้สึกยินดีที่ได้เห็นถังหนิงก้าวหน้าไปมาก
ส่วนกระบวนการหลังการถ่ายทำของมดราชินีถูกทำขึ้นอย่างเงียบๆ ที่อเมริกาเพราะถังหนิง ฝีมือของเธอพัฒนาขึ้นมาก ยิ่งเมื่อได้รับคำแนะนำของเจ้าพ่อแห่งโลกไซไฟ
ระหว่างที่ถังหนิงตามทำงานประกบผู้กำกับโจนส์ มีสังกัดจากจีนหลายแห่งมาตามหาผู้กำกับเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ไซไฟของพวกเขา หากแต่โจนส์ได้บอกปัดไปทั้งหมด
บางสังกัดถึงกับทำทุกทางเพื่อให้ได้เข้ามาในกองถ่ายสัตว์ทดลองคืนชีพเพียงเพื่อให้ได้มีโอกาสคุยกับผู้กำกับโจนส์ แต่เขาไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย แน่นอนว่าพวกเขาบางคนได้สังเกตเห็นผู้หญิงที่อยู่ข้างโจนส์…
แม้ว่าเธอจะสวมหมวกและแว่นกันแดดเอาไว้ แต่รังสีดาราดังที่แผ่ออกมาจากตัวเธอก็ชัดเจนจนทำให้เธอดูน่าสงสัย
ทว่าเมื่อไม่ได้รับรู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด จึงไม่มีใครคิดว่าแท้จริงแล้วถังหนิงเป็นลูกศิษย์ของผู้กำกับโจนส์!
พวกเขาได้แต่คาดเดาว่าถังหนิงไปช่วยงานที่กองถ่ายเพราะสิ่งที่เธอทำให้เห็นทั้งหมด
หลังจากพวกเขากลับมาถึงปักกิ่งจึงเริ่มเผยแพร่เรื่องที่เห็นถังหนิงทำงานให้กับชาวอเมริกันเหมือนคนใช้ที่กองถ่ายภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง
เธอได้ตกลงมาอยู่ในจุดที่ต่ำสุดของวงการเสียแล้ว!
เมื่อไห่รุ่ยไม่ได้ออกมาตอบโต้ ผู้คนจึงเริ่มคิดว่าโม่ถิงคงหมดหวังในตัวถังหนิงแล้ว
“ถังหนิงสวมเสื้อผ้ามอมแมมขาดๆ เป็นไปได้ที่โม่ถิงจะแยกทางกับเธอแล้วถึงพวกเขาจะยังไม่ได้ออกมาประกาศหย่ากันก็ตามที”
“หมายความว่าจู้ซิงมีเดียจบเห่แล้วเหรอ”
“คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ ไม่อย่างนั้นทำไมไห่รุ่ยถึงไม่ออกมาพูดอะไรเรื่องถังหนิงเลยล่ะ คงไม่มีใครที่ทำกับภรรยาของตัวเองอย่างนี้หรอก”
ด้วยเหตุนี้ข่าวลือเรื่องถังหนิงเตียงหักจึงเริ่มแพร่สะพัดไปเช่นกัน
หลงเจี่ยกังวลกับข่าวลือพวกนี้ เมื่อกลับมาถึงบ้านตอนค่ำ เธอจึงระบายความหงุดหงิดลงกับสามีของตัวเอง “คุณไม่ได้ข่าวจากประธานโม่เลยเหรอ ถังหนิงไม่ได้ติดต่อเรามาเลย อาจจะมีอะไรผิดปกติจริงๆ ก็ได้นะ”
“ท่านประธานห้ามไม่ให้ผมถามอะไรทั้งนั้นครับ ผมเลยกลัวว่าจะเป็นการเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขาน่ะสิ” ลู่เช่อตอบ “แต่ว่าคุณเชื่อว่าความรู้สึกของท่านประธานที่มีให้กับคุณผู้หญิงจะเปลี่ยนไปจริงๆ เหรอครับ”
“มันไม่สำคัญว่าฉันจะเชื่อหรือเปล่า ประเด็นก็คือทุกคนกำลังพูดถึงมันต่างหากค่ะ ฉันเลยไม่มีทางเลือกนอกจากคล้อยตาม”
“ผมคิดว่าคุณผู้หญิงสบายดีอยู่ครับ ท่านประธานเลยสั่งไม่ให้ผมถามอะไรไงครับ”
“ดีกับผีอะไรล่ะ! ถ้าตอนนี้ถังหนิงถูกรังแกอยู่ล่ะ แต่เรากลับเอาแต่คิดว่าเธอยังสบายดีอยู่เนี่ยนะ” หลงเจี่ยโวยวายขึ้น “ผู้ชายนี่เอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆ ”
“เลิกสงสัยเรื่องไร้สาระอย่างนั้นได้แล้วครับ เอาอย่างนี้ไหมล่ะครับ ผมจะไปลองถามดูเผื่อจะได้ข้อมูลอะไรมาบ้าง” ลู่เช่อเอ่ยปลอบภรรยาของเขาขณะที่เริ่มติดต่อคนที่รู้จักเป็นการส่วนตัว อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ของถังหนิงกับโจนส์ยังถูกเก็บเงียบและไม่มีใครล่วงรู้
จึงเป็นอีกครั้งที่ลู่เช่อกลับมามือเปล่า
“ผมคงได้แต่หวังให้คุณผู้หญิงกลับมาตอนนี้สินะครับ…”
ลู่เช่อไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่เห็นอาการหวั่นใจของหลงเจี่ย หันซิวเช่อเองก็รับรู้เรื่องนี้เช่นกัน
“ถ้าหลงเจี่ยเป็นห่วงถังหนิงก็ไปดูเธอที่อเมริกาหน่อยสิครับ อย่ามั่วมานั่งกังวลอยู่เฉยๆ เลย”
“ฉันเองก็อยากจะทำอย่างนั้นแต่ต้องมีคนอยู่คอยดูแลจู้ซิงมีเดียน่ะสิ” หลงเจี่ยบอกกลับ หลังจากได้ยินข่าวลือของถังหนิง หลงเจี่ยเป็นห่วงอีกฝ่ายจนไม่อาจจดจ่อกับศิลปินหน้าใหม่ของเธอได้
“อย่ากังวลเลยครับ คุณยังมีเรานะ”
หันซิวเช่อเอ่ยอย่างมีความนัย
หลงเจี่ยโบกมือปัด ทั้งความกังวลและอารมณ์ความรู้สึกที่ยากจะอธิบายก่อตัวขึ้นในใจของเธอ
อย่างไรก็ตามโม่ถิงบอกให้ถังหนิงรู้ถึงความเป็นห่วงของหลงเจี่ย เธอจึงคิดว่าถึงเวลาที่ต้องทำให้อีกฝ่ายใจเย็นลงบ้าง หลังจากจบวันที่แสนยุ่งที่กองถ่าย ถังหนิงต่อสายหาหลงเจี่ยในท้ายที่สุด “ฉันได้ยินว่าเธอเป็นห่วงฉันจนแทบบ้า…”
“ในที่สุดคุณก็เพิ่งรู้ว่าต้องโทรหาฉันบ้างเหรอคะ คุณรู้ไหมว่าคนทั่วปักกิ่งกำลังเอาคุณไปพูดกันสนุกปากขนาดไหน พวกเขายังบอกว่าคุณกับประธานโม่หย่ากันแล้วด้วยซ้ำนะคะ”
“แล้วเธอก็เชื่อเหรอ” ถังหนิงเลิกคิ้ว “ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันสบายดี เธอแค่เชื่อมั่นในตัวฉันแล้วเดินหน้าต่อไปก็พอ…”
“คุณแน่ใจเหรอคะ แล้วเรื่องที่คนพูดถึงกันว่าคุณไปเป็นคนใช้ให้ชาวอเมริกันล่ะคะ”
“คนจากปักกิ่งมาหาอาจารย์ของฉันแล้วเห็นฉันเข้านะ เขาเลยคาดเดากันไปเรื่อย ฉันก็กำลังมาช่วยทำงานอยู่ที่นี่จริงๆ นั้นแหละ แต่ฉันไม่ใช่คนใช้หรอกนะ รู้ไว้แค่นี้ก็พอแล้ว…”
“อาจารย์เหรอคะ”
“ใช่แล้ว ฉันเป็นลูกศิษย์ของผู้กำกับโจนส์และกำลังเรียนรู้กระบวนการผลิตหนังไซไฟอยู่น่ะ” ถังหนิงตอบ
“คุณกำลังพูดถึงเจ้าพ่อแห่งโลกไซไฟอยู่เหรอคะ”
“อือฮึ” ถังหนิงพยักหน้า
เมื่อหลงเจี่ยได้ยินดังนั้นเธอก็มีความสุขขึ้นทันตา “ฮ่าๆๆ ฉันรู้ว่าคุณคงไม่ใช่ถังหนิงถ้าไม่ได้ทำเรื่องที่ไม่ธรรมดา นึกไม่ถึงว่าคุณจะแอบมีอาจารย์ระดับโลกอย่างนี้ รีบเล่าเรื่องน่าตื่นเต้นที่คุณเจอที่อเมริกามาเร็วเข้าสิคะ”
“ฉันไม่มีเวลามากนักหรอกนะ เธอแค่ต้องเชื่อใจว่าฉันจะกลับไปในเร็วๆ นี้
“แต่ว่าเธอห้ามบอกใครว่าฉันเป็นลูกศิษย์ของผู้กำกับโจนส์นะ แม้แต่กับลู่เช่อก็ตาม..
“ฉันต้องรักษาความลับเอาไว้เพื่อการแสดงสนุกๆ ทีหลังน่ะ”
หลงเจี่ยปลื้มปริ่มจนต้องยืดขาออกมาทันที “โอเคค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ฉันรับรองว่าจะไม่บอกใครทั้งนั้น แม้แต่ลู่เช่อกับหลินเฉี่ยน จะเฝ้ารอการกลับมาของคุณค่ะ”
“ในเมื่อเธอไม่มีเรื่องต้องกังวลแล้วก็ไปตั้งใจกับการฝึกศิลปินของจู้ซิงมีเดียด้วยนะ! ”ถังหนิงสั่ง “ไม่มีฉันอยู่ด้วย เธอห้ามปล่อยให้คนอื่นเข้ามากอบโกยผลประโยชน์จากสังกัดได้นะ”
“รับทราบค่ะ”
หลังจากคุยกับถังหนิงเสร็จ เรื่องหนักอกหนักใจที่หลงเจี่ยแบกเอาไว้ก็จางหายไป ไม่เพียงแต่ถังหนิงจะไม่ได้อยู่ในสภาพที่น่าสงสาร แต่เธอยังเป็นถึงลูกศิษย์ของผู้เชี่ยวชาญในงานของตัวเอง เพียงแค่ใช้สถานะนี้เพียงเพื่อปิดบังทุกคน
เธอกำลังเฝ้ารอการกลับมาของถังหนิง!
ด้วยเหตุนี้ความทุ่มเทของเธอให้กับจู้ซิงมีเดียจึงเปลี่ยนไป
ทำให้หันซิวเช่อนึกเอะใจขึ้นมา
“หลงเจี่ย คุณไม่เป็นห่วงถังหนิงแล้วเหรอครับ ทำไมช่วงไม่กี่วันมานี้คุณถึงดูกระฉับกระเฉงกับการทำงานจังล่ะ”
หลงเจี่ยเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นหันซิวเช่อจึงตอบกลับ “เพราะฉันตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่าถังหนิงจะทำอะไรอยู่ที่ต่างประเทศ มันก็เป็นทางเลือกของเธอเอง ฉันไม่มีสิทธิ์ไปตั้งคำถามกับมันหรอก ในเมื่อฉันมีหน้าที่ดูแลจู้ซิงมีเดียแล้ว ฉันก็ต้องรับผิดชอบทำให้บริษัทก้าวหน้า ต้องตั้งใจกับการปั้นพวกคุณให้เป็นดาราดังให้ได้”
“ผมคิดว่าคุณคงติดต่อถังหนิงและมั่นใจว่าเธอจะกลับมาแล้วสินะ ผมเกรงว่ามันคงจะไม่เป็นแบบนั้นหรอก ข่าวของเธอมันฉาวโฉ่มากจนผมว่าเธอคงไม่อยากจะโผล่หน้ามาที่นี่หรอกครับ”
“เดี๋ยวข่าวมันก็ผ่านไปเองนั่นแหละ อย่าเก็บมาคิดมากเกินไปเลย เลิกพูดถึงเรื่องถังหนิงเถอะ คุณเองก็เตรียมการ์ตูนเรื่องใหม่มานานแล้ว เสร็จหรือยังล่ะคะ” หลงเจี่ยถาม “ฉันคาดหวังกับมันอยู่นะคะ”
“อย่างนั้นก็หวังกับมันต่อไปได้เลยครับ ผมรับรองว่ามันจะต้องยอดเยี่ยม! ”
ส่วนจะยอดเยี่ยมขนาดไหน หลงเจี่ยคงต้องคอยดูต่อไป เธอจะต้องตกตะลึงเป็นแน่
Related