ในตอนที่ธีรเมทโกรธจนจะระเบิดอยู่แล้ว เขาก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง สายนั้นโทรมาจากธีร์ธวัช โทรมาบอกเขาว่ามุกดากับชลธีกลับไปที่พระนครแล้ว
เสียงโทรศัพท์ตกลงพื้นเสียงดัง บอดี้การ์ดรอบข้างต่างก็ตกใจตัวสั่น
โทรศัพท์อันน่าสงสารนั้นพลิกอยู่บนพื้นหลายตลบ อุปกรณ์ต่างๆก็แยกออกเป็นเสี่ยงๆ
ธีรเมทไม่คิดว่ามุกดาจะเก่งขนาดนี้ อยู่ในที่ที่มีการป้องกันเข้มงวดขนาดนี้ก็ยังหนีไปได้
“มุกดา ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าฉันจะไม่ได้เธอกลับมาอีกครั้ง!” ธีรเมทสาบานต่อหน้าโทรศัพท์ที่แตกกระจาย
“ฮัดชิ้ว! ใครกำลังนินทาฉันนะ? จะต้องเป็นธีรเมทแน่ เขาจะต้องเห็นว่าพวกเราหนีไปได้ทั้งหมดแล้ว คงจะโกรธน่าดู? ฮ่าๆ!” มุกดาจามเสียงดัง เธอนั่งอยู่ข้างชลธี กำลังช่วยเขาจัดการเอกสาร
“ธีรเมท เจ้าหมอนั่นเป็นคนที่มีเจ้าเล่ห์เสมอ เขาเจ้าเล่ห์กว่าณัฐวรรธน์อีกนะ แต่ก็ไม่เป็นไรแล้ว ถ้าอยู่พระนครล่ะก็ ทั้งที่สว่างและที่มืดฉันก็ไม่กลัวเขาแล้ว!” ชลธีแม้จะมาทำงาน แต่มุกดาก็จะเอายาติดตัวมาด้วยทุกครั้ง เพราะครั้งนี้ชลธีแช่อยู่บนน้ำทะเลนานเกินไปจนทำให้บาดแผลบนผิวหนังเสียหายหนักมาก บวกกับที่ถูกธีรเมททำร้าย ร่างกายของเขาก็เลยค่อนข้างอ่อนแอกว่าปกติ
“ฉันรู้น่า คุณสามีของฉันเก่งที่สุดเลย เอ้านี่ เดี๋ยวคุณภรรยาป้อนยาให้นะคะ!” มุกดาเตรียมยาเสร็จแล้ว ก็เตรียมป้อนให้ชลธี
ชลธีขมวดคิ้ว เขาเกลียดการกินยาที่สุด แต่ตอนนี้กลับถูกบังคับให้กินยาอยู่ทุกวัน ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดใจมาก
“กินเถอะ กินแล้วเดี๋ยวให้นายกินขนม” มุกดามองดูชลธีที่ดูแลยากมากกว่าลูกชายเสียอีก ทำได้แต่ปลอบเขา เขาถึงจะยอมกินยา
“ช่างเถอะ ฉันไม่เอาขนม แต่อยากได้จูบหอมๆมากกว่า” ชลธีว่าแล้วก็ขยับหน้าเข้าไปใกล้
มุกดาก็จุ๊บไปที่แก้มเขาแรงๆทีหนึ่ง แต่เธอยังไม่ทันได้เงยหน้าขึ้นมา ก็ถูกชลธีกดเอาไว้เสียก่อน เขากอดตัวเองไว้ในอ้อมกอดแน่น แล้วประทับริมฝีปากลงไปบนยังบนริมฝีปากอมชมพูนุ่ม
ทั้งสองจูบเสร็จก็หายใจแรงถี่ หลังจากที่ชลธีกลับมาก็กินยาและทายาอยู่ตลอดเวลา มองดูภรรยาที่สวยเพียบพร้อมทุกอย่างเดินไปมาตรงหน้าตัวเอง แต่กลับไม่ได้แตะต้องสักที ในใจร้อนรนจนแทบลุกเป็นไฟอยู่แล้ว
นึกถึงตรงนี้ชลธีก็เอามือล่วงเข้าไปในเสื้อของมุกดา ขย้ำก้อนนุ่มๆนั้นเพลินๆ
“มุก ฉันต้องการ” ชลธีขยับเข้าไปกระซิบข้างหูมุกดาและพ่นลมหายใจออกไปเบาๆ
“ป้าบ!” มุกดาตีมือชลธีแรงๆ
“ไม่ได้ หมอบอกแล้วว่า อย่างน้อยต้องผ่านหนึ่งเดือนก่อน ไม่งั้นถ้าติดเชื้อแล้วจะวุ่นวายกว่าเดิม” มุกดาพูดอย่างเข้มงวด
ชลธีกอดมุกดาไว้แน่นไม่ให้เธอไป มุกดาก็รู้ว่าเขาอดทนมานานมากแล้ว แต่เพื่อร่างกายของเขา เธอจะตกลงไม่ได้
“มุก ฉันไม่ได้แตะต้องเธอมานานมากแล้ว เธอดูสิ เธอลองจับมันดูสิ มันเริ่มประท้วงแล้วนะ” ชลธีจับมือมุกดาไปสัมผัสน้องชายตัวเอง
ของสิ่งนั้นแข็งทื่อขึ้นมาจริงด้วย มุกดารู้สึกใจอ่อน แต่พอคิดดูดีๆแล้ว ถ้าตัวเองใจอ่อนล่ะก็ งั้นบาดแผลของเขาก็จะฉีกออกอีกครั้ง นั่นเป็นการทำร้ายเขามาก!
“ฉันออกไปก่อนนะ เมื่อกี้ธีรนัยน์มาหาฉันน่ะ” มุกดารีบผลักชลธีออก เธอหน้าแดงระเรื่อและรีบวิ่งออกไปอย่างเร็ว ถ้าตัวเองยังอยู่กับชลธีอีกล่ะก็ เขาจะต้องปลอบตัวเองสำเร็จแน่ มุกดารู้สึกว่าตัวเองกลับไปที่ห้องทำงานตัวเองจะดีกว่า
เห็นมุกดาวิ่งหนีไป ชลธีก็ถอนหายใจ เขามองดูน้องชายตัวเองที่เชิดหน้าขึ้น ก็ปลอบใจไปว่า: “ช่างเถอะ นายก็อยู่นิ่งๆไปก่อนแล้วกัน ตอนนี้คนอื่นเขายังไม่ต้อนรับนาย!”
มุกดาวิ่งออกไป ก็ชนเข้ากับใครคนหนึ่ง
“มุก เธอไม่เป็นไรนะ? ตกใจหมดเลย!” จันวิภารีบวิ่งมาอย่างเร่งรีบ แล้วดึงมุกดาไว้จากนั้นก็ตรวจสอบร่างกายมุกดา
การมาของเธอทำให้มุกดามองไปที่ห้องทำงานของชลธีอย่างไม่สบายใจ ยังดีที่ตัวเองออกมาตอนนี้ ถ้าช้ากว่านี้อีกล่ะก็ จันวิภาคงได้เห็นภาพนั้นแน่
“ฉันไม่เป็นไร เธอวางใจได้ ฉันมีเทพเทวดาคอยปกปักรักษาอยู่แล้ว” มุกดาแกล้งทำเป็นสบายใจ
จันวิภาจับมือมุกดาเดินไปที่ลิฟต์: “วันนี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องไปบ้านฉันนะ ฉันเตรียมอาหารที่เธอชอบไว้ด้วย พวกเราสองคนไม่ได้คุยกันมานานมากแล้วนะ” จันวิภาเช็ดน้ำตาตัวเอง เธออยากมาหามุกดานานแล้ว แต่ทศพรบอกว่า ให้สองคนได้อยู่ด้วยกันก่อน ดังนั้นเธอเลยมาวันนี้แทน
“ได้สิ งั้นพวกเราไปกันเถอะ” มุกดาก็อยากห่างกับชลธีสักพักเหมือนกัน ไม่งั้นเขาคงได้คิดแต่เรื่องอย่างว่าแน่
พอขึ้นรถไป มุกดาก็ค่อยโทรหาชลธี บอกเขาว่าตัวเองจะไปบ้านจันวิภา ให้เขาเลิกงานแล้วมารับตัวเอง
ชลธีได้ยินว่ามุกดาไปแล้ว เขาก็รู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองถูกพัดพาไปด้วย เขาเหม่อลอย อ่านเอกสารหนึ่งฉบับอยู่นานมาก อยู่ในท่านั้นจนกระทั่งธีรนัยน์เข้ามา
ธีรนัยน์เห็นชลธีอ่านเอกสารอยู่ตลอด เธอก็เลยแอบเดินออกไปเงียบๆ แต่ชลธีกลับไม่ขยับเขยื้อนเลย ขนาดลูกตายังไม่ขยับเลยด้วยซ้ำ
ธีรนัยน์เดินเข้าไป ใช้มือส่ายไปมาตรงหน้าชลธี ชลธีก็ถึงได้สติ
“ธีรนัยน์? เธอทำอะไร?” ชลธีมองค้อนธีรนัยน์ ยัยเด็ดคนนี้ เมื่อกี้ทำไมไม่เข้ามาหยุดมุกดาไว้ ตอนนี้เขากลับโทษธีรนัยน์ขึ้นมา
“ฉันมาส่งสัญญาให้คุณไงคะ วันนี้มีสัญญาสี่ฉบับที่ต้องเซ็น ประธานชลธี คุณลืมแล้วเหรอคะ?” ธีรนัยน์ชี้ไปที่สัญญาสี่ฉบับบนมือตัวเอง
ชลธีนึกขึ้นมาได้ทันที วันนี้เขามีสัญญาสำคัญที่ต้องเซ็น เมื่อกี้เขามัวแต่คิดเรื่องของมุกดา ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย
“เอามาสิ ฉันไม่ได้ลืม ฉันก็กำลังคิดว่าเธอลืมแล้วหรือเปล่า นานขนาดนี้กว่าจะเอามาให้ฉัน” ชลธีรีบโยนความผิดให้ธีรนัยน์
ธีรนัยน์แลบลิ้น วันนี้ประธานชลธีเป็นอะไรไปนะ? กลับโยนความผิดให้ตัวเอง ไม่เหมือนกับปกติเลย แต่เขาเป็นประธาน จะพูดยังไงก็ได้นั่นแหละ
“เธอดูหรือยัง? มีที่ไหนที่ต้องแก้ไขบ้างไหม?” ชลธีถามธีรนัยน์
“ฉัน ฉัน ฉันยังไม่ได้ดูค่ะ” ธีรนัยน์พูดติดอ่าง นี่เป็นสัญญาที่ชลธีเช็กไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว ไม่ต้องให้เธอตรวจสอบเพิ่มเติมนี่
“ทำไมเธอถึงไม่อ่านก่อน? ถ้าเกิดมีที่ไหนผิดจะทำยังไง เธอเป็นผู้ช่วยประธานนะ หน้าที่ของเธอก็คือตรวจสอบความถูกต้องของสัญญาทุกฉบับ เธอเข้าใจไหม? เอากลับไปดูก่อน มีปัญหาอะไรก็ค่อยมาบอกฉัน!” ชลธีโยนสัญญาคืนให้ธีรนัยน์
ธีรนัยน์รู้สึกน้อยใจมาก เธอทำตามขั้นตอนทั้งหมดเลยนะ ทำไมวันนี้ถึงผิดล่ะ? แต่ประธานบอกว่าให้เอากลับไปอ่านดีๆ งั้นก็กลับไปอ่านเถอะ เธอเลยเตรียมเอาสัญญาไปดูที่ห้องทำงานของตัวเอง
“นี่ เธอไม่ต้องไป นั่งอ่านที่นี่เลย อ่านเสร็จแล้วฉันจะได้เซ็นชื่อ” ชลธีเรียกธีรนัยน์เอาไว้อีกครั้ง
ธีรนัยน์ก็เลยต้องนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานที่ห่างจากโต๊ะของชลธีไม่มาก จากนั้นก็เริ่มอ่านและตรวจสอบสัญญาทุกฉบับ