“ธีรนัยน์เธอเป็นอะไรไป ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?” ตอนที่ณฐวรเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นสีหน้าของธีรนัยน์ไม่ดีนัก เลยนึกว่าเธอจะไม่สบายขึ้นมา
“เปล่า ฉันสบายดี” ธีรนัยน์นั่งลงบนโซฟาที่อยู่ข้างๆณฐวรด้วยท่าทางโกรธเป็นอย่างมาก เธอได้ลอบมองณฐวรไปอีกที หน้าตาหล่อจริงๆ มิน่าผู้หญิงมากมายอย่างนั้นถึงได้มาแอบมองกัน
ณฐวรเห็นธีรนัยน์ดูมีท่าทางไม่พอใจเลยสักนิด เขาวางปากกาในมือลง เดินเข้าไปตรงหน้าของธีรนัยน์ ยื่นนิ้วมือขาวเรียวยาวของเขาออกไปแตะหน้าผากของธีรนัยน์
ธีรนัยน์ตกใจขึ้นมา เธอได้หลบไปข้างหลังทันที เธอยังไม่ชินกับสัมผัสของคนอื่น
แต่ว่าณฐวรกลับไม่ปล่อยให้เธอได้หลบออกไป พอแตะหน้าผากเธอไปแล้วก็ไม่ได้เป็นไข้ จึงได้นั่งลงไปข้างๆเธอ
“ผะ ผะ ผู้จัดการณฐวร เอ่อไม่มีอะไรแล้ว ฉัน ฉันขอตัวออกไปก่อน” ณฐวรเข้ามาใกล้เกินไป กลิ่นหอมจากบนร่างของเขาสอดแทรกเข้ามาในจมูกของธีรนัยน์ ทำให้เธอรู้สึกประหม่าขึ้นมาเป็นอย่างมาก
ณฐวรดึงมือของธีรนัยน์เอาไว้ ให้เธอนั่งลงไป แต่ว่าเรี่ยวแรงของณฐวรที่ใช้มันค่อนข้างแรงไปหน่อย จึงได้ดึงธีรนัยน์เข้ามานั่งลงบนขาของตัวเอง
“อ๊ะ!” ธีรนัยน์รีบเตรียมที่จะลุกขึ้นมาอีกทันที เธอแค่เคยนั่งบนขาของพ่อกับพี่ชายตั้งแต่เด็กๆเท่านั้นเอง ผู้ชายคนอื่นแต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยจะสัมผัสมาก่อนเลย อาการตัวสั่นไปทั้งร่างนั้นทำให้เธอกลัวมาก
“เธอลองนั่งดู หลังจากนี้จะได้ชิน” แต่ว่าณฐวรกลับดึงเธอเอาไว้แน่น ไม่ปล่อยให้เธอไป
ธีรนัยน์รู้สึกประหม่าขึ้นมาก่อน จากนั้นก็เริ่มขัดขืนขึ้นมาเล็กน้อยและก็ได้รู้สึกว่ามันเปล่าประโยชน์ ตอนที่มาถึงช่วงสุดท้าย กลับรู้สึกว่าขาของณฐวรนั่งไปแล้วก็รู้สึกสบายดี
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ธีรนัยน์ก็ไม่ได้ขัดขืนออกมา เธอรู้ว่าตนไม่ได้มีแรงเยอะเท่าณฐวร ผู้ชายคนนี้ดูเป็นคนสุภาพเรียบร้อย นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีแรงเยอะอย่างนี้ แม้แต่ตนก็ยังไม่ใช่คู่มือของเขาเลย
ใบหน้าของธีรนัยน์แดงออกมา เธอก้มหน้าลง เธอกำลังถามตัวเองอยู่ว่า ชอบณฐวรเหรอ? คำตอบนึกไม่ถึงว่าจะแน่ใจมาก! ชอบ! ชอบมากเลยด้วย!
ในตอนที่ธีรนัยน์กำลังคิดเพ้อเจ้ออยู่นั้น ณฐวรก็มองใบหน้าสวยๆนั้นของเธอ อดไม่ได้ที่จะประชิดเข้าไปใกล้ แล้วจูบลงไปบนแก้มอมชมพูของเธอไปทีหนึ่ง
สัมผัสที่อ่อนนุ่มนั้น ทำให้ภายในใจของธีรนัยน์เต้นออกมาอย่างบ้าคลั่งไปสักพักหนึ่ง เธอได้ผลักณฐวรออกไปทันที แล้วพาตัวเองหนีออกมา
กลับมาถึงห้องทำงานของตัวเอง ภายในใจของธีรนัยน์ยังคงเต้นตึกตักอยู่เหมือนเดิม เธอนั้นไม่เคยถูกผู้ชายจูบมาก่อนเลย เพียงแค่มีความคิดจำพวกนั้นขึ้นมา ตอนนี้ก็ยังต้องใช้ไม้พยุงเอาไว้
แต่ว่าตนมาถูกณฐวรจูบไปอย่างนั้น ทำไมตนถึงได้รู้สึกมีความสุขมากกันนะ?
“ธีรนัยน์ เธอกำลังคิดอะไรอยู่?” น้ำหวานจากฝ่ายวางแผนเห็นสีหน้าที่แสดงออกมาของธีรนัยน์มันเยอะมากเลย เธอมองอยู่ข้างๆไปอย่างเงียบๆ คนคนนี้หน้าตาดูดีมากจริงๆ เพียงแต่ดูออกสาวไปหน่อย
“ฉันไม่ได้คิดอะไรอยู่ ฉันก็แค่กำลังคิดไปถึงทีวีที่ดูไปเมื่อวาน” ธีรนัยน์ได้ยินว่ามีคนกำลังคุยกับตนอยู่ เธอจึงได้สติกลับมาทันที
“อ้อ เธอดูเรื่องอะไร ฉันจะกลับไปดูด้วย” น้ำหวานเองก็คลั่งไคล้ในตัวธีรนัยน์มากเช่นกัน ของที่ดูสวยๆงามๆทั้งหมดเธอชอบทั้งนั้นแหละ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ชายที่หน้าดีอย่างนี้เลย!
“ฉันยังมีงาน คุณช่วยอย่ามารบกวนฉัน” ธีรนัยน์ไหนเลยจะโกหกชื่อละครออกไปได้กัน เธอจึงได้พูดกับน้ำหวานออกไปอย่างนั้นทันที
“อ้อ โอเคๆ งั้นฉันกลับไปแล้ว” น้ำหวานเห็นธีรนัยน์ไม่พอใจ เธอจึงรีบกลับไปที่ที่นั่งของตัวเองทันที
ธีรนัยน์อยู่ที่ฝ่ายวางแผน หลักๆเลยก็จะช่วยตรวจสอบภาพที่ได้วาดออกมา ฝ่ายวางแผนนี้เป็นฝ่ายวางแผนสื่อโฆษณา ดังนั้นแล้วของหลายอย่างที่อยู่ภายในล้วนแล้วแต่จะใช้คอมในการวาดออกมาทั้งนั้น
ธีรนัยน์เป็นคนที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้เลยคนหนึ่ง จึงทำได้แค่เพียงมองดูไปเท่านั้น แต่ว่ามุกดาได้ให้เวลากับเธอ อยากให้เธอเข้าใจความรู้พื้นฐานของทางด้านนี้โดยเร็ว ธีรนัยน์เองก็ได้ทำงานอย่างตั้งอกตั้งใจขึ้นมา
ธีรนัยน์ทำงานไปอย่างตั้งอกตั้งใจ เพียงไม่นานก็ได้ลืมปฏิกิริยาต่อกันกับณฐวรเมื่อเช้าไปจนสิ้น แต่ว่าณฐวรกลับลืมไม่ลง แก้มของธีรนัยน์หอมมากเลย ทำให้เขาจูบไปครั้งหนึ่งแล้วก็อยากจูบเป็นครั้งที่สองขึ้นมา
ณฐวรเองก็ไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนอื่นที่นอกจากแม่ และพี่สาวมาก่อนเช่นกัน ชอบเว้นระยะห่างกับนักเรียนสาวทุกคน
จุ๊บผู้หญิง ธีรนัยน์ก็เป็นคนแรกเลย ณฐวรก็เป็นครั้งแรกของเขาเลยด้วย แต่ว่าความรู้สึกก็ดีเลยทีเดียว เขาชอบความรู้สึกนี้มากเลย
“ธีรนัยน์ กินมื้อเที่ยงได้แล้ว เธอยุ่งมาตลอดทั้งเช้าหนึ่งแล้ว” น้ำหวานเรียกธีรนัยน์ไปกินข้าวอย่างกระตือรือร้น
“อืม โอเค คุณไปก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวฉันค่อยไป” ธีรนัยน์ตอบรับออกไป แต่ว่าเธอไม่ได้อยากจะไปกินข้าวกับน้ำหวาน เธอเลือกที่จะกินคนเดียวดีกว่า
น้ำหวานเดินออกไปด้วยความสิ้นหวัง ธีรนัยน์เก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว เธอก็ได้เดินไปยังโรงอาหาร ทันทีที่เดินออกไปจากประตูห้องทำงาน ก็เห็นณฐวรกำลังรอตนอยู่ที่ตรงนั้น คนอื่นต่างก็เดินออกไปกันประมาณหนึ่งแล้ว ตรงทางเดินจึงเหลือเพียงแค่พวกเขาสองคน
เดิมทีแล้วก็เข้ากันได้ดีอยู่หรอก แต่ว่าเกิดเรื่องเมื่อเช้านี้ขึ้นมา ธีรนัยน์เห็นณฐวรแล้วก็รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองขึ้นมาเล็กน้อย แต่ณฐวรกลับมีสีหน้าที่มีความสุขพึงพอใจออกมา
“ธีรนัยน์ ไปกินข้าวกันเถอะ” ณฐวรชวนธีรนัยน์ ธีรนัยน์ก็ทำอะไรไม่ได้ จำต้องตามเขาไปกินข้าวด้วย
ตอนที่ทั้งสองคนเดินมาถึงโรงอาหาร คนหลายคนก็กำลังมองตามทั้งสองไปด้วยสายตาที่แสดงความเคารพนับถือออกมา ทั้งสองคนต่างก็สุดยอดกันเสียอย่างนี้ แล้วยังเดินมาด้วยกันอีก ณฐวรที่ตัวสูงเป็นคนที่ดูสูงส่งสง่างาม ดูงดงามออกมา
ธีรนัยน์ที่เตี้ยกว่าหน่อยกลับมีหน้าที่งดงามเป็นอย่างมาก แบบเดียวกับคุณผู้หญิงของท่านประธานเลย
“เฮ้ เธอดูธีรนัยน์คนนั้นสิ หน้าตาสวยเกินไปแล้ว ผู้ชายที่บริษัทต่างก็ไม่ได้สวยเหมือนอย่างเขาเลย แทบจะแข่งกับคุณหญิงของท่านประธานได้เลย” มีคนกินไปพลางแล้วพูดคุยออกมาพลาง
“ไปไกลๆเลยไป คุณหญิงของท่านประธานเป็นผู้หญิง ธีรนัยน์เขาเป็นผู้ชายนะ ถึงแม้ว่าจะดูสาวไปหน่อย เธอจะมาเปรียบเทียบเขากับคุณหญิงของท่านประธานไม่ได้นะ?” มีคนได้ทำการแก้ความคิดของคนคนนั้นให้ถูกต้องออกมาทันที
“เธอลองดูสิความสัมพันธ์ของผู้จัดการณฐวรกับธีรนัยน์ดีเสียขนาดนั้น แล้วยังย้ายมาที่ฝ่ายวางแผนด้วยกันอีก เธอว่าพวกเขาทั้งสองคนมีความสัมพันธ์อะไรกันหรือเปล่า? ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะก็ จะมีผู้หญิงตั้งเท่าไหร่ที่ต้องเสียใจกันน่ะ!” ได้มีอีกคนหนึ่งกำลังทอดถอนหายใจออกมา ความสัมพันธ์ของณฐวรกับธีรนัยน์ทุกคนต่างก็รู้กันทั้งนั้น
ถึงแม้ว่าหลังจากเลิกงานทั้งสองคนจะไม่ได้ไปที่ที่หนึ่งกันเป็นประจำ แต่ก็ไม่อาจรับรองได้ว่าทั้งสองคนจะไม่ไปยังจุดหมายปลายทางแห่งหนึ่งกัน
“ใช่ๆ ผู้ชายสองคนถ้าคบกัน อย่างนั้นมันก็จะเสียของมากเลยจริงๆ ยีนดีๆอย่างนั้นต้องเสียของไปหมดเลย” เสียงของคนเหล่านั้นยิ่งพูดก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ
เดิมทีแล้วตอนที่กินข้าวนั้นจะเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับการเม้าท์มอยกันเลย ยิ่งบวกกับณฐวรและธีรนัยน์ต่างก็เป็นคนที่โดดเด่นด้วยอีก คนที่พูดก็เลยเยอะมากไปด้วย เสียงเองก็ดังมากเช่นกัน คำพูดเหล่านั้นได้ลอยเข้ามาในหูของณฐวรกับณฐวร
“พวกเขา!” ธีรนัยน์ได้ยินก็อยากจะไปแถลงไขสักหน่อย มาหมิ่นประมาทเธอไม่ว่า แต่นึกไม่ถึงว่าจะบอกว่าเธอกับณฐวรกำลังรักร่วมเพศกันอยู่! พวกเขาทั้งสองคนเหมือนเกย์เหรอ? มีตาแต่ไม่มีแววจริงๆเลย!