“วรรณวิมล มีคนมาเยี่ยมเธอ”ตอนที่วรรณวิมลกำลังโมโหกำแพงอยู่นั้น ตำรวจประจำคุกก็เรียกเธอออกไป
วรรณวิมลได้ยินแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองมีความหวังแล้ว เธอนึกว่าธินิดาจะละทิ้งเธอแล้วซะอีก ไม่คิดเลยว่ายังนึกถึงเธออยู่
วรรณวิมลออกมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ประจำคุก เธอมาถึงห้องรับแขก แต่กลับเห็นว่าคนที่มาเจอเธอนั้นไม่ใช่ธินิดา แต่กลับเป็นผู้ชายคนหนึ่ง
ผู้ขายคนนี้หน้าตาหล่อเหลามาก วรรณวิมลคิดอยู่ครู่หนึ่ง คนคนนี้คืออุไรภัสร์ พี่ชายของธินิดา เขามาเยี่ยมเธอทำไมกัน?
“อ่อน ลำบากหน่อยนะ” ตอนที่อุไรภัสร์เห็นวรรณวิมล เขาก็ยืนขึ้น ต้องยอมรับว่าอุไรภัสร์ก็เป็นมังกรและนกฟินิกซ์ในบรรดาหมู่มวลมนุษย์เหมือนกัน ทั้งสูงทั้งหล่อ ตอนที่เขายืนขึ้น ทำให้คนอื่นรู้สึกอิ่มตาอิ่มใจ พอวรรณวิมลเห็นคนหล่อก็รู้สึกตื่นเต้น ธีร์ธวัชไปแล้ว เธอไม่ได้รับความรักมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ว่าไม่กี่วันก่อนเธอกลับได้รับความรักจากคนกลุ่มหนึ่ง แต่ว่าเธอก็ไม่สนใจหรอก
“ประธานอุไรภัสร์ ทำไมคุณถึงมาเยี่ยมฉันล่ะคะ น้ำผึ้งให้คุณมายังงั้นเหรอ? “วรรณวิมลเองก็ไม่สนใจว่าเสื้อผ้าของตัวเองสกปรกมาก เธอขยับเข้ามาใกล้อุไรภัสร์
“คุณนั่งลงก่อนเถอะ เธอเป็นคนบอกให้ผมมาเยี่ยมคุณเอง เธอเป็นห่วงคุณมาก บอกว่าคุณต้องเจอกับความลำบาก”ความรังเกียจของอุไรภัสร์ฉายแววในดวงตาของเขา แต่ว่าตอนนี้เขาจะทำให้วรรณวิมลรู้สึกคับข้องใจไม่ได้
วรรณวิมลก็เลยต้องนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับอุไรภัสร์
“ประธานอุไรภัสร์ ต้องขอบคุณพวกคุณมากนะคะ มันเป็นเพราะว่าดวงของฉันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ฉันน่ะสบายดีนะคะ แต่ว่าฉันอยากออกไป……”วรรณวิมลอธิบายเหตุผลที่ตัวเองถูกจับมา
“ทั้งหมดมันไม่สำคัญแล้ว คุณแค่ต้องระวังคำพูดของตัวเองให้ดี พวกเราจะคิดหาวิธีกัน”เสียงของ อุไรภัสร์เบา ใช้เสียงที่มีเพียงแค่วรรณวิมลเท่านั้นที่ได้ยิน
“อืม อืม ฉันรู้แล้วค่ะ รู้แล้ว”วรรณวิมลรีบตอบรับในทันที เธอมองไปที่อุไรภัสร์ด้วยสายตาที่งุนงง ที่นี่มันลำบากมากเลย เธอไม่อยากจะอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นมีเพียงแต่มอบความหวังไว้ให้ธินิดาแล้ว
“ตอนนี้ยังไม่ได้สำรวจสำนวนและตัดสินคดีของคุณ คุณก็ไตร่ตรองเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน อะไรที่ควรพูดก็พูด ไม่ควรพูดก็ไม่ต้องพูด เข้าใจไหม? “น้ำเสียงของอุไรภัสร์นั้นอ่อนโยนมาก เขากำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมของผู้ชายหล่อ
“เข้าใจแล้วค่ะ เข้าใจแล้ว พวกคุณวางใจเถอะ แต่ว่าฉันจะสามารถออกไปได้เมื่อไหร่? ” วรรณวิมลจัดแจงผมที่ยุ่งเหยิงของตัวเอง หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เธอก็ยังไม่เคยหวีผมเลย
“พวกเราจะคิดวิธีให้เร็วที่สุด คุณวางใจเถอะนะ อย่าคิดอะไรมากเลย พวกเราจะหาทนายที่เก่งที่สุดให้คุณเอง”อุไรภัสร์ปลอบวรรณวิมล
หลังจากที่อุไรภัสร์ได้มาเจอกับวรรณวิมล ก็ทำให้วรรณวิมลรู้สึกอุ่นใจ เธอรู้ว่าธินิดายังไม่ได้ละทิ้งเธอ เธอก็ต้องพยายามให้ธินิดาพาเธอออกไปให้ได้
เรื่องที่อุไรภัสร์ไปเยี่ยมวรรณวิมลก็ถึงหูของชลธีอย่างรวดเร็ว ความไม่ชอบพอในตัวของอุไรภัสร์ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาต้องการให้วรรณวิมลยอมปริปา แล้วก็ลากธินิดาออกมา ดูเหมือนว่าตอนนี้อุไรภัสร์ก็เป็นคนที่รู้เรื่องด้วยอีกคนหนึ่งแล้ว
อีกไม่นานคดีของวรรณวิมลก็จะถูกอ่านสำนวนและตัดสินแล้ว แน่นอนว่าวรรณวิมลยืนกรานไม่ยอมรับข้อกล่าวหาของตัวเอง บอกว่าตัวเองถูกกลั่นแกล้งอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม ทนายของเธอก็หยิ่งมาก บอกว่าอยากให้อีกฝ่ายยื่นหลักฐาน
เนื่องจากผ่านไปนานทนายของอีกฝ่ายก็ยังไม่แสดงหลักฐาน ทำให้วรรณวิมลรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น เธอรู้ว่าวิดีโอนั้นถูกทำลายไปแล้ว อีกฝ่ายก็ไม่มีทางมีหลักฐานอย่างแน่นอน
“ศาลที่เคารพคะ ฉันถูกกลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งๆ ที่เด็กทั้งสองคนทะเลาะกันก็เลยได้รับบาดเจ็บ แล้วทำไมต้องบอกว่าเป็นฉันด้วย? ฉันบริสุทธิ์มาก ฉันจะร้องเรียน แม่ของเด็กใส่ร้ายฉัน โทษฉัน ฉันไม่ได้รับความเป็นธรรมจริงๆ นะคะ พวกคุณต้องให้ความเป็นธรรมกับฉันด้วยนะคะ”วรรณวิมลพูดแล้วน้ำตาก็ซึม
ผู้คนจำนวนมากในที่นี่ไม่รู้ความจริงและคิดว่าเป็นเศรษฐีที่ใช้เงินเพื่อข่มเหงผู้อื่น
หลักฐานที่พ่อแม่ของเด็กอ้วนให้มานั้นก็ซีดมากเช่นกัน และพวกเขาแค่บอกว่าเกิดอะไรขึ้นในเวลานั้น แต่ดูเหมือนมันยังแปลกและมีข้อบกพร่อง
ช่วงเวลาพักนั้น ตอนที่วรรณวิมลเดินผ่านมุกดา แววตาของเธอเต็มไปด้วยความพึงพอใจ ถึงแม้ว่าวันนี้ธินิดากับอุไรภัสร์จะไม่ได้มาเยี่ยมตัวเอง แต่ว่าเธอมั่นใจมาก ธินิดาได้ดูแลทุกอย่างไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว ขอแค่ตัวเองไม่ยอมรับ ก็สามารถออกไปได้
มุกดาเพียงแค่เหลือบมองวรรณวิมลอย่างเย็นชา ให้เธอพอใจไปก่อนเถอะ แต่ว่าผู้หญิงคนนี้นี่ช่างโง่จริงๆ เธอถูกขายแล้ว ยังช่วยคนอื่นนับเงินอีก!
พอพักผ่อนครู่หนึ่งแล้ว ก็เริ่มการพิจารณาคดีต่อ วรรณวิมลกลับมายังตำแหน่งของตัวเอง เธอมองไปยังคนที่อยู่รอบๆ เหมือนกับว่าเมื่อกี้พวกเขาช่วยเหลือตัวเองอยู่ เธอก็ยิ่งมีความสุข ถ้าเกิดว่าไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด มุกดา ฉันก็จะพ้นโทษ ฮ่าๆๆๆ เธอต้องผิดหวังอย่างแน่นอน
วรรณวิมลทำให้ตัวเองมีความสุข เธอไม่มีความกดดันอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ได้แต่ยืนอยู่แบบนั้นอย่างสบายใจ
การสอบสวนดำเนินต่อไป และทนายความของวรรณวิมล ก็รู้สึกว่าเขาต้องชนะคดีในวันนี้
แต่ว่ามีคนเดินเข้ามาจาก ด้านนอก วรรณวิมลกับทนายของเธอมองไปที่คนคนนั้น วรรณวิมลรู้สึกว่าคุ้นตา แต่จำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหน
ผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามา เขาไม่ได้มองวรรณวิมลเลย ได้แต่เดินไปหาทนายความของมุกดาแล้วก็ยื่นของดำๆ ให้กับเขา
“ตอนนี้ โจทก์ก็ได้มีหลักฐานเรียบร้อยแล้ว”ผู้พิพากษาพูดกับทนายของมุกดา
ทนายของมุกดาเปิดคอมพ์ของตัวเอง แล้วก็เล่นสิ่งที่ได้จากผู้ชายคนนั้นผ่านทางโปรเจคเตอร์
เด็กในโรงเรียนอนุบาลต่างก็เล่นเกมกัน ทันใดนั้นเงาสีดำก็แอบเข้ามาซ่อนในห้องน้ำของโรงเรียนอนุบาล หลังจากที่ร่างนั้นเข้าไป ก็ยังยื่นหน้าออกมาดู เธอมองไปยังทิศทางของกล้องวงจรปิด แ่ว่ากล้องถูกทำลายแล้ว เธอจึงเข้าไปโดยไม่ต้องกังวล
หลังจากนั้นก็ทำให้เด็กๆ ตื่นตัว แล้วเจ้าอ้วนน้อยก็เริ่มมีปากเสียงกับอักลี่ ล่ออักลี่เข้าไป แล้วเงาดำนั้นก็ออกมาจากห้องน้ำ เธอจับอักลี่ไว้จากทางด้านหลัง อักลี่ไม่ทันป้องกันตัว เลยถูกเธอจับไว้ได้ เธอเริ่มทำร้ายอักลี่ อักลี่ก็พยายามดิ้นรน ขัดขืนอยู่ในอ้อมแขนของเธอ
แล้วในตอนนี้ก็ได้เห็นแววตาที่ดุร้ายของเธอ เธอหยิบตะปูเล่มยาวออกมาจากตัวเอง แล้วก็ปักลงในที่หัวของอักลี่อย่างรุนแรง เลือดไหลออกมา เจ้าอ้วนน้อยก็ตกใจแล้วก็นั่งลงกับพื้นในทันที
หลังจากนั้นเงาดำก็วิ่งหนีไป เธอไม่ทันสังเกตว่าการกระทำของเธอถูกถ่ายโดยกล้องที่ถูกซ่อนเอาไว้ แล้วใบหน้านั้นก็คือวรรณวิมล
ผู้ชมทั้งหมดเดือดดาล ปรากฏว่า ผู้หญิงคนนี้เลวทรามมากและทำร้ายเด็กอย่างรุนแรง
หลังจากที่วรรณวิมลได้ดูวิดีโอแล้ว เธอก็ช็อกไปในทันที บอกว่าทำลายกล้องวงจรปิดทั้งหมดไปแล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมสิ่งที่เธอทำถึงได้ถูกถ่ายไว้อย่างชัดเจนขนาดนี้ เธอไม่รู้แล้วว่าควรทำอย่างไร