[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit – บทที่2 ตอนที่ 39

บทที่ 2 ตอนที่ 39

 

* อีวา ซิวลิซส์ *

 

แสงสีรุ้งปรากฏขึ้นจากแผ่นหลังของผู้บัญชาการอัศวินที่ล้มลงไป—มันเป็นแสงจากหินสกิล แสงของ【ทักษะดาบศักดิ์สิทธิ์】นั่นเอง

 

เมื่อความมืดได้เอื้อมมือไปแตะแสงนั้น แสงก็ได้ปริแตกและสลายหายไปพร้อมกับเสียงเล็ก

 

「อ้าา–」

 

เสียงคร่ำครวญของใครบางคนดังขึ้น สกิลที่ดีที่สุดของประเทศได้หายไปแล้ว

 

(มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน!)

 

ทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น?

 

นี้ชั้นทำผิดพลาดครั้งใหญ่งั้นหรอ?

 

ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ โดยบังเอิญรวมกันจนได้ผลลัพธ์แบบนี้งั้นหรอ?

 

—มิสอีวา

 

เธอนึกถึงเด็กชายที่ติดตามเธออย่างกับลูกสุนัขตัวน้อยๆ

 

ตอนนี้เขาได้เปลี่ยนไปกลายเป็นความมืดนั่นแล้ว—อีวาอยากจะเบือนหน้าหนีจากความจริงอันโหดร้ายนั้น

 

「มิร่า ลูกอยู่นี้หรือเปล่า?」

 

「ท่านพ่อ!?」

 

เงาร่างใหญ่ได้เข้ามาใกล้พวกเขา เป็นเอิร์ลประจำชายแดน พ่อของมิร่านั่นเอง

 

「มันมืดเกินไปจนมองไม่เห็นทางเลย」

 

「มะ-มันเกิดอะไรขึ้นกันคะ!?」

 

「พ่อจะไปรู้ได้ยังไงกันละ! แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่สู้ดีแล้ว」

 

「พวกเราจะทำยังไงกันดี…?」

 

「ตอนนี้พ่อต้องการดาบ เห้ย มีใครให้ข้ายืมดาบได้บ้าง」

 

เอิร์ลชายแดนรับดาบมาจากขุนนางเด็กใกล้ๆ

 

「พวกเราควรจะออกไปจากที่นี่ ไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยให้ฝ่าบาทกับเอลจัดการเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นแล้ว」

 

「แต่ว่าท่านเอิร์ลชายแดนครับ จะดีหรอครับที่ให้พวกเราข้าราชบริพารหนีออกไปแบบนี้นะครับ?」อีธานถามขึ้น

 

「ความกล้าหาญเป็นเรื่องที่ดี แต่ค่อยพูดแบบนั้นในตอนที่เจ้ามีพลังพอที่จะสู้ก่อนแล้วกัน นอกจากนี้ เจ้ามีหน้าที่ต้องปกป้องท่านคลูฟชราทด้วย」

 

ใช่แล้ว เจ้าชายศักดิ์สิทธิ์เองก็อยู่ที่นี่ด้วย อีธานพึ่งจะรู้ตัวถึงเรื่องนี้

 

「จริงด้วย ขออภัยด้วยครับ ท่านคลูฟชราทครับ รีบออกไปจากที่นี่กันดีกว่าครับ」

 

「…………」

 

「พวกเราทำอะไรไม่ได้หรอกครับ」

 

「มันจะเป็นแบบนั้นจริงๆหรอ?」

 

「อะไรนะครับ?」

 

ในจังหวะนั้น สีหน้าอ่อนโยนของคลูฟชราทก็เคร่งเครียดขึ้น

 

「…หินสกิลนั่นควรจะมอบให้กับผมใช่ไหมละ ถ้างั้น บางทีอาจจะมีอะไรที่ผมทำได้ก็ได้นะ?」

 

「นะ-นั่นก็…」

 

ไม่มีใครแน่ใจในเรื่องนั้น แต่มันก็มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ทุกคนคิดว่ามันอาจจะเป็นไปได้ก็ได้

 

「อย่างที่เจ้าพูดนั่นแหล่ะ」

 

ก่อนที่ใครจะรู้ตัว ความมืดก็ได้อยู่ที่ด้านหน้าของเจ้าชายศักดิ์สิทธิ์เพียงแค่ 5 เมตรแล้ว ไม่มีใครเห็นมันลงมาจากบันไดเลยด้วยซ้ำ

 

(กลิ่นนี้มัน…!)

 

ถึงมันจะมืดไปหมดแล้ว แต่มันก็ยังรู้สึกว่ามันจะยิ่งมืดมิดเข้าไปอีก ลมเบาๆพัดมาจากความมืดและเติมเต็มรอบๆด้วยกลิ่นไหม้ๆ

 

「ฝ่ายเจ้าเป็นคนทำลายพันธสัญญาเก่าก่อนเอง」

 

อีวานั้นไม่คุ้นเคยกับคำว่า “พันธสัญญา”

 

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าความมืดจะเน้นตรง “พันธสัญญา” อะไรนั่นนะ

 

「ราคานั่นแสนยิ่งใหญ่ หินสกิลนั่นดับสลายไปก็เพราะพันธสัญญาดั้งเดิม」

 

หินสกิลที่หมายถึง—มันจะต้องเป็น【ทักษะดาบศักดิ์สิทธิ์】แน่นอน

 

หินสกิล 6 ดาวที่ตกทอดกันมาหลายปี และหินหายากนั้นก็ได้ถูกลบหายไปง่ายๆพร้อมกับการตายของผู้บัญชาการอัศวิน

 

ราชันศักดิ์สิทธิ์นั้นคุกเข่าลงที่ข้างๆร่างที่ไม่ไหวติงของผู้บัญชาการอัศวิน ผู้นำประเทศนี้ ผู้ที่มักจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและศักดิ์ศรีเสมอนั้น กำลังทุกข์ระทมอยู่ เรื่องที่【ทักษะดาบศักดิ์สิทธิ์】นั้นใช้งานไม่ได้ รวมถึงการตายของผู้บัญชาการอัศวินคงจะไปสั่นคลอนจิตใจของเขา

 

「ยังไม่พอหรอก ทั้งตระกูลได้ทำลายพันธสัญญาไปแล้ว ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!… เหล่าพี่น้องของข้ากำลังกรีดร้อง! เจ้าได้ยินไหม? พวกเขาพูดว่าเจ้ามันน่าอร่อย…」

 

เมื่อความมืดพยายามจะเข้าใกล้คลูฟชราท ราชันศักดิ์สิทธิ์ก็ลุกขึ้น

 

「อย่ามาแตะต้องคลูฟชราท!!!!!」

 

ราชันศักดิ์สิทธิ์ขว้างคฑาของเขามาที่หัวของความมืด เมื่อความมืดหันไปรับคฑานั้นก็เกิดสเก็ตไฟฟ้าสีทองกระเด็นไปมา

 

「ไอ้เจ้าพวกสารเลวที่อยากจะดูดเลือดเนื้อของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ไปตลอดกาลเอ้ย!!!」

 

คฑากระเด็นตกลงบนพื้นจนเกิดเสียง ก่อนจะหยุดนิ่งไป

 

「โง่เขลา ถ้างั้น ก็ยกเลิกพันธสัญญาซะสิ」

 

「อย่างที่ข้าต้องกา—」

 

「ฝ่าบาท! โปรดรอก่อนขอรับ!」

 

เอลกอดราชันศักดิ์สิทธิ์จากข้างหลังแล้วหยุดเขาเอาไว้

 

「มันเป็นกับดักจากพวกมันที่มาจากอีกโลกนึงขอรับ! การยกเลิกพัธสัญญาเป็นสิ่งที่พวกนั้นต้องการมากที่สุดขอรับ!!」

 

「ที่ดาบศักดิ์สิทธิ์ถูกลบหายไปเป็นเพราะพวกเราถูกผูกมัดด้วยพันธสัญญา! เพราะมีพันธสัญญาเป็นโล่ พวกมันก็เลยทำตามใจชอบได้ไง! ถ้าห่วงโซ่นี้หายไปละก็ ข้าจะสามารถทำลายพวกมันที่อีกโลกด้วยภาคีอัศวินของข้าได้!」

 

「ฝ่าบาท! ความคิดของท่านมืดบอดเพราะบุตรของท่านนะขอรับ!」

 

「หุบปาก! คนอย่างเจ้าที่มีชีวิตเพียงชั่วคราวจะไปเข้าใจอะไร!」

 

เอลถูกราชันศักดิ์สิทธิ์พลักจนล้มลงไปข้างหลัง

 

「ประกาศยกเลิกพันธสัญญาซะ」

 

「อย่างที่ข้าต้องการเลย! ข้า ราชันแห่งราชอาณาจักรครูวานศักดิ์สิทธิ์–」

 

มีบางอย่างผิดปกติ บางอย่างที่เลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น ความคิดแบบนั้นแล่นเข้ามาในหัวของอีวา

 

「มะ-ไม่—!?」

 

อีวาพยายามที่จะขัด ทว่าความมืดก็ได้มองมาที่เธอ—ไม่สิ เป็นใบหน้าของหลุยส์ที่มองมาที่เธอ ใบหน้าไร้ชีวิตของหลุยส์ผุดออกมาจากความมืดแล้วมองตรงมาที่อีวา “ทำไมเธอถึงยังยืนอยู่?”, “ทำไมเธอต้องบังคับให้ผมทำแบบนี้?”, “ทำไมเธอถึงยังมีชีวิตอยู่?” เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังถามแบบนั้น และความกล้าของเธอก็ได้หายไปหมดสิ้น

 

(ชั้นทำไม่ได้ ชั้นทำอะไรไม่ได้เลย สุดท้ายแล้ว ชั้นก็เป็นได้แค่เด็กที่ทำอะไรไม่ได้ถ้าไม่มีตำแหน่งขุนนาง)

 

อีวาดิดอยู่ในความหวาดกลัวและขยับไม่ได้

 

ท้ายที่สุด ราชันศักดิ์สิทธิ์ก็ได้พูดออกมา

 

「–ขอยกเลิกพันธสัญญาบ้าๆนี้!!!」

 

(ช่วยชั้นด้วย เรย์จิ!!!)

 

อีวากรีดร้องออกมาจากก้นบึ้งของจิตใจ

 

「คำประกาศของเจ้า พวกเรายอม–」

 

ทว่า ก่อนที่ความมืดจะประกาศส่วนของมันเสร็จ

 

แสงได้สาดส่องเข้ามาพร้อมกับเสียงอันดังกึกก้องราวกับกระจกแตก

 

「โอ้วววววววว! ในที่สุด!!! มันก็แตกซักที!」

 

「…อา」

 

คนที่ปรากฏตัวขึ้นคือคนที่อีวาร้องโหยหาอย่างสิ้นหวัง—คนคุ้มกันที่น่าเชื่อถือที่สุดของเธอ

 

「เรย์จิ!」

 

 

 

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit

[นิยายแปล] Overlimit Skill Holder – Only A Reincarnator Can Possess The Skill That Exceeds The Limit

Options

not work with dark mode
Reset