“เสี่ยวหลินตัง เธอจะลำบากไปทำไมกัน? กู่ยี่เทียนอะไรนั่นเขาไม่ได้ชอบเธอ ทำไมเธอต้องดื้อรั้นวิ่งตามเขาด้วย? ทำไมถึงอยู่กับฉันไม่ได้? ฉันสู้มันไม่ได้ตรงไหนกันแน่?”
อูหลิงจ้องมองเสี่ยวหลินตังที่กำลังยุ่งอยู่กับการเก็บของ ในที่สุดก็ปะทุ พลันแย่งเสื้อผ้าออกจากมือของเขาโยนลงกับพื้น คำถามเธออย่างโมโห
นี่เป็นครั้งแรกที่อูหลิงโมโหใส่เสี่ยวหลินตัง ทำให้เสี่ยวหลินตังกระตุกวูบ น้ำตาที่เหือดแห้งไหลอาบอีกครั้ง ไม่กล้าจ้องหน้าอูหลิง
“ก็ฉันชอบเขา จะให้ฉันทำยังไง? ฉันเองก็อยากจะเลิกชอบเขา อยู่กับคนที่รักฉัน แต่ฉันทำไม่ได้ ในใจฉันมีแต่กู่ยี่เทียนคนเดียว ฉันไม่มีพื้นที่ให้นายแล้ว”
“อูหลิง อย่าเสียเวลากับฉันอีกเลย ปล่อยวางจากฉันซะเถอะ เราเป็นไปไม่ได้ ฉันสำหรับเผ่าของนาย เป็นเพียงคนนอก ฉันไม่มีทางที่จะอยู่กับนาย”
แม้เผ่ากู่จะไม่ได้มีปฏิกิริยาที่ย่ำแย่ต่อเสี่ยวหลินตังเหมือนกับไขจี๋เออสองพี่น้อง พี่เสี่ยวหลินตังก็รู้สึกได้ พวกเขาก็ยังคงระมัดระวังกับเธอ
หากเธอไม่ได้เป็นคนที่ฐานะเป็นคนรักของอูหลิง คนของเผ่ากู่คงจะไม่เกรงใจพวกเขาแล้ว
ทีแรกอูหลิงเห็นเสี่ยวหลินตังน้ำตาไหล พลันลนลานทำอะไรไม่ถูก แต่เมื่อได้ยินประโยคหลังของเสี่ยวหลินตัง มือที่คิดที่จะเช็ดน้ำตาให้กับเขาหดกลับ
ดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ มือทั้งสองข้างกำแน่น ในใจมีความโกรธและเสียใจอย่างบอกไม่ถูก
เขาชอบเสี่ยวหลินตังมาหลายปี หรือแม้แต่เพื่อให้คนในเผ่ายอมรับเสี่ยวหลินตัง ถึงขนาดใช้คำขู่ไม่ยอมรับตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้าน
ทีแรกเขาคิดว่าเพียงแค่เฝ้าเสี่ยวหลินตังอยู่เงียบๆ รักเขา ดีต่อเธอ สักวันจะมีวันที่ฟ้าสดใส
แต่ไม่คิดว่าความฝันเหล่านี้จะพังทลายลง
“ใช่ เราสองคนอยู่ด้วยกันไม่ได้ เธอกับกู่ยี่เทียนอะไรนั่นอยู่ด้วยกันได้หรือ? เธอเลิกโง่ซะทีจะได้ไหม? เขาไม่ได้รักเธอ!”
“ทำไมเธอถึงยอมที่จะรักคนที่ไม่รักเธอ ก็ไม่ยอมที่จะหันมามองฉันงั้นหรือ? เสี่ยวหลินตัง ฉันยังดีกับเธอไม่พออีกหรือ? ห๊า?”
อูหลิงขาดการควบคุม มือทั้งสองข้ามจับแขนของเสี่ยวหลินตังอย่างแรง เค้นถามด้วยเสียงที่ดังลั่น
เสี่ยวหลินตังรู้สึกแขนของเธอกำลังจะแหลกละเอียด ใบหน้าเล็กเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“อูหลิง นายทำฉันเจ็บ”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ปะปนไปด้วยความเจ็บปวด อูหลิงได้สติกลับคืนมากว่าครึ่ง เขาจ้องมองใบหน้าที่ขาวซีดของเสี่ยวหลินตัง รีบคลายมือออก
“เสี่ยวหลินตัง ขอโทษ ฉัน ฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันแต่รู้สึกทรมาน เธอ เธออย่าโกรธฉันเลยนะได้ไหม?”
อูหลิงจ้องมองเสี่ยวหลินตังอย่างทำอะไรไม่ถูก อยากจะดูอาการที่แขนของเสี่ยวหลินตัง ทว่ากลับวางลงเมื่อยกขึ้นได้เพียงครึ่ง เสมือนกับเด็กน้อยคนหนึ่งที่ทำผิด ไม่กล้าแม้แต่จะจ้องมองเสี่ยวหลินตัง
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้โทษนาย” เสี่ยวหลินตังทนความเจ็บปวดนวดแขนของตนเอง ก่อนที่จะเก็บสัมภาระของตนเองต่อ
“เสี่ยวหลินตัง เขาดีขนาดนั้นจริงหรือ?” อูหลิงจ้องมองเงาร่างของเสี่ยวหลินตัง ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง
เขาอยากจะรู้ ว่ากู่ยี่เทียนมีดีตรงไหนกันแน่
ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา ความสามารถ มีตรงไหนบ้างที่เขาสู้กู่ยี่เทียนไม่ได้ แต่ทำไมเสี่ยวหลินตังไม่แม้แต่จะมองเขา?
หลังได้ยินคำพูดของอูหลิง ร่างของเสี่ยวหลินตังสั่นไหว มือที่หยิบเสื้อผ้าเอาไว้ใช้แรงมากขึ้น
นั่นสิ เขามีดีขนาดนั้นจริงหรือ?
สิ่งที่เสี่ยวหลินตังเองก็คอยเฝ้าถามคำถามกับตนเอง
กู่ยี่เทียนปฏิเสธเธอชัดเจนขนาดนั้นแล้ว ทำไมเธอถึงยังไม่ยอมตายใจ? บนโลกมีคนที่ดีกว่าเขามากมายแท้ๆ แต่เธอกลับอยากจะอยู่กับเขา?
“ฉันเองก็ตอบไม่ได้ว่าเขามีดีตรงไหนกันแน่ ฉันแค่อยากอยู่กับเขา ถ้าหาก คนที่อยู่กับฉันจนถึงสุดท้ายไม่ใช่เขา ฉันยอมที่ไม่แต่งงานไปตลอดชีวิต”
เสี่ยวหลินตังกลับหลังหันจ้องมองอูหลิง บนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น
เมื่ออูหลิงได้ยินอย่างงั้น ร่างกายของเขาฟุบลง ก้มหน้าลง ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ผ่านไปอยู่นาน เขาถึงได้กล่าวกับเสี่ยวหลินตัง
“อันที่จริงฉันเองก็ถามตัวเองอยู่ ทำไมถึงต้องเป็นเธอ ทำไมถึงหาผู้หญิงสักคนในเผ่าแล้วใช้ชีวิตด้วยกันไม่ได้ ฉันเฝ้าถามตัวเองนับไม่ถ้วน ก็ไม่ได้คำตอบเหมือนกัน”
“เธอมีความรู้สึกแบบนี้ต่อกู่ยี่เทียน ฉันเองก็รู้สึกแบบนี้กับเธอ หากเธอมุ่งมั่นต้องเป็นเขา ถ้างั้นฉันก็คงได้แต่รอเธอ ถ้าอนาคตเธอทำให้กู่ยี่เทียนรู้สึกได้ ทำให้เขารักเธอได้ ฉันจะอวยพรให้กับพวกเธอ”
“แต่ว่า มีข้อแม้ ว่ากู่ยี่เทียนต้องดีต่อเธอตลอดไป หากฉันรู้ว่าเขาทำร้ายเธอ ต่อให้ฉันตายก็จะต้องทำให้เขาชดใช้ให้ได้ เสี่ยวหลินตัง ฉันอูหลิงจะแต่งงานกับแค่เธอเท่านั้น”
เมื่อจ้องมองสายตาของอูหลิง หัวใจของเสี่ยวหลินตังราวกับขวดพลาสติกที่ตกหล่น รู้สึกสับสน ประหม่า
บางครั้งความรักก็เป็นเรื่องตลก เขาผิดหวังจากกู่ยี่เทียน และเธอก็เป็นคนที่อูหลิงเฝ้าคอยอย่างยากเย็น
“อูหลิง เธอจะลำบากไปทำไม?” เสี่ยวหลินตังจ้องมองอูหลิง กล่าวถามอย่างยากลำบาก
อูหลิง จ้องมองเธอพร้อมเผยรอยยิ้มที่อ่อนโยน “สำหรับฉัน เธอคุ้มค่ากับความงดงามทุกอย่างในโลกนี้”
คำพูดของอูหลิง ทำให้เสี่ยวหลินตังซากซึ้งใจ แต่ก็แค่ซาบซึ้งใจเท่านั้น
เธอถึงกับคิดว่า หากคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าของเธอในตอนนี้ คนที่พูดประโยคนี้กับเธอเป็นกู๋ยี่เทียนจะดีสักแค่ไหน
“พอได้แล้ว เราเลิกพูดเรื่องนี้ซะเถอะ เธอจะไปกับพวกกู่ยี่เทียนนี่ รอเดี๋ยว ฉันก็จะไปเก็บของด้วย”
อูหลิงไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้ต่อไป พลันตบแก้มของตนเอง หลังจากที่ปรับสติอารมณ์ของตนเองได้ จึงกลับหลังหันเดินออกไปข้างนอก