“ค่ะ”
เย้นหว่านพยักหน้าอย่างหนักแน่น “พี่ พี่วางใจนะ มีคุณโห้กับถังจุ้ยคอยปกป้องฉัน ไม่มีใครสามารถทำร้ายฉันได้หรอก”
“อีกอย่าง ฉันเองตอนนี้ก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว กำปั้นแข็งแกร่งขึ้น ถ้าไม่แกร่งจริง จะทำอะไรฉันได้”
เย้นหว่านยกกำปั้นมือน้อยๆ ขึ้นอวด
เย้นโม่หลินเห็นท่าทางของเธอที่มั่นอกมั่นใจ จึงยิ้มอย่างเอ็นดูและลูบผมของเธอ
“รีบไปรีบกลับ มีอะไรให้ติดต่อมาได้ตลอดเวลา ท้องทะเลคลื่นลมแรง เธอต้องระวังตัวด้วย”
ภายใต้การพูดบ่นกำชับของเย้นโม่หลิน ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เย้นหว่านต้องขึ้นเครื่องบิน จึงกล่าวร่ำลากับเย้นโม่หลิน
“พี่ พี่รอฉันกลับมานะ ยังมีพ่อกับแม่อีก เมื่อฉันกลับมาแล้วจะรีบไปหาพวกท่าน”
หากไม่ใช่เพราะการตามหาท่านอาวุโสเจ็ดนั้นเร่งด่วน เธอก็อยากจะกลับไปหาพ่อกับแม่ที่บ้านตระกูลเย้นก่อนจริงๆ แล้วค่อยไป
หมู่เกาะทางตะวันออกของทะเลใต้คลื่นลมแรง สภาพอากาศค่อนข้างเลวร้าย และก็ต้องค้นหาตามเกาะต่างๆ จึงจำเป็นต้องนั่งเรือ
อีกทั้งยังต้องเป็นเรือนักท่องเที่ยว
ถึงแม้จะยืนยันได้ว่าท่านอาวุโสเจ็ดนั้นอยู่ในบริเวณหมู่เกาะแถบนี้ แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าเขานั้นอยู่บนเกาะใด ก่อนที่จะระบุตำแหน่งของเขาได้ชัดเจน จะตามหาแบบโจ่งแจ้งไม่ได้ ทำได้เพียงปลอมเป็นนักท่องเที่ยวในการตามหาคนเท่านั้น
โห้หลีเฉินส่งคนไม่น้อยในการออกตาหา โดยใช้วิธีเดียวกันด้วยการปลอมเป็นนักท่องเที่ยว หรือเป็นทีมนักธุรกิจแทรกตัวเข้าไปเพื่อตามหาคน
และเย้นหว่านก็คือหนึ่งในนักท่างเที่ยวบนเรือโดยสารที่หรูหราลำหนึ่ง
เหตุผลที่เลือกเรือลำนี้ เพราะว่าเส้นทางของการเดินทางของเรือลำนี้นั้นค่อนข้างกว้าง แทบจะเดินรอบหมู่เกาะบริเวณแถบนี้ทั้งหมด ใช้เวลานาน และก็ชำนาญเส้นทางด้วย
นอกจากนี้ เมื่อถึงจุดหมายยังสามารถลงไปเล่นได้อย่างอิสระ ไม่ต้องเดินตามไกด์ ในการขึ้นเกาะแต่ละครั้ง ก็ให้เวลาส่วนตัวที่เพียงพอกับพวกเย้นหว่านในการตามหาคน
เย้นหว่าน โห้หลีเฉิน ถังจุ้ย ทั้งสามคนมากันในฐานะเพื่อน บนเรือยังมีคนของพวกเขาอีกสิบกว่าคน ต่างปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ
นี่เป็นเรือสำราญที่เดินทางระยะไกล บนเรือหรูหรามาก มีอุปกรณ์ความบันเทิงและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน
เย้นหว่านไม่ได้ไปเล่นสนุกเพลิดเพลินแต่อย่างใด วันๆ กลับเอาแต่แช่ตัวอยู่ในสระน้ำ เพื่อฝึกฝนการว่ายน้ำ
เพราะการมาทะเล และยังมาตามหาท่านอาวุโสเจ็ดอีก ไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบใดบ้าง จะปะทะกันไหม เป็นเรื่องที่พูดยาก เมื่อถึงเวลานั้นหากตกลงไปในทะเล จะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ เธอจึงต้องฝึกว่ายน้ำให้แข็งแกร่ง
การว่ายน้ำในทะเลต่างจากการว่ายน้ำในสระ ทะเลน้ำลึก มีคลื่นสูง ต้องฝึกให้แกร่งถึงจะไม่ถูกทะเลกลืนกิน
“ซ่า”
เป็นอีกครั้งที่เย้นหว่านแหวกขึ้นมาจากน้ำ เธอลูบผมที่เปียกชุ่มไปด้านหลัง แล้วหันไปยิ้มให้กับชายหนุ่มที่อยู่ริมสระ
“คุณโห้ คุณไม่ลงมาเหรอ”
ในมือของโห้หลีเฉินถือแล็ปท็อปไว้ เมื่อได้ยินเสียงของเย้นหว่าน นิ้วมือที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ได้หยุดชะงักลง
หันมามองเธอด้วยรอยยิ้ม “คุณน่าจะไม่ชอบให้ผมใส่ชุดกางเกงว่ายน้ำมาว่ายน้ำอยู่ตรงนี้หรอก”
เย้นหว่านมองตามเสียงของเขาก็เห็นว่า รอบๆ นั้นไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่มีหญิงสาวรายล้อมอยู่มากมาย อีกทั้งยังสวมบิกินี่สุดเซ็กซี่ แต่ละคนต่างมองโห้หลีเฉินอย่างเสน่ห์หา
เพราะความหยิ่งไฮโซเฉยเมยเย็นชาบนตัวโห้หลีเฉิน จึงยังไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปทักทายจีบเขา แต่ถ้าโห้หลีเฉินเปลี่ยนกางเกงแล้วลงมาว่ายน้ำ……
ไม่ต้องสงสัยเลย สาวๆ เหล่านี้ต้องตามเขาลงน้ำอย่างแน่นอน จากนั้นเมื่ออยู่ในน้ำก็แสร้งทำให้เกิดเรื่องบังเอิญต่างๆ นานา
แค่คิดเย้นหว่านก็รู้สึกขนลุก จึงสนับสนุนการตัดสินใจของโห้หลีเฉิน
“คุณโห้ ฉันคิดว่าคุณดูฉันว่ายน้ำอยู่บนนั้นดีแล้ว หากฉันจมน้ำคุณก็จะได้มาช่วยฉันได้ทันเวลา”
โห้หลีเฉินยิ้มเบาๆ “ครับ” ตอบรับอย่างยิ้มแย้ม และก็ไม่ได้นำมาใส่ใจ ตอนนี้ทักษะการว่ายน้ำของเย้นหว่านนั้นแกร่งขึ้นมากแล้ว ต่อให้ลงไปในน้ำทะเล นอกเสียจากขาจะเป็นตะคริว ไม่มีทางจมน้ำอย่างแน่นอน
เย้นหว่านฝึกว่ายน้ำอยู่ทางนี้ ส่วนโห้หลีเฉินยุ่งตัวเป็นเกลียว ทั้งสองต่างเงียบสงบ ไม่แตกต่างไปจากช่วงเวลาปกติ
แต่ถังจุ้ยกลับแย่มาก
ถึงแม้ว่าเขาจะว่ายน้ำเป็น แต่ว่า เขาเมาเรือ
ถังจุ้ยเมื่อก่อนไม่เคยนั่งเรือ และเขาก็ไม่รู้ว่าจะเมาเรือ เมื่อขึ้นเรือมาแล้วถึงได้รู้ว่าเมาเรือ และก็เมาอย่างรุนแรง
เย้นหว่านคิดที่จะให้เขากลับไป แต่เขากลับยืนยันที่จะมาด้วย ผลสุดท้ายแต่ละวันต้องมาทนทุกข์ทรมาน ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และจากค่ำจรดข้ามไปอีกวัน นอกจากลุกไปเข้าห้องน้ำแล้ว เวลาที่เหลือคือนอนนิ่งอยู่บนเตียงไร้การเคลื่อนไหว
ถ้าไม่ใช่เพราะเย้นหว่านส่งอาหารไปให้เขาตามเวลา แล้วเห็นเขายังสามารถทานอาหารได้ ก็คงจะคิดว่าเขาตายไปแล้ว
แต่ที่น่าแปลกก็คือ ถังจุ้ยที่เดิมทีควรจะนอนนิ่งอยู่บนเตียงไม่เคลื่อนไหว กลับมาปรากฏอยู่ข้างริมสระน้ำ
เย้นหว่านเห็นเขาแล้วรู้สึกแปลกใจอย่างมาก
เมื่อเทียบกับความกระฉับกระเฉงของเขาก่อนหน้านี้ ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ซูบผอมไปมาก สีหน้าซีดเผือด จิตใจอ่อนล้า เห็นแล้วทำให้คนรู้สึกเข้าใจถึงความทรมานของเขา
เย้นหว่านรีบขึ้นมาจากสระว่ายน้ำ “ถังจุ้ย ทำไมคุณถึงออกมา”
ถังจุ้ยแม้แต่เดินอย่างเชื่องช้าเฉื่อยชา เขามองหาเก้าอี้แล้วนั่งลง น้ำเสียงอ่อนแรงแล้วกล่าวอย่างเคร่งขรึม:
“เมื่อสักครู่ผมเห็นข้อมูล เส้นทางทะเลที่จะไปพรุ่งนี้ จะมีโจรสลัดออกปล้น ถึงแม้ว่าน้อยครั้งที่พวกเขาจะออกปล้นเรือสำราญที่ใหญ่ขนาดนี้ แต่ว่ากันไว้ดีกว่าแก้ คุณฝึกว่ายน้ำแกร่งแล้ว ก็อย่าอยู่ฝึกตรงนี้อีก”
หากว่าเจอโจรสลัด ข้างนอกคือที่ที่ไม่ปลอดภัยที่สุด
เย้นหว่านรีบพยักหน้า “ฉันฝึกว่ายแกร่งแล้ว ถ้าตกลงไปในทะเลตอนนี้ก็สามารถว่ายได้สามวันสามคืน ตอนนี้ฉันไม่ฝึกแล้ว หิวไหม พวกเราไปทานข้าวด้วยกันนะ”
เย้นหว่านพลางพูดพลางจะไปหยิบผ้าเช็ดตัว เวลานี้โห้หลีเฉินกลับได้นำผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาคลุมบนไหล่ของเธอ
เย้นหว่านหันไปมองใบหน้ารูปงามของเขา แล้วยกริมฝีปากยิ้มขึ้น
โห้หลีเฉินทำอย่างคุ้นชิน คลุมตัวของเย้นหว่านไว้ แล้วหยิบของพาเธอไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
เย้นหว่านจึงหันหน้ามาอย่างไม่สบายใจ “ถังจุ้ย คุณเดินไปคนเดียวได้ไหม”
“ได้ ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”
ถังจุ้ยยกริมฝีปากที่ขาวซีดยิ้มขึ้น ปากบอกว่าไม่อ่อนแอ แต่ท่าทางกลับช่างดูอ่อนแอมาก
การเดินทางครั้งนี้ เขาต้องเผชิญกับความทรมานไม่น้อย
แต่ว่าเขาดึงดันที่จะตามมา ไม่เพียงแต่ต้องการอยากช่วยเย้นหว่าน แต่ยังเป็นเพราะความรู้สึกผิดที่มีต่อแรบบิท เรื่องราวในครั้งนั้น เขายังคงฝังใจอยู่เสมอ ไม่สามารถที่จะปล่อยวางได้
ถังจุ้ยพลางพูดพลางเดิน “ผมยังตรวจเช็กสภาพอากาศด้วย สองสามวันนี้อากาศค่อนข้างจะเลวร้าย ต้องระวังหน่อย”
สภาพอากาศบนเรือไม่ค่อยดี บางทีอาจจะเกิดลมพายุฝนกระหน่ำ ถ้ารุนแรง เรือก็อาจจะพลิกคว่ำได้
เย้นหว่านรู้สึกพะวงเล็กน้อย
โห้หลีเฉินรู้สึกได้ จึงได้กอดเธอไว้ “ไม่ต้องเป็นห่วง เรือลำนี้ค่อนข้างปลอดภัย และพวกเราก็ได้เตรียมทางสำรองในการเอาตัวรอดไว้แล้ว”
เย้นหว่านมองออกไปด้านนอกที่ท้องฟ้าสดใสน้ำทะเลสีคราม แล้วครุ่นคิดว่าตัวเธอคงไม่โชคร้ายขนาดนั้นหรอก
แต่ ดูเหมือนว่าความโชคดีจะใช้ไปหมดแล้ว เกรงว่ากลัวสิ่งใดก็จะเจอสิ่งนั้น
วันนี้ยังไม่ทันจะพลบค่ำ ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยหมอกเมฆดำ มืดครึ้มบดบังพระอาทิตย์ ราวกับยามราตรี มองไม่เห็นแสงแดดสาดส่องแม้แต่นิดเดียว
ลมพายุกรรโชกแผดร้องกังวาน ฟ้าร้องคำราม แล้วฝนก็โหมกระหน่ำตามมา
คลื่นทะเลก็ถูกดึงฉุด พลุ่งพล่านรุนแรง……