ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1649 หัวใจที่งดงาม

ครั้งนี้โอปุสตกใจกลัวจนมึนงงไปหมด ใบหน้าสูงวัยเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หลังจากที่ถูกเบิร์ดดึงขึ้นมาจากในน้ำ เขาก็เกาะแขนซ้ายของเบิร์ดแน่นโดยอัตโนมัติ ราวกับหมีโคอะล่าที่เกาะต้นไม้แน่นอยู่ด้านบน
บุคคลที่ช่วยคนตกน้ำมักจะกลัวการเจอสถานการณ์แบบนี้มากที่สุด คนที่ตกน้ำจะเกาะคนที่ช่วยแน่น เมื่อเป็นแบบนี้ถ้าหากคนที่ช่วยรับน้ำหนักและแรงเกาะรัดของคนตกน้ำไม่ไหว ทั้งสองคนก็ต้องจมลงไปในน้ำด้วยกัน กลายเป็นตายทั้งคู่
แต่ทักษะการว่ายน้ำและแรงกำลังของเบิร์ดมีมากกว่าคนทั่วไป อีกอย่างเขาเชี่ยวชาญในศิลปะการต่อสู้ จุดนี้จึงช่วยเขาได้มาก ถึงแม้ว่าโอปุสจะพยายามยึดร่างกายฝั่งซีกซ้ายของเขาแน่น แต่เขาก็ดึงแขนของเขาออกมาหลังจากพลิกตัวได้อย่างคล่องแคล่วในน้ำ หลังจากนั้นก็อุ้มโอปุสไว้ด้านหลัง ช่วยชีวิตของโอปุสได้ในขณะเดียวกันก็ปลดล็อกตัวเองจากการยึดเหนี่ยวได้ด้วย
ผิวน้ำปรากฏเป็นคลื่นระลอกใหญ่ ความใสของน้ำในทะเลสาบผนวกกับแสงของพระอาทิตย์ที่ส่องมา เพียงชั่วครู่เดียวคนบนท่าเรือก็เริ่มมองเห็นเงาหลายเงาได้ชัดขึ้น
เงาหลายเงาใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เงาที่ใหญ่ที่สุดคือสี่เมตรกว่าได้ ต้องเป็นสัตว์ร้ายใต้น้ำแน่ๆ ต่อให้แสงอาทิตย์ยามบ่ายส่องมาจะร้อนแรง แต่คนที่ยืนอยู่บนท่าเรือตอนนี้ต่างตัวเย็นยะเยือก “พระเจ้า ช่วยด้วย!” “โอ้ แย่แล้ว ไอ้ที่**เลี้ยงแม่งโผล่หัวมาแล้ว!” “รีบไปหาเรือมาช่วยคนเร็ว!”
นีลเซ็นเป็นคนที่กระวนกระวายมากที่สุดบนท่าเรือ เขาชี้ไปที่ด้านหลังเบิร์ดแล้วร้องเรียก “พี่น้อง ด้านหลัง!”
ด้านหลังทั้งสองมีปลาดุกเวลส์ยักษ์ตัวนั้น มันโผล่หัวขึ้นมา อ้าปากกว้าง พุ่งไปทางเบิร์ดจะกัดกลืนกินอย่างตะกละตะกลาม แม้ว่านีลเซ็นจะเตือนได้ทันเวลา แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของปลาดุกเวลส์ยักษ์ในน้ำเร็วกว่ามนุษย์มาก เบิร์ดหลบไม่ทัน เพียงพริบตาเขาก็ถูกกัดเข้าที่ไหล่แล้วลากลงไปในน้ำ
ในเวลานี้เอง เบิร์ดตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว โยนโอปุสที่อุ้มไว้อยู่ออกไป ร่างที่แข็งแรงพลิกตัวไปมาอยู่ในน้ำ ชันเข่าสองข้างขึ้นมาแล้วเอามือขวาลงไปจับขาข้างหนึ่ง แล้วมีดสไตรเดอร์เอ็มทีที่แหลมคมหนึ่งเล่มก็ปรากฏอยู่ในมือของเขา
คนบนฝั่งมองไม่เห็นเหตุการณ์หลังจากนั้นแล้ว ในเวลานี้ทั้งเบิร์ดและปลาดุกเวลส์ยักษ์จมดิ่งลงไปใต้น้ำ เหลือเพียงกระแสน้ำวนที่หมุนเวียนอยู่
ผิวน้ำปั่นป่วน เพียงไม่นานเลือดสดที่ปะปนไปกับน้ำก็ลอยมากับน้ำ คนบนฝั่งมองไปที่ผิวน้ำด้วยความกังวลและประหม่า ฮิลตันคนน้องรีบวาดไม้กางเขนบนหน้าอกตัวเอง มีคนยื่นมือไปที่โอปุสร้องเรียกเขา “คุณโอปุสครับ รีบขึ้นมาเถอะ!”
ฮิลตันคนน้องถลึงตาไปที่คนนั้น ตะคอกใส่ “ไอ้พวกหน้าตัวเมีย ลงไปเลย…”
คำพูดของเธอยังไม่ทันจบ น้ำในทะเลสาบก็กระเซ็นไปทั่ว ร่างกายที่กำยำของเบิร์ดลอยขึ้นมาบนน้ำ เขาถูกล้อมรอบด้วยเลือดที่มีสีเข้มขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่ามีสีย้อมผ้าสีแดงตกลงไปในนั้น
เขารีบว่ายไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว แขนซ้ายหนีบเอาโอปุสที่ยังตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำ แล้วอาศัยแรงของสองขาว่ายเข้าไปใกล้ท่าเรือ
เมื่อเห็นแบบนี้ คนที่อยู่บนท่าเรือจึงรีบรับเอาคุณโอปุสขึ้นมาจากน้ำ ฉินสือโอวและนีลเซ็นกลับยื่นมือไปดึงเบิร์ดขึ้นมา ข้างๆ เขาคือฮิลตันคนน้อง เธอก็ยื่นทั้งสองแขนช่วยดึงเบิร์ดขึ้นมาเช่นกัน
เบิร์ดใช้แขนซ้ายดันไว้แล้วกระโดดขึ้นไปท่าเรือ กล้ามเนื้อแขนขวาของเขาบวมขึ้นมา เขาจับปลาดุกเวลส์ยักษ์ตัวหนึ่งที่มีขนาดอย่างน้อยสองเมตรอยู่ในมือ ใต้คางปลาดุกเวลส์ถูกมีดหั่นขาดสะบั้น ตอนนี้ยังคงมีเลือดไหลทะลักออกมา นอกจากนี้แล้วเบ้าตาขวาของมันยังมีเลือดห้อเป็นหลุม นี่ถึงเป็นแผลที่สาหัสถึงแก่ชีวิตของมัน
สัตว์ประเภทปลามีชีวิตที่ทนทานมาก ต่อให้หัวใจของมันถูกควักออกไป มันก็ยังมีชีวิตอยู่ต่อได้พักหนึ่ง มีเพียงแค่ทำลายสมองของพวกมัน พวกมันถึงจะตายในทันที นี่เป็นจุดเหมือนกันของสิ่งมีชีวิตสัตว์ทุกชนิด
เมื่อเห็นฉากที่เบิร์ดลากเอาปลาดุกเวลส์ยักษ์ขึ้นมาด้วยมือเดียว ทุกคนบนท่าเรือต่างตกใจ ดวงตาทั้งคู่ของฮิลตันคนน้องพร่ามัว ปากน้อยๆ พ่นลมหายใจออกมาแรงแล้วพูดเสียงเบาว่า “พระเจ้า นี่แหละถึงเป็นผู้ชายจริงๆ! นี่ถึงเรียกได้ว่าผู้กล้า!”
เบิร์ดโยนปลาดุกเวลส์ยักษ์ไว้ที่ท่าเรือ หลังจากนั้นก็นั่งยองเอื้อมมือไปคลำที่เบ้าตาขวามันสักพักก็ดึงมีดออกมาจากด้านในแล้วล้างน้ำให้สะอาด หลังจากที่เก็บเข้าฝักมีดที่อยู่ตรงขาอีกครั้ง ก็เดินเงียบๆ ไปอยู่ด้านหลังฉินสือโอว
ไม่พูดอะไรเลยสักคำตั้งแต่ต้นจนจบ ยังคงเท่แบบนี้!
แม้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในน้ำจะมีฉินสือโอวกำกับ รวมไปถึงควบคุมปลาดุกเวลส์ยักษ์เพื่อปล่อยให้เบิร์ดฆ่าได้ ปลาดุกเวลส์ยักษ์อเมซอนเป็นปลาดุร้ายที่มีกำลังในการต่อสู้มากเป็นอันดับสามในบรรดาปลาน้ำจืด ช่วงที่เบิร์ดถูกกัดที่ไหล่แล้วอยากจะพลิกสถานการณ์เป็นเรื่องที่ยาก แต่เป็นฉินสือโอวที่ควบคุมให้มันขยับร่างกายเชื่องช้า เปิดโอกาสให้เบิร์ดลงมือได้
แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ตาม เบิร์ดก็ทำออกมาได้ดีมาก ต่อให้มีฉินสือโอวช่วยเหลือ แต่เขาก็ยังแสดงให้เห็นลักษณะของผู้ชายตัวจริงที่แข็งแกร่ง ยังแมนยิ่งกว่าตัวเอกในภาพยนตร์ซะอีก แค่เห็นหน้าฮิลตันคนน้องที่แสดงความหลงใหลก็รู้แล้ว
ฉินสือโอวเข้าไปถามโอปุสด้วยความห่วงใย “คุณโอปุส คุณยังโอเคอยู่ใช่ไหม?”
โอปุสยิ้มอย่างขมขื่น พูดอย่างหมดแรงว่า “ขอโทษด้วยนะ คุณฉิน ทำให้คุณตกใจหมดแล้ว ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น โอ้ พรเจ้า ผมต้องขอบคุณพี่น้องของคุณท่านนั้น เขาช่วยชีวิตผม ผมไม่รู้ว่าผมจะขอบคุณเขาอย่างไร”
เบิร์ดยิ้มเล็กน้อยแต่เขาก็ยังคงไม่พูดอะไรออกมา ท่าทางของเขาตอนนี้มองดูแล้วก็อาจทำให้คนตกใจกลัวได้ เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกย้อมเป็นสีแดงด้วยเลือดสด เริ่มแรกผู้คนต่างคิดว่าเป็นเลือดของปลาดุกเวลส์ยักษ์ ตอนที่ฮิลตันคนน้องช่วยเขาถอดเสื้อออกแล้วพบว่าบนไหล่เขามีรอยเลือดอยู่สองจุด ทันใดนั้นก็กรีดร้อง “พระเจ้า คุณได้รับบาดเจ็บ!”
ปลาดุกเวลส์ยักษ์มีฟันทื่อที่มีลักษณะแข็ง จำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับปากที่ใหญ่ของมัน ฟันจะค่อนข้างกระจัดกระจาย พวกมันกินสิ่งของจะอาศัยกลืนเอาซะเป็นส่วนมาก เวลาล่าเหยื่อฟันทื่อๆ ของมันจะเป็นตัวช่วยเสริมมากกว่า ดังนั้นแม้ว่าไหล่ของเบิร์ดจะถูกกัดแต่ก็ไม่รุนแรงมาก
สิ่งนี้มองไม่เห็นจากภายนอก ผู้คนจะคิดว่าแผลนี้ช่างน่ากลัว ฮิลตันคนน้องรีบสั่งให้หมอประจำตระกูลที่ประจำอยู่ที่ฟาร์มมารักษาแผลให้เบิร์ดทันที หมอคนนั้นมองไปที่โอปุสอย่างลำบากใจ โอปุสโบกไม้โบกมือแล้วพูดขึ้น “ช่วยผู้กล้าท่านนี้ก่อน ฉันไม่เป็นไร ฉันแค่ตกใจเล็กน้อยเท่านั้น”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หมอประจำตระกูลท่านนั้นถึงค่อยวางใจรักษาแผลให้กับเบิร์ด เขาตรวจดูว่ามีสิ่งแปลกปลอมในบาดแผลหรือไม่ก่อน หลังจากไม่พบสิ่งใดก็เทแอลกอฮอล์ลงไปเพื่อฆ่าเชื้อโรคในกรณีฉุกเฉินแบบนี้
ฉินสือโอวรู้สึกผิดนิดหน่อยกับเบิร์ด การที่ปลาดุกเวลส์ยักษ์กัดคน เขาไม่ได้เป็นคนควบคุม ตอนนั้นเขากำลังควบคุมปลาตัวอื่นๆ ให้ว่ายไปมาอยู่รอบข้างเพื่อสร้างบรรยากาศ ไม่คิดเลยว่าเจ้าปลาดุกเวลส์ยักษ์จะโหดร้ายเพียงนี้ ถึงขนาดที่จะกล้าโจมตีสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใกล้เคียงกับเขา
การใช้แอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อเป็นสิ่งที่ทรมานที่สุด เห็นกล้ามเนื้อมุมปากเบิร์ดกระตุกสั่น เขาก็วิ่งเข้าไปกอดหัวของเขา แล้วพูดว่า “พี่น้อง ฉันขอโทษ!”
เวลานี้เองเบิร์ดถึงยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ บอส นี่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณเลย”
ฮิลตันคนน้องดันฉินสือโอวออก กอดหัวของเบิร์ดแทนที่ฉินสือโอว ตบไปที่ด้านหลังของเขาเบาๆ แล้วพูดว่า “เฮ้ ควรจะเป็นพวกเราที่ต้องขอโทษสิ”
ขณะที่เธอพูดเธอมองไปที่บอดี้การ์ดและพนักงานรอบข้างโอปุสด้วยความดูถูกเหยียดหยามและหัวเราะเยาะ “รวมความกล้าของผู้ชายทั้งกลุ่มนี่ยังสู้เขาคนเดียวไม่ได้เลย ฉันอับอายแทนพวกนายจริงๆ!”
ทุกคนก้มหัวลงอย่างทำตัวไม่ถูก ไม่มีใครกล้าที่จะมองฮิลตันคนน้อง นับประสาอะไรกับโอปุสยิ่งไม่มีใครกล้ามอง
หลังจากฟังคำพูดของฮิลตันคนน้อง โอปุสก็นึกถึงเรื่องก่อนหน้านั้นขึ้นมาได้ สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที เห็นได้ชัดว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ไม่ได้รับผลดีอะไรในอนาคตแน่ อย่างไรก็ตามมองดูจากสถานการณ์ตอนนี้ถ้าไม่ได้เบิร์ดเสี่ยงตายลงไปช่วย ถ้าเช่นนั้นโอปุสก็คงไม่รอดแล้ว
…………………………
Related