หลังจากเห็นฝูงวาฬหัวทุย ฉินสือโอวก็ตัดสินใจที่จะควบคุมให้พวกมันออกจากที่นี่ไป การที่ให้พวกมันออกจากฟาร์มปลา ไป อย่างน้อยก็อยากให้พวกมันออกไปด้วยความรู้สึกดีๆ
วาฬหัวทุยเป็นสัตว์ร่างใหญ่ มันสามารถกินอาหารได้มากหนึ่งในห้าของน้ำหนักของน้ำหนักตัวได้ทุกวัน แต่พวกมันไม่เหมือนกับวาฬบาลีนที่ชอบกินกุ้งปลาตัวเล็กๆ หรือสาหร่ายทะเล พวกมันชอบกินปลาขนาดใหญ่ เช่นปลาค็อด
การกินเกี่ยวข้องกับโครงสร้างร่างกายของพวกมัน วาฬเป็นสัตว์เลือดอุ่นที่มีอุณหภูมิร่างกายอยู่ที่สามสิบห้าองศาเซลเซียส การที่ร่างกายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมต่ำจนถึงห้าองศา นั่นเท่ากับร่างกายของมนุษย์อยู่ที่หนึ่งองศาถึงสี่องศา อย่างไรพวกมันก็แช่ตัวอยู่ในน้ำทะเล แม้ว่าสภาพแวดล้อมทางทะเลจะค่อนข้างคงที่ แต่แม้กระทั่งน่านน้ำในพื้นที่เขตร้อน อุณหภูมิบนผิวน้ำก็ยังต่ำกว่าสามสิบองศา และน้ำทะเลที่อยู่บริเวณขั้วโลกคงไม่สูงมากกว่าศูนย์องศาไม่มากนัก
และแม้กระทั่งน่านน้ำ ณ จุดศูนย์สูตรของโลกในช่วงกลางฤดูร้อน ในบริเวณที่น้ำลึก อุณหภูมิของน้ำอยู่ที่สี่ถึงห้าองศาเซลเซียสจนในบางครั้งต่ำถึงศูนย์องศาเลยด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้อุณหภูมิของน้ำก็จะต่ำกว่าอุณหภูมิของวาฬหัวทุยอย่างแน่นอน และความร้อนจากร่างกายของมันก็จะแผ่ออกไปยังน้ำทะเลได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้อัตราการถ่ายความร้อนยังเร็วมาก เร็วกว่าอากาศถึงยี่สิบห้าเท่า อีกอย่างวาฬเป็นสัตว์ที่ว่ายน้ำตลอดเวลา เมื่อเทียบกับน้ำที่ไหลผ่านบนผิวของมันด้วยความเร็วที่ค่อนข้างนิ่งแล้ว ทำให้การแผ่ความร้อนยิ่งเร็วมากขึ้น
เพราะว่าเวลาที่วาฬหัวทุยอยู่ในน่านน้ำที่ค่อนข้างเย็น พวกมันจำเป็นที่จะต้องขยับตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อเพิ่มอัตราการเผาผลาญและผลิตความร้อนเพื่อรักษาอุณหภูมิของร่างกาย เรื่องนี้ทำให้มันเหมือนกับปลาทูน่าครีบน้ำเงิน แม้แต่เวลานอนพวกมันก็ไม่อยู่นิ่ง แต่ว่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินทำแบบนี้ก็เนื่องจากมันส่งผลต่อระบบการหายใจ แต่วาฬหัวทุยขยับร่างกายเพื่อเพิ่มความร้อนให้ร่างกาย
แบบนี้ ก็เหมือนกับปลาทูน่าครีบน้ำเงิน วาฬหัวทุยจำเป็นที่จะต้องกินอาหารอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะได้มีแรงเพียงพอที่จะขยับร่างกาย ไม่อย่างนั้นพวกมันคงไม่ได้หิวตาย แต่เป็นหนาวตายแทน แม้ว่าพวกมันจะเป็นวาฬที่มีชั้นไขมันหนาที่สุดในบรรดาวาฬด้วยกันก็ตาม
ฉินสือโอวไม่รู้ว่าทำไมวาฬหัวทุยพวกนี้ถึงได้มาที่ฟาร์มปลาในเวลานี้ เขาคาดว่าในแต่ละวันวาฬหัวทุยฝูงนี้น่าจะกินอาหารไปราวยี่สิบตัน การกินปลาธรรมดาทั่วไปไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร แต่เขารู้สึกเสียดายที่พวกมันกินปลาที่ได้รับพลังโพไซดอนเข้าไป
นอกจากนี้ อีกเหตุผลหนึ่งที่เขาไม่อยากให้วาฬหัวทุยพวกนี้อยู่ที่นี่ก็เพราะเขาไม่อยากให้สัตว์ดุร้ายพวกนี้เจอกับคราเคน คราเคนสามารถต่อสู้กับวาฬหัวทุยได้อย่างสูสี แต่การเจอกับวาฬหัวทุยยี่สิบตัวแบบนี้ก็ไม่แน่ใจว่าอาจจะแพ้ได้
เขาไม่ได้หวังให้คราเคนจัดการกับวาฬหัวทุย สุดท้ายแล้วสัตว์ร้ายชนิดนี้ก็เป็นสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่มีสติปัญญาสูง อีกทั้งเขายังจำเป็นที่จะต้องให้วาฬหัวทุยช่วยเขาในการหาอำพันทะเลของจริง
หัวใจโพไซดอนจำเป็นที่จะต้องดูดซับพลังจากอำพันทะเลเพื่อทำการพัฒนาพลังได้ แต่นั่นไม่ใช่ความหมายของอำพันทะเลในแบบดั้งเดิม ในตอนที่ฉินสือโอวได้รับของสิ่งนี้มาครั้งแรก เขาก็ไปหาซื้อยาชนิดนี้ทันที
แคนาดามีร้านขายยาจีน ที่อยู่ในมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีน อำพันทะเลถือว่าเป็นยาจีนที่มีมูลค่า มันสามารถรักษาอาการไอหอบหืด อาการปวดท้องและอื่นๆ ได้ ดังนั้นจึงหาซื้อมันได้ตามร้านยาจีน ฉินสือโอวซื้อมาแล้ว แต่เขากลับพบว่าอำพันทะเลพวกนั้นไม่ใช่อำพันทะเลที่เขาต้องการ
ในตอนนั้นเขาถามแพทย์แผนจีนว่าเกิดอะไรขึ้นกับอำพันทะเล เพราะว่าเขาได้เสียเงินไปไม่น้อยในการซื้ออำพันทะเล แพทย์จีนคนนั้นพูดขึ้นมาว่า พวกเขาก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับอำพันทะเลกันแน่
ตามคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ อำพันทะเลเป็นสารคล้ายขี้ผึ้งชนิดหนึ่ง ที่ก่อตัวขึ้นในลำไส้ของวาฬหัวทุยเป็นครั้งคราว สำหรับวาฬหัวทุย หมึกยักษ์เป็นเพียงงานอดิเรก พวกมันกินปลาหมึกยักษ์ พวกมันฉีกเนื้อหมึกยักษ์กินเป็นอาหาร และจะถูกพาขึ้นไปบนผิวน้ำ มันใช้ประโยชน์จากความดันน้ำทะเลที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน เป็นตัวทำให้หมึกยักษ์อ่อนกำลังลง และจากนั้นก็กลืนมันลงไป
การกินหมึกลงไปทั้งตัวแบบนี้ พวกมันไม่สามารถย่อยสลายสันหลังของหมึกที่เหมือนเปลือกของมันได้ เมื่อสิ่งนี้เข้าไปในลำไส้ แล้วเกิดการตกค้างอยู่ข้างในเป็นเวลานานมันก็จะค่อยๆ เกิดสารสีเข้มหนาขึ้นมา จนในที่สุดวาฬหัวทุยก็จะตายและสารนี้ก็จะถูกกำจัดออกมาโดยธรรมชาติ เมื่อมันเย็นตัวและกลายเป็นก้อนกลม พวกมันก็จะกลายเป็นอำพันทะเล
ฉินสือโอวต้องการที่จะนำอำพันทะเลพวกนี้ไปยังฟาร์มปลาแห่งที่สามหรือไม่ก็แห่งที่สอง เขาเชื่อว่าวาฬหัวทุยพวกนี้จะต้องกินหมึกไปแล้วจำนวนมากหลังจากที่อยู่ที่นี่มาหลายปี ในลำไส้ของพวกมันควรจะมีสารที่เกิดขึ้นมาเพื่อย่อยสลายเปลือกปลาหมึก เขาอยากจะเอาสารนั้นออกมา พอถึงเวลานั้นเขาก็จะเอาอำพันทะเลออกมา แล้วดูว่าอำพันทะเลที่เขาต้องการนี้ใช่ของที่ออกมาจากลำไส้ของวาฬหัวทุยหรือเปล่า
พวกวาฬหัวทุยพุ่งตรงมาข้างหน้า คราเคนก็พุ่งเข้าไปข้างหน้าเหมือนกัน ฉินสือโอวกำลังควบคุมฝูงวาฬหัวทุยให้ออกจากที่นี่ แต่ปรากฏว่าเขาพบว่าวาฬหัวทุยไม่ได้ต้องการที่จะปะทะกับคราเคน ปรากฏว่าพวกมันแยกย้ายกันว่ายน้ำไปคนละทิศทาง พวกมันแบ่งกันสองกลุ่มว่ายผ่านคราเคนไปทั้งด้านบนและด้านล่าง แต่ยังคงมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก
คราเคนสะบัดหนวดโจมตีหลายครั้ง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถจับวาฬหัวทุยได้ ดูเหมือนว่าเจ้าวาฬดุร้ายพวกนี้จะรู้ถึงความเก่งกาจของมัน จึงหลีกเลี่ยงระยะการโจมตี
เรื่องนี้ทำให้ฉินสือโอวรู้สึกสงสัย ทำไมวาฬหัวทุยถึงได้ปล่อยคราเคนที่เป็นอาหารอันเลิศรสของมันไป หรือว่าคราเคนนั้นตัวใหญ่และร้ายกาจมาก แต่ว่าจำนวนของวาฬหัวทุยก็ถือว่ายังเป็นข้อได้เปรียบ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการต่อสู้เลย
หลังจากนั้น วาฬหัวทุยที่ว่ายไปยังทางทิศตะวันออกไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ภายใต้การนำทางของพี่ใหญ่ที่เป็นหัวหน้า พวกมันทั้งหมดก็เปลี่ยนทิศไปยังทิศเหนือ
คราเคนว่ายน้ำตามหลังไปราวกับเป็นกระสุนน้ำขนาดยักษ์ ความเร็วในการว่ายน้ำของวาฬหัวทุยนั้นถือว่าเร็วมาก พวกมันว่ายน้ำไปไกลถึงยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ว่าเรื่องนี้ไม่สามารถเทียบกับคราเคนได้ ความเร็วในการว่ายน้ำของคราเคนถือว่าเร็วมาก โดยทั่วไปแล้วมันใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็สามารถว่ายน้ำไปได้ไกลถึงสี่สิบกิโลเมตร
การที่มันว่ายน้ำตามวาฬหัวทุยไป มันไม่ได้ต้องการที่จะฆ่าวาฬหัวทุย แต่มันเลือกว่ายน้ำไปอีกทางเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงสัตว์ร้ายขนาดใหญ่พวกนี้ มันว่ายน้ำเป็นเส้นตรงฉีกไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ฉินสือโอวแทบจะตัดสินไปแล้วว่า คราเคนและฝูงวาฬหัวทุยนั้น ดูเหมือนว่าพวกมันตั้งใจที่ไปหาแมลงยักษ์สีดำที่อยู่ในหลุมน้ำเงิน
ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจขึ้นมาทันที ที่เมื่อกี้คราเคนรออยู่ที่หลุมน้ำเงินมันไม่ต้องการที่จะกินแมลงยักษ์สีดำเป็นอาหาร แต่มันต้องการที่ปกป้องแมลงยักษ์สีดำ เป็นวาฬหัวทุยที่ต้องการกินแมลงยักษ์สีดำเป็นอาหาร
มิน่า หลังจากที่คราเคนไปถึงยังหลุมน้ำเงินมันถึงได้ลอยตัวอยู่ที่ด้านบนของหลุม ไม่รู้ว่าแมลงยักษ์สีดำเคยเจอเหตุการณ์การสูญเสียครั้งใหญ่ไปแล้วหรือว่าร่างกายของทั้งสองฝ่ายได้รับพลังโพไซดอนไปแล้ว พวกมันเลยไม่ได้ออกมาต่อสู้ร่วมกับคราเคน แต่กลับซ่อนตัวอยู่ในหลุมน้ำเงินราวกับกำลังจำศีลในฤดูร้อน
ผ่านมาหนึ่งชั่วโมงกว่า ฝูงวาฬหัวทุยก็ปรากฏตัวขึ้นจากที่ไกลๆ ระยะห่างของมันกับคราเคนอยู่ห่างกันประมาณห้าหกร้อยเมตร
ทั้งสองฝ่ายไม่ได้โจมตีกัน หมึกยักษ์และวาฬหัวทุยเป็นศัตรูตัวฉกาจของกันและกัน แต่สำหรับหมึกยักษ์แล้ว วาฬหัวทุยไม่ได้เป็นศัตรูชั้นแนวหน้าของมัน สาเหตุที่เมื่อพวกมันเจอหน้ากันแล้วต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายทุกครั้งก็เป็นเพราะวาฬหัวทุยเป็นผู้เริ่มลงมือก่อน
คราเคนชอบกินกุ้งหอยปูปลาที่มีพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนอยู่ในตัว วาฬหัวทุยพวกนี้ที่อยู่ตรงหน้ามันไม่สามารถที่จะทำให้มันเปลี่ยนใจได้ ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นที่จะต้องลงมือโจมตีวาฬหัวทุย
เมื่อได้รับการวิวัฒนาการจากจิตสำนึกแห่งโพไซดอน มันก็ไม่ใช่หมึกโง่ๆ อีกต่อไป มันรู้ว่าตัวเองเก่งกาจ แต่วาฬหัวทุยที่อยู่ด้านหน้ายี่สิบกว่าตัวนั้นเก่งกาจกว่า ถ้าเข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่ง เกรงว่ามันจะต้องกลับไปอย่างแพ้ราบคาบอีกแน่นอน
วาฬหัวทุยยังคงลังเลอยู่ พี่ใหญ่ของพวกมันว่ายน้ำไปข้างหน้าเพื่อลองเชิงหลายครั้ง คราเคนยังคงอยู่นิ่ง นวดทั้งสิบของมันแผ่กระจายไปทั่วไม่หยุด มันรอให้ฝูงวาฬหัวทุยเข้ามาใกล้จากนั้นจะได้จัดการพวกมัน
ทั้งสองฝ่ายมองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง วาฬหัวทุยตัวพี่ใหญ่อ้าปากกว้างพลางส่ายหน้าสะบัดไปมาหลายครั้ง จากนั้นฝูงวาฬด้านหลังของมันก็กระจายตัวออก เป็นสองฝั่งซ้ายขวาและพุ่งตัวเข้าไปใกล้คราเคน
……………………………
Related
ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1632 เป้าหมายคือหลุมน้ำเงิน
Posted by ? Views, Released on January 2, 2022
, ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท
หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง
แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้
นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา
แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี
นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก
จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน
กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี
ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป
ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’
ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา
จากนั้นมา…
จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้
และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!