ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1584 เมื่อไรจะโต

ในป่าสาหร่ายสีน้ำตาลขนาดใหญ่นี้ มีปลาทะเลขนาดเล็กใหญ่อาศัยอยู่ พวกมันเป็นปลาธรรมดาที่ฉินสือโอวเห็นบ่อยๆ อย่างปลาเล็กๆ อย่างพวกปลาซาบะ ปลาแฮร์ริ่งซะส่วนใหญ่ ส่วนปลาค็อดแอตแลนติกและปลาอลาสก้าพอลล็อคก็สามารถพบเห็นได้เป็นครั้งคราว นอกจากนี้ยังมีปลาหมาป่า ปลาขี้ตังเป็ด ปลาโอขาวและปลาแฮลิบัตพวกนั้นอีกด้วย
ปลาเหล่านี้อยู่อย่างสันโดษและอยู่กันเป็นฝูง พวกมันว่ายน้ำไปในป่าสาหร่ายทะเลอย่างไม่รีบร้อน เมื่อจิตสำนึกแห่งโพไซดอนเคลื่อนตัวลงไปลึกอีกนิดหน่อย ก็เจอเข้ากับฝูงฉลาม พวกมันคือฉลามวัวผู้แข็งแกร่ง
เห็นได้ชัดว่าเหล่าฉลามไม่ค่อยเหมาะแก่การอยู่ในป่าสาหร่ายสีน้ำตาลเท่าไร ร่างกายอันใหญ่โตของพวกมันทำให้พวกมันไม่สามารถเคลื่อนไหวไปมาได้อย่างอิสระ เพราะว่าฉลามเป็นสัตว์ที่ใจร้อน ร่างของพวกมันจะถูกสาหร่ายพันได้ง่าย แม้ว่าจะหลุดพ้นแล้ว ก็อาจจะทำให้เปลืองแรงเป็นพิเศษ
สำหรับนักล่าตามธรรมชาติแล้ว พลังงานที่สูญเสียไปอย่างสูญเปล่าไม่ใช่เรื่องที่พึงปรารถนา
การมีอยู่ของสาหร่ายทะเลยังมีประโยชน์อยู่อีกหนึ่งอย่าง นั่นก็คือมันสามารถปกป้องทรัพยากรประมงของฟาร์มปลาจากเหล่าฉลามที่ล่าเหยื่อได้ ฉลามไม่ใช้วาฬ แม้ว่ามันจะมีขนาดของหลังที่ใหญ่โต แต่ส่วนใหญ่วาฬเป็นสัตว์มังสวิรัติหรือไม่ก็กินเฉพาะสัตว์ตัวเล็กๆ จำพวกลูกปลาลูกกุ้ง
นอกจากนี้ วาฬไม่สามารถอยู่นิ่งใต้ทะเลเป็นเวลานานได้ พวกมันอาศัยอยู่ทั่วน่านน้ำทะเลทั่วโลก
แต่ฉลามไม่เป็นเช่นนี้ พวกมันชอบที่จะกินปลาที่มีขนาดใหญ่ เช่นปลาค็อด ปลาทูน่า เมื่อพวกมันจับฝูงปลาในทะเลได้แล้ว พวกมันก็จะปักหลักใช้ชีวิตอยู่ ณ ที่แห่งนั้นทันที
ดังนั้นฉลามจึงสร้างความเสียหายได้มากกว่าวาฬ แต่การมีอยู่ของสาหร่ายสีน้ำตาลสามารถปกป้องทรัพยากรปลาได้ พวกฉลามที่อาศัยอยู่ที่นี่ไม่สามารถหาอาหารได้ สุดท้ายแล้วพวกมันก็จะจากไปด้วยความจำใจ
เช่นเดียวกับฉลามวัวพวกนี้ หลังจากที่พวกมันเข้ามาในดงสาหร่ายสีน้ำตาลได้สักพัก เมื่อไม่เจอกับเหยื่อ พวกมันก็ทำได้เพียงออกจากฟาร์มปลาไปยังน่านน้ำทะเลที่ลึกกว่าที่นี่
ฉินสือโอวเพิ่มพลังโพไซดอนให้แก่สาหร่ายสีน้ำตาล อย่างไรก็ตามตอนนี้พลังของหัวใจโพไซดอนนั้นบริสุทธิ์และยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นผลดีกับสาหร่ายสีน้ำตาล
สาหร่ายสีน้ำตาลได้ปรับปรุงคุณภาพน้ำและดินโคลนของฟาร์มปลาให้ดีขึ้น นี่เป็นการดีที่จะลงมือปลูกสาหร่ายอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นพวกตะไคร่น้ำสีน้ำตาล สาหร่ายสีแดงและสีเขียว สาหร่ายอุลวา สาหร่ายโมโนสโตรมา สาหร่ายไส้ไก่ คอลเรลล่าและอื่นๆ ก็สามารถปลูกได้
การพัฒนาฟาร์มปลาอยู่ในการควบคุมอยู่ ดังนั้นฉินสือโอวจึงนอนหลับได้อย่างสบายใจ
เมื่อตื่นนอนขึ้นมาในตอนเช้า เขาไม่ได้ออกไปวิ่งก่อน แต่เขากลับไปหาหู่จือและเป้าจือแทน
แลบราดอร์สองตัวและสาวสวยอีกสี่ตัวกำลังนอนอยู่บนพื้นหญ้า ในตอนที่ฉินสือโอวเข้าใกล้พวกมัน พวกมันก็ยังไม่ตื่นขึ้นมา นอกจากนี้เขาก็ยังเห็นร่องรอยของการต่อสู้เมื่อคืนว่าดุเดือดเพียงไร แลบราดอร์พวกนี้คงจะเสียพลังงานไปมากแน่นอน
พวกมันทั้งหกตัวนอนด้วยกัน ฉินสือโอวคิดไปคิดมาก็รู้สึกรับไม่ได้ พระเจ้า มันจะมั่วเกินไปแล้ว วงจรนี้อุบาทว์เกินไปแล้ว เขารู้สึกว่าเมื่อคืนวานแลบราดอร์พวกนี้ต้องทำอะไรที่ไร้ยางอายและเปิดเผยเป็นแน่
ฉินสือโอวเดินออกมาช้าๆ เขาไปทำความสะอาดคอกม้าก่อน ม้าพันธุ์อเมริกันเพนต์ทั้งสองตัวโตแล้ว พวกมันกินเยอะและถ่ายออกมาเยอะมากในทุกๆ วัน ฉินสือโอวเก็บสิ่งปฏิกูลใส่รถเข็น
เปากงชะโงกหัวออกมามองฉินสือโอว ฉินสือโอวลากรถเข็นพลางพูดออกมาว่า “ดูนายสิ เมื่อตอนเย็นถ่ายออกมาเยอะอะไรขนาดนี้? ต่อไปกินให้มันน้อยๆ หน่อย โอเคไหม? นายทำตัวดีฉันก็รู้สึกดีด้วยนะ”
ราวกับมันฟังที่เขาพูดรู้เรื่อง เปากงกระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ หลังจากนั้นมันก็ทำเสียงร้องในลำคอและชะโงกหัวออกมาถูหน้าเขา แล้วยังแลบลิ้นมาเลียหน้าเขาอีก
ท่านชายฉินหัวเราะออกมาเมื่อถูกเปากงอ้อน เขาเล่นกับเปากงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินไปหยิบแครอท แล้วส่งให้มันกิน
‘กรวบๆ’ เปากงกินแครอทอย่างออกรส แครอทนี้ถูกเลี้ยงโดยพลังโพไซดอน รสชาติเลยอร่อยเป็นพิเศษ
เมื่อให้อาหารเปากงเสร็จเขาก็เดินไปหาตี้หลู ตี้หลูอ่อนโยนกว่าเปากงมาก มันมีนิสัยเชื่องมากกว่า ก่อนหน้านี้ในตอนที่ฉินสืโอวให้อาหารเปากงอยู่ มันก็จะอดทนรออย่างตั้งใจ ตอนนี้พอฉินสือโอวเดินมาพร้อมกับแครอทที่อยู่ในอ้อมแขน มันก็ชะโงกออกมาสัมผัสกับหน้าอกของฉินสือโอวอย่างอ่อนโยน
ฉินสือโอวยกมือขึ้นลูบหัวตี้หลู ในตอนที่เขากำลังให้อาหารมัน เชอร์ลี่ย์ก็เดินเข้ามา
โลลิต้ามักจะเข้ามาในช่วงที่ได้จังหวะอยู่เสมอ ท่านชายฉินอดที่จะสงสัยขึ้นมาไม่ได้ว่าเธอแอบส่องกล้องส่องทางไกลคอยดูสถานการณ์รึเปล่า รอจนเขาทำความสะอาดและให้อาหารพวกมันเสร็จเธอถึงจะเดินเข้ามา
เพราะต้องเดินจูงม้าในตอนเช้า โลลิต้าถึงสวมสูทเดนิม และหมวกคาวบอย ผมสีบรอนด์ถูกรวบเป็นหางม้าตรงยาว เธอสวมรองเท้าบูตสำหรับขี่ม้า ซึ่งมันทำเธอดูเหมือนวีรสตรีที่มีเสน่ห์ที่สุด
ฉินสือโอวมองดูเชอร์ลี่ย์ ดวงตาของเขามองอยู่ที่ขาสวยที่เรียวยาวเป็นพิเศษเพราะกางเกงสกินนี่
เด็กหญิงมีสัมผัสที่ไว้ต่อการจ้องมองแบบนี้เป็นพิเศษ พอเขามองนิดหน่อย เชอร์ลี่ย์ก็หันมามองเขาอย่างรวดเร็ว ดวงตากลมโตทั้งสองข้างโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เธอหัวเราะคิกคักออกมาแล้วถามว่า “ฉิน คุณมองอะไรอยู่เหรอคะ?”
ฉินสือโอวทำเสียงดังให้เธอกลัว “มองอะไร? มองขาเธอน่ะสิ ฝึกโยคะให้มากขึ้นหน่อยสิ ไม่อย่างนั้นขาเธอจะงอได้นะ”
เชอร์ลี่ย์ยืนด้วยเท้าซ้ายอย่างมั่นคงแล้วยกขาข้างขวาขึ้น จากนั้นเธอก็ใช้มือขวาดึงขาของเธอให้ชี้ขึ้นฟ้า พลางพูดออกมาอย่างภูมิใจว่า “ไหนที่บอกว่าขางอคะ?”
ฉินสือโอวชูนิ้วโป้งให้พลางพยักหน้า เขาพูดออกมาว่า “การฝึกของเธอไม่มีประโยชน์เลย มีแรงรึเปล่า?”
“แน่นอนสิ” เชอร์ลี่ย์ตอบพลางพยักหน้า หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มออกมา “คุณอยากลองไหมล่ะ?”
ฉินสือโอวยิ้มออกมาเหมือนกัน “ลองก็ลองสิ มา ดันรถเข็นคันนี้เพื่อที่จะเทขี้ม้าข้างในทิ้ง ฉันจะดูว่าเธอจะดันรถเข็นได้เร็วแค่ไหน แค่นี้ก็รู้แล้วว่าขาเธอมีแรงหรือเปล่า”
เชอร์ลี่ย์โมโหขึ้นมานิดหน่อย เธอกลอกตาขาวไม่หยุด เธอจูงตี้หลูและเปากงออกมา แล้วปล่อยเปากง จากนั้นเธอก็เหยียบที่ขึ้นมาพร้อมเหวี่ยงตัวขึ้นนั่งบนหลังของตี้หลู แล้วกุมบังเหียนให้ตี้หลูวิ่งผ่านฉินสือโอวไป
ในขณะที่กำลังผ่านฉินสือโอว เธอก็ยกขาขึ้นเตะเข้าที่ไหล่ของฉินสือโอว จากนั้นเสียงหัวเราะใสราวกับกระดิ่งก็ดังขึ้น “ฮิฮิ คุณรู้สึกถึงแรงของฉันไหมล่ะ?”
เปากงเลียนแบบเชอร์ลี่ย์ เมื่อตอนที่มันวิ่งผ่านฉินสือโอวมันก็อยากที่จะยกเท้าหลังแตะฉินสือโอวเช่นกัน ตอนนั้นท่านชายฉินตกใจกลัวเป็นอย่างมาก ถึงกับหลุดปากด่าออกมา “ทำแม่งอะไรเนี่ย เด็กโง่ แกคิดจะทำอะไรฮะ?”
เมื่อโดนฉินสือโอวตะคอกใส่ เปากงก็ตกใจกลัว มันรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อทำความสะอาดเสร็จ ฉินสือโอวก็ไปออกกำลังกายต่อ เหมือนที่ทำมาเสมอ จากนั้นก็ไปอาบน้ำทานข้าวเช้า
วินนี่ทอดไข่ดาวเป็นจำนวนมาก ฉินสือโอวหยิบขึ้นมาหวังจะทานทันที แต่กลับโดนวินนี่ตีมือเสียก่อน เธอพูดอย่างโมโหว่า “คุณนี่โลภจริงๆ นี่ไม่ได้มีไว้ให้ทาน นี่เป็นของบำรุงหู่จือและเป้าจือต่างหาก”
หู่จือและเป้าจือนั่งอยู่ด้านนอกห้องครัวพลางดมกลิ่นหอมที่ลอยออกมา พวกมันคาบจานข้าวของตัวเอง ดวงตาเปล่งประกายไปด้วยความหวัง
กอร์ดอนเดินลงมาด้วยท่าทางขี้เกียจ เมื่อได้ยินวินนี่พูดแบบนั้นจึงถามออกมาว่า “ทำไมวันนี้ต้องบำรุงหู่จือและเป้าจือด้วยล่ะครับ? บำรุงผมบ้างได้หรือเปล่า?”
วินนี่โมโหกับคำพูดของเขาเป็นอย่างมาก เธอตอบกลับว่า “จะเรื่องมากไปทำไม รีบมาที่โต๊ะ แล้วมาดื่มนมของเธอซะ!”
กอร์ดอนรู้สึกมึนงง เขาพูดออกมาอย่าง งงๆ ว่า “ปกติอาจารย์บอกว่าถ้าไม่เข้าใจอะไรให้ถาม ผมไม่เข้าใจก็เลยถามออกมา นอกจากพวกพี่จะไม่ตอบผมแล้ว ยังว่าผมอีก…”
เคอร์ สเตราส์หัวเราะออกมาเสียงดัง แล้วพูดออกมาอย่างมีความสุขว่า “เพื่อนยาก คำถามนี้รอนายโตขึ้นก่อนว่ากันแล้วกันนะ”
กอร์ดอนถามออกมาอย่างคาดหวังว่า “แล้วเมื่อไหร่ผมถึงจะโตล่ะครับ? ตอนนี้ผมเจ็ดขวบแล้ว ยังไม่โตอีกเหรอ?”
โคลครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่ได้ตอบคำถามตรงๆ แต่กลับถามกลับว่า “นายชอบฤดูร้อนหรือว่าฤดูหนาวกันล่ะ?”
มิเชลที่อยู่ข้างๆ ชิงตอบขึ้นมาว่า “แน่นอนว่าต้องเป็นฤดูหนาวสิ ฤดูหนาวมีหิมะ หิมะทั้งสวยและบางทีมันก็ทำให้ไม่ต้องไปเรียนหนังสือ ใช่ไหมล่ะ?”
กอร์ดอนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ใช่ๆๆ”
เคอร์ยิ้มออกมา แล้วพูดว่า “เมื่อไรที่นายชอบฤดูร้อน ตอนนั้นแหละคือตอนที่นายโตแล้ว”
………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset