ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1665 พลังของคอนเนคชัน

สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือ เมื่อได้ฟังคำพูดของเออร์บักแล้ว ชายวัยกลางคนไม่ได้ปฏิเสธในทันที เขาแค่ลังเลแล้วพูดว่า “ผมไม่อยากไปใช้ชีวิตเมืองอื่น มันไม่ดีต่อสังคมของเด็กๆ เขา”
เออร์บักพูดอย่างใจเย็นว่า “ไม่นะ เพื่อน คุณคิดแบบนี้ไม่ถูก ถึงแม้ว่าจะไม่อยากยอมรับ แต่ผมคงต้องพูดออกไป เพื่อนที่ลูกชายคุณคบด้วยที่นี่ต่างมีปัญหา แล้วทำไมถึงไม่ให้โอกาสอีกครั้งกับเขาล่ะ?”
หลังจากเอ่ยปาก ชายชราก็เริ่มพูดคุยกันไม่หยุด ตั้งแต่ชีวิตจนถึงการทำงาน จากสภาพแวดล้อมไปจนถึงการศึกษา จากนิสัยไปจนถึงวัฒนธรรม เขาเปรียบเทียบแฮมิลตันกับเซนต์จอห์นในทุกแง่ทุกมุม ข้อสรุปสุดท้ายคือพ่อและลูกชายวัยกลางคนเหมาะสมที่จะไปใช้ชีวิตที่เมืองเซนต์จอห์น
ทนายความทุกคนต่างเป็นพนักงานขายสินค้าชั้นเยี่ยม ตลอดการพูดคุยฉินสือโอวพูดแทรกไม่ได้เลย เป็นเออร์บักที่คอยพูดโน้มน้าวชายวัยกลางคนตลอด และพอพูดจนจบสุดท้ายก็เห็นได้ชัดว่าชายวัยกลางคนคล้อยตามแล้ว พยักหน้าหงึกๆ อย่างแรง รับปากว่าจะช่วยฉินสือโอวพูดช่วยเหมาเหว่ยหลง
แน่นอนว่า ช่วงระหว่างที่คุย ชายชราก็พูดถึงสถานการณ์ของเหมาเหว่ยหลงให้ฟังก่อนหนึ่งรอบ ดึงเขาออกมาจากเรื่องนี้ บอกว่าเดิมทีเหมาเหว่ยหลงไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเลย เขาก็เป็นผู้เคราะห์ร้ายเช่นกัน
จัดการทางด้านผู้เคราะห์ร้ายเสร็จเรียบร้อย ฉินสือโอวยังต้องจัดการทางด้านตำรวจต่อด้วย ตอนนี้ตำรวจที่ขี่มอเตอร์ไซค์กำลังสอบสวนเหมาเหว่ยหลง ไม่ใช่ชายวัยกลางคนที่กำลังดำเนินคดีกับเขา ดังนั้นชายวัยกลางคนจึงทำได้แค่ช่วยเขา แต่ไม่มีผลทางด้านการตัดสิน
แต่จุดนี้ไม่ง่ายดายมากนัก เขาโทรหาแฮมเล็ตก่อน ภายหลังแฮมเล็ตก็บอกว่าทางนี้คงช่วยไม่ได้ หลังจากนั้นเออร์บักจึงโทรไปหาแมทธิว จิน รัฐมนตรีอาวุโสเองก็ลำบากใจเช่นกัน บอกว่าเขาคงช่วยไม่ได้
เรื่องในครั้งนี้จะบอกว่าเหมาเหว่ยหลงโชคร้ายไม่ได้ เนื่องจากแคนาดากำลังออกแคมเปญต่อต้านสารเฟนทานิลและยาเสพติด มีการกล่าวขานกันว่าตอนนี้สารเฟนทานิลมีอิทธิพลสูงมากต่อนักเรียนมัธยมที่แคนาดา หลายคนกำลังใช้ของเล่นชนิดนี้อยู่
ฉินสือโอวดูรายงานข่าว ตามรายงานของศูนย์วิจัยยาเสพติดระบุว่า ในแคนาดาจะมีผู้เสียชีวิตจากสารเฟนทานิลสามวันคนหนึ่ง ซึ่งสาเหตุหลักคือ ผู้เสพสารเฟนทานิลหลายคนไม่รู้ว่ายามันแรงขนาดไหน เจ้าของเล่นนี่มีประสิทธิภาพมากกว่ามอร์ฟีนถึง 80 เท่าซึ่งมีฤทธิ์แรงกว่าฝิ่นมาก จึงทำให้เสพยาเกินขนาดได้ง่าย
จะบอกว่าเหมาเหว่ยหลงโชคร้ายหน่อยก็ได้ เนื่องจากตำรวจของแคนาดาเชื่อว่าเฟนทานิลแบบผงส่วนใหญ่ที่ซื้อขายในตลาดตอนนี้มาจากประเทศจีน และเขาเป็นคนจีน อีกอย่างเขาก็จัดหาสิ่งเหล่านี้ให้จริงๆ ตำรวจจึงไม่อยากปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน
ฉินสือโอวและเออร์บักไปที่สถานีตำรวจ ด้วยชื่อเสียงของเออร์บักและฝีปากที่แข็งแกร่งของเขา สุดท้ายพวกเขาก็สามารถได้โอกาสในการเข้าไปเยี่ยมเหมาเหว่ยหลงได้
ห่างกันเพียงกรงเหล็กที่กั้นไว้ ฉินสือโอวมองเห็นเหมาเหว่ยหลง ตอนนี้เขากำลังนั่งยองๆ อยู่บนเตียงเล็กๆ โดยมีสองมือกุมหัวไว้อย่างไร้เรี่ยวแรง พอตั๋วตั่วเห็นเขาน้ำตาก็ไหลพราก พุ่งเข้าไปเกาะกรงเหล็กแล้วร้องเรียก “ปาป๊า ตั๋วตั่วคิดถึงปาป๊าจังเลย…”
พอได้ยินเสียงร้องของลูกสาว เหมาเหว่ยหลงตกตะลึง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นทันที รีบวิ่งไปกอดตั๋วตั่วที่ถูกกั้นไว้ด้วยกรงเหล็กโดยไม่รู้ตัว ใช้มือสางผมของเธอแล้วพูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ตั๋วตั่ว เด็กดี ไม่ร้องไห้นะ ปาป๊าไม่เป็นอะไร เดี๋ยวแป๊บเดียวปาป๊าก็ออกไปเล่นกับตั๋วตั่วได้แล้วนะ”
ตั่วตั่วพูดพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “ตั๋วตั่วไม่เล่นแล้ว ตั๋วตั่วไม่ซนแล้ว ปาป๊ากลับบ้านเรากันได้ไหม? ไม่มีปาป๊า ทั้งมาม๊า ตั๋วตั่วและน้องไม่มีความสุขเลย…”
มองสองพ่อลูกกอดกันผ่านกรงเหล็ก ฉินสือโอวก็รู้สึกหดหู่ในใจ จึงพูดกับตำรวจผู้คุมว่า “เฮ้ พี่น้อง เห็นแก่พระเจ้าแสดงความเมตตาหน่อยเถอะ? ช่วยเปิดประตูให้เพื่อนผมหน่อยเถอะ ให้สองพ่อลูกได้อยู่ด้วยกันหน่อยนะ”
ตำรวจคนนั้นเป็นชายวัยกลางคน ร่างใหญ่กำยำ แต่กลับมีความเห็นอกเห็นใจไม่น้อย เขาเปิดประตูกรงเหล็กออก พึมพำขึ้นมาว่า “แม่งเอ๊ย พวกคุณเร็วๆ หน่อยเลย ผมไม่อยากให้หัวหน้ามาเห็นว่าผมทำแบบนี้!”
ฉินสือโอวและตั่วตั่วเดินเข้าไปข้างในด้วยกัน พูดขึ้นว่า “เฮ้ โคโกโร่ แกคบเพื่อนแบบไหนกันวะ? ทำไมทำร้ายแกจนน่าสมเพชขนาดนี้ได้? นี่มันไม่ใช่เพื่อนร่วมทีมที่เลวทรามธรรมดาแล้ว”
เหมาเหว่ยหลงยิ้มอย่างขมขื่น “ไม่ใช่เพื่อนฉัน แต่เพื่อนของพี่ไห่ จริงๆ แล้วเขาก็ถือว่าเป็นผู้เคราะห์ร้ายเหมือนกัน เจ้านั่นซื้อขายสารเฟนทานิลก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อค้ายาจะกลั่นออกมาเป็นยาเสพติดได้”
พี่ไห่ก็คือโอวหยางไห่ จากนิสัยของเหมาเหว่ยหลงเพื่อนที่แนะนำมาโดยความสัมพันธ์แบบนี้แน่นอนว่าต้องช่วย
แต่ทว่าฉินสือโอวคงไปช่วยแพทย์คนจีนนั่นไม่ได้แล้ว แค่เขาเอาเหมาเหว่ยหลงออกมาได้ก็ดีมากแล้ว ขณะนี้แคนาดาก็เท่ากับว่ากำลังปราบปรามสารเฟนทานิลอย่างเคร่งครัด เหมาเว่ยหลงก็เหมือนกับต่อต้านกระแสลมที่มาแรงอยู่ แน่นอนว่า เขาจึงกลายเป็นการก่ออาชญากรรมโดยไม่รู้ตัว
ซึ่งเวลานี้ทั้งพยานคนและหลักฐานต่างมีพร้อม ถ้าจะจัดการเรื่องนี้ต้องเสียแรงมากทีเดียว ฉินสือโอวออกไปโทรศัพท์ด้านนอก ต่อสายจนไปถึงชากูนีส บริดจ์ ประธานกรรมการบริษัทบอมบาร์เดียร์คนปัจจุบันได้ ถึงค่อยโอนสาย
หลังจากที่ชากูนีสฟังเรื่องที่ฉินสือโอวเล่าหมด ถามขึ้นว่า “อย่างสถานการณ์ของเพื่อนคุณ ได้ไปแจ้งความที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือยัง? อีกอย่าง พวกคุณได้ทำสัญญาข้อตกลงประนีประนอมกับผู้เคราะห์ร้ายเรื่องนี้แล้วใช่ไหม?”
ฉินสือโอวจะรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร? เขาจึงถามเออร์บัก เขาส่ายหน้าแล้วบอกว่า “ยังเลย ไม่อย่างนั้นเหมาก็ไม่ต้องอยู่ในนี้แล้ว”
พอได้คำตอบแบบนี้ ชากูนีสก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “โอเค ถ้าอย่างนั้นผมจะลองดูละกัน คุณไปหาสถานที่ดื่มกาแฟหรือดูหนังด้านนอกสถานีตำรวจก่อน ถ้าผมจัดการได้ คุณจะเห็นเพื่อนของคุณหลังจากดูหนังเสร็จ”
ฉินสือโอวไม่ได้ถามอะไรต่อ ควรมีความเชื่อใจระหว่างเพื่อนกัน ในเมื่อชากูนีสบอกว่าจะช่วย ถ้าเช่นนั้นเขาก็ทำได้แค่ออกไปรอด้านนอก
แน่นอนว่าเขาจะไปดูหนังหรือดื่มกาแฟไม่ได้ เพราะตั๋วตั่วทางนี้ยังโศกเศร้าผิดหวังอยู่เลย จ้องมองไปที่ประตูของสถานีตำรวจด้วยดวงตากลมโตเป็นประกาย
ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงได้ เหมาเหว่ยหลงและพ่อของเด็กชายที่เป็นเหยื่อเคราะห์ร้ายจากสารเสพติดปรากฏตัวขึ้นที่ประตูของสถานีตำรวจทีละคน พอเห็นแบบนี้ฉินสือโอวก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที รีบอุ้มตั๋วตั่วเข้าไปหา
พอรับตั๋วตั่วไป เหมาเหว่ยหลงก็กอดฉินสือโอวแน่น พูดด้วยความตื่นเต้นว่า “แกเอาฉันออกมาได้ยังไงกัน? ฉันนึกว่าต้องถูกส่งตัวกลับประเทศไปละ ไม่คิดเลยว่าแกจะแน่ขนาดนี้”
ฉินสือโอวหัวเราะเย้ยหยัน แล้วพูดว่า “แกก็ไม่ดูให้ดีๆ หน่อยว่าฉันน่ะเป็นบุคคลแบบไหนในแคนาดา! อย่าให้พูด แค่แกลักลอบยาพวกนี้นิดหน่อยเลย ต่อให้แกลักลอบเครื่องบิน หรือยานแม่ ฉันก็ช่วยออกมาได้!”
จะโม้อย่างไรก็ได้ แต่แน่นอนว่าเรื่องราวมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น หลังจากฉินสือโอวรับเหมาเหว่ยหลงออกมาแล้วจึงโทรหาชากูนีสเพื่อขอบคุณเขาโดยเฉพาะ
ชากูนีสพูดอย่างสบายๆ ว่า “ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก นับว่าคุณยังโชคดี ฉิน โชคดีนะที่หัวหน้าที่สถานีตำรวจแฮมิลตันเป็นพี่ที่ดีของผม และก็โชคดีที่ไม่มีเหยื่อคนไหนอยากให้คุณรับผิดชอบ ไม่เช่นนั้นแม้แต่นายกรัฐมนตรีของแคนาดาก็ไม่สามารถช่วยคุณได้!”
พอวางสาย ฉินสือโอวลอบถอนใจ “แม่งเอ๊ย พลังของคอนเนคชันบ้าเนี่ย มันใช้ได้ทั่วโลกจริงๆ”
………………………
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset