Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – ตอนที่ 743-744

บทที่ 743 : เผาถ้ำ!
ชัวะ..ชัวะ.. ชัวะ.. ครืน..
ปลายกระบี่โลหิตแดนใต้สามารถตัดหินที่แข็งแกร่งอย่างหินแกรนิตได้อย่างง่ายดาย..
เพียงแค่สะบัดปลายกระบี่ในเวลาอันรวดเร็วก็สามารถตัดประตูหินที่แข็งแรงได้ถึงหกครั้ง แนวนอนสาม และแนวตั้งอีกสาม..
จากนั้นหลิงหยุนจึงกางมือออกเป็นกรงเล็บแล้วจิกลงไปบนก้อนหินจนนิ้วทะลุเข้าไปด้านใน จากนั้นจึงออกแรงดึงหินสองก้อนที่ฟันออกมา แล้วมองเข้าไปด้านใน
หลิงหยุนโยนหินสองก้อนข้ามหัวตัวเองไปจากนั้นจึงใช้กระบี่โลหิตแดนใต้ฟันเข้าที่ประตูหินอีกครั้ง
ปัง!
เกาเฉินเฉินได้ยินเสียงประตูหินพังครืนลงมาและนางก็อยู่ในสภาพยืนมือพิงกำแพงพร้อมกับกำลังอาเจียน..
“อย่าเพิ่งเข้ามา!”
ทันทีที่ได้ยินว่าหลิงหยุนกำลังเข้ามาเกาเฉินเฉินก็ถึงกับอาเจียนออกมาถึงสองครั้ง และรีบร้องตะโกนห้ามไม่ให้หลิงหยุนเข้าไปใกล้ตัวนาง
“ให้ฉันอาเจียนให้เสร็จก่อน..”
พูดจบเกาเฉินเฉินก็ใช้นิ้วมือล้วงคอตนเองให้อาเจียนออกมาอีกครั้งภายในห้องจึงมีกลิ่นที่ไม่ที่ไม่พึงประสงค์
หลิงหยุนยืนนิ่งอยู่ด้านหลังของเกาเฉินเฉินพร้อมกับถือขวดน้ำแร่ไว้ในมือเขาจ้องมองเกาเฉินเฉินนิ่งเงียบ และได้แต่นึกสงสารนางจับใจ
หลิงหยุนนั้นเข้าใจเกาเฉินเฉินดีมากกว่าใครๆเกาเฉินเฉินเก็บงำความเกลียดชัง เคียดแค้น ความหวาดกลัว และความสิ้นหวังมาเป็นเวลานาน อารมณ์ต่างๆเหล่านี้อยู่ในจุดสูงสุด และเมื่อจู่ๆก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที จึงเกิดอาการอาเจียนออกมาเช่นนี้
“เฉินเฉิน..คุณสบายใจได้! เฉินเจี้ยนกุ่ยกลับเข้าเมือง และคงอีกครู่ใหญ่กว่าจะกลับมา..”
หลิงหยุนพูดปลอบโยนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“แต่ถึงแม้ว่ามันจะกลับมา คุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลใจ ตราบใดที่ผมอยู่ที่นี่ ผมจะไม่ให้ใครทำร้ายคุณได้อย่างเด็ดขาด..”
ร่างของเกาเฉินเฉินสั่นเทิ้มแต่ยังคงอาเจียนต่อไปอีก..
ผ่านไปครู่ใหญ่..เกาเฉินเฉินก็อาเจียนจนน้ำดีออกมา และในที่สุดก็ยืดตัวตรง เท้าทั้งสองข้างสั่นไม่หยุด
เกาเฉินเฉินต้องรวบรวมความแข็งแกร่งทั้งหมดของตนเองที่มีหลิงหยุนค่อยๆหมุนฝาขวดน้ำแร่ออก และส่งให้เกาเฉินเฉินดื่ม
เกาเฉินเฉินรับขวดน้ำแร่มาจากมือหลิงหยุนและจัดการล้างปากของตนเองให้สะอาด จากนั้นจึงร้องบอกตัวเองเบาๆ
“เฉินเฉิน..หากไม่สามารถมีชีวิตอยู่เพื่อแก้แค้นให้คนที่รักได้ ก็ยอมตายซะดีกว่าที่จะยอมเป็นบริวารของเฉินเจี้ยนกุ่ย!”
ความโกรธแค้นปะทุขึ้นในใจของหลิงหยุนแต่ก็พูดกับเกาเฉินเฉินด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เฉินเฉิน.. ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณดี!”
“ฉันไม่ต้องการให้มีอะไรจากที่นี่ติดตัวไปกับฉันด้วยแม้แต่อาหารที่อยู่ในท้องของฉันก็เหมือนกัน!”
หลิงหยุนได้ฟังถึงกับตกใจความสงสารเห็นใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นหลายร้อยเท่า
เขาคิดไม่ถึงว่า..เวลาผ่านไปเพียงแค่สามเดือน แต่จิตใจของเกาเฉินเฉินกลับเข้มแข็งถึงเพียงนี้ และไม่คาดคิดว่าเด็กสาวที่เคยถูกเขากลั่นแกล้งหยอกล้อในโรงเรียนจะกลายเป็นหญิงสาวที่แข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้!
“หลิงหยุน..นายต้องรับปากว่าจะไม่แตะต้องตัวฉันก่อนที่ฉันจะได้อาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย ตกลงมั๊ย”
เกาเฉินเฉินบังคับความต้องการของตนเองที่อยากจะหันไปมองหลิงหยุนและโผเข้าสู่อ้อมกอดของเขาไว้ และได้แต่ร้องบอกหลิงหยุนไปเช่นนั้น..
หลิงหยุนคิดผิดไปอย่างมากแต่ก็ยิ้มออกมาพร้อมกับตอบไปว่า “คุณอยากจะอาบน้ำก่อนใช่มั๊ย ถ้างั้นก็หลับตา กลั้นหายใจ และเตรียมตัวอาบน้ำให้สดชื่นได้เลย..”
เกาเฉินเฉินนึกสงสัยแต่ก็เชื่อฟังคำสั่งของหลิงหยุนเธอหลับตาลงพร้อมกับกลั้นหายใจไว้
หลิงหยุนจัดการเรียกยันต์ธาราออกมาทันทีและติดไว้ที่ศรีษะของเกาเฉินเฉิน หลังจากร้องสั่งยันต์ ลูกบอลน้ำขนาดใหญ่ก็ปรากฏเหนือศรีษะของเธอทันที
ยันต์ธาราระดับห้าของหลิงหยุนนั้นไม่เพียงบรรจุน้ำไว้เท่านั้นแต่ยังมีพลังในการชำระล้างอย่างได้ผลดีเยี่ยม..
หลังจากนั้นไม่ถึงเจ็ดวินาทีลูกบอลน้ำสีฟ้าก็แตกออก และน้ำได้ไหลลงชำระล้างร่างของเกาเฉินเฉินจนเปียกไปหมด
“เฉินเฉิน..ยันต์ธาราของผมได้ชำระล้างร่างกายของคุณจนสะอาดสะอ้านแล้ว ไม่มีอะไรจากที่นี่ติดตัวคุณไปได้อีกแล้ว!”
ทันทีที่หลิงหยุนพูดจบร่างของเกาเฉินเฉินก็หันกลับมาทันที และโผเข้าหาอ้อมแขนของหลิงหยุนพร้อมกับร่ำไห้ออกมา เธอสะอึกสะอื้นอยู่บนอกของหลิงหยุน และเสียงร้องของเกาเฉินเฉินก็ราวกับมีดที่กรีดลึกเข้าไปในหัวใจของหลิงหยุน
หลิงหยุนโอบร่างบอบบางของเกาเฉินเฉินไว้ในอ้อมแขนทั้งสองข้างและลูบไล้แขนของเธออย่างอ่อนโยน และปล่อยให้เธอได้ร้องไห้ออกมา
“ผมมาช่วยคุณแล้ว..อยากร้องก็ร้องออกมาให้พอ.. ร้องออกมาให้หมด..”
เกาเฉินเฉินนั้นอยู่ในห้วงทุกข์และห้วงแห่งความโกรธแค้นมานานถึงสามเดือน ตลอดทั้งวันก็มีเพียงความหวาดกลัว สิ้นหวัง และยังต้องคอยระวังเฉินเจี้ยนกุ่ยอยู่ตลอดเวลา หลิงหยุนจึงเข้าใจดีว่าตลอดสามเดือนนี้จึงเปรียบเสมือนฝันร้ายและราวกับตกอยู่ในห้วงนรกของเกาเฉินเฉิน!
แม้ว่าหลิงหยุนจะโอบกอดเกาเฉินเฉินไว้แน่นแล้วแต่เธอยังคงฝังตัวลงกับร่างของหลิงหยุนราวกับว่าโหยหาอ้อมกอดที่แข็งแกร่งและอบอุ่นนี้มานานแสนนาน เธอไม่เคยรู้สึกปลอดภัยเช่นนี้มานานแสนนาน!
เสียงร้องห่มร้องไห้ของเกาเฉินเฉินยังคงดังอย่างต่อเนื่องเสียงสะอื้นดังขึ้นไม่หยุดหย่อน แต่สักพักก็ผละออกจากอ้อมแขนของหลิงหยุนและพูดขึ้นว่า
“หลิงหยุน..รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ เฉินเจี้ยนกุ่ยจะกลับมาตอนใหนก็ไม่รู้!”
หลิงหยุนไม่พูดอะไรเขาจับไหล่ของเกาเฉินเฉินไว้ด้วยสองมือ ดวงตาของเขาจ้องมองเกาเฉินเฉินด้วยความรักพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“เฉินเฉิน..ผมขอโทษที่มาช้าเกินไป”
เกาเฉินเฉินผ่ายผอมลงไปมากหากเทียบกับเมื่อสามเดือนก่อนเธอผอมลงไปเกือบสิบกิโลกรัมจนไหปลาร้าโผล่ออกมาให้เห็น เอวที่เคยคอดเล็กก็เล็กลงยิ่งกว่าเดิม และเป็นเพราะถูกขังไว้เป็นเวลานาน ใบหน้าของเธอจึงซูบซีดไร้สีเลือด
หลังจากที่ได้เห็นร่างกายที่อ่อนแอลงมากของเกาเฉินเฉินหลิงหยุนก็รู้สึกเจ็บปวดใจอย่างมาก เขาถึงกับพูดไม่ออก และแทบทนรอที่จะสังหารเฉินเจี้ยนกุ่ยไมได้!
พลังลับหยิน-หยางยังคงหมุนเวียนอยู่ในร่างกายของหลิงหยุนเสื้อผ้าของเกาเฉินเฉินที่เปียกก็ค่อยๆระเหยแห้งไป
ดวงตาคู่งามของเกาเฉินเฉินที่ทั้งแดงและบวมนั้นจ้องมองใบหน้าของหลิงหยุนพร้อมกับตอบไปว่า
“หลิงหยุน..แค่นายมาช่วยฉัน ฉันก็มีความสุขมากแล้ว..”
เกาเฉินเฉินตื่นเต้นจนไม่อาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้เธออยากจะจูบหลิงหยุนอย่างดูดดื่มเพื่อบอกว่าเธอคิดถึงเขามากเพียงใด แต่ก็ลังเล..
แต่คิดไม่ถึงว่า..หลิงหยุนกลับจูบเธออย่างร้อนแรงหนักหน่วงยิ่งกว่าสายฝนที่กระหน่ำอยู่ด้านนอก
ผ่านไปเนิ่นนาน..หลิงหยุนจึงปล่อยร่างที่อ่อนระทวยของเกาเฉินเฉิน แต่เกาเฉินเฉินกลับร้องบอกเสียงเบา
“กอดฉันไว้อีกหน่อย..”
มือขวาของหลิงหยุนโอบเอวเกาเฉินเฉินไว้แน่นส่วนมือซ้ายก็เรียกกระบี่โลหิตแดนใต้ออกมา หลิงหยุนใช้กระบี่โลหิตแดนใต้ฟันสิ่งของที่อยู่ในห้องจนพังไปกองรวมกัน จากนั้นจึงเรียกยันต์เตโชออกมาเผาทุกสิ่งทุกอย่างจนไหม้เป็นจุล!
อีกไม่นานทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในถ้ำก็จะกลายเป็นเถ้าถ่านจะไม่มีอะไรเหลือแม้แต่อย่างเดียว..
“เฉินเฉิน..เมื่อสองสามวันที่ผ่านมาพี่ชายของคุณไปหาผมที่จิงฉู”
“เวลานี้ทั้งปู่ของคุณท่านพ่อ ท่านแม่ และคนอื่นๆในตระกูลเกา ล้วนปลอดภัยกันดีทุกคนแล้ว!”
ท่ามกลางเปลวเพลิงที่เผาไหม้อยู่นั้นหลิงหยุนโอบร่างบอบบางของเกาเฉินเฉินไว้พร้อมกับร้องบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เกาเฉินเฉินซึ่งไม่พบเห็นแสงสว่างมาเป็นเวลานานจึงรีบหลับตาเพราะยังไม่สามารถปรับสภาพเข้ากับเปลวไฟที่สว่างเจิดจ้าเช่นนี้ได้
“จริงเหรอ!”เกาเฉินเฉินร้องออกมาด้วยความดีใจและประหลาดใจไปพร้อมกัน
หลิงหยุนโอบร่างของเกาเฉินเฉินไว้และพาร่างของเธอกระโดดออกมาจากห้องไปยืนอยู่ในโลงใหญ่ที่อยู่กลางถ้ำ
โลงศพของเฉินเจี้ยนกุ่ยนั้นถูกออกแบบอย่างหรูหราใหญ่โตภายในบุด้วยผ้าไหมอย่างดี
“ก่อนอื่นต้องจัดการเผาโลงศพของมันก่อน..”
หลิงหยุนเรียกยันต์เตโชออกมาและจัดการเผาโลงศพของเฉินเจี้ยนกุ่ยจนไหม้เป็นเถ้าถ่าน
“เฉินเฉิน..รอผมอยู่ที่นี่เดี๋ยวนะ แล้วผมจะรีบพาคุณออกไปจากที่นี่!”
หลิงหยุนวางร่างของเกาเฉินเฉินลงและตรงเข้าไปที่ประตูถ้ำซึ่งอยู่ตรงข้ามห้องของเกาเฉินเฉิน หลังจากใช้กระบี่ฟันลงไปสองสามครั้ง ประตูหินก็เปิดออกเผยให้เห็นถ้ำขนาดใหญ่ด้านใน
หลิงหยุนไม่จำเป็นต้องเข้าไปสำรวจอีกเพราะเขาได้ใช้จิตหยั่งรู้สำรวจดูด้านในหมดแล้ว
“ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกก็ล้วนแล้วแต่ต้องกลับคืนสู่ธรรมชาติ ข้า-หลิงหยุนขอสาบานว่าจะแก้แค้นให้พวกเจ้าทุกคน ขอให้วิญญาณของพวกเจ้าจงไปสู่สุคติเถิด!”
หลิงหยุนจ้องมองร่างไร้วิญญาณมากมายที่กองเป็นภูเขาที่อยู่ด้านในบางร่างยังเป็นศพที่เพิ่งตายใหม่ บางร่างยังลืมตาโพลง หลิงหยุนใช้ยันต์เตโชสิบกว่าแผ่นจัดการเผาร่างไร้วิญญาณนั้นเสีย
ยันต์เตโชเผาซากศพเหล่านั้นจนเหลือเพียงเถ้าถ่านที่กองอยู่บนพื้นและจู่ๆก็เกิดลมพัดขึ้นมาในภายในห้อง เถ้าถ่านเหล่านั้นลอยหมุนวนรอบตัวหลิงหยุนก่อนจะหายวับไป
แม้จะดูแล้วน่าประหลาดใจแต่หลิงหยุนก็สัมผัสได้ว่านั่นคือดวงวิญญาณของเหล่าเด็กสาวที่ได้ตายไปทั้งสิ้น
“ทำไมจู่ๆถึงได้มีลมหมุนเกิดขึ้นในถ้ำได้..”
เกาเฉินเฉินหรี่ตาและเห็นเสื้อผ้าและเส้นผมของหลิงหยุนปลิวไสวก็ได้แต่นึกแปลกใจ
“เฉินเฉิน..คุณไม่ต้องห่วง เฉินเจี้ยนกุ่ยทำเรื่องเลวร้ายไว้มาก ยังไงมันก็ต้องตกนรกอย่างแน่นอน!”
“พวกเราไปกันได้แล้ว!”
หลิงหยุนสาปแช่งเฉินเจี้ยนกุ่ยอยู่ครู่หนึ่งจึงกระโดดเข้าไปโอบร่างของเกาเฉินเฉินไว้ และพาไปที่ปากถ้ำ..
เมื่อไปถึงปากถ้ำหลิงหยุนก็พาเกาเฉินเฉินกระโดดลงไปด้านล่างทันที ร่างทั้งสองร่างโอบกอดกัน และลอยละลิ่วลงสู่พื้นด้านล่างอย่างรวดเร็ว
หลิงหยุนร้องถามเกาเฉินเฉิน“เฉินเฉิน.. คุณกลัวมั๊ย”
ท่ามกลางสายฝนที่ยังคงกระหน่ำลงมาไม่หยุดนั้นหลิงหยุนใช้ฝ่ามือช่วยปิดบังสายฝนที่ซัดสาดลงมาบนศรีษะให้กับเธอ
“มีนายอยู่ด้วยแบบนี้ฉันไม่กลัวอะไรหรอก!”เกาเฉินเฉินร้องบอกพร้อมกับส่งยิ้มงดงามให้กับหลิงหยุน

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset