ในตอนเช้า พิมกำลังฝันหวาน เธอฝันว่าอาจารย์ได้ไปเดทกับอาจารย์ป๊อบ
โดยอาจารย์ป๊อบพูดกับเธอว่า
” พิม คบกับผมนะ ผมชอบคุณตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลย
ผมเฝ้ามองคุณมานานหลายปี รอวันที่คุณเรียนจบ เพื่อขอคุณเป็นแฟน
ตอนนี้คุณไม่ใช่นักเรียนของผมแล้ว เราเป็นแฟนกันนะ ”
เธอยิ้มและรู้สึกมีความสุขที่สุดที่ความฝันของเธอเป็นจริง จึงเอ่ยตอบไปว่า
” ค่ะ ฉันก็ชอบอาจารย์เหมือนกัน ”
แล้วอาจารย์ป๊อบก็ดึงเธอเข้ามากอดไว้ในอ้อมกอด จากนั้นก็ก้มลงจะจูบเธอ
แต่ยังไม่ทันได้ประกบปาก เสียงโทรศัพท์เจ้ากรรมดันดังขึ้นมาขัดจังหวะเธอ ปลุกให้เธอตื่นจากฝัน
เธอตื่นขึ้นมาอย่างเสียดายและเสียใจที่อดจูบกับคนที่เธอชอบ
เธอมองไปยังเบอร์แปลกที่โทรเข้ามาขัดจังหวะด้วยความหงุดหงิดใจ
กดรับสายแล้วเอ่ย
” สวัสดีค่ะ ”
ปลายสายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า
” แค่วันแรกคุณก็คิดจะอู้งานแล้วเหรอ คุณลืมไปแล้วเหรอว่าคุณต้องทำอะไร ”
เมื่อได้ยินเสียงปลายสายเธอก็สะดุ้งลุกขึ้นมานั่งทันทีแล้วเอ่ย
” คุณเตชิน! ”
ปลายสายจึงเอ่ยต่อว่า
” เมื่อไหร่คุณจะมาส่งอาหารเช้า ”
[ ตายละ ลืมสนิทเลย ]
เธอพึมพำในใจ นั่งนิ่ง ใช้ความคิดสักพัก จึงเอ่ยขึ้น
” ค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้ อืม แต่ว่าอาหารเช้าเนี่ย
ควรทานอาหารอ่อนๆ
เพื่อให้ลำไส้ปรับสมดุล คุณไม่ควรทานเยอะแค่ขนมปังไรพวกนี้
ฉันคิดว่าอาหารที่ดีต่อสุขภาพที่ทานง่าย ย่อยง่ายที่สุด
ก็คือ แซนวิช คุณรอฉันสักครู่นะคะ จะทำแซนวิชทูน่าไปส่งให้เดี๋ยวนี้เลย ”
เมื่อปลายสายได้ยินก็เอ่ยถามขึ้นอย่างไม่ชอบใจ
” คุณเอาความรู้นี้มาจากไหน ”
พิมเงียบปิ้งกำลังคิดหาตอบให้ดูน่าเชื่อถือ แต่ยังไม่ทันได้เอ่ย
เตชินก็เอ่ยถามขึ้นซะก่อน
” คุณเอาอาหารสิ้นคิดมาให้ผมทาน เพราะคุณยังไม่ได้เตรียมอาหารเช้าให้ผมใช่มั้ย ”
เธอได้แต่ยิ้มเหยเก แล้วยอมรับอย่างตรงไป
ตรงมาว่า
” ใช่ค่ะ คุณเดาถูกแล้ว ฉันเพิ่งตื่น ฉันจะไปเตรียมอาหารเช้าให้คุณทันได้ยังไง
มีแซนวิชลงท้องดีแค่ไหนแล้ว วันนี้คุณทาน
แซนวิชทูน่าไปก่อน
พรุ่งนี้ฉันจะทำอาหารดีๆไปให้คุณ ”
ความจริงอีกอย่างคือ เธอยังไม่ได้ลองทำอาหารเลย เพราะเธอทำอาหารไม่เป็น
ปลายสายเงียบไปสักพักแล้วเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์เสีย
” วันนี้ไม่ต้องทำ ผมจะให้ผู้ช่วยคังกลับไปรับคุณมาทานข้าวเป็นเพื่อนผมที่บริษัทแทน ”
พิมไม่อาจปฏิเสธได้อีก เลยต้องจำยอม ตอบตกลงไป
” ได้ค่ะ ”
พูดจบเธอก็กดวางสายไปทันที เตชินได้ยินเสียง
” ตู๊ดๆๆๆ ”
เขารู้สึกหงุดหงิดใจมาก ตั้งแต่เขาเกิดมายังไม่เคยมีใคร กล้าวางสายใส่เขาแบบนี้เลย
” คุณกล้ามากที่วางสายใส่ผมแบบนี้ ”
พิมลุกไปอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ในหัวเธอพยายามนึกถึงเงิน สี่หมื่นบาท วนไป
เสร็จแล้วเธอก็รีบแต่งตัวรอผู้ช่วยคังมารับ
ระหว่างนั่งรอ เธอนึกถึงฉากที่ถูกอาจารย์ป๊อบสารภาพรัก
เธอเริ่มคิดเปลี่ยนใจไม่อยากเป็นภรรยาในนามของเตชินแล้ว
พอผู้ช่วยคังมาถึง เธอก็เดินออกไปขึ้นรถ แล้วผู้ช่วยคังก็ขับรถออกไป มุ่งหน้าไปยังบริษัท
เมื่อไปถึงบริษัท ผู้ช่วยคังก็พาเธอขึ้นไปพบเตชิน ที่ห้องประธานบริษัททันที
เธอเดินเข้าไปในห้อง เตชินที่นั่งทำงานอยู่ก็เงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ย
” เชิญ ”
เธอนั่งลง แล้วมอสำรวจไปรอบๆห้องแล้วพึมพำในใจ
[ โห เกิดเป็นคนรวยนี่ดีจริงๆ ทำงานบนตึกสูง นั่งดูวิวทิวทัศน์ ที่สวยงาม ห้องก็กว้างขวาง สะดวกสบาย ชีวิตนายเตชินนี่น่าอิจฉาจริงๆ ]
เธอนั่งเหม่อ ชื่นชม สิ่งแปลกใหม่ที่ตื่นตาตื่นใจ ตรงหน้าอย่างเงียบๆ
เตชินเดินเข้ามาข้างหลังเธอ เห็นดวงตาเธอดูเป็นประกาย จึงค้อมตัวลงใกล้ๆ ข้างๆใบหูเธอแล้วเอ่ยขึ้น
” ชอบมั้ย ”
พิมสะดุ้งตกใจหันขวับมาทางที่มาของเสียงทันที
จมูกและริมฝีปากของทั้งสองชนเข้าหากัน
พิมตกใจเบิกตากว้างอึ้งไปสามวิ แล้วยกมือขึ้นมาอย่างไว
ตบลงบนใบหน้าของเตชินอย่างแรง เพราะคิดว่าเขาจูบเธอ แล้วเธอเอ่ยด้วยสีโกรธจัด
” คุณมาจูบฉันทำไม คุณทำผิดข้อตกลงหนิ ”
เตชินใช้นิ้วโป้งปาดรอยนิ้วมือพิมเบาๆแล้วเอ่ย
” ผมทำผิดตรงไหน เป็นคุณที่หันมาจูบผมเอง ”
พิมรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกกล่าวหาจึงเอ่ยแย้งขึ้น
” นั่นเพราะคุณมีเจตนาที่ไม่ดี ใครใช้ให้คุณยื่นหน้ามาใกล้ล่ะ
แล้วมาทำให้ฉันตกใจทำไมกัน
วันนี้คุณทำผิดข้อตกลงข้อที่ห้า ฉันไม่อยู่ทานมื้อเที่ยงกับคุณแล้ว สำหรับวันนี้เป็นอันโมฆะ ”
พูดจบเธอก็เดินออกไป เตชินเองก็ไม่ยอมโดนตบฟรีๆ เมื่อเห็นเธอเดินออกไป
เขาจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
” ถ้านิ้วคุณแตะประตู ผมจะถือว่าคุณทำผิดสัญญา จะฟ้องร้อง เรียกค่าผิดสัญญาสองล้านจากคุณทันที ”
พิมถึงกับหยุดชะงัก ยืนนิ่ง หน้านิ่ว คิ้วขมวด อย่างไม่พอใจ
เตชินจึงเดินเข้ามาหาเธอแล้วเอ่ยต่อ
” คุณตบผมเจ็บขนาดนี้ คิดจะหนีไปดื้อๆแบบนี้ ง่ายไปไหม ”
พูดจบเขาก็จับข้อมือเธอ แล้วลากมานั่งลงบนโซฟาหน้าโต๊ะทำงาน
จากนั้นก็เดินไปหยิบเจลประคบในตู้เย็นยื่นให้เธอแล้วเอ่ย
” ประคบให้ผมจนกว่าจะหายและจนกว่าผมจะพอใจ ”
พิมได้แต่นั่งหน้านิ่ว ประคบให้เขาตรงรอยนิ้วมือเธอเบาๆ
เธอประคบเพลินจนใจเริ่มสงบนิ่ง เธอจึงเอ่ยขึ้นอย่างใจเย็น
” คุณเตชิน ฉันว่า คุณไม่ต้องถึงขั้นบอกคนอื่นว่าฉันเป็นภรรยาหรอก
ภรรยาในนามอะไรนั่น ฉันว่ามันดูเว่อร์ไป
หากบอกใครไป ใครเขาจะไปเชื่อ
ฉันว่าบอกคนอื่นว่าคุณคบอยู่กับฉันและวางแผนจะแต่งงานในเร็วๆนี้
แบบนี้ฟังดูน่าเชื่อถือกว่าเยอะ เพราะถ้ามีคนเก็บไปคิดวิเคราะห์ขึ้นมาจริงๆ เขาอาจจะไม่มีทางเชื่อเราเลย
ดังนั้นการคบกันเป็นแฟนมันน่าเชื่อกว่า และมันมีความเป็นไปได้ ฉันพูดถูกมั้ยคะ ”
เตชินเอ็นหลังพิงโซฟาหลับตาอย่างเงียบๆ แล้วเอ่ย
” สรุปแล้ว คือ คุณอยากเป็นแฟนมากกว่าเป็นภรรยา ”
พิมจึงเอ่ยตอบอย่างไวว่า
” ถ้าพูดแบบนั้นมันก็ใช่ค่ะ ”
เตชินจึงเอ่ยถามต่อว่า
” คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่า หรือคุณมีแฟนแล้ว กลัวแฟนจะรู้ ”
ได้ยินดังนั้นเธอรีบปฏิเสธทันที
” ไม่มีค่ะ ไม่มี ”
” อืม ไม่มีก็ดี งั้นผมขอคิดดูก่อน หากคุณทำตัวดี เชื่อฟัง ผมจะทำตามที่คุณเสนอมา ”
พิมดีใจมากเมื่อเตชินพูดแบบนั้น เธอจึงลงน้ำหนักมือเบาๆเพิ่มระดับความนุ่มนวลให้มากขึ้น
จนเตชินเคลิ้มจนเผลอหลับไป ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นกับบริษัท เขาหลับไม่เคยสนิทเลย
วันนี้เป็นวันแรกเลยที่เขาเผลอหลับไปจนถึงเที่ยง และพิมก็ไม่ให้ใครมารบกวนเขา
พออาหารเที่ยงมาส่ง เธอก็จัดวางบนโต๊ะอาหารอย่างเงียบๆ
เตชินก็ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสบายตัว จมูกได้กลิ่นหอมของอาหาร เขาจึงเดินไปที่ห้องครัว
เห็นอาหารจัดวางเต็มโต๊ะ จึงเอ่ยถามพิมว่า
” ผมหลับไปกี่ชั่วโมง ”
พิมยิ้มแล้วตอบว่า
” ชั่วโมงกว่าค่ะ คุณต้องพักผ่อนบ้างนะคะ
อย่าหักโหมเกินไป
จนอดหลับอดนอน มันไม่ดีต่อสุขภาพ ”
เตชินไม่เอ่ยอะไรอีก นั่งลงแล้วเริ่มทานข้าวทันที พิมยืนมองเขาด้วยความงุนงง
เมื่อเห็นว่าพิมยังไม่นั่งลงทานข้าว เขาจึงเงยหน้าขึ้นมามองเธอแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา
” นั่งสิ ยืนจ้องอะไรอยู่ได้ ทานข้าว ”
” อ่อ ค่ะ ”
พิมดึงเก้าอี้ออกมา แล้วนั่งทานข้าวอย่างเงียบๆ