ข่าวในครั้งนี้ ทำให้นักลงทุนหลายรายในบริษัทเริ่มทยอยถอนตัวออก
เพราะไม่กล้าเสี่ยงซื้อหุ้นของบริษัทเตชิน หุ้นของบริษัทเตชินดิ่งลงทุกวันจนเตชินเริ่มเครียด
ณัชชาพยายามเดินสายคุยเจรจากับนักลงทุนให้มาร่วมลงทุนซื้อหุ้นของบริษัท
แต่กลับไม่เป็นผล บริษัทเริ่มเข้าขั้นวิกฤติ
ในแต่ละวัน
เตชินเรียกประชุมผู้บริหารและผู้ร่วมลงทุนที่เหลือ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น
ช่วงนี้เตชินไม่ค่อยได้กลับบ้าน และณัชชาก็เคียงข้างร่วมเผชิญหน้ากับปัญหาที่เข้ามา
จนเขารู้สึกว่าไม่ควรให้ณัชชามาเสียเวลากับเขา เขารู้ดีว่าณัชชาชอบเขามาตลอด
แต่เขาไม่สามารถรับรักเธอได้ และไม่อยากให้ณัชชามาลำบากด้วย
เขาคิดว่าณัชชาควรตัดใจจากเขาและเปิดใจให้คนอื่นได้เข้ามาดูแลหัวใจ
เขานั่งมองณัชชาที่นั่งช่วยงานเขาจนเผลอหลับไปอย่างเงียบๆ
เขาทำทุกวิธีทั้งพูดไม่ดี ทำร้ายจิตใจ แต่ณัชชากลับไม่เคยยอมแพ้เพราะนิสัยเธอดื้อรั้นมาตลอดเขารู้ดี
เขาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ แล้วหยิบเสื้อคลุมมาห่มให้ณัชชา จากนั้นก็เดินออกจากห้อง
เตชินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาผู้ช่วยของ
ณัชชาแล้วเอ่ย
” คุณมาอยู่เป็นเพื่อนคุณณัชชาที่บริษัทหน่อย ”
ปลายสายเอ่ยตอบว่า
” ค่ะ ”
เตชินขับรถกลับไปที่บ้าน เมื่อถึงบ้านเขาก็ลงจากรถแล้วเดินเข้าบ้านไป
เขากำลังวางแผนจะให้พิมเซ็นสัญญา ร่วมทำข้อตกลงกับเขา
แม้แผนนี้จะทำให้ณัชชาเจ็บปวดและไม่พอใจมาก
แต่มันก็อาจจะทำให้ณัชชาเลิกมาสนใจเขา
เพื่อที่เธอจะได้ไม่เสียเวลากับเขาอีกต่อไป
ในเช้าวันใหม่ พิมลุกขึ้นมาทำกิจวัตรประจำวันเสร็จ
ก็เดินออกมาจากห้องแล้วไปหยิบไม้กวาดเตรียมตัวไปทำงานบ้าน
แต่ก็พบเข้ากับผู้ช่วยคังที่มายืนรอเธอ เธอจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
” คุณคัง คุณมายืนทำอะไรตรงทางเดินนี้ล่ะคะ ”
ผู้ช่วยคังจึงเอ่ยตอบไปว่า
” ผมมายืนรอคุณ คุณชายต้องการพบคุณครับ ”
พิมตกใจ เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย แล้วชี้มาที่ตัวเองพร้อมกับเอ่ย
” ขอพบฉัน พบฉันทำไมคะ ”
” ไม่ทราบครับ รีบไปเถอะคุณชายรออยู่ที่ห้องรับแขก ”
” ค่ะ ”
พิมเดินไปยังห้องรับแขกอย่างไว เมื่อไปถึงเธอก็เอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวัง
” คุณเตชิน เรียกพบฉัน มีอะไรหรือเปล่าคะ ”
เตชินเงยหน้ามองเธอด้วยแววตาลุ่มลึกยากจะคาดเดาได้ว่าคิดอะไรอยู่แล้วเอ่ยอย่างราบเรียบว่า
” นั่งก่อนสิ ”
เธอไม่อยากอยู่ต่อหน้าเตชินนาน เพราะเธอรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่อันตรายไม่ควรเข้าใกล้
เธอจึงเอ่ยว่า
” ขอบคุณค่ะ แต่ฉันยืนแบบนี้ดีกว่าค่ะ คุณเตชินมีอะไรจะใช้ก็บอกมาได้เลยค่ะ ”
เตชินรู้ทันความคิดเธอจึงเอ่ยขึ้น
” ทำไม คุณกลัวผมเหรอ ”
เมื่อถูกอ่านความคิดออกเธอก็รีบปฏิเสธทันที
” เปล่าค่ะ ไม่ใช่ ”
” ถ้าไม่ใช่ก็นั่งลงสิ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ ต้องใช้เวลานาน
ผมไม่ชอบที่จะต้องเงยหน้าขึ้นไปมองคุณแบบนี้เข้าใจหรือยัง ”
” ค่ะ ”
เอ่ยตอบเสร็จ เธอก็นั่งลง เตชินเปิดหนังสือสัญญาฉบับหนึ่งออกมาแล้วเอ่ย
” เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ผมคิดว่าหน้าตาคุณใช้ได้ดูสะอาดสะอ้านดี
ดังนั้นผมอยากจะขอให้คุณช่วยเป็นภรรยาในนามให้หน่อย ”
ได้ยินแบบนี้พิมก็ไม่เห็นด้วยทันทีแล้วรีบเอ่ยปฏิเสธ
” ขอโทษค่ะ ถ้าเรื่องแบบนี้ ฉันคงช่วยคุณไม่ได้ ”
” คุณอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ ฟังให้จบก่อน
คืองี้นะ ภรรยาในนามไม่ได้แปลว่าจะให้คุณเป็นภรรยาจริงๆสักหน่อย
แค่ให้คุณเล่นบทสามีภรรยาต่อหน้าคนอื่น แล้วก็ไปออกงานกับผมเป็นครั้งคราวเท่านั้นเอง
ส่วนเรื่องค่าจ้าง ผมเตรียมไว้ให้คุณแล้ว คุณจะได้ค่าจ้างเดือนละสองหมื่น
จนกว่าจะหมดสัญญา บวก ลบ คูณ หาร
เดือนหนึ่งเธอทำเงินได้ถึงสี่หมื่น แต่เธอก็ไม่ตัดสินใจทันที
เธอมองเตชินแล้วเอ่ยถามขึ้น ด้วยความสงสัย
” ทำไมต้องเป็นฉัน ทำไมคุณไม่ไปจ้างผู้หญิงที่สวยๆเซ็กซี่ๆ ที่คู่ควรกับคุณคะ ”
เตชินจึงเอ่ยตอบไปตามจริงว่า
” เพราะผู้หญิงพวกนั้นไม่เหมือนคุณ คุณแม้จะรักเงิน แต่ก็ไม่ได้โลภจนอยากได้ตัวผม ”
พิมก็พอจะเข้าใจ เพราะผู้หญิงบางคนในสมัยนี้คิดแต่จะจับผู้ชายรวยๆ
เมื่อตัดสินใจได้ เธอจึงเอ่ยขึ้น
” งั้นฉันขอดูสัญญาหน่อยค่ะ ”
เตชินยื่นให้เธอ เธอรับมาเปิดอ่านทันที โดยในสัญญาเขียนว่า
ให้เธอแสดงเป็นภรรยาเขาต่อหน้าผู้อื่นหนึ่งปี
มีข้อตกลงสัญญาดังนี้
1. เล่นบทเป็นภรรยาต่อหน้าผู้อื่น และออกงานในนามภรรยาเป็นครั้งคราว
2. ระหว่างที่ติดสัญญาทั้งสองคนไม่มีสิทธิ์ละเมิดหรือก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของกันและกันได้
3. ระหว่างที่ติดสัญญาทั้งสองสามารถมีแฟนได้ แต่ห้ามเปิดเผยสถานะและสนิทสนมกันในที่สาธารณะ
4. ทำอาหารเช้าไปส่งที่บริษัทอาทิตย์ละสองวันและร่วมทานมื้อเที่ยงด้วยกันสามวัน
อ่านเสร็จ พิมก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่คิดอะไร เธอมาทำงานหาเงิน
ขอแค่ได้เงินแล้วงานไม่ส่งผลกระทบอะไรกับการดำเนินชีวิตของเธอในอนาคตก็พอ
งานนี้ก็ไม่ได้ยากไปกว่าความสามารถของเธอเธอจึงเอ่ย
” ฉันตกลงรับงานนี้ค่ะ แต่ฉันขอเพิ่มข้อที่ห้า
ห้ามลวนลามฉัน
แล้วก็ไม่ว่าจะในบ้านหรือนอกบ้านฉันมีสิทธิ์เท่าเทียมคุณทุกอย่าง
ฉันสามารถสั่งสอนผู้หญิงของคุณที่มายุ่งวุ่นวายกับฉันได้
โดยที่คุณห้ามดุห้ามว่าให้ฉันเด็ดขาด ตกลงมั้ย ”
เตชินมองเธอด้วยแววตาล้ำลึกแล้วเอ่ยอย่างเรียบเฉย
” ตกลง แต่คุณต้องทำภารกิจให้สำเร็จ
กันณัชชาไม่ให้เข้าใกล้ผม
ที่สำคัญคุณต้องรับมือกับคุณแม่ผมอย่างกล้าหาญ ”
พิมคิดใตร่ตรองสักครู่ แม่ของเขาเธอก็เคยเจอ
ผลงานล่าสุดที่ทำเอาเธอเกือบเสียตัวเธอก็ยังจำได้ดี
เมื่อมีโอกาสดี ให้เธอได้เอาคืนเธอก็ต้องรีบคว้าเธอจึงแอบพึมพำในใจเบาๆ
[ คุณหญิงก็คุณหญิงเถอะ คราวนี้มาดูว่า ฉันจะปั่นหัวคุณยังไง ]
คิดได้ดังนั้นเธอจึงเอ่ย
” ตกลงค่ะ ฉันถนัดเป็นไม้กันหมาอยู่แล้ว และถนัดแก้ปัญหาเรื่องแม่สามีที่สุด คุณวางใจได้
แต่ฉันขอคุณอธิบายกับเพื่อนสนิทคุณทุกคนด้วยว่า
ระหว่างเราเป็นเพียงนายจ้างกับลูกน้องที่ทำสัญญาร่วมกันเท่านั้น
ไม่มีความสัมพันธ์อื่นแอบแฝงใดๆ ”
เตชินหรี่ตามองเธออย่างไม่กะพริบแล้วเอ่ย
” ทำไม คุณกลัวใครเข้าใจผิดเหรอ ”
” เปล่าค่ะ ฉันแค่คิดว่า กับเพื่อนสนิทคุณ คุณสามารถไว้ใจได้ ให้เขารู้ความจริงได้ก็เท่านั้นเองค่ะ ”
” ยึดตามสัญญา ส่วนเพื่อนสนิทผม ผมจะบอกความจริงหรือเปล่า มันก็ขึ้นอยู่กับผม ”
พูดจบเตชินก็เซ็นชื่อลงไป แล้วยื่นปากกาไปให้เธอ
พิมรับมาแล้วจรดปลายปากกาเซ็นชื่อลงไปทันที
เตชินยื่นเอกสารสัญญาให้เธอชุดหนึ่งแล้วเอ่ย
” เก็บไว้คนละชุด หมดสัญญาก็ฉีกทิ้งได้เลย หากคุณผิดสัญญา ต้องชดใช้ค่าผิดสัญญาสองล้านบาท ”
ได้ยินดังนั้นพิมก็ตกใจแล้วเอ่ยถามขึ้น
” จะเป็นไปได้ยังไง ในสัญญาไม่ได้ระบุไว้นี่ ”
เตชินจึงหยิบหน้าสุดท้ายที่ตกพื้นให้เธอดู
เธอถึงกับอึ้งไป
เตชินยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วเอ่ย
” ตอนนี้คุณเป็นทั้งสาวใช้และภรรยาในนามของผม ทำหน้าที่ให้ดีล่ะ ”
พูดจบเขาก็ลุกขึ้นเดินออกไป พิมจึงรีบตามเขาออกไปแล้วคว้ามือเตชินไว้ เอ่ยอย่างไม่พอใจ
” คุณมันขี้โกงนี่ คุณจงใจทำมันตกใช่มั้ย ”
เตชินมองไปที่มือของเธอที่จับมือเขาไว้แล้วเอ่ยหยอก
” คุณกำลังลวนลามผมอยู่นะ ”
ได้ยินดังนั้นพิมมองไปที่มือตัวเองแล้วรีบปล่อยมือทันที
เตชินจึงเอ่ยต่อว่า
” คุณจะมาหาว่าผมขี้โกงไม่ได้ นั่นเป็นเพราะคุณไม่รอบคอบเอง ผมยังมีธุระต้องไปทำ ขอตัว ”
พิมรู้สึกโมโหตัวเองมาก ที่พลาดให้กับคนเจ้าเล่ห์อย่างเตชิน
ได้แต่ยืนมองแผ่นหลังของร่างสูงใหญ่ที่เดินออกไปไกลแล้ว ด้วยความเจ็บใจ