ในวันรุ่งขึ้น เตชินรู้สึกตัวขึ้นมา เขาค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วมองสำรวจตัวเอง
เขาจำได้ว่า คนที่อยู่กับเขาคนสุดท้ายเมื่อคืน
คือ พิม
เขายังจำได้อีกว่าพยายามจะปลดปล่อยอารมณ์กับเธอ
จากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
[ เมื่อคืนไม่ได้เกิดอะไรเกินเลยขึ้นใช่มั้ย ]
เขาพึมพำในใจ แล้วมองหาโทรศัพท์ พอเจอก็รีบส่งข้อความไปให้ผู้ช่วยคังทันที
( ขึ้นมาหาผมหน่อย)
สักพักผู้ช่วยคังก็มาเคาะประตู เขาจึงเอ่ยขึ้นเสียงเย็น
” เข้ามา ”
พออ้าปากพูดเท่านั้นแหละ รอยแผลที่ปาก
ที่ดูเหมือนจะแห้งแล้วได้ฉีกออกอีกครั้ง
เขาถึงกับร้อง
” ซี๊ดดด ”
เขารู้สึกเจ็บ จึงแตะไปที่ปากเบาๆ แล้วภาพ
เมื่อคืน ที่เขาพยายามจูบพิม ก็ผุดขึ้นมาในหัว
เขาพึมพำออกมาอย่างหงุดหงิด
[ นี่เธอเกิดปีหมาหรือไง กัดไม่เลือกที่จริงๆ ]
ผู้ช่วยคังเข้ามาเห็นคุณชายตัวเอง ยังอยู่ในสภาพเดิม
สภาพไม่เหมือนคนผ่านเรื่องอย่างว่ามา เขาจึงเอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวัง
” เอ่อ คุณชาย แล้ว แล้วคุณพิมล่ะครับ ”
เตชินมองตาเขียว สีหน้าเคร่งขรึม แล้วเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา
” คุณยังกล้ามาถามหาเธอกับผมอีกเหรอ ไปเรียกเธอขึ้นมาพบผมเดี๋ยวนี้ ”
” ครับ ”
ผู้ช่วยคังรีบออกจากห้องไปอย่างไว เพราะดูแล้วเจ้านายตัวเองจะอารมณ์ไม่ดีเอามากๆ
เตชินปวดท้ายทอยมาก และยังมีแผลที่ปากอีก เขามั่นใจเลยว่าเป็นฝีมือพิม
เมื่อพิมเข้ามาในห้อง เธอก็เอ่ยขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ
” คุณชายเรียกพบฉันแต่เช้า มีอะไรจะใช้เหรอคะ ”
เตชินมองเธอด้วยแววตาเย็นชาแล้วเอ่ย
” หึ! ผมยังจะกล้าใช้คุณอีกเหรอ ”
พิมรีบหลบสายตา เพื่อหาข้อแก้ต่างให้ตัวเอง แต่เตชินกลับเอ่ยถามเสียงเย็น
” บอกมา เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น คุณทำอะไรกับผม ”
ได้ยินดังนั้นพิมรีบยกสองมือขึ้นมาปฏิเสธอย่างไว
ดวงตากลมโตเบิกกว้างพร้อมกับเอ่ยและส่ายหน้าทันที
” ไม่ ไม่ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นค่ะ ฉัน ไม่ได้ทำอะไรคุณชายเลย
คุณชายถูกวางยาแล้วคลุ้งคลั่ง จากนั้นก็สลบไปเองค่ะ ”
เตชินหรี่ตามองเธอแล้วเอ่ย
” งั้นเหรอ คุณแน่ใจนะ ”
เธอพยักหน้าอย่างไว ทำตาใสแป๋ว ดูไร้เดียงสา แล้วเอ่ย
” แน่ใจค่ะ ”
เตชินยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เมื่อเห็นเธอปฏิเสธอย่างใสซื่อ เขาจึงเอ่ยขึ้น
” คุณคัง ไปหาหลักฐานจากชุดที่เธอใส่เมื่อคืน ”
” ครับ ”
พิมกระวนกระวายใจขึ้นมาทันที มองไปยังผู้ช่วยคังแล้วมองกลับมาที่เตชิน
” เอ่อ คุณคัง คุณ… ”
เธออยากจะห้ามแต่ก็ต้องนิ่งเงียบไว้ เมื่อเตชินเลิกคิ้วขึ้นมองมายังเธอตาไม่กะพริบ
เธอเม้มริมฝีปากแน่นแววตาดูเศร้าหมองลง เธอหวังว่าผู้ช่วยคังจะหาชุดที่เธอทิ้งไม่เจอ
ผู้ช่วยคังหาจนทั่วก็หาไม่เจอ และคิดว่า
[ หากเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น คุณพิมก็ต้องทำลายหลักฐาน แล้วทิ้งในถังขยะ ]
ดังนั้นเขาเลยค้นตามถังขยะ สุดท้ายก็เจอชุดที่ขาดรุ่ยในถังขยะ
เขาหยิบชุดขึ้นมาดูแล้วรีบนำขึ้นไปบนห้องของเตชินทันที
เมื่อพิมเห็นเธอตกใจมาก จนลนลานเก็บอาการไม่อยู่ไม่รู้จะทำยังไงต่อ
เตชินหยิบชุดขึ้นมา ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วเอ่ย
” ผมจำได้ว่าชุดนี้คุณใส่เมื่อคืนนี่ ฉีกขาดไปหมดแล้ว หลักฐานชัดเจนขนาดนี้ คุณยังปฏิเสธว่าไม่เกิดอะไรขึ้นอีกเหรอ ”
ผู้ช่วยคังมองเจ้านายอย่างไม่เข้าใจ สำหรับเขา ไม่เกิดอะไรขึ้นน่ะดีแล้วไม่ใช่เหรอ
แต่คุณชายเขาทำเหมือนอยากให้มีอะไรเกิดขึ้น
เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าคุณชายเขานั้นคิดจะทำอะไรอีก
พิมกระอักกระอ่วนใจที่จะเอ่ย สุดท้ายก็ต้องยอมจำนนต่อหลักฐานตรงหน้า
แล้วเอ่ยสารภาพอย่างน่าสงสาร
” เอ่อ คือ คุณชายจะ จะลวนลามฉัน
ฉันก็เลยต้องป้องกันตัว โดยล่วงเกินคุณชาย
จนเผลอตีไปที่ท้ายทอยคุณชายอย่างไม่ตั้งใจนิดหนึ่ง แล้วคุณชายก็สลบไปค่ะ ”
เตชินเห็นเธอดูไร้เดียงสาดูกลัวๆ จึงอยากจะแกล้งเธอเล่น เขาจึงเอ่ยต่อว่า
” เหอะ นิดหนึ่งของคุณคือ ตีจนผมสลบถึงเช้าเลยเนี่ยนะ
แล้วยังกัดปากผมจนเป็นแผลเนี่ย คุณเจตนาทำร้ายร่างกายผมชัดๆ
คุณคังแจ้งความข้อหาพยายามทำร้ายร่างกาย ”
” ครับ ”
ได้ยินดังนั้นพิมตกใจเบิกตากว้างอ้าปากค้าง กะพริบตาอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
ทั้งที่ควรจะเป็นเธอมากกว่า ที่ควรจะแจ้งความที่เจ้านายพยายามขืนใจ
แต่เขากลับคิดจะแจ้งความจับเธอในข้อหาทำร้ายร่างกาย
เธอชักสีหน้าอย่างหมดอารมณ์แล้วด่าออกมาอย่างไม่พอใจ
” หยุดเลยอยู่ตรงนั้นเลยนะคุณคัง คุณเตชิน
เป็นฉันที่ควรจะแจ้งความจับคุณ
ในข้อหาที่พยายามขืนใจมากกว่า
ที่ปากคุณแตกนั่นเพราะคุณบังคับจูบฉัน จนฉันไม่มีทางเลือก
แถมยังล่วงเกินฉัน จนทำให้เสื้อผ้าฉันฉีกขาด
ที่ฉันตีคุณจนสลบไปน่ะ สมเหตุสมผลแล้ว
เพราะฉันก็ต้องป้องกันตัว ไม่งั้นฉันคงตกเป็นเมียน้อยของคุณไปแล้ว
แม้คุณจะเป็นเจ้านาย ก็ใช่ว่าคุณจะทำอะไรกับลูกจ้างก็ได้
ฉันขอคิดค่าทำขวัญ ค่าล่วงเกิน ค่าจ้างนอกเหนือจากงานในหน้าที่ เป็นเงิน สี่หมื่นบาท
แล้วเราจบกันฉันจะไม่เอาเรื่องคุณ ไม่ทำให้คุณเสียชื่อเสียงและจะลาออกไปทันที ”
ผู้ช่วยคังได้ยินก็ตกใจมาก ไม่คิดว่าพิมจะคิดคำนวณทุกอย่างไว้เรียบร้อย
เตชินหรี่ตามองพิมแล้วยกมุมปากขึ้น ยิ้มอย่างชั่วร้าย ยั่วให้พิมโมโห
” ถ้าผมไม่ให้ล่ะ ”
พิมมองเขาด้วยแววตาแน่วแน่เอ่ยอย่างหนักแน่น
” งั้นคุณก็เตรียมเสียชื่อเสียงทั้งตระกูลได้เลย
ภรรยาของคุณชายเตชินรวมหัวกันกับแม่สามีวางยาปลุกกำหนัดสามี
หวังจะได้ร่วมหลับนอนกับสามี แต่คุณชายเตชินกลับหนี แล้วมาลวนลามสาวใช้แทน
คุณเตชินคิดว่าแบบนี้ ควรจ่ายค่าทำขวัญหรือไม่คะ ”
ได้ยินดังนั้น เตชินกลับยิ้มขึ้นพร้อมกับตบมือ อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร แล้วเอ่ย
” อืม เยี่ยมๆ แต่ผมคิดว่าคนที่พร้อมจ่ายค่าปิดปากนี้ไม่ใช่ผม
แต่เป็นคนต้นเรื่องมากกว่า ภายในวันนี้พวกเขาจะจ่ายสี่หมื่นให้คุณแน่นอน ”
พูดจบเขาก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดส่งข้อความเสียงออกไปให้ณัชชากับแม่ของเขาทันที
พิมเพิ่งรู้ตัว ว่าตัวเองหลงกลเตชินเข้าแล้ว
เธอมองเขาตาไม่กะพริบ
เธอรู้สึกว่าเขาน่ากลัวกว่าที่เธอคิดไว้ และเป็นคนเจ้าเล่ห์
ที่ไม่ยอมเสียผลประโยชน์และไม่ยอมเสียเปรียบให้ใครจริงๆ
เตชินมองเธอแล้วเอ่ยต่อว่า
” ไม่มีอะไรแล้ว พวกคุณออกไปได้ ”
พิมมองตาเขียวใส่เขาอย่างโกรธเคือง เธอรู้สึกเสียหน้ามาก
และไม่พอใจที่ถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือโดยที่ไม่เต็มใจและไม่รู้ตัวเลยสักนิด
เมื่อคุณหญิงจารวีและณัชชาเปิดฟังข้อความเสียงที่เตชินส่งมา
คุณหญิงจารวีที่อยู่บ้านก็อยู่ไม่สุขนั่งไม่ติดอีกต่อไป
ส่วนณัชชานั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องของรองประธานบริษัท
ด้วยแววตานิ่ง แข็งกร้าว เธอกำมือแน่นด้วยความโกรธ
แต่เธอก็โล่งใจที่รู้ว่าพิมเป็นแค่สาวใช้คนหนึ่ง
แต่ด้วยหน้าตาที่สะสวยและหุ่นที่ดูดีของพิม
ก็ทำให้เธอแอบหึงไม่พอใจ กลัวเตชินที่ใกล้ชิด
จะหลงเสน่ห์ หวั่นไหวให้กับสาวใช้อย่างพิม
ตอนบ่าย คุณหญิงจารวีให้ลูกน้องมาหาพิมที่บ้านเตชิน
เสียงกริ่งดังขึ้น พิมจึงเดินออกไปดูที่หน้าบ้านแล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย
” คุณมาหาใครคะ ”
ลูกน้องคุณหญิงจารวีก็เอ่ยขึ้น
” ผมมาหาคุณพิมครับ พอดีคุณผู้หญิงวานให้ผมเอาเงินมาให้คุณและฝากมาบอกว่า
ให้คุณเงียบปากไว้ให้สนิท อย่าได้คิดที่จะปล่อยข่าวออกไปเด็ดขาด นี่ครับเงินของคุณ ”
พิมรับมาอย่างงงๆ ความจริงเธอแค่ขู่เล่นๆ ไม่คิดว่าแม่ของเตชินจะกลัวขนาดนี้
ถึงขั้นส่งลูกน้องให้เอาเงินมาให้เพื่อจ่ายค่าปิดปาก
รับมาเสร็จเธอก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบ้าน แต่เธอยังไม่ทันก้าวขึ้นบันได
เสียงกริ่งก็ดังขึ้นอีกครั้ง เธอรู้ทันทีเลยว่าต้องเป็นคนของภรรยาเตชินแน่นอน
เธอจึงหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับแขกที่ไม่ยินดีต้อนรับอีกครั้ง
” สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการมาพบใครคะ ”
เธอลองถามหยั่งเชิงดู เพราะอยากรู้ว่าคนนี้จะมาแบบไหน
” สวัสดีค่ะ ฉันเป็นผู้ช่วยของคุณณัชชา ภรรยาของท่านประธานเตชิน
ฉันยังมีธุระไม่สามารถเสียเวลานานได้ เข้าประเด็นเลยนะคะ
คุณณัชชา เธอไม่อยากให้มีข่าวอื้อฉาวทำให้คุณเตชินและบริษัทเสียหาย
ดังนั้น จึงส่งฉันมาคุยกับคุณ ฉันว่าเรื่องบางเรื่องของเจ้านายคนใช้ไม่ควรเข้าไปยุ่งนะคะ
ทุกครอบครัวมีปัญหาที่แตกต่างกันออกไป
ดังนั้นฉันขอให้คุณรู้ว่าอะไรควรพูดอะไรควรทำนะคะ ”
แล้วหล่อนก็หยิบซองออกมายื่นให้พิมพร้อมกับเอ่ยว่า
” นี่เป็นเงินสี่หมื่นบาท ค่าจ้างของคุณค่ะ ”
พิมยิ้มรับเงินมาแล้วเอ่ย
” ขอบคุณค่ะ เงินมา ปากเงียบ ”
พิมทำท่ารูดซิปปาก ปั้นหน้ายิ้ม แล้วผู้ช่วยของณัชชาก็เดินออกจากบ้านไป