ในเช้าวันต่อมา เมื่อเตชินเข้าไปในบริษัท ผู้ช่วยคังก็เข้ามา แล้วรายงานเวลาการประชุมของวันนี้
” คุณชาย วันนี้เก้าโมงตรง มีประชุมผู้ถือหุ้น และในตอนบ่าย มีประชุมเกี่ยวกับโครงการใหม่ครับ “
เตชินหูฟังตาดู สายตาเขาให้ความสนใจกับเอกสารที่อยู่ในมือ
เพราะเป็นงานที่เขาต้องตรวจดูอย่างละเอียดก่อนจะจรดปลายปากกาเซ็นชื่อลงไป
เมื่อผู้ช่วยรายงานเสร็จเขาเอ่ยตอบผู้ช่วยคังเพียงสั้นๆว่า
” อืม ”
แล้วผู้ช่วยคังก็หันหลังเดินออกไป
เตชินเป็นคนที่ละเอียดยิบเคร่งกฎระเบียบของบริษัท
พนักงานจึงรู้สึกยำเกรงเมื่อเจอเขา ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะยืนชื่นชมความหล่อบนใบหน้าของเขาเลย
สายตาดุจพญาเหยี่ยว ที่สามารถมองเห็นความผิดพลาดเล็กน้อยได้ในระยะไกล
ทำให้พนักงานต่างก็ต้องเนี๊ยบตั้งใจทำงานเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด
เพราะบริษัทนี้ไม่มีโอกาสให้ผิดพลาดได้แม้แต่ครั้งเดียว
แต่พนักงานทุกคนกลับยินดีและภาคภูมิใจที่ได้เข้ามาทำงานในบริษัทแห่งนี้
นอกจากจะได้เงินเดือนสูงแล้วเมื่อลาออกไป แล้วไปสมัครงานที่บริษัทอื่น
เมื่อเขาเห็นประวัติว่าเป็นพนักงานเก่าจากบริษัทของเตชินทุกบริษัทต่างอ้าแขนรับ
เพราะพนักงานบริษัททุกคนล้วนคัดจากคนเก่งๆหัวกะทิ ที่มีความซื่อสัตย์ มีศักยภาพสูงในการทำงาน
ยกเว้นคนที่ถูกไล่ออกก็จะถูกลงโทษโดยการถูกเอาชื่อขึ้นในบัญชีดำ
ไปที่ไหนก็ไม่มีบริษัทไหนรับเข้าทำงานอีก
ดังนั้นพนักงานทุกคนจึงตั้งใจทำงานและปฏิบัติตัวอยู่ในกฎระเบียบของบริษัท
ณัชชารองประธานบริษัท เธอเดินเข้ามาพร้อมกับกล่องอาหารในมือ
แล้วเอ่ยถามผู้ช่วยคังที่อยู่หน้าห้องตามมารยาทว่า
” พี่เตชินอยู่ในห้องมั้ย “
” อยู่ครับ “
ผู้ช่วยคังเอ่ยตอบอย่างให้เกียรติ แล้วก็เดินไปเปิดประตูให้ณัชชาทันที
เมื่อประตูเปิดออก ณัชชาก็เดินเข้าไปแล้ววางกล่องอาหารไว้บนโต๊ะ
พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
” คุณป้าให้เอาอาหารเช้ามาให้คุณค่ะ “
เตชินไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเธอเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเอ่ยเสียงเย็นชาออกมา
” ขอบคุณ ต่อไปไม่ต้องลำบากคุณแล้ว เอาเวลาที่มาส่งข้าวไปทำงานอื่นจะมีประโยชน์กว่า “
คำพูดของเขาทำให้คนฟังเจ็บจี๊ดแทบจะกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
สีหน้าณัชชาซึมลงทันที แต่แค่แวบเดียวก็กลับมาเป็นปกติ แล้วกัดฟันเอ่ยออกมาว่า
” ค่ะ ฉันจะจำไว้ “
จากนั้นเธอก็เดินออกไปจากห้องของประธานบริษัทด้วยอารมณ์โกรธเคืองในใจ
สีหน้าเรียบนิ่งโดยที่ไม่แสดงอารมณ์ใดออกมาทางสีหน้าเลย
เมื่อเธอเดินออกไปแล้วเตชินก็ละสายตาจากงานตรงหน้า
แล้วกดโทรเรียกผู้ช่วยคังให้เข้ามาหาทันที
ผู้ช่วยคังที่อยู่ด้านนอกเมื่อเสียงโทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้น จึงรีบรับสายแล้วเอ่ย
” ครับคุณชาย “
” เข้ามาหาผมหน่อย “
” ครับ “
เมื่อวางสายผู้ช่วยคังก็รีบเข้าไปในห้องของประธานทันที
เมื่อมายืนตรงหน้าเตชินเขาก็เอ่ยถามขึ้น
” คุณชายมีอะไรจะสั่งเหรอครับ “
เตชินมองไปที่กล่องข้าวโดยไม่พูดอะไร ผู้ช่วยคังจึงหันไปมองตาม
ด้วยความลังเลแฝงไปด้วยความสงสัย แล้วผู้ช่วยคังก็เอ่ยถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ
” กล่องข้าวมีปัญหาอะไรหรือครับ “
” เอาไปทิ้ง “
เตชินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแววตาคงความไร้อารมณ์ดูสุขุมเยือกเย็นน่าเกรงขาม
เมื่อได้ยินเต็มสองหูแล้ว ผู้ช่วยคังก็ไม่เอ่ยถามอะไรต่อ
เจ้านายสั่ง เขามีหน้าที่ทำตาม เขาทำเพียงเอ่ยตอบว่า
” ครับ “
แล้วก็เดินไปหยิบกล่องอาหารเดินออกไปทิ้งในถังขยะทันที
เขาเดินกลับเข้ามาอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมคุณชายเขาถึงต้องทำขนาดนี้
เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่วันก็ยังทานอาหารที่ณัชชาเอามาให้เป็นปกติอยู่เลย
อยู่ๆก็ปฏิเสธโดยไม่ไว้หน้าคุณหนูณัชชาขึ้นมาแบบนี้ทำให้เขารู้สึกเห็นใจณัชชาขึ้นมา
เมื่อเขานั่งลงโทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้นอีกครั้ง
เขาจึงกดรับแล้วเอ่ย
” ครับคุณชาย “
เตชินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเจือเย็นชา
” ให้ป้าใจมาส่งอาหารที่ห้อง และต่อไปถ้าณัชชามาส่งข้าวอีกก็ไม่ต้องให้เธอเข้ามา “
” ครับ “
พูดจบเตชินก็วางสายไป ผู้ช่วยคังก็ต่อสายไปยังห้องครัวของบริษัทแล้วเอ่ย
” ป้าใจส่งอาหารเช้าของท่านประธานหนึ่งชุดที่ห้องทำงานท่านประธานครับ “
หลังจากวางสายได้ไม่นาน ป้าใจก็มาพร้อมกับอาหารที่ผู้ช่วยคังสั่ง
ผู้ช่วยคังจึงรับเอาอาหารจากมือป้าใจ
แล้วเดินไปเคาะประตู
จากนั้นเขาก็เปิดประตู ถือกล่องอาหารเช้าเข้าไปวางลงบนโต๊ะอาหาร
เตชินจึงลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมาที่โต๊ะทานข้าวพร้อมกับเอ่ยกับผู้ช่วยคังว่า
” อยู่ข้าวทานด้วยกันสิ “
” ครับ “
ผู้ช่วยคังไม่ปฏิเสธเพราะอาหารบนโต๊ะมีมากมายกินสองคนก็ไม่หมด
แล้วทั้งสองก็จัดการนำอาหารใส่จาน และเริ่มลงมือทานกันอย่างเงียบๆ
ทางด้านพิม เธอปัดฝุ่นแล้วกวาดบ้านถูบ้าน
เช็ดกระจก เสร็จแล้วก็ไปรดน้ำต้นไม้หน้าบ้านต่อ
ตอนบ่ายเธอเริ่มหิวข้าว จึงเดินเข้าห้องครัวและต้มบะหมี่ทานเหมือนเดิมอย่างไม่สบอารมณ์
” ซื้อตู้เย็นมาซะใหญ่ แต่ไม่มีของกินในตู้เย็นเลย ซื้อมาเพื่อ? “
เธอบ่นอย่างหงุดหงิดใจ ที่ต้องกินบะหมี่มาสองวันแล้ว
” นายจ้างบ้าบอนี่กะจะให้ฉันขาดสารอาหารตายหรือไง
ฉันจะไม่ยอมกินแต่บะหมี่จนสมองฝ่อหรอกนะ “
บ่นเสร็จเธอก็ส่งข้อความไปหาผู้ช่วยคังทันที
( คุณคัง ฉันกินแต่บะหมี่มาสองวันแล้ว
จิตใจของคุณชายคุณทำด้วยอะไร กะจะให้ลูกจ้างกินแต่อาหารขยะ
อย่างน่าเวทนาแบบนี้เหรอ ฉันยังต้องใช้สมองอยู่นะ สมองควรจะได้รับสารอาหารดีๆไปหล่อเลี้ยง
แม้ฉันจะจน แต่ฉันก็ไม่เคยลำบากถึงขนาดต้องกินแต่บะหมี่สองวันเต็มแบบนี้
ทำไมคุณชายของคุณถึงได้ขี้เหนียวแบบนี้
ไม่คำนึงถึงปากท้องของลูกจ้างตัวเล็กๆบ้างเลย )
ผู้ช่วยคังที่กำลังประชุมอยู่ เมื่อเปิดดูข้อความจากพิมก็รู้สึกเวทนาปนความอยากขำ
เลยแคปข้อความที่พิมส่งมาให้เขาส่งต่อไปให้คุณชายของเขาทันที
เมื่อเตชินเปิดดูรูปภาพก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีที่เห็นข้อความที่กำลังว่าให้เขาอยู่
แล้วเขาก็เคลื่อนสายตามองไปยังผู้ช่วยคัง
ที่กำลังแอบขำอยู่อย่างเย็นชา
จนผู้ช่วยคังต้องรีบปรับอารมณ์และสีหน้าให้เป็นปกติทันที
แล้วเขาก็ส่งข้อความไปให้ผู้ช่วยคังว่า
( โอนเงินไปให้หล่อน แล้วเย็นนี้คุณพาหล่อน ไปซื้อของในห้างซะ )
ผู้ช่วยคังจึงตอบกลับแชทของเขากลับไปว่า
( ครับ )
เมื่อฟังการรายงานความคืบหน้าโครงเสร็จเตชินจึงเอ่ยขึ้นว่า
” ขอให้ทุกฝ่ายตั้งใจงานที่ตนเองได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด
อย่าให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นแม้แต่นิดเดียว เมื่อทุกคนเต็มที่กับงาน
บริษัทได้รับความน่าเชื่อถือได้รับการยกย่องจากกลุ่มลูกค้า
พนักงานทุกคนก็ได้รับความยกย่องนั้นด้วยเช่นกัน
เป็นการการันตีว่าทุกคนคือพนักงานที่มีศักยภาพมีความเป็นมืออาชีพ สำหรับวันนี้ เลิกประชุมได้ “
พูดจบเขาก็ลุกเดินออกไปจากห้องประชุมทันที โดยมีผู้ช่วยคังและณัชชาเดินตามหลังไม่ห่าง
ในหัวของเขาจินตนาการ นึกภาพป้าแม่บ้าน วัยกลางคน
นั่งซดบะหมี่อย่างน่าเวทนา ด้วยความหิวโหยในบ้านของเขา
เขาหยุดเดินแล้วหันมาเอ่ยกับผู้ช่วยคังด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย สีหน้าคงความสุขุมเย็นชาไม่เปลี่ยน
” ต่อไปอย่าให้แม่บ้านอดข้าวแบบนี้อีก
เกิดเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมา
แล้วเป็นข่าวเสียหาย อาจจะส่งผลกระทบมาถึงบริษัทได้ ข้อนี้ควรระวังให้มาก “
” ครับ “
ผู้ช่วยคังกำลังจะรู้สึกซาบซึ้งแทนพิมอยู่แท้ๆ แต่ความรู้สึกนั้นก็แตกสลายไปเมื่อได้ยินประโยคหลัง
แล้วเตชินก็เอ่ยต่อว่า
” ตอนไปซื้อของ กำชับป้าเขาด้วย ว่าให้ซื้อแต่อาหารที่มันมีประโยชน์ต่อร่างกาย
แล้วก็ซื้ออาหารเสริมด้วยจะได้ช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
และที่สำคัญคุณช่วยแกเลือกเอาอาหารที่สามารถย่อยง่าย ไม่กระทบกับการทำงานของระบบลำไส้ “
ผู้ช่วยคังถึงกับอึ้งไป เมื่อได้ยินคำพูดของเจ้านาย
จะว่าไปเขาก็ผิดที่ยุ่งจนลืมแจ้งเจ้านายว่าคนที่เขาหามานั้นยังวัยรุ่นอยู่ เขาจึงเอ่ยขึ้น
” ครับ แต่ว่าคุณชายเธอ…”
” ไม่ต้องพูดละ ไปทำตามที่ผมบอกเถอะ “
” ครับ “
สุดท้ายเขาก็ยังไม่ทันได้เอ่ยอธิบายอะไร
เจ้านายของเขาก็เอ่ยแทรกขึ้น
จนเขาไม่สามารถเอ่ยอะไรได้อีก ณัชชาที่ยืนอยู่ข้างๆเตชินจึงเอ่ยขึ้นบ้าง
” พี่เตชินคะ คุณป้าโทรมาให้ณัชชามาบอก
พี่เตชินว่า
วันเสาร์นี้ท่านอยากให้พี่กลับไปทานข้าวที่บ้านค่ะ “
เมื่อผู้ช่วยคังได้ยินดังนั้นก็รีบเอ่ยขึ้น
” ผมขอตัวไปเอารถก่อนนะครับ “
เอ่ยจบเขาก็หมุนตัวเดินออกไปอย่างรู้งาน
ปล่อยให้สองคนคุยกันปรับความเข้าใจกันเอง
เตชินหันมามองณัชชาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเย็นชา แล้วเอ่ยปฏิเสธอย่างเด็ดขาดแบบเยือกเย็น
” ผมไม่ว่าง “
เอ่ยจบเขาก็เดินห่างออกไป ณัชชาที่อดทนต่อความเย็นชาของเตชินไม่ไหวแล้ว
เธอกำมือแน่นแล้วเอ่ยออกไปเสียงดัง
” พี่กำลังพยายามหลบหน้าฉันอยู่ใช่มั้ย
เพราะพี่ไม่อยากจะหมั้นกับฉันใช่มั้ย
ถึงได้ทำตัวเย็นชาใส่ฉันแบบนี้ ฉันผิดอะไร ฉันก็ถูกบังคับให้หมั้นกับพี่เหมือนกัน “