ลืมรักเลือนใจ – ตอนที่ 243 เธอมีมูลค่ามาก / ตอนที่ 244 เหมือนเธอจะไม่ใช่เลเวล F

ตอนที่ 243 เธอมีมูลค่ามาก
 
 
ขณะนี้เองเครื่องสะกดรอยตามที่อยู่ในมือชายหนุ่มกลับส่งสัญญาณเสียงดังแสบแก้วหูไม่หยุด
 
 
ไม่นานนักชายหนุ่มก็ค่อยๆ เยื้องย่างมาถึงตัวหลินเยียน นำเครื่องสะกดรอยตามที่อยู่ในมือเข้าไปใกล้ หลินเยียน
 
 
วินาทีต่อมาหน้าจอของเครื่องสะกดรอยตามพลันสว่างวาบ ทั้งยังแสดงตัวอักษร ‘F’ ขนาดใหญ่ขึ้นมาตัวหนึ่งอีกด้วย
 
 
แทบจะภายในชั่วเสี้ยววินาที คนทั้งหลายที่อยู่ข้างหลังชายหนุ่มก็เคลื่อนที่มาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ล้อมปิดตายหลินเยียนให้อยู่กึ่งกลาง
 
 
“เหอะ ฉันก็นึกว่าอะไร! ร่างเลเวล F มนุษย์วิวัฒนาการที่ธรรมดาที่สุด ขั้นต่ำสุด” ชายหนุ่มจดจ้องหลินเยียน รอยยิ้มบนใบหน้าไม่ลดทอนลงไป “เพียงแต่ตอนนี้จำนวนของมนุษย์วิวัฒนาการนับวันยิ่งน้อยลงไปเรื่อยๆ ราคารับซื้อคืนของเกรด F ก็ไม่น้อย”
 
 
“หมายความว่ายังไง” หลินเยียนมองหลายคนที่อยู่ตรงหน้า ขมวดคิ้วเล็กน้อย ร่างเลเวล F อะไร มนุษย์วิวัฒนาการอะไร?
 
 
“ความหมายก็คือเธอมีมูลค่ามาก” ชายหนุ่มเลียริมฝีปากที่แห้งผากเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็ส่งสายตาให้หญิงสาวที่อยู่ด้านข้าง
 
 
หญิงสาวสับฝ่ามือไปยังซอกคอของหลินเยียนโดยแทบจะไร้สัญญาณเตือนใดๆ มาก่อน
 
 
‘ฟึ่บ!’
 
 
ได้ยินเพียงเสียงทลายอากาศเท่านั้น พลังของหญิงสาวคนนี้รุนแรงจนน่าตกใจ หากฝ่ามือนี้ฟันลงไป เกรงว่าผนังหินก็ยังถูกเธอฟันจนแตก
 
 
ร่างกายหลินเยียนถอยไปด้านหลังก้าวหนึ่งอย่างรวดเร็วภายในช่วงเวลาที่แทบจะเท่ากับประกายไฟ
 
 
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังทึบๆ ลอยเข้ามา ฝ่ามือดาบของหญิงสาวฟันอากาศ แม้แต่อากาศก็เหมือนจะหยุดชะงักเพราะมัน
 
 
รู้ม่านตาหลินเยียนหดลงเล็กน้อย หลายคนที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
 
 
“ดูท่ามิเตอร์จะไม่ได้มีปัญหาอะไร…เป็นมนุษย์วิวัฒนาการเลเวล F จริงด้วย คนธรรมดาไม่มีทางมีพลังแบบนี้” พอเห็นหลินเยียนขยับหลบ รอยยิ้มบนใบหน้าของชายผู้เป็นหัวหน้าก็ยิ่งกดลึก
 
 
“พวกแกเป็นใครกัน” หลินเยียนพูดด้วยเสียงเย็นชา
 
 
“ชู่…” ทันใดนั้นชายผู้เป็นหัวหน้าก็ใช้นิ้วชี้แตะริมฝีปาก ส่งสัญญาณมือให้เงียบ กล่าวระคนหัวเราะออกมาเบาๆ ว่า “ไม่ต้องรีบ เธอจะรู้เอง”
 
 
เมื่อพูดจบหญิงสาวก็ลงมือกับหลินเยียนอีกครั้งหนึ่ง แต่ละท่าต่างดุเดือดรุนแรง ไม่ยั้งไมตรีแม้แต่น้อย
 
 
หลินเยียนเดือดขึ้นมาทันที ตัวเองนั่งตากลมริมทะเลอยู่ดีๆ เดิมก็ยังนับว่าอารมณ์ดีอยู่บ้าง ตอนนี้ถูกเจ้าคนพวกนี้ทำลายจนหมดสิ้นแล้ว
 
 
‘ปัง!’
 
 
เห็นเพียงว่าหลินเยียนใช้มือยึดแขนที่หญิงสาวสะบัดมาเท่านั้น
 
 
หญิงสาวคนนี้สวมสนับเหล็กอยู่บนกำปั้น พลังสังหารรุนแรงยิ่งนัก
 
 
“พวกแก…เป็นใครกันแน่…” หลินเยียนจ้องมองหญิงสาวด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ออกแรงฝ่ามือ ยึดแขนของหญิงสาวไว้แน่น
 
 
พลังฝ่ามือของหลินเยียนทำให้หัวคิ้วหญิงสาวขมวดมุ่น หนักผากมีเหงื่อเย็นซึมออกมา
 
 
“ไสหัวไป”
 
 
หลินเยียนตวาดเสียงเย็นชา สาวเท้าไปข้างหน้าครึ่งก้าวอย่างเร็วรี่ ยกหัวเข่าขึ้นอย่างดุดัน กระแทกไปที่หน้าท้องของหญิงสาวอย่างรุนแรง
 
 
หญิงสาวส่งเสียงร้องด้วยความตกใจออกมาทันที ร่างทั้งร่างลอยคว้างกระเด็นออกไปสิบกว่าเมตรราวกับว่าวที่สายขาด กระแทกลงบนพื้นทรายอย่างแรง
 
 
“มนุษย์วิวัฒนาการเลเวล F มีความสามารถแบบนี้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว” หลังจากชายซึ่งเป็นหัวหน้าเหลือบมองหญิงสาวที่ถูกหลินเยียนใช้เข่ากระแทกจนลอยไป สายตาก็กลับมาอยู่ที่ร่างหลินเยียนอีกครั้ง
 
 
หลินเยียนกำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง กลับพบว่าชั่วพริบตานั้นชายหนุ่มที่เหลืออยู่มีความเคลื่อนไหวทันที ทุกคนโจมตีหลินเยียนจนแทบจะพร้อมกัน
 
 
ทว่าปฏิกิริยาของหลินเยียนกลับรวดเร็วยิ่งนัก จับชายหนุ่มสองคนได้ภายในพริบตา ใช้เรี่ยวแรงอันมหาศาลเขวี้ยงสองคนลงไปในทะเล
 
 
วินาทีต่อมาก็มีเงาหมัดวูบเข้ามา หลินเยียนใช้ฝ่ามือปัดขวางไว้ตามสัญชาตญาณ
 
 
อย่างไรก็ตามมีพลังมหาศาลระลอกหนึ่งแผ่ขยายจากฝ่ามือหลินเยียนไปทั่วทั้งร่างกาย ง่ามนิ้วโป้งชาจนแทบจะปริแตก
 
 
และขณะเดียวกับที่หลินเยียนถอยหลัง ชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าก็มาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว คว้าจิกลำคอโดยใบหน้าแทบจะชิดกับใบหน้าหลินเยียน
 
 
“เลเวล F ถึงจะไม่เลว แต่จะต้านทานเลเวล E ได้ยังไง” ชายหนุ่มจ้องมองหลินเยียน มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
 
 
 
 
 
ตอนที่ 244 เหมือนเธอจะไม่ใช่เลเวล F
 
 
เมื่อชายหนุ่มพูดจบ ดวงตาหลินเยียนก็ฉายประกายเย็นเยียบ “นายมาจากห้องแล็บใช่หรือเปล่า!”
 
 
“ห้องแล็บ?”
 
 
พอได้ฟังคำพูดของหลินเยียน ชายผู้เป็นหัวหน้าก็หัวเราะเย้ยหยัน “วุ่นวายมาตั้งครึ่งค่อนวัน ที่แท้ก็แค่ของที่ออกมาจากห้องแล็บ จึ๊ๆ… ช่างเป็นของราคาถูกซะจริงเชียว”
 
 
“ไร้สาระ…น้องชายฉันอยู่ที่ไหน!”
 
 
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนพวกนี้อาจเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของน้องชาย หลินเยียนก็ค่อยๆ เริ่มสูญเสียการควบคุมไปทีละน้อย
 
 
“น้องชายเธอ?” ชายผู้เป็นหัวหน้าเหลือบมองหลินเยียน “พูดอะไรโง่ๆ ฉันจะไปรู้ว่าน้องชายเธอคือใครได้ยังไงกัน”
 
 
“ไม่บอกความจริงใช่ไหม…”
 
 
แทบจะภายในชั่วเสี้ยววินาที บนหน้าผากหลินเยียนปรากฏเส้นเอ็นปูดโปน รูม่านตาขยายออกเล็กน้อย
 
 
“ผัวะ!”
 
 
ทันใดนั้นเอง กำปั้นของหลินเยียนก็กระแทกไปที่หน้าท้องของชายหนุ่ม
 
 
“โอ๊ย”
 
 
ใบหน้าชายหนุ่มเหยเกเล็กน้อย ร่างกายซวนเซ ถอยหลังไปหลายก้าวอย่างรวดเร็ว
 
 
“หัวหน้า เหมือนเธอจะไม่ใช่เลเวล F นะครับ…”
 
 
ตอนนี้เอง ชายหนุ่มอีกคนก็เอ่ยปากพลางขมวดคิ้ว พลังแบบนี้อยู่เหนือขอบเขตของเลเวล F แล้วชัดๆ
 
 
ชายผู้เป็นหัวหน้าแค่นเสียงเย็นชาครั้งหนึ่ง “ยิ่งเลเวลสูงเท่าไหร่ ราคาก็สูงมากขึ้นเท่านั้น ใช้ไอ้นั่น”
 
 
เมื่อชายผู้เป็นหัวหน้าพูดจบ ชายหนุ่มทั้งหลายต่างทยอยกันหยิบถุงลมขนาดเท่าฝ่ามือออกมา จากนั้นก็ปาไปที่หลินเยียนอย่างแรง
 
 
หลินเยียนซึ่งอยู่ในสภาวะกึ่งเสียการควบคุมใช้มือเปล่าฟันถุงลมที่ลอยเข้าหาจนขาด
 
 
อย่างไรก็ตามเมื่อถุงหนังแตกออก สิ่งที่อยู่ภายในกลับเป็นวัตถุทรงตาข่าย หลินเยียนถูกล้อมไว้อยู่กึ่งกลางโดยไม่ทันระวัง
 
 
วินาทีต่อมาหลินเยียนรู้สึกแค่ว่าตัวเองเหมือนถูกกระแสไฟฟ้าช็อต ความเจ็บปวดรุนแรงทำให้พลังจิตของหลินเยียนแตกสลายไปเล็กน้อย
 
 
“โธ่เว้ย ทำให้ฉันเสียถุงลมเปล่าๆ ไปใบหนึ่ง” ชายผู้เป็นหัวหน้าเหลือบมองหลินเยียน มุมปากผุดรอยยิ้มเวทนาออกมาอีกครั้งหนึ่ง
 
 
และขณะนี้เอง หลินเยียนกำลังอยู่ในตาข่าย ความเจ็บปวดที่ยากจะสาธยายได้ทำให้หลินเยียนขยับตัวไม่ได้เลย ร่างกายแข็งทื่อไปหมด แม้แต่จะกระดิกนิ้วก็ยังทำไม่ได้
 
 
ตั้งแต่เกิดมา นี่เป็นครั้งแรกที่หลินเยียนรู้สึกเจ็บปวดจนไม่อาจจะทนได้มากขนาดนี้
 
 
อย่างไรก็ตามแม้จะรู้สึกเจ็บปวดเช่นนี้ ทว่าในสมองของหลินเยียนกลับปรากฏภาพเหตุการณ์ขาดๆ หายๆ ที่ปะติดปะต่อไม่ได้ ซ้ำยังไม่ใช่ภาพของตัวเอง
 
 
เธอเห็นน้องชายแล้ว… แถมยังมีใบหน้าไม่คุ้นเคยจำนวนมากอีกด้วย
 
 
พวกเขาอยู่ในห้องแล็บ คนเหล่านี้กำลังมองตัวเธอเอง ทว่าใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความหวาดผวา
 
 
เหมือนกำลังวิงวอนเธอ…ว่าให้ละเว้นพวกเขา
 
 
ภายในห้องแล็บที่ไม่คุ้นเคย ใบหน้าของตนเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมเย็นชา แววตาฉายความชั่วร้าย เหมือนว่า…ทุกคนต่างกลัวเธอมาก…
 
 
ภาพที่ขาดๆ หายๆ เหล่านี้กลับทำให้หลินเยียนทั้งหวาดกลัวทั้งไม่คุ้นเคย
 
 
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เองภาพกลับเปลี่ยนไป
 
 
กลับเป็นภาพที่เธอกับเผยอวี้เฉิงต่างนอนกอดกัน จากนั้นก็เป็นการทะเลาะเบาะแว้งไม่จบไม่สิ้น
 
 
ไม่นานนักความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้หลินเยียนได้สติกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง ภาพที่ปรากฎอยู่ในสมองเมื่อครู่ราวกับภาพลวงตา
 
 
หลินเยียนพยายามใช้เรี่ยวแรงที่มีอยู่ทั้งหมดคิดจะสะบัดวัตถุที่เหมือนตาข่ายนี้ออกไป ถึงอย่างนั้นร่างกายกลับไม่อาจขยับเขยื้อนได้ดังเดิม
 
 
……
 
 
และขณะเดียวกัน ณ คฤหาสน์เมฆ
 
 
เผยอวี่ถังจ้องมองเผยอวี้เฉิงที่จู่ๆ ก็ล้มตึงลงไปกับพื้น พ่นน้ำผลไม้ที่อยูในปากออกมาเต็มพื้นไปหมด เขารีบเข้าไปคว้าประคองเผยอวี้เฉิงที่หมดสติไป
 
 
“พี่ใหญ่! พี่เป็นอะไรไปครับ พี่ใหญ่! บัดซบเอ๊ย! ใครก็ได้มาเร็ว! พี่ใหญ่สลบไปแล้ว!”
 
 
……
 
 
ชายหาด
 
 
“เหอะ…กลับยังขัดขืนอยู่อีกนะ ถึงตอนนี้แล้วยังไม่สลบไปอีกเหรอ น่ากลัวจริงๆ ฉันต้องเอาเธอไปขายได้ราคาแพงๆ แน่” ชายที่เป็นหัวหน้ากล่าวระคนหัวเราะด้วยอารมณ์สนุกสนาน
 
 
เมื่อชายหนุ่มพูดจบ เครื่องสะกดรอยตามที่อยู่ในมือเขาก็ร้องเตือนเสียงแหลมออกมาทันที
Related

ลืมรักเลือนใจ

ลืมรักเลือนใจ

หลินเยียน นักกีฬาแข่งรถแนวหน้าของวงการต้องถึงคราวตกต่ำเพราะข่าวฉาวที่ถูกจัดฉากขึ้น มิหนำซ้ำแฟนหนุ่มที่ทำให้เธอต้องก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงเพื่อสนับสนุนเขายังหักหลังนอกใจไปคบกับน้องสาวของเธอเองอีกด้วย! แต่แล้วโชคชะตาก็ดลบันดาลให้เธอก็ได้พบกับ เผยอวี้เฉิง ประธานเครือบริษัทข้ามชาติเจเอ็ม คอร์เปอเรชัน ที่ทั้งเดาอารมณ์ยาก เย็นชาและไม่ชอบข้องเกี่ยวกับใคร วันดีคืนดีจู่ๆ เขาก็เกิดสูญเสียการควบคุมตัวเองไปดื้อๆ และมีเพียงเธอเท่านั้นที่จะพาเขากลับมายังโลกแห่งความเป็นจริงได้ การพบกันครั้งแรกของเธอและเขาทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวไปถึงขั้วหัวใจ ทว่าเธอกลับไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเธอและเขาเคยพบกันมาก่อนหน้านี้เมื่อเนิ่นนานมาแล้ว และเธอก็เป็นฝ่ายเลือกที่จะ ‘ลืมเลือน’ เขาไปด้วยตัวเอง…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset