รักหวานอมเปรี้ยว – ตอนที่ 183 นิสัยที่แท้จริง

เป็นไปตามที่คาดไว้ เมื่อเปปเปอร์เห็นว่าหล่อนกลับมาแล้วก็กวักมือเรียก“ส้มเปรี้ยว คุณมานี่สิ ผมจะแนะนำให้คุณรู้จัก ท่านนี้คือคุณหมอสตีฟ เป็นศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงระดับโลก”

ส้มเปรี้ยวฝืนยิ้มต่อไปและเดินเข้าไปข้างในด้วยฝีเท้าที่แข็งทื่อ

คุณหมอสตีฟมองมาที่หล่อนพลางยื่นมือให้กับหล่อน พร้อมกับพูดขึ้นด้วยภาษาจีนที่คล่องแคล่วว่า:“สวัสดีครับ คุณส้มเปรี้ยว ผมเคยได้ยินคุณหมอการันต์พูดถึงคุณ คุณวางใจเถอะครับ ผมจะรักษาคุณเป็นอย่างดี จะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวัง”

เมื่อพูดจบเขาก็หันไปกะพริบตาให้กับหล่อน

ทันใดนั้นส้มเปรี้ยวก็เข้าใจทุกอย่าง

ชายแก่คนนี้ถูกรันต์ซื้อตัวเรียบร้อยแล้ว เป็นคนฝั่งหล่อน

อีกทั้งเขาก็พูดอย่างชัดเจนแล้วว่า จะไม่ทำให้หล่อนต้องผิดหวัง

จากคำพูดนั้นสรุปได้ว่า ต่อให้หล่อนแสดงละครแย่ขนาดไหน เขาก็จะออกใบรับรองว่าหล่อนป่วยจริง

เมื่อคิดเช่นนั้น ส้มเปรี้ยวก็คลายความกังวลลงทันที ตัวหล่อนนั้นดูผ่อนคลายขึ้น พลางยื่นมือออกไปกุมมือของคุณหมอสตีฟ“ได้ค่ะ ถ้างั้นก็ต้องรบกวนท่านแล้ว”

“ไม่ต้องเกรงใจครับ คุณส้มเปรี้ยวเชิญนั่ง”คุณหมอสตีฟเอามือกลับมา บอกเป็นนัยว่าให้หล่อนนั่งลง

เปปเปอร์ลากเก้าอี้ให้กับส้มเปรี้ยว

ส้มเปรี้ยวยิ้มให้กับเขา จากนั้นจึงนั่งลง

คุณหมอสตีฟก็นั่งลงตรงข้ามกับพวกเขาทั้งสอง“ประธานเปปเปอร์ คุณส้มเปรี้ยว เตรียมพร้อมหรือยังครับ ?ต่อจากนี้ผมจะเริ่มวินิจฉัยแล้วนะครับ”

“ส้มเปรี้ยว”เปปเปอร์มองไปยังส้มเปรี้ยว

ส้มเปรี้ยวพยักหน้า“ฉันเตรียมตัวพร้อมแล้ว คุณหมอสตีฟเริ่มได้เลยค่ะ”

“ตกลงครับ”คุณหมอสตีฟขยับแว่นตาเล็กน้อย จากนั้นนำนาฬิกาพกเรือนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อกาว “คุณส้มเปรี้ยว ต่อจากนี้ผมจะทำการสะกดจิต เพื่อที่จะพยายามปลุกบุคลิกที่สองของคุณให้ตื่น คุณไม่ต้องกลัว ทำตามที่ผมบอกก็พอแล้ว ”

“อึม”ส้มเปรี้ยวพยักหน้า แต่มือกลับจับชายเสื้อของเปปเปอร์ไว้แน่น ท่าทางหวาดกลัว“เปปเปอร์คุณอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนฉันได้ไหมคะ”

หล่อนมองเขาด้วยความอ่อนโยน

ในเมื่อคุณหมอสตีฟเป็นคนฝั่งหล่อน หล่อนก็ไม่ต้องกลัวว่าคุณหมอสตีฟจะบอกเขาว่าหล่อนนั้นไม่ใช่คนหลายบุคลิก

เปปเปอร์มองไปยังแววตาที่หวาดกลัวของส้มเปรี้ยวก็ใจอ่อนพลางคลึงที่นิ้วของหล่อน“ได้ครับ ผมจะไม่ไปไหน ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณ”

ส้มเปรี้ยวยิ้ม

จากนั้นคุณหมอสตีฟก็เริ่มทำการสะกดจิต

ส้มเปรี้ยวปิดตาลง แล้วพิงอยู่ที่เก้าอี้ ราวกับกำลังนอนหลับ

เปปเปอร์มองไปยังคุณหมอสตีฟหยิบนาฬิกาพกขึ้นมา ทั้งยังเห็นส้มเปรี้ยวนอนนิ่งไม่ขยับ เขาขมวดคิ้วด้วยความเป็นกังวล“คุณหมอสตีฟ การสะกดจิตจะส่งผลกระทบอะไรกับส้มเปรี้ยวไหมครับ?”

“วางใจเถอะประธานเปปเปอร์ ไม่ส่งผลกระทบหรอก อีกไม่นานหล่อนก็จะตื่นขึ้นมา แต่พอตื่นขึ้นมาหล่อนจะกลายเป็นคนอีกคนหนึ่ง ”คุณหมอสตีฟพูด

เปปเปอร์หรี่ตา

แน่นอนว่าเขาทราบดีว่าคนอีกคนที่คุณหมอพูดถึงนั้นหมายถึงใคร หมายถึงบุคลิกที่สองของส้มเปรี้ยว

แต่ไหนแต่ไรมา เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ในที่สุดตอนนี้ก็จะได้เห็นแล้วใช่ไหม?

“คุณส้มเปรี้ยว คุณตื่นขึ้นมาได้แล้วครับ”คุณหมอสตีฟวางมือไว้ข้างหูของส้มเปรี้ยว จากนั้นปรบมือหนึ่งที

เพี๊ยะ!

เมื่อเสียงปรบมือดังขึ้น ส้มเปรี้ยวที่เดิมทีหลับตาอยู่ จู่ๆก็ลืมตาขึ้นมา พร้อมกับนั่งตัวตรง

เปปเปอร์มองไปที่หล่อน ไม่ค่อยแน่ใจว่าตอนนี้หล่อนคือส้มเปรี้ยวหรือว่าเป็นบุคลิกที่สองของหล่อนกันแน่

ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ริมฝีปากของเปปเปอร์ก็เม้มขึ้น พร้อมกับทดลองเรียกหนึ่งทีว่า“ส้มเปรี้ยว?”

“คุณเปปเปอร์ ฉันคือดีด้า นี่คือชื่อที่ฉันตั้งให้กับตัวเอง”ส้มเปรี้ยวเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้า พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงยั่วยวน

เปปเปอร์มองไปยังคนที่อยู่เบื้องหน้าที่มีลักษณะนิสัยต่างจากส้มเปรี้ยวโดยสิ้นเชิง ก็ขรึมลง

ส้มเปรี้ยวยืนขึ้น แล้วเดินไปข้างหน้าเขา“คุณเปปเปอร์ ในที่สุดพวกเราก็ได้เจอกันแล้ว”

เปปเปอร์ขมวดคิ้ว ถอยหลังหนึ่งก้าว ไม่ได้ตอบอะไรออกไป

เขาไม่ชอบบุคลิกที่สองนี้ ถึงขนาดรังเกียจเลยก็ว่าได้

สาเหตุนอกจากบุคลิกที่ชั่วร้ายเกินไปนี้ ยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่เขาก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน

ส้มเปรี้ยวจับได้ถึงสายตารังเกียจจากแววตาของผู้ชาย รอยยิ้มบนใบหน้าก็แข็งทื่อครู่หนึ่ง ในใจเก็บความโกรธแค้นเอาไว้

เมื่อสักครู่ตอนที่หล่อนถูกสะกดจิตก็กำลังครุ่นคิดว่าจะแสดงบุคลิกที่สองที่ไม่ได้มีอยู่ในตนเองนี้ยังไง ครู่คิดอยู่นานในที่สุดหล่อนก็ตัดสินใจที่จะแสดงเป็นตัวตนของตนเอง

ใช่แล้ว ท่าทีของหล่อนในตอนนี้ถึงจะเป็นลักษณะนิสัยที่แท้จริงของหล่อน ส่วนลักษณะนิสัยที่แสดงออกมาในเวลาปกตินั้นเป็นเพียงการแสดง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเปปเปอร์กลับรังเกียจตัวตนที่แท้จริงของหล่อน!

ส้มเปรี้ยวกดเปลือกตาลง กดทับความโกรธแค้นไว้ในใจ และเผยรอยยิ้มมีเลศนัยออกมาอีกครั้ง เปปเปอร์“คุณเปปเปอร์ ทำไมคุณถึงมองฉันแบบนี้ล่ะ ฉันเสียใจนะคะ”

“ทำไมต้องต่อต้านมายมิ้นท์?”เปปเปอร์ไม่สนใจที่หล่อนเสแสร้งทำเป็นเสียอกเสียใจ เม้มริมฝีปากแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ส้มเปรี้ยวยิ่งโมโหเข้าไปอีก

พอมาถึงก็ถามถึงมายมิ้นท์

เขาแคร์มายมิ้นท์มากขนาดนี้เลยเหรอ?

“เพราะอะไร?”ส้มเปรี้ยวยิ้มอย่างหน้าด้าน“เพราะว่าฉันเกลียดหล่อน”

เปปเปอร์ขมวดคิ้วจนเป็นอักษรตัวฉวน“ก็เพราะเหตุผลนี้?”

“แน่นอนว่าไม่ใช่แค่นี้!”มือของส้มเปรี้ยวเคล้าที่เส้นผม พลางพูดขึ้นอย่างเลวร้าย:“สาเหตุที่สำคัญที่สุดคือเธอทำให้ส้มเปรี้ยวรู้สึกไม่ปลอดภัย ส้มเปรี้ยวกลัวว่าคุณจะถูกเธอแย่งไป ถึงแม้ว่าจะการันตีขนาดไหน แต่การที่มายมิ้นท์ยังอยู่ ก็ทำให้ส้มเปรี้ยวถือสาอยู่ดี ดังนั้นฉันก็เลยถือกำเนิดขึ้นมา”

หล่อนสะบัดผมแล้วพูดขึ้นว่า:“ความรับผิดชอบของฉันก็คือปกป้องส้มเปรี้ยว ขอแค่ส้มเปรี้ยวไม่มีความสุขหรือรู้สึกว่ามายมิ้นท์เข้าใกล้คุณเกินไป ทำให้ส้มเปรี้ยวรู้สึกได้ถึงอันตราย ฉันก็จะปรากฏตัวขึ้นเพื่อต่อกรกับมายมิ้นท์”

“ต่อกร?”สีหน้าของเปปเปอร์ไม่สู้ดีนัก“แต่ว่าการกระทำของคุณในครั้งนี้คือต้องการให้มายมิ้นท์ไม่สามารถมีชีวิตอยู่รอดได้เลย!”

“มีอะไรไม่ถูกต้องเหรอคะ?”ส้มเปรี้ยวแบบมืออก“ขอเพียงแค่มายมิ้นท์ตาย ส้มเปรี้ยวก็จะไม่รู้สึกว่าตนไม่ปลอดภัยอีกต่อไปทำงานหนักเพียงครั้งเดียวก็สบายไปตลอด ดีจะตายไป!”

เปปเปอร์กำหมัดทั้งสองข้างขึ้นมา สีหน้ายิ่งดูหม่นหมองกว่าเดิม“คุณหมอสตีฟปลุกส้มเปรี้ยวให้ตื่นขึ้นมา”

เขาไม่อยากเห็นบุคลิกที่สองนี้อีกต่อไป บุคลิกนี้ช่างเลวทราม เกินกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก

ดังนั้นบุคลิกนี้ จะทิ้งไว้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด!

“ได้ครับประธานเปปเปอร์”คุณหมอสตีฟเดินเข้ามาข้างหน้าพร้อมส่งสายตาให้กับส้มเปรี้ยว

ส้มเปรี้ยวจงใจกระพริบตาครู่หนึ่ง จากนั้นก็นอนหลับไปตามคำขอของเขา

“คุณหมอสตีฟ”เปปเปอร์มองไปยังคุณหมอสตีฟ“มีวิธีการที่จะที่จะทำให้บุคลิกที่สองของส้มเปรี้ยวหายไปไหมครับ”

เดิมทีเขาต้องการที่จะทำให้บุคลิกที่สองนี้ผสมผสานกับส้มเปรี้ยว

แต่ความเลวทรามของบุคลิกที่สองเมื่อสักครู่นี้ ทำให้เขารู้ว่าไม่ควรที่จะหลอมรวมเข้าด้วยกัน เมื่อหลอมรวมเข้าด้วยกัน ไม่มีใครรับประกันได้ว่านิสัยของส้มเปรี้ยวจะเปลี่ยนไปไหม จะเปลี่ยนเป็นยิ่งเลวร้ายขึ้นหรือเปล่า

ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุด ก็คือทำลายบุคลิกที่สองนี้ทิ้งไป

บนโซฟา ส้มเปรี้ยวได้ยินคำพูดของเปปเปอร์ ก็อดกำมือไม่ได้

เปปเปอร์อยากที่จะทำลายบุคลิกที่สองของเธอ

แม้ว่าบุคลิกที่สองจะไม่มีอยู่ แต่เปปเปอร์ทราบว่ามันมีอยู่จริง

แต่เปปเปอร์อยากที่จะทำลายมันทิ้ง หรือว่าบุคลิกที่สองนี้ไม่ใช่หล่อนหรอกเหรอ ?

คุณหมอสตีฟก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจู่ๆจะได้ยินเปปเปอร์พูดแบบนี้ หลังจากกวาดสายตามองส้มเปรี้ยวที่อยู่บนโซฟาแล้ว ก็พยักหน้าแล้วตอบกลับว่า:“มีความเป็นไปได้ แต่ว่าดูจากสถานการณ์เมื่อสักครู่นี้ บุคลิกที่สองของคุณส้มเปรี้ยวค่อนข้างสุกงอมมากแล้ว หากต้องการที่จะทำลาย คงไม่สามารถทำได้ง่ายๆภายในระยะเวลาอันสั้น อย่างน้อยก็ต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน”

“ผมทราบครับ ถ้างั้นก็รบกวนให้คุณใช้วิธีรักษาส้มเปรี้ยวอย่างถึงที่สุด”เปปเปอร์คลึงที่คิ้ว ไม่มีกะจิตกะใจที่จะพูด

คุณหมอสตีฟยิ้มพลางพยักหน้า“ได้ครับ เดี๋ยวผมขอเรียกให้คุณส้มเปรี้ยวตื่นก่อนนะครับ”

เปปเปอร์ อึม หนึ่งที

ไม่นานส้มเปรี้ยวก็ลืมตา‘ตื่น’ขึ้นมา

หล่อนมองซ้ายมองขวาอย่างสับสน เมื่อเห็นเปปเปอร์ จึงถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า“เปปเปอร์ เมื่อสักครู่ฉัน……”

“เมื่อครู่นี้คุณถูกสะกดจิต”เปปเปอร์ยื่นมือออกไป พร้อมกับถึงหล่อนขึ้นมา

ส้มเปรี้ยวลูบที่หน้าผาก“ใช่ ฉันนึกออกแล้ว ฉันถูกคุณหมอสตีฟสะกดจิตเพื่อปลุกบุคลิกที่สองของฉัน เปปเปอร์ บุคลิกที่สองของฉันเผยออกมาแล้วหรือยัง?”

รักหวานอมเปรี้ยว

รักหวานอมเปรี้ยว

อ่านนิยายรักหวานอมเปรี้ยวเมืองเดอะซี ต้นเดือนสิบสอง อากาศหนาวเย็นกว่าปีที่ผ่านมา มายมิ้นท์ซุกตัวอยู่ในโซฟาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ฟังเสียงก่นด่าของพิศมัยผู้เป็นแม่สามีจากด้านล่าง “มายมิ้นท์เธอจะท้องไม่ได้ก็ช่างเถอะ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว! เธอจะให้ฉันกับปีโป้หิวตายหรือไง?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset