มายมิ้นท์ดูออกว่าเขามีความโมโหเล็กน้อย เก็บสายตายิ้มบางๆหนึ่งที “ขอโทษนะประธานเปปเปอร์ นี่ก็คือนิสัยที่แท้จริงของฉัน สำหรับคนที่ยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับฉัน โดยทั่วไปฉันล้วนมีท่าทีแบบนี้”
ฝ่ายตรงข้ามเหรอ?
เปปเปอร์แอบกำกำปั้นขึ้นมา
ที่แท้ เธอยังเห็นเขาเป็นศัตรูอยู่
ก็คือไม่รู้ว่า เป็นเพราะส้มเปรี้ยวเธอจึงเห็นเขาเป็นศัตรู หรือว่าเป็นเพราะตัวเขาเอง
“ผมจะไม่เตะคุณออกจากรายชื่อผู้ถูกคัดเลือกในการร่วมกิจกรรม ผมเคยบอกแล้ว การคัดเลือกในการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ไม่มีเบื้องหลัง” เปปเปอร์นวดระหว่างคิ้วนวดแล้วนวดอีกตอบกลับ
มายมิ้นท์ลูบผมแล้วลูบผมอีก “ใช่เหรอ งั้นฉันก็วางใจแล้ว งั้นประธานเปปเปอร์รอฉันตกลงว่าเพื่ออะไรล่ะ?”
“พาคุณไปเยี่ยมท่านย่าที่โรงพยาบาล ” เปปเปอร์ตอบกลับ
มายมิ้นท์อึ้งชะงักไปหนึ่งที นึกไม่ถึงจะเป็นเพราะว่าเรื่องนี้?
“ขอโทษประธานเปปเปอร์ ฉันจะไม่ไปด้วยกันกับคุณ ฉันมีรถตนเอง จะขับรถเข้าไป” เธอปฏิเสธเสียงเย็นชา
เปปเปอร์ขมวดคิ้วอย่างแน่น เพิ่งว่าจะพูดอะไร ประตูลิฟต์ที่อยู่ข้างหลังเธอ ตึ่ง เสียงหนึ่งเปิดออกแล้ว รถเข็นคันหนึ่งออกมาจากข้างใน
บนรถเข็นมีกล่องกระดาษกองเต็มอยู่ กองอย่างสูงมาก บังจนมองไม่เห็นคนที่เข็นรถเข็น
เหมือนกัน คนที่เข็นรถเข็นก็มองไม่เห็นข้างหน้าเช่นกัน ก็ชนไปยังมายมิ้นท์เช่นนี้
“ระวัง!” เปปเปอร์ลูกตาหดทันที เตือนสติเสียงเคร่งขรึมเฉียบขาด。
มายมิ้นท์สงสัยงงงวยเต็มใบหน้า ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น
จนถึงวินาทีถัดมา หลังของเธอถูกของอะไรชนอย่างรุนแรงหนึ่งที ร่างกายพุ่งไปยังข้างหน้า
ข้างหน้าเธอ ก็เป็นเปปเปอร์พอดี
“คุณหลบไป!” มายมิ้นท์ตื่นตระหนกตกใจเต็มใบหน้าร้องตะโกนบอกกับเปปเปอร์
แต่เปปเปอร์ดูเหมือนไม่ได้ยิน ไม่หลบไม่หนี
ถ้าไม่ใช่สีหน้าที่อยู่บนใบหน้าเขาไม่แตกต่างกันกับยามปกติ มายมิ้นท์ล้วนคิดว่าเขาจะตกใจจนอึ้งแล้ว ดังนั้นจึงไม่ขยับ
“อู้……” มายมิ้นท์พุ่งเข้าไปในอ้อมอกของเปปเปอร์
เปปเปอร์กอดเธอไว้อย่างแน่น
เพียงแค่ระดับแรงที่เธอพุ่งเข้ามาแรงไปหน่อย ชนจนเขาถอยไปยังข้างหลังเช่นกัน
ถอยไปหลายก้าวต่อๆกัน จนหลังชนฝาผนังจึงหยุดลงมา
มายมิ้นท์โล่งอกไปที รีบออกจากหน้าอกของเปปเปอร์ “คุณไม่เป็นไรนะ?”
เปปเปอร์ส่ายหัวนิดๆ เสียงแหบเล็กน้อย “ไม่เป็นไร”
“เสียงคุณทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะ?” มายมิ้นท์ขมวดคิ้วที่งดงามอยู่ “ได้รับบาดเจ็บแล้วใช่หรือไม่ล่ะ?”
ลูกกระเดือกเปปเปอร์ลื่นไหลนิดๆหนึ่งที่ ไม่ได้ตอบกลับ สายตามีความไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อย เคลื่อนย้ายไปที่อื่น ไม่ไปมองเธอ แอบสงบหัวใจที่เต้นอย่างรวดเร็วลง
พอเขาเห็นเธอ ก็นึกถึงความรู้สึกอ่อนนุ่มอยู่บนหน้าอกเธอที่ชนไปยังหน้าอกเขา
มายมิ้นท์เห็นเปปเปอร์ไม่พูด คิดว่าเขาได้รับบาดเจ็บแล้วจริงๆ ในใจตื่นตะลึง ตามองไปยังข้างหลังเขาเรื่อยๆ “ชนโดนจุดที่ครั้งก่อนถูกลูกบาสเกตบอลกระทบนั่นใช่หรือไม่ล่ะ?”
“ไม่มี ที่นั่นหายแล้ว” เปปเปอร์คืนสู่จังหวะการเต้นของหัวใจที่เป็นปกติ นี่จึงหมุนสายตากลับมา จ้องมองความตื่นเต้นที่แว็บผ่านนัยน์ตาของมายมิ้นท์ สายตาสว่างขึ้นนิดๆ เสียงมีความนุ่มนวลเล็กน้อยตอบกลับ
เธอเป็นห่วงเขาอยู่เหรอ?
ดูแล้วเธอก็ไม่เหมือนอย่างที่ตัวเธอเองพูดแบบนั้นจริงๆ ไม่มีความรู้สึกต่อเขาแล้วเหรอ
ไม่รู้ทำไม พอนึกถึงสิ่งนี้ ในใจเปปเปอร์มีความสุขเล็กน้อยอย่างประหลาดมาก
มายมิ้นท์พินิจพิเคราะห์เปปเปอร์ไปสักพักหลายรอบ แน่ใจว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บจริงๆ โล่งอกไปที “งั้นก็ดีแล้ว”
ไม่ว่ายังไง เขาก็เพื่อที่จะยับยั้งเธอจึงชนฝาผนังล่ะ
ถ้าเขาได้รับบาดเจ็บ ในใจเธอจะเป็นทุกข์
ในเวลานี้ คนที่ใส่ชุดทำงานสีเหลืองคนหนึ่งความรู้สึกผิดและเสียใจเต็มอกเดินเข้ามา โค้งคำนับกล่าวขอโทษต่อๆกันกับคนทั้งสอง “ขอโทษๆ ผมไม่ได้ตั้งใจชนพวกคุณ ผมไม่เห็นว่าข้างหน้ามีคน พวกคุณไม่ได้รับบาดเจ็บนะ?”
คนทั้งสองนี้สวมใส่เสื้อผ้าที่ดีขนาดนี้ พอเห็นก็รู้ว่าเป็นคนมีเงิน
ถ้าหากพวกเขาได้รับบาดเจ็บแล้ว เงินเดือนเขาล้วนไม่พอที่จะชดใช้
มายมิ้นท์โบกมือแล้วโบกมืออีก “ไม่เป็นไร พวกเราไม่ได้รับบาดเจ็บ คุณไปเถอะ”
พนักงานมีความประหลาดใจเล็กน้อย “คุณผู้หญิงไม่โทษผมเหรอ?”
มายมิ้นท์ยิ้มหนึ่งที “คุณก็บอกแล้วว่าคุณไม่ได้ตั้งใจ อีกทั้งฉันยืนอยู่หน้าประตูลิฟต์เอง ขวางทางคุณไว้ ดังนั้นโทษคุณทำไมล่ะ ไปเถอะ”
“ได้ๆๆ เข็นรถเข็นไปเลย
มายมิ้นท์เบ้ปากแล้วเบ้ปากอีก “ทั้งๆที่ฉันไม่โทษเขา ให้เขาไป เขาทำไมยังต้องขอบคุณล่ะ?”
ได้ยินน้ำเสียงที่รู้สึกเสียอกเสียใจของเธอ ริมฝีปากบางๆของเปปเปอร์เผยอขึ้นนิดๆหนึ่งที รู้สึกมีความน่ารักเล็กน้อย
“ใช่แล้ว” อยู่ดีๆนึกอะไรออก มายมิ้นท์จ้องมองเขาอยู่
มุมปากที่เผยอของเขาหายไปทันที “ว่ายังไงล่ะ?”
“บวกกับครั้งก่อนอยู่ในโรงยิม คุณช่วยฉันขวางลูกบาสเกตบอล ทั้งหมดคุณช่วยฉันสองครั้ง”
มายมิ้นท์ชูสองนิ้วกับเขา
เปปเปอร์ยักคิ้ว “จากนั้นล่ะ?”
“จากนั้นฉันจะให้อภัยคุณจากหกปีที่ผ่านมาเย็นชากับฉัน ฉันก็จะไม่มองคุณเป็นศัตรูอีก วันหลังพวกเราก็ถือว่าเพียงแค่คนรู้จักกันและกันเถอะ” มายมิ้นท์เงยหน้าจ้องมองเขา “คุณรู้สึกยังไงล่ะ?”
เปปเปอร์ทำตายี๋ “คนที่รู้จักเหรอ?”
“อืม คุณไม่พอใจเหรอ?” มายมิ้นท์เอียงหัว
ในใจเปปเปอร์มีความหดหู่เล็กน้อย
เพียงแค่คนที่รู้จัก แม้แต่เพื่อนทั่วไปล้วนเทียบกันไม่ได้ เขาไม่อยากเป็นเช่นนี้อย่างประหลาดใจมาก
แต่เขาชัดเจนมากอีกว่า ความสัมพันธ์แบบนี้จึงจะเหมาะสมที่สุดกับเธอ
นึกถึงจุดนี้ เปปเปอร์หลับตาลง ตอบกลับเสียงต่ำเล็กน้อยว่า “ได้”
“งั้นประธานเปปเปอร์ ฉันไปเยี่ยมท่านย่าที่โรงพยาบาลก่อนแล้ว”
มายมิ้นท์อมยิ้มหนึ่งที หมุนตัวออกไป
อะไรล้วนไม่ต้องชดใช้ ก็คืนบุญคุณทั้งสองไปแล้ว
ความรู้สึกนี้ดีจริง สบายจริงล่ะ
จ้องมองภาพด้านหลังที่ร่าเริงของมายมิ้นท์ เปปเปอร์เม้มปากอย่างแน่น
เธอก็มีความสุขที่มีความสัมพันธ์เพียงแค่รู้จักกับเขาขนาดนี้เหรอ?
“ประธานเปปเปอร์” การปรากฏตัวของผู้ช่วยเหมันตร์ทำลายความกดอากาศต่ำที่อยู่รอบกายของเปปเปอร์
สายตาเปปเปอร์กะพริบแล้วกะพริบอีก เก็บความหงุดหงิดที่อยู่ในใจหมุนตัวมา “มีเรื่องอะไรเหรอ?”
“เมื่อกี้ผมได้รับสายบริษัทย่อยที่อยู่ประเทศบิวตี้ฝั่งโน้นเกิดเรื่องเล็กน้อย ต้องการให้ท่านกลับกรุปเปิดประชุมจัดการเร่งด่วนสักหน่อย” ผู้ช่วยเหมันตร์ตอบกลับ
เปปเปอร์ขมวดคิ้ว “ผมรู้แล้ว”
ดูแล้ว ได้แต่ประชุมเสร็จ จึงจะสามารถไปเยี่ยมท่านย่าที่โรงพยาบาลได้ล่ะ
……
มายมิ้นท์ขับรถมาถึงโรงพยาบาล เดินตรงไปยังแผนกผู้ป่วยในระดับสูง ไม่นานก็มาถึงนอกห้องผู้ป่วยของคุณนายราศรี
มือซ้ายมายมิ้นท์หอบดอกไม้ถือยาบำรุงอยู่ มือขวายกขึ้นเคาะประตูแล้วเคาะประตูอีก
ประตูเปิดแล้ว เดิมทีป้าแดงคิดจะถามว่าเป็นใคร แต่มองเห็นคนที่อยู่นอกประตูเป็นมายมิ้นท์ เสียงพูดหยุดทันที จากนั้นบนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่ตื่นตระหนกตกใจด้วยความดีใจออกมา “คุณผู้หญิง!”
“ป้าแดง” มายมิ้นท์ยิ้มอยู่ทักทายกับป้าแดงเสียงหนึ่ง จากนั้นปรับแก้พูดว่า “ตอนนี้ฉันไม่ใช่คุณผู้หญิงแล้ว”
“อยู่ในใจของฉัน คุณก็คือคุณผู้หญิง” ป้าแดงรักและเมตตาจ้องมองเธออยู่
ในใจมายมิ้นท์รู้สึกซาบซึ้งใจมาก มีความคัดจมูกเล็กน้อย “ขอบคุณความรักลำเอียงของป้าแดงที่มีต่อฉัน แต่ฉันหย่าร้างกับประธานเปปเปอร์แล้ว ท่านเรียกฉันอย่างนี้จะไม่เคารพกับคุณส้มเปรี้ยว ยังคงเรียกชื่อของฉันเถอะ”
ป้าแดงถอนหายใจหนึ่งที “ได้ งั้นฉันเรียกคุณมายมิ้นท์เถอะ”
“อืม” มายมิ้นท์พยักหน้าต่อๆกัน จากนั้นยื่นดอกไม้เข้าไป “ป้าแดง ท่านย่าตื่นอยู่ไหม?”
“ตื่นอยู่ล่ะ” ป้าแดงรับดอกไม้มา ก็ได้ยินเสียงของท่านย่าส่งมาจากข้างหลัง “ป้าแดง ใครล่ะ?”
“เป็นมายมิ้นท์” ป้าแดงหันหน้าไปตอบกลับคำหนึ่ง
ท่านย่ารีบพูดว่า “รีบให้เธอเข้ามา”
“ไอ้!” ป้าแดงขานรับเสียงหนึ่ง เชิญมายมิ้นท์เข้ามา
มายมิ้นท์มองไปยังท่านย่าที่อยู่บนเตียงผู้ป่วย น้ำตาคลอ “ท่านย่า”
“มิ้นท์” ท่านย่าเมตตาอ่อนโยนยิ้มกับเธอ ในใจดีใจเหลือเกินกับที่เธอมา
มายมิ้นท์วางยาบำรุงลง เดินเข้าไปนั่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย จับมือของท่านย่าไว้ “ท่านย่า ดีขึ้นหน่อยหรือยัง?”
“ดีขึ้นหน่อยแล้ว” ท่านย่ายิ้มอยู่พยักหน้าต่อๆกัน จากนั้นถามว่า “ใช่แล้ว แกรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่โรงพยาบาลล่ะ?”