“แต่ว่า…… ฉันจะช่วยเธอยังไงล่ะ?” นิ้วมือของส้มเปรี้ยววาดวงกลมบนราวบันไดอย่างเบื่อหน่าย แต่น้ำเสียงของเธอก็เต็มไปด้วยความกังวล
ขนมผิงสูดจมูกแล้วพูดว่า “ส้มเปรี้ยว ช่วยร้องขอประธานเปปเปอร์ให้หน่อยนะ ประธานเปปเปอร์รักเธอขนาดนั้น เขาจะต้องตกลงอย่างแน่นอน”
“เอาเถอะ ฉันจะลองดู” ส้มเปรี้ยวพยักหน้า
ขนมผิงรู้สึกซาบซึ้งใจจนน้ำตาแทบนองหน้า “ขอบคุณเธอนะส้มเปรี้ยว”
“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันนี่นา” ส้มเปรี้ยวพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม แต่ดวงตาของเธอนั้น ไม่ได้มีความรู้สึกยินดีแม้แต่นิดเดียว มีเพียงการเสียดสีดูถูกเยาะเย้ย
หลังจบการสนทนาเธอก็วางมือถือลงแล้วเปิดดูการแสดงความคิดเห็นและคำด่าทอมายมิ้นท์ในโลกอินเทอร์เน็ต
ที่จริงแล้วเธอรู้มาตั้งแต่แรกว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของขนมผิง บทสนทนาในโทรศัพท์ก่อนหน้า เธอเพียงจงใจที่จะบอกกับขนมผิงว่า เธอสัญญากับเปปเปอร์ไว้จะไม่จัดการกับมายมิ้นท์
ดังนั้นเธอจึงรู้ดีว่าขนมผิงที่ไม่อาจทนเห็นเธอน้อยเนื้อต่ำใจ และปกติแล้วหล่อนก็ไม่ถูกชะตากับมายมิ้นท์เท่าไรนัก ด้วยเหตุนี้หล่อนจะต้องยื่นมือมาช่วยจำกัดมายมิ้นท์อย่างแน่นอน ด้วยวิธีนี้เธอเองก็ไม่ต้องละเมิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับเปปเปอร์ไม่ใช่หรือไง? มือของเธอยังคงสะอาดบริสุทธิ์ดังเดิม เพียงแต่เธอคิดไม่ถึงว่าขนมผิงจะเคลื่อนไหวใหญ่โตเพียงนี้
เมื่อคิดได้ดังนั้น ส้มเปรี้ยวก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความหงุดหงิดใจ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเธอจะต้องปกป้องขนมผิงให้ได้
ไม่อย่างนั้นเธอก็จะไม่มีใครค่อยลงมือแทนเธอ
เมื่อคิดได้ดังนั้น ส้มเปรี้ยวก็ปิดหน้าจอมือถือและเดินตรงเข้าไปในห้องทำงาน ก่อนจะได้ยินผู้ช่วยเหมันตร์พูดว่า “ประธานเปปเปอร์ครับ ทางเราตรวจค้นเจอแล้วว่าใครเป็นคนเผยแพร่ข่าวนั้นออกไป เป็นคุณขนมผิง”
“ใครนะ?” เปปเปอร์นึกไม่ออกว่าคนคนนี้เป็นใคร
ผู้ช่วยเหมันตร์เหลือบไปมองส้มเปรี้ยวแล้วพูดว่า “เป็นเพื่อนของคุณส้มเปรี้ยวครับ”
ตอนนี้เปปเปอร์นึกออกแล้วว่าเป็นใคร เขาขมวดคิ้วและมองไปทางส้มเปรี้ยว “คุณบอกเรื่องมาหกปีแล้วให้เธอฟังเหรอ?”
ส้มเปรี้ยวรีบส่ายหน้าแล้วตอบว่า “ฉันเปล่านะคะ ฉันไม่ได้ทำ แม่ฉันเป็นคนบอก ในตอนนั้นฉันเพิ่งจะได้สติและขนมผิงมาเยี่ยมฉันพอดี เธอบังเอิญได้ยินว่าฉันถามแม่เรื่องคุณแต่งงานกับคุณมายมิ้นท์อย่างไร”
เป็นอย่างนี้นี่เอง
เปปเปอร์ละสายตากลับมาแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้น ก่อนจะกดไปที่เบอร์โทรศัพท์เพื่อโทรหามายมิ้นท์
ณ เทนเดอร์กรุ๊ป ลาเต้นำผลการตรวจสอบถือไว้ในมือ ก่อนจะผลักประตูห้องทำงานของมายมิ้นท์เข้าไป “ที่รัก ผมรู้แล้วว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวคุณบนโลกอินเทอร์เน็ต ขนมผิงเพื่อนของส้มเปรี้ยว”
เมื่อได้ยินดังนั้น มายมิ้นท์ก็ขมวดคิ้วเข้าหากันแล้ววางปากกาในมือลงเอ่ยถามขึ้นว่า “คุณรู้ได้ยังไง?”
ลาเต้ยื่นผลการสืบให้แก่เธอแล้วยิ้มอย่างผู้ชนะว่า “ก็ง่ายๆ เอง ขนมผิงผู้หญิงนั่นโง่จะตาย เธอใช้ที่อยู่ไอดีอีกไอดีหนึ่งของเธอในการเผยแพร่โพสต์ แต่ไม่ได้ซ่อนไอพีแอดเดรส ผมก็แค่ไปตรวจสอบไอพีแอดเดรสเลยรู้ว่าเป็นเธอ ตอนแรกผมคิดว่าจะเป็นฝีมือของส้มเปรี้ยวเสียอีก น่าเสียดายจริง”
ถ้าเป็นฝีมือของส้มเปรี้ยวจริง พวกเขาก็สามารถจัดการกับเธอได้
“นั่นสิ น่าเสียดายจริงๆ เดิมพันนี้ฉันแพ้เสียแล้ว” มายมิ้นท์เผยอมุมปากของตนเองหัวเราะเยาะเย้ยออกมา
เธอกับเปปเปอร์เดิมพันกันเอาไว้ว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของส้มเปรี้ยวหรือไม่ แต่คาดไม่ถึงว่าจะเป็นฝีมือของขนมผิง
แม้ว่าสัญชาตญาณของเธอจะบอกว่า การที่ขนมผิงทำเช่นนี้ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับส้มเปรี้ยวอย่างแน่นอน แต่ถ้าไม่มีหลักฐานเธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้
“เดิมพันอะไร?” ลาเต้มองมาทางมายมิ้นท์ด้วยความสงสัย
มายมิ้นท์ส่ายหน้า “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
เมื่อเห็นว่าเธอไม่พูด ลาเต้ก็ยักไหล่และไม่ได้ถามอะไรอีก กลับเปลี่ยนหัวข้อสนทนาว่า “ที่รัก เรื่องนี้ตั้งใจจะจัดการยังไง?” ขนมผิงจัดการไม่ยากหรอก แต่เรื่องข่าวที่เผยแพร่ไปทางอินเทอร์เน็ตไม่ง่ายที่จะรับมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีบัญชีจำนวนมากที่กำลังแอบปล่อยข่าวลือออกมาอย่างต่อเนื่อง
มันดูเหมือนเป็นการจับคนนอกใจในชีวิตคู่ ดูเหมือนเป็นการแอบทำร้ายส้มเปรี้ยว
ถุย! มันไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย!
“ขอฉันคิดดูก่อนนะ” มายมิ้นท์ก้มหน้าลงทำท่าครุ่นคิดแล้วตอบออกมาอย่างเหนื่อยล้า
จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น
มายมิ้นท์เงยหน้ามามองพบว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ของเปปเปอร์ เธอคิดว่าคงจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จึงได้รับสายขึ้น “ฮัลโหล?”
เมื่อฟังน้ำเสียงอันเย็นชาของหญิงสาว เปปเปอร์ก็เม้มริมฝีปากของตนเองแล้วตอบว่า “ผมสืบเจอแล้วว่าใครเป็นคนปล่อยข่าว”
“ขนมผิง” มายมิ้นท์ไม่รอให้เขาพูดจบ เธอรีบพูดตัดหน้า
ความประหลาดใจแวบผ่านเข้ามาในดวงตาของเปปเปอร์ “คุณรู้เรื่องแล้วเหรอ?”
“อืม” มายมิ้นท์พยักหน้า “ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะประธานเปปเปอร์ เรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของคุณส้มเปรี้ยว พวกคุณสามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้ต่อไป ดีใจใช่มั้ยล่ะคะ?”
เปปเปอร์ขมวดคิ้วเข้าหากัน
ดีใจมั้ย?
ไม่ ดูเหมือนเขาไม่ได้รู้สึกมีความสุขอะไรเลย แต่กลับมีแรงกดดันอยู่ในใจที่ไม่อาจพูดออกมาได้
แต่ว่าเปปเปอร์ไม่อยากจะเปิดเผยอารมณ์ที่แท้จริงของเขาออกมา จึงได้ตอบรับเพียงว่า “อืม” เบาๆ
มายมิ้นท์เผยอยิ้ม “เอาล่ะค่ะประธานเปปเปอร์ ในเมื่อพวกเราต่างสืบรู้แล้วว่าใครเป็นคนทำ ต่อจากนี้ฉันหวังว่าคุณจะไม่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ขนมผิงเป็นเพื่อนของคุณส้มเปรี้ยว เมื่อถึงเวลาที่คุณส้มเปรี้ยวมาร้องขอให้คุณช่วยเหลือ หวังว่าคุณจะไม่เข้ามาขัดขวางวิธีการจัดการของฉันต่อขนมผิงนะคะ”
“แน่นอน” เปปเปอร์ก้มหน้าลงแล้วตอบเบาๆ เขารู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย
เขาไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้นเลยเหรอ?
“ดีค่ะ ถ้าอย่างงั้นจำคำพูดของคุณเอาไว้” มายมิ้นท์พูดจบก็วางสายลง
เปปเปอร์มองไปยังหน้าจอโทรศัพท์ของตนเองที่เด้งกลับไปยังเมนูหลัก ดวงตาของเขาดูมืดมัว
“เปปเปอร์คะ คุณมายมิ้นท์ว่ายังไงบ้าง?” ส้มเปรี้ยวมองไปทางเขาและเอ่ยถาม
เปปเปอร์เงยหน้าขึ้น “อะไรว่ายังไงครับ?”
“ก็เรื่องการจัดการกับขนมผิงน่ะสิคะ คุณบอกเรื่องขนมผิงให้กับคุณมายมิ้นท์ฟังแล้วไม่ใช่หรือไง คุณมายมิ้นท์จะจัดการกับขนมผิงยังไงคะ?” ส้มเปรี้ยวกัดฟันแน่น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล
เปปเปอร์เอามือขึ้นบีบจมูกของตนเล็กน้อยแล้วตอบว่า “ไม่รู้ เธอไม่ได้บอก”
แต่ฟังจากน้ำเสียง ที่มายมิ้นท์พูดถึงขนมผิงอันเยือกเย็นแล้วนั้น
เขาเชื่อว่าคงจะไม่จัดการอย่างง่ายดายแน่นอน
“คุณมายมิ้นท์คงจะไม่ปล่อยขนมผิงไปแน่” ดวงตาของส้มเปรี้ยวกรอบไปมา เริ่มมีน้ำตาเอ่อคลอ “ครั้งที่แล้วที่ฉันทำให้คุณมายมิ้นท์ได้รับบาดเจ็บ คุณมายมิ้นท์ก็ได้ยึดของหลายสิ่งหลายอย่างไป คุณเกศวดีก็เหมือนกัน ตอนนี้ตระกูลเสนาประกรได้ถดถอยไปอยู่แถวสองแล้ว ขนมผิงจะ……”
ส้มเปรี้ยวเอื้อมมือมาจับแขนของเปปเปอร์เอาไว้ “เปปเปอร์คะ คุณช่วยขนมผิงได้ไหม?”
เปปเปอร์สะบัดมือออกแล้วพูดว่า “ขอโทษด้วยนะส้มเปรี้ยว ผมสัญญากับมายมิ้นท์เอาไว้แล้วว่าจะไม่เข้าไปยุ่งด้วย”
“แต่ว่าขนมผิงเป็นเพื่อนของฉันนะคะ เธอทำไปทุกสิ่งอย่างเพื่อปกป้องฉัน จะให้ฉันมองดูเธอทุกข์ร้อนได้ยังไง เปปเปอร์……”
“เอาล่ะ พอแล้ว” เปปเปอร์ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด “การที่ขนมผิงทำเรื่องนี้โดยไม่ได้รับการยินยอมจากใคร ในเมื่อเธอทำผิด เธอก็จะต้องชดใช้ความผิดของเธอเองเข้าใจมั้ย?”
เขามองไปที่เธอ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับดวงตาของชายหนุ่มที่ลึกล้ำดุจดังบ่อน้ำ หัวใจของส้มเปรี้ยวก็มืดมนจมลงสู่ก้นบึ้งทันที ใบหน้าของเธอซีดลงเล็กน้อย
เมื่อทำผิดก็ต้องยอมรับผิดและชดใช้
ถ้าวันไหนเขารู้ว่าเธอทำเรื่องเหล่านั้น แล้วเขาจะทำอย่างไรกับเธอ?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ส้มเปรี้ยวก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นสะท้าน ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล
ไม่ได้การละ เธอจะให้เขารู้ไม่ได้เด็ดขาด ให้รู้ไม่ได้!
ดังนั้นมายมิ้นท์จะต้องตาย มีเพียงมายมิ้นท์ตายเท่านั้น ความรักของเธอจึงจะไม่ถูกเปิดเผยอีกต่อไป
อีกด้านหนึ่ง เมื่อลาเต้เห็นว่ามายมิ้นท์วางโทรศัพท์ลงแล้ว เขาก็รีบเอ่ยถามว่า “เปปเปอร์พูดอะไรกับคุณ?”
“ก็ไม่มีอะไรค่ะ เขาแค่บอกฉันว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้ แล้วฉันก็บอกกับเขาว่าอย่าเข้ามายุ่งอีก” มายมิ้นท์จับไปที่บ่าซึ่งปวดล้า
“เขาเห็นด้วยหรือเปล่า?”
“อืม”
ลาเต้เบ้ริมฝีปากอย่างดูถูก “ขนมผิงเป็นเพื่อนของส้มเปรี้ยวนะ ส้มเปรี้ยวจะต้องอ้อนวอนขอให้เปปเปอร์ช่วยขนมผิงอย่างแน่นอน และเปปเปอร์ก็ค่อนข้างจะใจอ่อนกับส้มเปรี้ยวอยู่แล้ว ดีไม่ดีถ้าส้มเปรี้ยวร้องไห้ออกมา เขาอาจจะใจอ่อนแล้วกลับคำก็ได้”
“ถ้าหากเป็นแบบนั้นจริงๆ……” มายมิ้นท์กำมือ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเย็นชาแล้วพูดอย่างช้าๆ ว่า “ถ้าอย่างนั้นก็อย่าโทษฉันที่จะสู้อย่างดุเดือดให้ตายกันไปข้าง”
ลาเต้ตกใจสะดุ้งโหยง “ที่รักคุณจริงจังหรือเปล่าเนี่ย?”
มายมิ้นท์เหลือบตาไปมองดูเขา ความตั้งมั่นในดวงตานั้นไม่ได้ปิดบังไม่อาจปิดบังได้เลย
ลาเต้กลืนน้ำลายลงคอ “ที่รัก แล้วตอนนี้คุณตั้งใจจะสู้ให้ตายไปข้างหนึ่งกับเขายังไง?”
“เรื่องยังไม่ได้เริ่มเลยด้วยซ้ำ จะถามอะไรมากมายขนาดนี้คะ?” มายมิ้นท์เอื้อมมือไปหยิบไม้ค้ำและลุกขึ้นยืน “วันนี้เย็นมากแล้ว ฉันขอตัวกลับไปก่อน เดี๋ยวช่วยจัดการติดต่อกับสื่อให้หน่อยนะคะ ฉันจะจัดงานแถลงข่าว”
“งานแถลงข่าวเหรอ?” ลาเต้รู้สึกสนอกสนใจขึ้นมา “จัดการเรื่องนี้หรือเปล่า?”
มายมิ้นท์พยักหน้า “ใช่ ความจริงบางอย่างถูกปิดบังไว้นานเหลือเกินแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องชี้แจงให้ชัดเจน จะให้ฉันแบกรับคำด่าทอแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ”