“ป่วยเหรอครับ”
“ใช่” เยี่ยมบุญพยักหน้า “ส้มเปรี้ยวคงบอกนายแล้ว เธอมีพี่สาวคนหนึ่ง”
เปปเปอร์ตอบรับ
แววตาของเยี่ยมบุญมีความเคียดแค้น สีหน้าของเขาบิดเบี้ยว “พี่สาวเธอชื่อชวนชม เป็นลูกสาวคนแรกของฉันกับคุณป้านาย เธอโดนลักพาตัวไปตอนเล็กๆ จากนั้นเพราะเราแจ้งความ เลยทำให้คนร้ายโกรธ คนร้ายจึงถ่วงน้ำชวนชมจนตาย ตั้งแต่ตอนนั้น จิตใจของคุณป้านายก็เริ่มไม่ปกติ จนกระทั่ง……”
แววตาของเยี่ยมบุญวูบไหว “จนกระทั่งส้มเปรี้ยวคลอด คุณป้านายจึงมีสิ่งปลอบใจ และดีขึ้น คิดไม่ถึงว่าส้มเปรี้ยวจะโดนลักพาตัว ทำให้อาการป่วยที่หายไป 20 กว่าปีกำเริบอีกครั้ง!”
เปปเปอร์พยักหน้า เขาเข้าใจแล้ว
คุณนายคงกลัวว่าการแจ้งตำรวจจะทำให้อีกฝ่ายโมโห และฆ่าส้มเปรี้ยว
“อย่างนี้นี่เอง งั้นผมติดต่อบริษัทรักษาความปลอดภัย จ้างคนไปช่วยส้มเปรี้ยว”
เปปเปอร์พูดพลาง และกำลังจะโทร แต่ทว่ามือถือของดังขึ้น แต่ครั้งนี้เป็นของเยี่ยมบุญ
เยี่ยมบุญผละออกจากภรรยา และเอามือถือตัวเองออกมา เป็นเบอร์แปลก ไม่บอกสถานที่ด้วย
เยี่ยมบุญคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงกดรับสาย “ฉันเยี่ยมบุญ”
“ได้ยินว่ากำลังหาฉันอยู่เหรอ” เสียงผู้ชายดังออกมา เป็นน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก
เยี่ยมบุญขมวดคิ้ว “นายเป็นใคร”
“ลืมฉันเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ ครั้งก่อนฉันบอกไปแล้ว ฉันยังมีของขวัญชิ้นที่สองจะให้นาย” ชายคนนั้นหัวเราะ เสียงหัวเราะของเขาน่ากลัวจนขนลุก
จู่ๆ เยี่ยมบุญก็นึกขึ้นได้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป เขาพูดลอดไรฟันออกมา “แกเองเหรอ!”
ชายเจ้าเล่ห์เมื่อครั้งก่อน ที่ทำให้เขาจำไม่ลืม!
เปปเปอร์มองเยี่ยมบุญอย่างสงสัย “เป็นอะไรไปครับคุณลุง”
มือที่จับมือถือสั่นเล็กน้อย เขาไม่ตอบอะไร
ชายเจ้าเล่ห์ในสายหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฉันเอง ได้ยินว่าพวกนายหาฉัน ฉันเลยเป็นฝ่ายเผยตัวก่อน ซาบซึ้งไหมล่ะ”
“ใครว่าเราหาแก” เยี่ยมบุญโกรธจนหน้าแดง
เขาไม่ได้โง่ที่จะตามหาไอ้คนน่ารังเกียจนี่หรอก
“พวกนายกำลังหาคนที่เอาตัวส้มเปรี้ยวไป ก็เท่ากับว่าตามหาฉันไม่ใช่เหรอ” ชายเจ้าเล่ห์พูดอย่างโหดเหี้ยม
เยี่ยมบุญลุกขึ้นทันที “แกลักพาตัวส้มเปรี้ยวไปเหรอ”
เปปเปอร์เบิกตาโต เขาจ้องไปที่มือถือในมือเยี่ยมบุญ
คุณนายตกใจจนแย่งมือถือมา “นายเป็นใคร ทำไมต้องลักพาตัวลูกสาวฉัน ปล่อยตัวลูกสาวฉัน ขอร้องล่ะ นายอยากได้อะไร ฉันให้ได้ทุกอย่าง”
“อยากได้อะไรก็ได้งั้นเหรอ จริงเหรอ” น้ำเสียงของชายเจ้าเล่ห์ฟังดูยียวน
คุณนายพยักหน้ารัว “ใช่ นายต้องการเท่าไรก็ได้!”
“ฉันไม่ต้องการเงิน แค่เอาเอสซีกรุ๊ปมาให้ฉัน ฉันก็จะปล่อยลูกสาวของพวกคุณทันที” ชายเจ้าเล่ห์หัวเราะอย่างร้ายกาจ
สีหน้าของคุณนายอึ้งไป
เยี่ยมบุญแย่งมือถือกลับมา “ฝันไปเถอะ!”
จะเอาเอสซีกรุ๊ปงั้นเหรอ ไม่มีทาง
ชายเจ้าเล่ห์ไม่ได้โกรธอะไร “ล้อเล่นน่า ประธานเยี่ยมบุญอย่าร้อนใจสิ ฉันไม่ได้ต้องการแลกส้มเปรี้ยวกับเอสซีกรุ๊ป เพราะฉันรู้ดีว่ามันยังไม่คุ้ม”
“งั้นนายลักพาตัวส้มเปรี้ยวไปทำไม” เปปเปอร์สอดมือลงไปในกระเป๋ากางเกง เขากำหมัดแน่น ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ และเย็นชามาก
ชายเจ้าเล่ห์ดูคาดไม่ถึง “ที่แท้ประธานเปปเปอร์ก็อยู่ด้วยนี่เอง”
เปปเปอร์ไม่ได้ตกใจ ที่คนๆ นี้รู้จักเขา เพราะมีความแค้นกับตระกูลภักดีพิศุทธิ์ ไม่แปลกที่จะรู้จักเขา
“ตอบมาว่านายต้องการอะไร!” เปปเปอร์ถามอีกครั้ง
ชายเจ้าเล่ห์หยุดขำ น้ำเสียงของเขาร้ายกาจ “เป้าหมายของฉันง่ายดายมาก เธอทำร้ายคนที่ฉันแคร์ที่สุด ฉันต้องการให้เธอชดใช้ด้วยความทุกข์ทรมาน”
ทำร้ายงั้นเหรอ
เปปเปอร์หลับตาคิด
ถ้าพูดเรื่องทำร้าย ไม่นานมานี้ คนที่ส้มเปรี้ยวทำร้ายก็คือมายมิ้นท์
“คนที่นายแคร์ ก็คือมายมิ้นท์งั้นเหรอ” มือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเปปเปอร์ กำแน่นขึ้น เขากำลังสะกดกลั้นอารมณ์
ตอนอยู่ที่ร้านอาหาร เขายังคิดว่ามีผู้ชายรายล้อมเธอหลายคน คิดไม่ถึงว่าจะโผล่มาอีกคน ไม่แน่นี่อาจจะไม่ใช่คนสุดท้าย อาจจะมีที่ยังไม่ได้โผล่หน้ามาอีก
ดูเหมือนตอนที่ยังไม่ได้หย่ากัน เธอคงจะทำความรู้จักกับผู้ชายหลายคนลับหลังเขา ดีจริงๆ!
“มายมิ้นท์ทำร้ายส้มเปรี้ยว!” คุณนายเบิกตาโต น้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง “ทำไมนะทำไม ลูกสาวของฉันทั้งสองคน ถึงหนีไม่พ้นเงื้อมมือปีศาจตระกูลกิตติภัคโสภณ!”
เมื่อได้ยิน แววตาของเปปเปอร์วูบไหว
มิน่าล่ะ ทำไมตระกูลภักดีพิศุทธิ์ถึงเคียดแค้นตระกูลกิตติภัคโสภณ
ที่แท้การตายของชวนชม เกี่ยวข้องกับตระกูลกิตติภัคโสภณนี่เอง
“คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ คุณพูดผิดแล้ว ลูกสาวของคุณทำร้ายมายมิ้นท์ก่อน ดังนั้นไม่ต้องโทษที่ฉันลงมือกับลูกสาวคุณ เปิดคอมพิวเตอร์สิ ฉันจะให้เจอหน้าลูกสาวคุณ นี่คือของขวัญชิ้นที่สองจากฉัน” ชายคนนั้นพูด และหัวเราะออกมา
“เอาคอมพิวเตอร์มา!” เยี่ยมบุญสั่งด้วยความโมโห
ไม่นาน พ่อบ้านก็เอาคอมพิวเตอร์มา
เยี่ยมบุญเพิ่งเปิดคอมพิวเตอร์ บนหน้าจอปรากฏภาพของคนใส่หน้ากากจิ้งจอก สองสามีภรรยาถึงกับตกใจ
เปปเปอร์จ้องชายคนนั้นเขม็ง เพราะอยากดูผิวหนังที่โผล่ออกมา ว่ามีพวกรอยสักหรือแผลเป็นอะไรหรือเปล่า
จะได้หาชายเจ้าเล่ห์จากร่องรอยบนตัวเขา
แต่น่าเสียดาย บนเนื้อตัวของชายคนนั้นไม่มีร่องรอยใด
“ลูกสาวฉันล่ะ จะให้ฉันเจอหน้าลูกไม่ใช่เหรอ ลูกสาวฉันอยู่ไหน!” คุณนายจับหน้าจอ และถามอย่างไร้สติ
ชายเจ้าเล่ห์นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาเดี่ยว ในมือกำลังหมุนแก้วไวน์ช้าๆ “อย่ารีบสิคุณนาย มาแล้วนี่ไง!”
พูดจบ ภาพบนหน้าจอแยกเป็นซ้ายขวา ด้านซ้ายเป็นชายเจ้าเล่ห์ ส่วนด้านขวาเป็นส้มเปรี้ยว
ตอนนี้ส้มเปรี้ยวถูกมัดอยู่บนเก้าอี้ เธอก้มหน้าไม่ขยับ น่าจะเพราะสลบอยู่
แต่ทว่าข้างหลัง มีชายรูปร่างกำยำยืนอยู่คนหนึ่ง เขาปกปิดใบหน้า เห็นเพียงปากกับดวงตาเท่านั้น ไม่เห็นใบหน้าทั้งหมด
ภาพตรงหน้า ทำให้คุณนายสติแตก “ส้มเปรี้ยว!”
เยี่ยมบุญจ้องชายเจ้าเล่ห์เขม็ง
เปปเปอร์ถามด้วยสีหน้าเย็นชา “นายทำอะไรส้มเปรี้ยว!”
“วางใจเถอะ เธอยังสบายดี ไอ้เบิ้ม สาดน้ำให้ตื่นสิ” ชายเจ้าเล่ห์เงยหน้าขึ้นสั่ง
ช่างรูปร่างกำยำข้างหลังส้มเปรี้ยวตอบรับ จากนั้นจึงเดินออกไปจากหน้าจอ และกลับมาพร้อมกะละมังใส่น้ำ เขาสาดไปบนตัวส้มเปรี้ยว
“กรี๊ด!” ส้มเปรี้ยวกรีดร้องและฟื้นขึ้นมา
“ส้มเปรี้ยว!” คุณนายรีบตะโกนเรียกทันที
ส้มเปรี้ยวอึ้งไป จากนั้นก็พูดว่า “แม่ ใช่แม่ไหม”
“แม่เอง แม่เอง” คุณนายเอามือปิดปาก และร้องไห้ออกมา
ส้มเปรี้ยวก็ร้องไห้ เธอร้องไห้ พลางมองไปรอบๆ “แม่อยู่ไหน ทำไมหนูมองไม่เห็นแม่ หนูกลัว แม่รีบมาช่วยหนูด้วย”
“ส้มเปรี้ยวไม่ต้องกลัว แม่จะช่วยลูกเอง พ่อกับเปปเปอร์ด้วย” คุณนายพูดพลาง ดึงแขนเสื้อเปปเปอร์กับเยี่ยมบุญ เป็นการบอกให้พวกเขาพูดอะไรออกมา
เยี่ยมบุญพูดว่า “ส้มเปรี้ยว ไม่ต้องกังวล พ่อจะช่วยลูกออกมาแน่นอน”
“ผมด้วย” เปปเปอร์มองส้มเปรี้ยวในหน้าจอ เธออยู่ในสภาพที่น่าหดหู่ เขาพยายามพูดปลอบใจ “ฝั่งเธอคงไม่ได้เปิดกล้อง จึงมองเราไม่เห็น แต่ไม่ต้องกลัว พวกเรามองเธออยู่ตลอด”
พ่อแม่และคนรักของเธอรู้แล้วว่าเธอโดนลักพาตัว และกำลังปรึกษาเรื่องช่วยเธอ ความกลัวในใจส้มเปรี้ยว ค่อยๆ หายไป และถูกแทนที่ด้วยความเคียดแค้น
เธอฟื้นขึ้นมาครั้งหนึ่ง ระหว่างทางที่ถูกลักพาตัวมา และได้ยินว่า เธอถูกลักพาตัวมาเพราะมายมิ้นท์
เพราะฉะนั้น ความแค้นครั้งนี้ เขาต้องให้มายมิ้นท์ชดใช้เป็นเท่าตัว!