เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ – ตอนที่ 63 ให้โอกาสแกแล้วแต่แกไม่เห็นค่ามันเอง

ตอนที่ 63 : ให้โอกาสแกแล้วแต่แกไม่เห็นค่ามันเอง

 

ท้องถนนเต็มไปด้วยความเร่งรีบและคึกคัก

 

เจียงเฉินและหลันหน่วนเยี่ยนเดินบนถนนเต็มไปด้วยความโรแมนติก ทุกอย่างเงียบง่าย ปล่อยให้บรรยากาศที่ยอดเยี่ยมค่อยๆ ค่อยเติมเต็มในใจ

 

ทั้งคู่มีหน้าตาที่ดีมากๆ จนคนที่ผ่านไปมาต่างหันมามองทั้งคู่กันทั้งนั้น!

 

และคนที่ผ่านไปมาก็ต่างเข้าใจผิดไปกันว่าทั้งคู่นั้นเป็นนายแบบนางแบบหรือไม่ก็ดาราในละครสุดโรแมนติก

 

พวกเขาทั้งหมดเข้าใจผิดว่าเป็นนางแบบแฟชั่นของนิตยสารแฟชั่นหรือดาราในละครไอดอลสุดโรแมนติก

 

อย่างไรก็ตามเจียงเฉินสังเกตเห็นดวงตาหลายคู่กําลังจ้องมองมาที่เขาซึ่งมันไม่ใช่สายตาของคนปกติทั่วไปที่เดินผ่านไปมา

 

แต่มันเป็นสายตาของคนที่ไม่ค่อยชอบใชเท่าไหร่มากกว่า!

 

มันทําให้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

 

เป็นไปได้ไหมที่หลันหน่วนเยี่ยนไปทําให้ใครขุ่นเคืองมา?

 

หรืออย่างที่เธอพูดก่อนหน้านี้ เธอดันไปชนะคดีมา ก็เลยมีคนมาแก้แค้น?

 

เจียงเฉินทําตัวให้ดูสงบและถามราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น “หน่วนหน่วนเมื่อเร็วๆ นี้คุณเคยเจอคดีอะไรมาบ้างล่ะ”

 

“ไม่เลย”

 

หลันหน่วนเยี่ยนกระพริบตา แล้วแลบลิ้นออกมาอย่างน่ารัก “บอกให้ก็ได้ ฉันยังอยู่ในขั้นตอนการฝึกงานและยังไม่ได้รับงานทนายอย่างเป็นทางการ”

 

เจียงเฉินขมวดคิ้ว

 

มันแปลกมากถ้าเธอยังไม่ได้ทํางานเต็มตัวก็ไม่น่าจะมีใครมีปัญหากับเธอนิ?

 

ความแข็งแกร่งทางกายของเขาในตอนนี้แทบเรียกได้ว่าศูนย์เลย ถ้าเขาบังเอิญไปเจอกับพวกคนไม่ดีเขาอาจจะไม่สามารถรับมือได้

 

เจียงเฉินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และติดต่อไปยังหมายเลขหนึ่งทันที และอีกผ่านก็ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

 

หลังจากนั้นเจียงเฉินก็ทําได้แค่เพียงผ่อนคลายและเดินช็อปปิ้งต่อ

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ตอนนี้ก็เกือบเย็นมากแล้วเกือบจะหกโมงพอดี

 

พระอาทิตย์ที่กําลังตกดินก็แดงเหมือนกับเปลวเพลิง

 

เจียงเฉินจับมือของหลันหน่วนเยี่ยนและเดินเคียงข้างเธอ

 

แสงอาทิตย์ที่กําลังตกก็ส่องลงมาที่ร่างของทั้งคู่ สร้างเงาที่ดูแสนโรแมนติกฉายลงมาบนพื้น

 

หลันหน่วนเยี่ยนกระพริบตาของเธอตาเป็นประกายขนตาที่โค้งงอนยาวของเธอก็สั่นเล็กน้อยแล้วพูดว่า

 

“นายจับมือฉันมาซักพักแล้วนะ ฉันไม่ใช่เด็กซะหน่อย”

 

เจียงเฉินยิ้มออกมาและพูด “แต่เธอเป็นแฟนของฉันนะ”

 

“ฉัน…”

 

ดวงตาที่สวยงามของหลันหนวนเยี่ยนเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ฉันไปตอบตกลงนายตอนไหนกัน?”

 

“ตอนนี้ไง”

 

เจียงเฉินยิ้มออกมาบางๆ

 

“ฉันเพิ่งรู้นะเนี่ย ว่านายเป็นคนพาลขนาดนี้”

 

หลันหน่วนเยี่ยนไม่สนใจและมีความสุขไปกับมันต่อแต่มุมปากของเธอก็อดที่จะยกขึ้นไม่ได้

 

ผู้หญิง คือสิ่งที่ซับซ้อนที่สุดเสมอ

 

ในเวลานี้เอง ผู้ชายตัวใหญ่สี่คนกําลังถือไม้เบสบอลก็เดินเข้ามาจากด้านข้างพร้อมกับใบหน้าที่ไม่ได้แสดงเจตนาดี!

 

ตาของเจียงเฉินหรี่ลง และคิดว่าคนที่ควรจะมาถึงนาจะมาถึงได้แล้ว

 

ชายทั้งสี่แสดงใบหน้าที่ดุร้ายออกมากระจายตําแหน่งของพวกเขาล้อมทั้งคู่ไว้

 

กลุ่มนี้นาโดยคนสองคนคือหมีใหญ่และหมีรองทั้งคู่หน้าตาแทบจะเหมือนกันทุกประการ และทั้งคู่ก็ยังแข็งแรงมากอีกด้วย

 

หมีใหญ่คนนี้สูงเกือบจะ 190 ซม.มาพร้อมกับใบหน้าที่มีรอยมีด และร่างกายที่เหมือนกับโค้ชนักกีฬาเพาะกาย ทําให้คนที่ได้เห็นต่างรู้สึกกลัว!

 

“ฮี เด็กน้อยแกถูกพวกข้าล้อมแล้ว!”

 

เจียงเฉินยิ้มบางๆ “ผิดแล้ว พวกแกต่างหากที่ถูกฉัน ล้อม”

 

????

 

ทุกคนต่างงงกันทันที

 

หมีใหญ่ “ผายลมอะไรของแกออกมา แกกล้าพูดได้ไงว่าแกล้อมพวกข้าในเมื่อแกมีคนเดียว?”

 

เจียงเฉินยิ้มออกมา “ใครบอกว่าฉันมีคนเดียว?”

 

ชายทั้งสีคนหันมองหน้ากัน

 

หนึ่งในนั้นก็เยาะเย้ยออกมา “แล้วไหนล่ะคน? มีแค่พวกแกสองคนอยู่ครงนี้ แล้วคนอื่นละอยู่ไหน!?”

 

เจียงเฉินพูดต่อ “ฉันให้โอกาศพวกแกครั้งสุดท้าย บอกฉันมาว่าใครส่งพวกแกมา แล้วฉันจะพิจารณาดูว่าจะปล่อยพวกแกไปไหม”

 

ทั้งสี่คนหันไปมองดูรอบๆ แต่ก็ไม่พบอะไรเลย

 

ไม่มีอะไรอื่นเลยนอกจากพวกเขาตรงนี้

 

หมีใหญ่หมุนคอไปมาจนกระดูกของเขาส่งเสียงดังออกมา “ไอ้เด็กน้อย อย่าตื่นตระหนกแล้วอย่ามาขัดขาฉันคนนี้ก็แล้วกัน”

 

“สองขางั้นหรอ? เยี่ยมไปเลย”

 

เจียงเฉินดีดนิ้วของเขา

 

ทันใดนั้น

 

ประตูรถตู้สามคันก็เปิดออกคนนับโหลต่างพากันวิ่งออกมา

 

แต่ละคนดูโหดเหี้ยม พวกเขาถือแท่งเหล็กหนา 3 ซม.ไว้ ในมือ

 

ในกลุ่มคนนั้น ก็ปรากฏสาวงามคนหนึ่งออกมาเธอใส่ชุดสีดําซึ่งดูสะดุดตามาก และยังมีรอยยิ้มที่ดูชั่วร้ายโผล่ออกมาจากปากของเธอ

 

ขาที่สวมถุงน่องสีดํายาว 106 ซม. ไม่มีร่องรอยของไขมันให้เห็น และบั้นท้ายสีพีชก็เย้ายวนมาก เธอเดินออกมาอย่าง มีเสน่ห์!

 

รูปร่างของเธอทั้งด้านหน้าและหลัง ดูสวยสุดยอดและใบหน้าของเธอนั้นก็สุดยอดยิ่งกว่า

 

ทําให้ใครที่ได้เห็นต่างก็อยากจะพิชิตเธอ

 

แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม คนพวกนี้ต่างรู้ดีว่าอย่าได้ยุ่งกับเธอถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่!

 

หมีใหญ่และหมีรองกรามอ้าจนแทบตกถึงพื้นด้วยความประหลาดใจ!

 

“อีก~~”

 

“บ้าเอ้ย นั่นมันเล้งเซียกับเสี่ยวลู่!”

 

“พวกเราโดนล้อมแล้ว! เวรเอ้ย!”

 

“พี่ใหญ่สถานการณ์เราไม่ดีแล้ว”

 

“คาดไม่ถึงเลยว่าเล้งเซี่ยเธอจะเป็นคนของเขา!”

 

“…”

 

เจียงเฉินกระพริบตาให้กับเล้งเซียและทิ้งหลัน หน่วนเยี่ยนไว้กับเธอ

 

ปรากฏว่าหลังจากที่ออกมาจากโรงพยาบาล เล้งเซียก็ได้ เบอร์โทรศัพท์ของเจียงเฉินมาก่อนจะโทรไปหาเขาเพื่อ คืนเงินที่เขาให้มากลับไป แต่ว่าเจียงเฉินนั้นปฏิเสธไป

 

ดังนั้นเล้งเซี่ยเธอจึงเสนอตัวทํางานให้เขาเป็นเวลาหนึ่งปี แต่สุดท้ายเจียงเฉินก็ปฏิเสธอยู่ดี

 

แต่วันนี้ สถานการณ์เปลี่ยนไป หลังจากคิดอย่างละเอียด ถี่ถ้วน แล้วเขาก็คงต้องหาลูกน้องมาทํางานด้านนี้จริงๆ

 

เล้งเซีย เสี่ยวและลูกน้องของพวกเขาต่างก็เหมาะกับงานนี้พอดี

 

ส่วนเรื่องปัญหาที่จะตามมา เดี๋ยวก็ค่อยใช้เงินแก้เอา

 

แต่ในตอนนี้ เขาควรจบปัญหาให้ไวที่สุด

 

หมีใหญ่และหมีรองถูกเล้งเซียและเสี่ยวลู่พร้อมลูกน้องปราบจนลงไปนอนกองกับพื้นลุกขึ้นไม่ไหว

 

จับขึ้นมาคุกเขา!

 

ทันใดนั้นเจียงเฉินก็เดินเข้ามาใกล้ๆ

 

เล้งเซี่ยพูดอย่างเคารพ “คุณเจียง”

 

เสี่ยวอําพร้อมกับลูกน้องอีกสิบสามคนก็ยืนขึ้นมาทําความเคารพพร้อมกัน

 

“คุณเจียง”

 

“โอเคๆ”

 

เจียงเฉินพูดออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินไปที่หมีใหญ่และพูดออกมา “จะบอกดีๆหรือจะให้ฉันหักขาแกก่อนดี?”

 

เสียงของเจียงเฉินในตอนนี้ไม่ต่างจากยมทูติที่เข้ามาเพื่อเอาวิญญาณไปอีกโลกหนึ่ง

 

หมีใหญ่ตัวสั่นไปทั้งตัว: “ไม่..ไม่…ไม่..ผมผิดไปแล้วพี่ใหญ่ โปรดยกโทษให้ผมด้วย ผมผิดไปแล้วจริงๆ ผมแค่ทําตามคําสั่งคนอื่น!”

 

“แต่ตอนนั้นฉันให้โอกาศแกแล้ว แต่แกไม่รับมันไว้เอง”

 

เจียงเฉินหันหลังกลับ “หักขาเขาให้ฉัน”

 

แกเคารพฉันด้วยเท้าฉันก็จะตอบแทนแกด้วยเท้า ถ้าแกหาเรื่องฉันก็อย่ามาว่าฉันเสียมารยาท!

 

“อ๊าก~~”

 

เสียงคร่ำครวญดังขึ้น และกระดูกสะบ้าหัวเข่าของหมีใหญ่ก็โดนหักโดยตรง

 

เล้งเซี่ยพูดอย่างเฉยเมย: “คุณเจียงพวกเรา หักเขาของเขาตามที่คุณสั่งแล้ว”

 

“เยี่ยม”

 

เจียงเฉินจ้องไปที่หมีใหญ่อีกครั้งแล้วพูดว่า “ที่นี้จะบอก ได้รึยังวใครส่งพวกแกมา?”

 

หมีใหญ่เจ็บจนน้ำตาไหลออกมา “เป็นหลงเส้า เป็นหลงเส้าที่โทรบอกให้พวกเรามาเธอบอกว่าคุณเป็นคนฆ่าพี่หลงสามีของเธอ เธอก็เลยส่งพวกเรามาจัดการคุณ”

 

หวังไห่หลงมีชื่อเล่นว่าพี่หลง คงจะเป็นวันนั้นที่เขานั้นที่เขาโกหกเล้งเชียที่ร้านอาหาร

 

“วี้หว่อ วี้หว่อ”

ในเวลานี้เองเสียงไซเรนตํารวจก็ดังขึ้น

 

มีใครบางคนแถวๆนี้โทรหาตํารวจ

 

เล้งเซี่ยเตือนเจียงเฉินทันที “คุณเจียง ตํารวจกําลังมาแล้ว”

 

“ไป”

 

เจียงเฉินออกคําสั่ง ทุกคนหันหลังกลับและจากไป เขาก็ ไม่ได้อยากจะอยู่ที่นี่แล้วโดนจับไปสอบสวนเท่าไหร่หรอก

 

รถตู้สามคันและ Koenigsegg One:1 ของเจียงเฉินขับ ออกไป!

 

ไม่นานตํารวจก็มาถึง

 

หลินซีหลานเจอตัวชายทั้งสี่คน เธอทําการสอบปากคําคน ทั้งสี่และพบว่าอีกฝ่ายหนึ่งนั้นเป็นผู้ชายที่หล่อแล้วก็มีแซ่เจียงอีกแล้ว!

 

นี่เป็นเรื่องบังเอิญงั้นหรอ!

 

แน่นอนว่าหมีใหญ่ต้องพยายามหาทางรอดให้ตัวเองโดย การใส่ร้ายเจียงเฉินทุกอย่างที่ทําได้ บอกว่าเขานั้นทําอะไรเลวทรามบ้าง

ดวงตาที่สวยงามของหลินซีหลานหร่ลง

 

เจียงเฉิน? เป็นเขาอีกแล้วเหรอ?

 

ทําไมถึงจับไม่ได้ซักกะทีนะ!

 

วันนี้ถึงขั้นมีเรื่องต่อยตี เขาน่ากลัวขึ้นทุกวันจริงๆ!

 

หลินซีหลานในตอนนี้ดูทั้งน่ารักและดุร้ายจากความโกรธ! (ความเข้าใจผิดเริ่มลึกซึ้ง.)

 

ในตอนนี้เอง

 

เจียงเฉินมอบเงินให้เงินคนที่มาช่วยเขาวันนี้ไป 500,000 เอาไปแบ่งกัน

 

หลังจากนั้นเขาก็กลับมาที่วังของตัวเองกับเล้งเซีย

 

พร้อมวางแผนการต่อไป

 

แม้ว่าวันนี้จะยังเอาชนะได้แต่วันหน้าก็ยังต้องเพิ่มความ ระมัดระวังอยู่

เจียงเฉินเดินนําหน้าโดยมีเล้งเซี่ยเดินตามหลัง

 

ทันใดนั้นเจียงเฉินก็หยุดและเล้งเซี่ยเธอก็เดินมาชนแผ่นหลังของเจียงเฉิน โดยไม่ได้ตั้งใจก้อนที่แสนนุ่มทั้งสองกระทบเข้ากับหลังของเขามันชั่งนุ่มและยืดหยุ่นจริงๆ

 

เจียงเฉินหันกลับมา “เธอทําอะไร?”

 

เจียงเฉินหันกลับมา: “คุณกําลังทําอะไร?”

 

ใบหน้าสวยของเล้งเซี่ยดูร้อนผ่าวเล็กน้อย “ไม่ใช่ว่าคุณพูดเองหรอ ว่าให้ฉันเป็นบอดี้การ์ดของคุณ?”

 

ต้องบอกเลยว่า

 

ผู้หญิงคนนี้…ดีจริงๆ~

Comment

Options

not work with dark mode
Reset