ตอนที่ 61 : ไม่อนุญาตให้สุนัขเข้าไปข้างใน?
แม้ว่าหลันหน่วนเยี่ยนจะเป็นลูกสาวจากบ้านที่ร่ำรวยแต่ เธอก็สามารถไปเป็นภรรยาของคนธรรมดาๆได้โดยที่ไม่รังเกียจ
และการออกเดตครั้งนี้เจียงเฉินก็เป็นฝ่ายที่เชิญเธอมา โดยพนันว่าตราบใดที่เขานั้นชนะคดีของครูหยางได้ เธอจะต้องไปทานข้าวกับเขา
แม้แต่คนโง่ก็รู้ว่าถ้ามีทนายสวรรค์ไปด้วยยังไงก็ชนะแน่นอน
ซึ่งแน่นอนว่าผลลัพธ์ก็เป็นไปตามคาด
ร้านอาหารอิตาเลียนชั้นนําแห่งหนึ่ง
บรรยากาศที่หรูหราและเงียบสงบ
เจียงเฉินยื่นสเต็กที่ถูกเขานั่นให้หลันหน่วนเยี่ยนราวกับเขาเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง
หลันหน่วนเยี่ยนก็นํามานั่นก่อนจะนํามันเข้าปากเธอรับรู้ได้ทันทีว่าสเต็กชิ้นนี้ดูเหมือนจะอร่อยกว่าที่เธอเคยกินมาทั้งหมด
หลันหน่วนเยี่ยนมองไปรอบๆ ก่อนจะจิ้มขึ้นมาชิ้นหนึ่ง แล้วส่งเข้าปากเจียงเฉิน
“เจียงเฉิน มันอร่อยมากลองชิมหน่อยไหม?”
เจียงเฉินมองไปที่สเต็กเบื้องหน้าของเขา
เขาก็กินมันอยู่ไม่ใช่หรอ
เขาอ้าปากก่อนจะกัดลงบนชิ้นเนื้อบนส้อมของเธอ
ดูเหมือน…
มันจะอร่อยกว่าบนจานของเขาจริงๆด้วย
หลันหนวนเยี่ยนยิ้มหวานเธอมีความสุขมากและพึงพอใจกับการทานอาหารในครั้งนี้
ในสายตาของคนภายนอก พวกเขาเหมือนเห็นฟองอากาศรูปหัวใจลอยออกมาจากโต๊ะของทั้งคู่ความหวานพุ่งทะลุกระสอบน้ำตาล
มันหวานมาก!
โต๊ะที่มาเป็นคู่ต่างเริ่มทําตามกันทันที
หญิงสาว “เร็วเข้าสิ ป้อนฉันเร็ว!”
ชายหนุ่ม “…”
เจียงเฉินและหลันหน่วนเยี่ยนก็เห็นเช่นกันพวกเขาทั้งคู่ต่างยิ้มออกมา
ทั้งคู่เริ่มพูดคุยกัน ตั้งแต่เรื่องดาราศาสตร์ไปจนถึงภูมิศาสตร์
แล้วก็วนกลับมาคุยกันเรื่องงาน
เจียงเฉินถามด้วยความสงสัย “ครอบครัวของคุณก็น่าจะรวยนิ ทําไมถึงได้เลือกมาเป็นทนายความหรอ?”
หลันหนวนเยี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย “ในสังคมแบบนี้คน รวยดูเหมือนจะควบคุมได้ทุกอย่างคนธรรมดาๆหลายคนถูกบังคับให้ยอมความเพราะพวกเขาไม่มีเงินมากพอจะไปสู้คดี ฉันก็เลยต้องการช่วยเหลือคนกลุ่มนี้นะ”
ดวงตาของเจียงเฉินเป็นประกายและถามต่อไป “แล้วคุณมีแผนสําหรับอนาคตไหมแล้วเรื่องความฝันละ”
“ความฝันงั้นหรอ?”
หลันหนวนเยี่ยนกระพริบตา “ในอนาคตฉันอยากจะเปิดสํานักงานกฏหมายเพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนชั้นล่างนะ”
แต่หลังจากที่เธอพูดจบก็หัวเราะออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่ฉันโง่แบบนี้นี่เอง ไม่สงสัยแล้วว่าทําไมพ่อของฉันถึงเอาแต่บอกว่าฉันโง่”
หลันหน่วนเยี่ยนยิ้มออกมาก่อนจะกินสเต็กเข้าไปอีกคํา
รูปร่างภายนอกของเธอนั้นสวยจริงๆ แต่จิตใจที่อยู่ข้างในกลับสวยงามยิ่งกว่า
เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด เจียงเฉินที่มีเงินเป็นหมีล้านๆยังต้องรู้สึกละอายใจ เขาเลยอยากจะตัดสินใจทําบางอย่างเพื่อสังคม
“ไม่เลย มันไม่ได้โง่หรอก”
เจียงเฉินพูดอย่างจริงจัง
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลันหนวนเยี่ยนก็ยื่นใบหน้าเล็กๆของเธอ “คงจะดีถ้าพ่อของฉันเข้าใจฉันเหมือนที่นายเข้าใจ”
เจียงเฉินพูด “งั้นขอผมคุยกับคุณลุงหน่อยได้ไหม”
หลันหน่วนเยี่ยนโบกมือ “ไม่มีทางหรอก พ่อของฉันน่ะ เขาน่ะซื่อจะตาย แถมเขาไม่ค่อยฟังคนอื่นด้วย”
เจียงเฉินพยักหน้า
ดูเหมือนจะเป็นครอบครัวที่จัดการยากพอสมควร
หลันหน่วนเยี่ยนยังพูดเสริมอีกว่า “อันที่จริง พ่อของฉันไม่เห็นด้วยกับการที่ฉันมาเป็นทนายมาโดยตลอดเพราะมีทนายไม่น้อยเลยที่ต้องมาตายเพราะการที่พวกเขาสามารถชนะคดีได้”
เจียงเฉินตกใจมาก “อันตรายขนาดนั้นเลยหรอ?”
“ใช่”
หลันหน่วนหยานพูดต่ออีก “ครั้งก่อนทนายความในสํานักงานกฏหมายของเรามีทนายคนหนึ่งชนะคดีและลูกชายของนักธุรกิจผู้มั่งคั่งคนหนึ่งถูกตัดสินประหารชีวิตหลังจากนั้นนักธุรกิจคนนั้นก็ส่งคนไปเพื่อฆ่าทนายคนนั้น”
”เข้าใจรึยังล่ะ?”
เจียงเฉินจงใจถาม: “เข้าใจอะไรหรอ?”
“น่าเกลียด”
ใบหน้าของหลันหน่วนเยี่ยนแดงขึ้นทันที เธอเอื้อมมือออกไปและตบเจียงเฉินเบาๆและกล่าวว่า “อยากถามอะไรอีกไหม”
เจียงเฉินยิ้มและถามอย่างจริงจัง: “เกิดอะไรขึ้นกับนัก ธุรกิจหลังจากนั้นล่ะ?”
หลันหน่วนเยี่ยนตอบ “หลังจากนั้น นักธุรกิจคนนั้นและนักฆ่าก็ถูกจับได้ แต่ถึงอย่างนั้นเพื่อนร่วมงานของเราก็ไม่กลับมา”
เจียงเฉินเงียบ
กลายเป็นว่าการเป็นทนายก็ยากเหมือนกันนะ โดยเฉพาะการเป็นทนายที่ยุติธรรม
ในเวลานี้เจียงเฉินดูเหมือนจะเข้าใจแล้วว่าทําไมพ่อของหลันหนวนเยี่ยนถึงไม่เห็นด้วย
ถ้าหลันหน่วนเยี่ยนเป็นแฟนเขาเขาก็ไม่อยากเช่นกัน!
ในเวลานี้เองก็เกิดการทะเลาะกันที่ประตูทางเข้า
ผู้หญิงคนหนึ่งสวมแว่นกันแดดแต่งตัวเรียบร้อย เธอจูงสุนัขลาบราดอร์สีเหลืองมาและพยายามจะเข้ามาทานอาหารในร้าน
แต่ก็ถูกพนักงานของร้านหยุดไว้ก่อน
พนักงานของร้านพูดอย่างเย็นชา “ร้านอาหารไม่อนุญาติให้นําสัตว์เลี้ยงเข้ามาค่ะ”
ผู้หญิงคนนั้นก็พยายามอธิบายว่า “ไม่มันไม่ใช่สัตว์เลี้ยง แต่มันเป็นสุนัขนําทางของฉันชื่อ อาหวาง อายุ 2 ปี”
พนักงานเสร์ฟมองด้วยสายตารังเกียจ “สุนัขนําทางไม่ใช่ สุนัขรึไง? ถ้าคุณพามันเข้ามาในร้านแล้วไปกัดคนอื่นล่ะ”
หญิงชราอธิบายต่อไป “อาหวางเป็นสุนัขนําทางที่ดี บรรพบุรุษของมันไม่ได้กัดคนมาตั้ง 6 ชั่วรุ่นแล้วแถมยังได้รับการอนุมัติจากรัฐและสามารถเข้าไปได้ทุกที่”
“ฮ่า”
พนักงานเสร์ฟไม่สนใจก่อนจะไล่เธออีกครั้ง “ฉันไม่สนใจ หรอกจะ 6 รุ่นหรือ 18 รุ่นยังไงก็ตามไปหาร้านอื่นกิน เถอะ!”
ในเวลานี้ ลูกค้าจํานวนมากมองออกไป ส่ายหัวก่อนจะ เยาะเย้ยและกระซิบกัน
“หญิงสาวตาบอดมากินข้าวกับสุนัข ไม่รู้รึไงว่าร้านนี้เป็น แบบไหน”
“พนักงานเสิร์ฟรีบๆไล่เธอไปเร็ว ฉันไม่อยากอาหารแล้ว เนี่ย!”
“ใช่แล้ว ไม่รู้ว่าสุนัขนี่มันจะมีเชื้อโรคเยอะขนาดไหน ฉันมาที่นี่เพื่อใช้เงินหาความสุข ไม่ใช่เพื่อพิษสุนัขบ้า”
สุนัขนําทางอาหวงร้องหงิงๆออกมามุมปากมันกระตุกก่อนจะถอยไปสองสามก้าว
สุนัขนําทางชนนี้ฉลาดมากถ้าจะเทียบ IQ กับคนก็น่าจะ ได้ประมาณเด็ก 5-6 ขวบตอนมันโดนดูถูกก็ดูเหมือนว่ามันจะเข้าใจและอยากจะร้องไห้ออกมา
พนักงานร้านไม่ทนอีกต่อไป “ออกไปได้แล้ว อย่าทําให้ฉันต้องเสียเวลา”
เห็นฉากนี้แล้ว หลันหนวนเยี่ยนต้องการที่จะเดินไปและแสดงใบรับรองให้คนกลุ่มนี้ได้ดู
“ฉันเป็นทนายความ กฎหมายถูกกําหนดไว้อย่างชัดเจน ว่าสุนัขนําทางสามารถพาเข้าไปในพื้นที่สาธารณะได้ทุกที่! มันไม่ใช่แค่สุนัขแต่มันเป็นเหมือนดวงตาของพี่สาวคนนี้ คุณช่วยกรุณาให้เธอเข้ามาได้ไหม”
ตอนแรกที่พนักงานเห็นหลันหนวนเยี่ยนก็แสดงท่า ทางตกใจออกมา แต่ในวินาทีต่อมาก็ส่ายหัวก่อนจะเยาะเย้ย
“ผู้จัดการร้านบอกว่า ไม่! ไม่! ไม่! ต่อให้เป็นจักรพรรดิสวรรค์มาเองก็ไม่ช่วยหรอก! ฉันจะแนะนําให้นะว่าอย่าทําตัวเอาแต่ใจนักนะคุณทนายความคนสวย และกลับไปกินอาหารดีๆจะได้ไม่ต้องอับอาย”
“นาย!”
หลันหนวนเยี่ยนหน้าแดงก่ำ ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ไม่ได้ต่างกับลูกนกเธอยังอ่อนโยนเกินไป
ดวงตาของเจียงเฉินหลง
กล้าที่จะรังแกผู้หญิงของฉันคนนี้?
เขาก้าวออกไปข้างหน้าแล้วดึงหลันหน่วนเยี่ยนไปอยู่ข้างหลัง
ความรู้สึกของการเป็นผู้ถูกปกป้องทําให้เธอมีความสุขและอบอุ่น
เจียงเฉินจ้องไปที่พนักงาน “อย่าพูดอะไรไร้สาระ บอกเจ้านายของคุณให้ออกมาพบผมเดี๋ยวนี้!”
พนักงานเสิร์ฟอารมณ์เสียมาก “พวกคุณสองคนอยากหาเรื่องกันใช่ไหม?”
เจียงเฉินพูดอย่างเย็นชา “ฉันแค่อยากคุย ในเมื่อบ้านเมืองมีกฎหมายไว้เป็นตัวกําหนดสิ่งต่างๆแล้ว แล้วคุณทําตามไม่ได้ใช่ไหม?”
เจียงเฉินชี้ไปที่สุนัขนําทางอาหวง
“ดูเอาเองนะ สุนขนาทางนั้นกําลังเสียใจและร้องไห้อยู่ คุณรู้ไหมว่าคุณทําให้มันได้รับความเสียหายทางจิตใจแค่ไหน”
พนักงานเสิร์ฟเยาะเย้ยและพูดว่า “ฉันอยากจะหัวเราะ จริงๆ สุนัขมีบาดแผลทางใจหรอ คุณล้อเล่นหรือเปล่า? ผมคงไม่ต้องทําตามที่แฟนคุณบอกหรอกมั้ง?”
คิ้วของเจียงเฉินขมวดอย่างเย็นชาและเขาพูดอย่างเคร่งขรึม: “ฉันจะบอกคุณให้นะ! ทําตามที่แฟนของผมพูดมิฉะนั้นร้านของคุณจะไม่เปิดอีกต่อไป!”
พนักงานเสิร์ฟตกใจทันที
เวร!
เจอตอแข็งเข้าแล้ว!
“รอผมก่อน ผมจะให้ผู้จัดการออกมาคุยกับคุณ!”
บริกรรีบขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็วและเรียกผู้จัดการร้านลงมา
“จําเป็นต้องทําให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วยรึไงเนี่ย?”
ผู้จัดการร้านเป็นคนอ้วน และเขาและพนักงานเสิร์ฟมีหน้าตาที่เกือบจะเหมือนกัน
“ฉันเป็นผู้จัดการร้าน และฉันขอสั่งคุณเลย! คุณกับผู้หญิงของคุณรีบออกไปจากร้านของฉันเดี๋ยวนี้ไม่งั้นฉันจะเรียกรปภ.!”
ผู้หญิงตาบอดยิ้มอย่างขอบคุณก่อนจะพูดออกมา “ไม่ เป็นไรหรอกค่ะ ฉันกับอาหวงขอบคุณจริงๆ แต่ฉันไปซื้ออาหารที่อื่นเอาก็ได้ค่ะ”
“เจียงเฉิน…”
มือเล็กๆที่อ่อนนุ่มของหลันหน่วนเยี่ยนถึงเจียงเฉินไว้แน่น
คนเรานะอยู่เพื่อต่อสู้เพื่อที่จะได้มีลมหายใจต่อไป
สําหรับพวกชั่วร้ายแบบนี้ ฉันเจียงเฉินจะไม่ยอมก้มหัวให้เด็ดขาด!
เจียงเฉินเอียงศรีษะและยิ้มไปทางหลันหนวนเยี่ยน “ไม่เป็นไรมีผมอยู่คุณไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”
“คิดว่าจะไปง่ายๆงั้นหรอ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! รปภ.มาแล้ว!”
ผู้จัดการร้านโบกมือ
หึหึ! รปภ.4 คนเริ่มลงมือ!
“เอาตัวพวกมันโยนออกไป!”
ผู้จัดการได้ออกคําสั่ง
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสี่รีบพุ่งเข้าหาเจียงเฉินโดยตรง!
ในเวลานั้นเอง…