วันต่อมา
วันนี้ก็เป็นวันที่ป้าหวังนั้นให้เขาไปนัดบอดกับหลานสาวของเธอ
ฝ่ายหญิงมีชื่อว่า หลิวหลาน และเธอก็จบเกียรตินิยมมาจากมหาลัยด้วย
พวกเขาทำการแอด wechat
และทำการนัดเวลาและสถานที่กันการนัดหมายครั้งนี้พวกเขาจะไปเจอกันตอนประมาณ 4 โมง
ณ ชิงชิงเก่อคาเฟ่
เป็นร้านที่ดูแล้วสวยไม่น้อยเลยแถมยังมีบรรยากาศที่ค่อนข้างสงบเงียบดีด้วย
ในฐานะสุภาพบุรุษ เจียงเฉินก็มาถึงก่อนเวลาถึงยี่สิบนาทีก่อนจะสั่งกาแฟมาหนึ่งแก้วและนั่ง
จนกระทั่งตอนนี้เวลา 4.30
ผู้หญิงที่ชื่อหลืวหลานก็เดินเข้ามาอย่างช้าๆและนั่งลงตรงหน้าเจียงเฉิน
หน้าของเธอแสดงออกถึงความเย็นชา ตามฉายาของเธอ ราชินีจอมโหดร้าย
โดยปกติแล้วเธอก็ควรจะมาถึงตามเวลา แต่เพื่อที่จะทำลายการนัดครั้งนี้ เธอจึงตัดสินใจมาสายครึ่งชั่วโมง
แต่เมื่อเธอมาถึงและได้เห็นเจียงเฉินเป็นครั้งแรกก็ทำให้เธอประหลาดใจเล็กน้อย
คู่นัดบอดของเธอไม่หล่อไปหน่อยหรอ?
แต่หลังจากที่เธอเห็นว่าเสื้อผ้าทั้งตัวของเขามีมูลค่าไม่ถึง 200 หยวนเธอก็ไม่สนใจรูปร่างหน้าตาของเขาอีกต่อไป
หน้าตาดีแล้วยังไงถ้าไม่มีเงินให้ฉันตกหลุมรักก็ไร้ประโยชน์
ลองคิดดูสิ?
ผู้ชายของฉันหลิวหลานคนนี้ต่อให้หน้าตาน่าเกลียดแต่ก็ไม่เป็นไรขอแค่มีเงินก็พอแล้ว!
หลิวหลานพูดอย่างอดทน “นายคือเจียงเฉินที่ป้าหวังแนะนำมาสินะ”
เจียงเฉินลืมตาขึ้นมาจ้องดูผู้หญิงตรงหน้าที่มีใบหน้าที่ทำให้คนที่คุยด้วยรู้สึกไม่ดีด้วย
“ใช่ครับ ผมเอง”
เจียงเฉินตอบกลับไปก่อนจะหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับเธออยู่แล้ว
หลิวหลานก็ยังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “โอเค งั้นเรามาเปลี่ยนจากการคุยยืดเยื้อมาเป็นการคุยแบบสั้นๆก็แล้ว กัน นายมีบ้านรึเปล่า”
“มี อยู่ที่วงแหวนรอบที่สองของเขตเมืองหลวงจักรวรรดิ
วังของเขาตรงนั้น ก็คงนับว่าเป็นบ้านได้มั้ง?
หลิวหลานที่ได้ฟังก็ไม่เชื่อ ที่ดินย่านนั้นมีราคาอย่างน้อยก็หลักล้าน จะเป็นไปได้ยังไงที่คนส่งพัสดุอย่างเขาจะมีบ้านในนั้น
น่าตลกซะจริง!
“มีรถไหม?”
“มีรถสปอร์ตอยู่หนึ่งคน”
หลิวหลานที่ได้ยินก็กลอกตา นี่เขาเป็นคนส่งพัสดุจริงรุเปล่าเนี่ย?
“แล้วนายทำอาชีพอะไร”
“คนส่งพัสดุ”
จริงๆด้วย!
เมื่อได้ยินคำตอบ หลิวหลานก็เผยรอยยิ้มดูถูกออกมา เพราะในที่สุดเจียงเฉินก็พูดความจริงออกมา
“ฉันคิดว่าเราไม่เหมาะสมกัน ครั้งนี้ที่ฉันมาก็เพราะฉันไว้หน้าป้าหวาง อย่าเอาเรื่องในวันนี้ไปเก็บมาคิดจริงจังละกัน”
ใครกันแน่ที่ไม่ไว้หน้าป้าหวาง?
ดูสิ่งที่เธอทำสิ!
ลมหยุดพัด!
ฝนหยุดตก!
คิดว่าตัวเองจะทำอะไรก็ทำได้ทุกอย่างรึยังไง
เจียงเฉินนั้นก็รู้สึกไม่ดีด้วยเหมือนกันก่อนจะพูดออกไปแบบเรียบๆว่า “ผมก็คิดว่าคุณก็ไม่ได้ดีไปกว่าผมหรอก”
การที่จะมาสายมันก็ไม่เป็นปัญหาอะไร เพราะทุกคนย่อมมีเหตุผลส่วนตัว
แต่การที่มาสายแล้วไม่ขอโทษอะไรเลย แถมยังมาพูดอะไรแบบนี้
หึ่ง~
[น้องชาย ฉันคิดถึงนายจังเลย มาเจอกันหน่อยไหม จุ๊บๆ~]
“ผมขอตัวก่อน“
เจีนงเฉินหันหลังก่อนจะเดินออกไปและตอบข้อความกลับไปหาอันฉิงไปด้วย
หลิวหลานในตอนนี้ถึงกับโง่งมก่อนจะระเบิดอารมณ์ออกมา
“คิดจะไปก็ไปงั้นหรอ?”
ทำไมเธอถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ น้าหวางแนะนำใครมาให้เธอกันแน่?
หลังจากที่เจียงเฉินออกไป หลิวหลานก็โทรไปบ่นกับเพื่อนสาวของเธอทันที
“หยาซิน พี่มาหาฉันหน่อย ฉันอยู่ที่ซิงซิงเก่อคาเฟ่ ฉันกำลังอารมณ์เสียเพราะไอ้ผู้ชายปากสุนัขอยู่”
“โอเคๆ เดียวฉันจะรีบไปทันที”
หลังจากนั้นไม่นาน
หยาซินที่ที่โทรคุยกับเธอผ่านทางโทรศัพท์ก็มาถึง และก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเธอคือ หยาซินคนเดียวกันกับเพื่อนร่วมรุ่นของเจียงเฉิน
“หยาซินในที่สุดพี่ก็มา คู่นัดบอดของฉันทำให้ฉันอารมณ์เสียจริงๆ” หลิวหลานบ่นออกมา
“เกิออะไรขึ้นล่ะ? บอกฉันมาหน่อย” หยาซินถามออกมา
หลิวหลานที่ได้ยินก็เริ่มเล่าออกมาด้วยความโกรธ
“เขาเป็นพนักงานส่งพัสดุ ฉันไม่ชอบเขาเลยจริงๆ และหลังจากนั้นฉันก็ลองถามคำถามเขาดู จนตอนสุดท้าย เขาก็บอกว่าเขานั้นมีรถสปอร์ตและยังมีห้องชุดอยู่บนถนนเมืองหลวงอิมพีเรียลเส้นที่สอง ถามจริงๆเถอะ บ้านไม่ว่าจะอพาร์ทเม้นไหนบนถนนเส้นนั้นก็มีมูลค่ามากกว่าสิบล้านแล้วคนส่งพัสดุอย่างเขาจะไปซื้อได้ยังไง”
เมื่อหยาซินได้ฟังเธอก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง “ใช่ ผู้ชายที่เอาแต่โม้อย่างนั้น จะไปมีความสามารถระดับนั้นได้ไง”
หลิวหลานที่ดูเต็มไปด้วยความทรมานใจก็พูดออกมา “พี่หยาซิน พี่รู้ไหมว่าเจ้าบ้านั่นไม่เพียงจะขี้โม้โอ้อวด ตอนที่เขากำลังหันหลังจากไป ฉักก็ลองบอกกับเขาว่า “พวกเรานั้นไม่เหมาะสมกัน” เพื่อที่จะลองดูปฏิกริยาของเขาแต่เธอรู้ไหมเขากลับพูดว่า ฉันนะก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขาหรอก พี่คิดว่าเขาทำเกินไปไหม!”
หยาซินและหลิวหลานในตอนนี้คิดเหมือนกันคือ “คนๆนี้ดูเหมือนคนขี้ขลาด เขาไม่มีความเพียร ไม่มีเงิน ไม่มีข้อดีอะไรเลยด้วย”
“ใช่แล้ว ในสังคมนี้ การขาดเงินเป็นเหมือนบาป ถ้าเขาเป็นคนรวย วันนี้ฉันจะไม่มาสายแน่นอน! เป็นเพราะเขาส่งเอกสารใช่ไหม ฉันเลยอยากทดสอบเขา!”
“ใช่เลย เขายังไม่ผ่านแม้แต่การทดสอบเล็กๆน้อยๆแบบนี้ ไม่รู้ว่าเขายังมีหน้ามาหาแฟนสาวแบบนี้ได้ยังไง?”
“ผู้ชายแบบนี้จะไม่มีวันได้แต่งงานกับสาวสวยระดับเดียวกับพวกเราตลอดชีวิตการทำงานของเขาแน่นอน”
หลิวหลานในตอนนี้ดูมีความสุขขึ้นและเธอก็พูดออกมาว่า “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ใช่เลยๆ คนส่งพัสดุแบบหมดนั้นก็ทำได้เพียงมีความสุขกับตัวเองเท่านั้น แม่ว่าความหล่อของเขาจะมาก แต่แล้วยังไงล่ะ ไม่ใช่ว่าเขาก็ยังเป็นคนจนอยู่รึไง ตอนแรกที่เจอก็ยังพอรู้สึกดีด้วยอยู่ แต่สุดท้ายก็มาทำตัวโอ้อวดใส่ฉัน หึ!”
หยาซินในตอนนี้เริ่มตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆจนพูดโพล่งออกมา
“ตอนที่เธอเล่าออกมา มันทำให้ฉันนึกถึงเพื่อร่วมชั้นคนหนึ่งที่กลับมาเจอกันเมื่อไม่กี่วันก่อน โดยที่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เขาจะกลายไปเป็นมหาเศรษฐีมีทรัพย์สินมากกว่าพันล้านหยวน แถมเขายังเปิดขวดไวน์ Lafite ปี 82 เลี้ยงเพื่อนของเขาทุกคนด้วย”
อะไรนะ!
เศรษฐีหนุ่มเป็นคนส่งพัสดุ
หลิวหลานดูจริงจังขึ้นมาทันที “พี่บอกว่าเพื่อนร่วมชั้นของเธอที่เป็นเศรษฐี กำลังออกมาหาประสบการณ์ชีวิตงั้นหรอ?”
หยาซินตอบ “ใช่ ดูเหมือนคนรวยสมัยนี้ชอบทำอะไรแบบนี้กันแล้ว”
หลิวหลานเบิกตากว้าง “นี่พี่ไม่ได้หมายความว่า…มันเป็นไปได้ที่คู่นัดบอดของฉันจะเป็นเพื่อนของพี่หรอกนะ”
“ฮ่า ฮ่า!”
หยาซินหัวเราะออกมา “เป็นไปไม่ได้หรอก อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้นกัน?”
หลิวหลานรีบหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาก่อนเปิดข้อมูล wechat ของเจียงเฉินและยื่นให้หยาซินดู
“พี่หยาซินรีบดูให้น่อยสิ ใช่คนนี้ไหม”
หยาซินจ้องไปที่โทรศัพท์ของเพื่อนสาวด้วยอาการสั่นไปทั้งตัว
ใช่!!!
นั่นคือเจียงเฉินจริงๆ
เป็นไปได้ยังไง
หยาซินรีบเก็บอาการอย่างรวดเร็วก่อนจะกลอกตาของเธอ พยายามทำให้ภายนอกของเธอดูใจเย็นและพูดออกไปว่า “ไม่ใช่เขา”
หลิวหลานจ้องไปที่ชื่อใน wechat
[หล่อจนเทพก็ต้องอิจฉา]
เอาจริงๆ คงไม่มีเศรษฐีคนไหนตั้งชื่อแบบนี้หรอก
หลิวหลานไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้และถามอย่างออกไปต่อ
“แล้วเพื่อนร่วมชั้นของพี่ชื่ออะไร”
“ชิวเหวินเทา”
หยาซินตอบออกไปอย่างไหลลื่น
เมื่อได้ยินคำตอบ หลิวหลานจึงลบความคิดที่เจียงเฉินอาจจะเป็นคนรวยออกไปจากหัวของเธอ
ทั้งๆที่เป็นแค่คนส่งพัสดุแต่กลับมาหลอกเธอได้!
หลังจากผ่านไปซักพัก เธอก็เริ่มที่จะคุมอารมณ์โกรธของเธอได้
หลิวหลานก็ส่งข้อความไปหา [หล่อจนเทพต้องอิจฉา]
[นายไอ้คนส่งพัสดุ แกมันก็เป็นได้แค่คนส่งพัสดุไปทั้งชีวิต!]
ทันใดนั้น
[อีกฝ่ายไม่ได้ตอบรับการเป็นเพื่อนของคุณ คุณไม่ใช่เพื่อนของเขา(เธอ) กรุณาส่งคำขอเป็นเพื่อน และให้อีกฝ่ายทำการยืนยันก่อนเริ่มการแชท…]
ไอ้*****!
หลิวหลานระเบิดอารมณ์โกรธอีกครั้ง!
“แกกล้าดียังไงมาลบเพื่อนฉัน แกกล้าดียังไงมาลับฉันหลิวหลานคนนี้”
“กรี๊ด~~~”
เสียงกรีดร้องจากความโกรธดังออกมา~~~
หยาซินในตอนนี้แอบยิ้มอย่างมีชัยในใจของเธอ “หลิวหลาน หนอหลิวหลานเธอมันยัยโง่!”
“ชิวเหวินเทามันก็แค่สวะ เมื่อมาเทียบกับเพื่อนเศรษฐีของฉัน เขามีชื่อจริงว่าเฉินห้าวต่างหากล่ะ ยัยน้องสาวสุดโง่ของฉัน!”
“เจียงเฉินน่ะ เป็นของฉันได้เพียงคนเดียวรู้ไหม?”
“น้องสาว อย่ามาโทษฉันโหดเหี้ยมเลยนะ เพราะถ้าจะโทษ ก็โทษนิสัยอารมณ์ร้ายของเธอละกัน!”
……
ในเวลานี้
เจียงเฉินกับอันฉิงก็ออกมาเดินช็อปปิ้งกันที่จัตุรัสหว่านลี่